ฤกษ์สังหาร (กึ่งรีวิว) Final : นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา

ตำราแก้เคล็ดดวงเมืองสำหรับนักโหราศาสตร์ชื่อดังที่สุดในประเทศอย่างมหากะทิง ในชั้นแรกนั้นก็เป็นตำรับความรู้โบราณที่เคยรับรู้รับเห็นเพียงผ่านยามยังเยาว์วัยสมกับฝั่งตระกูลที่สืบเชื้อสายโหราจารย์มานับแต่สมัยอยุธยา จวบจนปัจจุบันชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างเรียบเรื่อยจน ... เหตุการณ์เหมืองโปแตซ ถล่มผ่านเข้ามาในสายตา .... เพราะอะไรไม่ทราบได้ เจ้าตัวตรวจดวงชะตาท่านรัฐมนตรีและพบว่า ดวงของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านนี้ได้ตกฆาต แน่นอนว่าสำหรับคนทั่วไป ... ยุคนี้เวลานี้ " หมอดูอยู่คู่หมอเดา " 

แต่สำหรับเขาที่คลุกคลีกับศาสตร์การทำนายมาเนิ่นนาน รวมถึงการศึกษาทางธรรมชั้นเปรียญ  จนผู้คนเรียกติดปากว่า "มหา" ย่อมทราบฝีมือตนเองดีว่า ที่คาดคิดคำนวณนั้นแม่นยำมากน้อยน้อยเพียงใด กระนั้นเรื่องฤกษ์ผานาทีถ้าจะนับกันชั่วโมงนี้ ยังมีความครึ่ง ๆ กลาง ๆ การทำนายดวงชะตายังมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นในสังคมไทย แต่โลกทุกวันนี้หมุนไปจนส่งยานอวกาศไปดวงจันทร์ และ แลนด์ดิ้งบนดาวอังคารได้แล้ว ... ฤกษ์ผานาทีเป็นเรื่องจริงหรืองมงาย ยังสำคัญอีกหรือหาไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องสืบทราบพิสูจน์

ซึ่งสำหรับท่านรัฐมนตรี ... โชคร้ายที่มันเป็นอย่างหลัง คำเตือนจากหมอดูแห่งยุคถือเป็นเรื่องงมงาย แล้วความตายก็มาเยือน เอาล่ะ อาจจะเป็นเรื่องกรรมใครกรรมมัน บางสิ่งบางอย่างก็ยังติดอยู่ในใจ แต่สิ่งที่กังวลมากกว่า คือ ปีนี้เจ้าตัวคำนวณแล้วว่าตนเองจะมีเคราะห์ใหญ่ และ ความวุ่นวายคูณไปอีกสองเมื่อปีแห่งเคราะห์ใหญ่มีเรื่องของเนื้อคู่ปะปนมาด้วย น้ำเนื้อในใจไม่อยากให้ใครต้องมาพัวพันกับบาปเคราะห์ที่กำลังจะพัดผ่านมา แต่แล้วเมื่อพบสบหน้าก็บอกได้เลยว่ากระทบใจ หากความชุ่มชื่นในหัวใจต่อฤกษ์เนื้อคู่ กลับคืนสู่ความกระวนกระวายอีกครั้ง เมื่อข่าวการตายของหญิงสาวนาม "อัศวินี" ผ่านตาบนหน้าจอโทรทัศน์ ศพฝังดิน สายสิญจน์ ความคุ้นเคยทำให้มหากะทิงใจร้อนรุ่ม ... 2562 ยุคที่ AI กำลังจะครองเมืองนี่นะหรือ ภาพวาดตามตำราแก้เคล็ดดวงเมืองผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำ ไม่ผิดแน่ ... สิ่งที่เห็นเมื่อครู่ คือ พิธีบัตรพลีบูชาเทพ

หากเป็นจริงนี่คือเรื่องใหญ่ พิธีแก้เคล็ดดวงเมืองคือศาสตร์สายมืด คุณมหาทบทวนความทรงจำเร็วรี่ เมื่อตรวจการโคจรของดวงดาวเจ้าตัวพบความวิปริต ครั้นจะหาคำตอบจากตำราในห้องพระที่ควรมี สิ่งที่ควรจะอยู่กลับไม่อยู่ สิ่งที่เคยคลุมเครืออยู่กลับสว่างวาบ ตำราที่หายไป เหตุการโจรปล้นบ้าน ความตายของพ่อ อาเพศที่คาดเดาทำนายได้จะเกิดขึ้นในปีนี้ ... ยังเหลือ น้ำ ลม และ ไฟ มันต้องมี ... ต้องมีอะไรอย่างแน่นอน

 แม้หลวงลุงจะไม่มั่นใจว่าเหตุแห่งฤกษ์นี้จะนำพาให้เกิดสิ่งใด บางทีมันอาจเป็นเพียงความเชื่อคร่ำครึไม่เป็นโล้เป็นพาย หากในฐานะหมอดูแห่งยุค คุณมหาเชื่อแน่ว่านี่เป็นความพยายามเปลี่ยนแปลงดวงชะตาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ เพราะความโลภความอยากถึงกับประกอบพิธีโหดร้ายเอาชีวิตคนเป็นเครื่องบูชา คนเช่นนี้หรือจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เขาไม่อาจยอมได้และไม่มีวันยอม ซึ่งมหากะทิงก็มองไม่ผิด การโคจรดาวที่วิปริตส่งผลตามที่ได้คาดคำนวณ สิ่งที่ไม่ควรเกิดกลับเกิด สิ่งที่ไม่มีควรมีกลับมี คนที่ควรขึ้นไม่ได้ขึ้น คนที่ควรอยู่กลับต้องตาย แต่คำถามก็คือ จะหยุดเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร เมื่อเรื่องราวมันเหลือเชื่อแฟนตาซีเกินกว่าถือเป็นเรื่องจริงจัง

แม้ยี่ห้อที่แปะหน้าผาก คือ นักโหราศาสตร์แห่งสมัย แต่เขาก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่สามารถปัดเป่าปัญหาได้ราวกับมีมนต์ ถึงจะเคยชินกับเลขผานาที และ ดวงชะตา แต่สิ่งที่มหารู้ดียิ่งกว่า คือ ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงได้หากไม่ลงมือทำ มหากะทิงก็สมชื่อจริงของเขา กนธี ที่แปลว่ามหาสมุทร ความกล้าหาญ พลังใจ กว้างใหญ่ไพศาลและมากล้นดุจผืนน้ำที่กินพื้นที่ 2/3 ของโลก คำเตือน คำทำนายออกมาเป็นระลอก จะถูกก่นด่าว่าร้าย หรือ มีแรงกระเทือนกระแทกเพียงไหน แต่ศักดิ์และศรีในศาสตร์ที่ยึดถือเป็นอาชีพจะไม่ถูกทำลาย เมื่อทางนั้นเข้าปะทะด้วยเหตุแห่งฤกษ์ เขาเองก็จะทำทุกวิธีเพื่อทำลายมัน ทั้งที่ไม่มีพลังอำนาจใด ทั้งที่ไม่มีใครหนุนหลัง ไม่มีใครรู้ ไม่มีตำราอยู่กับตัว เว้นแต่ สมอง และ สองมือเท่านั้น 

เกมวิ่งไล่จับชนิดหายใจรดต้นคอ สร้างแรงกดดันให้คนผู้หนึ่ง คนที่อยู่เบื้องหลังพิธีการทั้งปวง ชายที่ชื่อ อุทธิ หมายความว่า ท้องทะเล ก็สมชื่อของเขาเช่นกัน หากมหากะทิง คือ มหาสมุทรสีน้ำเงินไพศาลที่เป็นแหล่งก่อกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง แม้ยามวิกฤตก็ตามที อุทธิ ก็คือ ความดำมืด และ ลึกสุดจะหยั่ง ความอยากได้ใคร่ดี เอาชนะชิงชัย ให้นำเอาอคติเข้าครอบงำ พร้อมทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งอำนาจ วาสนา สำหรับเขา ... มหากะทิง คือ ศัตรูหมายเลข 1 เป็นศัตรูทั้งที่ไม่เคยพานพบ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว คิดเอง เออเอง แข่งเอง โดยที่อีกฝั่งไม่ได้อะไรด้วย

ด้วยดวง ? ด้วยฤกษ์ ?
ไม่ใช่หรอก ด้วยการกระทำของตน

เอาเข้าจริงแม้เรื่องราวทั้งมวลคือการปะทะด้วยเหตุแห่งฤกษ์ หากสิ่งที่เหนือฤกษ์เหนือดวงก็คือ “คน” ดวงดาวเปลี่ยนไปด้วยพิธีกรรมก็ล้วนมาจากคนที่ไม่ยอมจำนวนต่อโชคชะตา ไม่ว่าจะเป็นมหากะทิง ท่านรวี อุทธิ ท่านเบญจวรรณ หมอชิงดวง สารวัตรศรีล รัณหณ์ สุดท้ายไม่มีแม้ซักคนที่นอนเป็นผักปลา และ ยอมจำนนต่อดวงดาวโคจรไป เพียงแต่ว่าไม่มีอะไรอยู่เหนือเหตุและปัจจัย ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือการกระทำ ต้นไม้มีพิษผลที่ออกมาย่อมเป็นพิษ เริ่มต้นด้วยทางที่ผิดไม่มีวันที่ผลจะออกมาดี คนเรากำหนดดวงชะตาตัวเองได้ด้วยการกระทำ การกระทำนั้นก็คือกรรม แรงกว่าดวง แรงกว่าฤกษ์ ก็คือ “กรรม”

นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา

ประโยชน์ได้ล่วงเลย คนเขลาผู้มัวถือฤกษ์อยู่
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง ดวงดาวจักทำอะไรได้
                                                                                                                                            -          นักขัตตชาดก
 
ป.ล.  (1) เพิ่งมาตามเอาตอนท้าย ๆ โชคดีไป เพราะงานเยอะมาก ตามแต่ต้นงานการพินาศแน่ ๆ  (ฮา)
        (2) ทายเล่น ๆ คิดว่าตนุเศษ จขกท. เป็นดาวอะไร อ่ะ ให้ทายฤกษ์ด้วย ขำ ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่