"บุญชู ผู้น่ารัก" เรื่องราวชีวิต มิตรภาพ และความรักอันบริสุทธิ์ของหนุ่มสุพรรณใจซื่อนาม "บุญชู

"บุญชู ผู้น่ารัก"   
มิตรภาพและความรักของหนุ่มบุญชู

เพจ Thai Movie Posters

"เขามาจากส่วนหนึ่งของประเทศ
มาอยู่ในส่วนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ"

"บุญชู ผู้น่ารัก"  เป็นภาพยนตร์สัญชาติไทย ออกฉายในปี พ .ศ. 2531 สร้างสรรค์โดยไฟว์สตาร์ กำกับการแสดงและเขียนบทโดยคุณบัณทิต ฤทธิ์ถกล นำแสดงโดย สันติสุข พรหมศิริ, จินตหรา สุขพัฒน์, นิรุตต์ ศิริจรรยา, ญาณี จงวิสุทธิ์, วัชระ ปานเอี่ยม, อรุณ ภาวิไล, เกียรติ กิจเจริญ, กฤษณ์ ศุกระมงคล, จุรี โอศิริ, โรม อิศรา และ ด.ญ. กัญญาลักษณ์ บำรุงรักษ์ (แป้ง) พร้อมร่วมด้วยนักแสดงสมทบท่านอื่นๆ อีกคับคั่ง

เนื้อเรื่องของบุญชู ผู้น่ารักพูดถึง  "บุญชู"  หนุ่มสุพรรณใจซื่อที่สึกจากการเป็นพระ และเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งแสงสีอย่างกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย อีกทั้งเขายังได้พา "บัวลอย"  ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของพี่ชายที่ได้ฝากฝังให้เขาและแม่ที่อยู่สุพรรณช่วยเลี้ยงดูร่วมเดินทางมาด้วย โดยบุญชูและบัวลอยได้มาอาศัยอยู่แถวท่าเรือร่วมกับ  "บุญช่วย"  พ่อของบัวลอย ผู้เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเขา

ก่อนเดินทางมากรุงเทพ แม่ของบุญชูได้พร่ำสอนตักเตือนบุญชูในเรื่องของผู้หญิง แม่กำชับย้ำเตือนบุญชูอย่างเคร่งครัดว่าให้เขานั้นมุ่งแต่เรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย อย่าไปยุ่งเกี่ยวหรือริลอง แบบที่บุญช่วยพี่ชายตัวแสบของเขาได้พลาดท่าได้เสียกับผู้หญิงกรุงเทพจนให้กำเนิดบัวลอยขึ้นมา มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นยังทิ้งบุญช่วยเดือดร้อนคนทางบ้านสุพรรณที่ต้องช่วยเลี้ยงดูบัวลอย ตามที่บุญช่วยได้ฝากฝังเอาไว้ 

บุญชูพึงระลึกถึงคำสั่งสอนของแม่อยู่เสมอ กระทั่งเมื่อบุญชูได้พบกับ  "โมลี"  สาวสวยน่ารัก น้ำใจงาม บ้านฐานะดีที่ลงเรียนโรงเรียนประกวดวิชาที่เดียวกับเขาเข้า นอกจากเรื่องรักๆ ที่กำลังจะขึ้นเกิดกับตัวเขาแล้ว บุญชูยังได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนๆ ที่มาจากต่างจังหวัดและลงเรียนโรงเรียนกวดวิชาที่กรุงเทพเพื่อสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยเฉกเช่นเดียวกับเขา

เรื่องราวรักๆ ป่วนๆ แฝงด้วยมิตรภาพน่าอมยิ้มของหนุ่มสุพรรณผู้ใสซื่อจึงได้ก่อกำเนิดขึ้น

"บุญชู ผู้น่ารัก"  ออกฉายครั้งแรกในวันที่ 11 มิถุนายน พุทธศักราช 2531 เมื่อได้ออกฉายตัวภาพยนตร์ได้ประสบความสำเร็จอย่างสูง อีกทั้งคู่ขวัญหนุ่ม-แหม่มที่โด่งดังมาแล้วจากการแสดงภาพยนตร์ร่วมกันในปีก่อนทำให้ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นคู่ขวัญของทั้งสองมากยิ่งขึ้น

ตัวภาพยนตร์บุญชู ผู้น่ารักเปิดเรื่องที่บ้านจังหวัดสุพรรณของ  "บุญชู"  (หนุ่ม สันติสุข) ในขณะที่ "บุญล้อม"  (จุรี โอศิริ) แม่ของเขากำลังพร่ำสอนก่อนที่เขาจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมสอบเอสทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย คำสอนที่แม่ของเข้าย้ำเตือนมากที่สุดคือคำสอนเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าให้บุญชูมุ่งมั่นตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ และอย่าไปยุ่งเกี่ยวริมีความรักผู้หญิง ดั่งเช่นที่  "บุญช่วย" (หนิง นิรุตต์) พี่ชายของเขาได้ทำให้แม่ต้องผิดหวัง มิหนำซ้ำยังพา  "บัวลอย"  (น้องแป้ง) ลูกสาวที่เกิดจากผู้หญิงกรุงเทพฯ ที่ทิ้งบุญช่วยไป มาให้คนทางบ้านสุพรรณช่วยเลี้ยงดู พร้อมขอเงินจากแม่เพื่อไปเช่าท่าเรือ




เมื่อบุญชูเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ พร้อมกับบัวลอยเขาได้ไปอาศัยอยู่บ้านแถวท่าเรือร่วมกับบุญช่วย ผู้เป็นพี่ชาย อีกทั้งยังช่วยเป็นคนเก็บเงินผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าเรือของบุญช่วย เนื่องด้วยการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ของบุญชูเป็นการมาเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย บุญช่วยจึงเสาะหาโรงเรียนกวดวิชาชั้นดี ให้บุญชูได้ติวสอบ

ดูเหมือนการมากรุงเทพฯ ครั้งแรกของเขาจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษนัก แต่เมื่อวันที่บุญชูได้เริ่มย่างก้าวเดินทางเข้าไปในโรงเรียนกวดวิชา ก็ทำให้บุญชูได้พบกับเล่ห์เหลี่ยมของคนเมืองหลวงแห่งแสงสีเป็นครั้งแรก ด้วยสำเนียงพูดเหน่อแบบคนสุพรรณ พร้อมด้วยท่าทางใสซื่อ ธรรมะธรรมโม จนดูไม่เป็นภาษาของบุญชูทำให้เขา โดนดูถูกดูแคลนจากใครบางคน

"ไอ้บ้านนอก"

คำกล่าวดูถูกบุญชูของคนๆ นึงที่พูดถึงตัวของบุญชู ในช่วงต้นเรื่อง แต่นับเป็นโชคดีของบุญชูที่การมากรุงเทพในครั้งนี้ทำให้เขาได้เจอะเจอเรื่องดีมากกว่าเรื่องร้าย




ดูเหมือนฟ้าจะบันดาลให้บุญชูผิดสัญญากับแม่เมื่อเขาได้เผลอเดินชน  "โมลี"  (แหม่ม จินตหรา) สาวสวยน่ารัก น้ำใจงาม เพียงแค่วันแรกที่บุญชูพบกับเธอก็ทำเอาเขาถึงกับนั่งรถเมล์ที่มีโมลีนั่งอยู่ในคันเลยไปถึงอู่จอดรถเมล์ จนต้องนั่งรถตำรวจเพื่อกลับบ้าน 

เขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ
ภาพของสาวผมยาวในวัยสาวสะพรั่ง หน้าตาหวาน
ชะมดชะม้อย ดูสะสวย งดงาม ตราตรึง อ่อนละมุน แต่ก็ดูน่ารัก เป็นกันเองและเข้าถึงง่ายในขณะเดียวกันภาพของเธอคนนี้คือภาพที่ตราตรึงอยู่ในดวงใจของบุญชูและผู้ชมตั้งแต่แรกเห็น



นอกจากจะได้พบกับความรักแล้ว บุญชูยังได้พบกับกลุ่มเพื่อนหัวอกเดียวกันที่มาจากต่างจังหวัดเช่นเดียวกับเขา ไม่ว่าจะเป็น "หยอย" (ซูโม่กิ๊ก), "คำมูล" (หนุ่ม กฤษณ์),  "นรา"  (ซูโม่ตุ๋ย), "ไวยากรณ์"  (ซูโม่เจี๊ยบ) และ  "เฉื่อย"  (โรม อิศรา)  ที่โรงเรียนกวดวิชา และที่นี่ก็เป็นโรงเรียนกวดวิชาที่เดียวกับที่โมลีหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักลงเรียนอยู่




บุญชูตกหลุมรักโมลีอย่างหมดใจ โมลีมักจะมาขึ้นเรือแถวท่าเรือของบุญช่วยอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน แต่ความรักของบุญชูก็ต้องมีอุปสรรคเพราะสาวสวยน่ารักอย่างโมลีย่อมต้องมีผู้ชายเข้าหา โมลีมักมีเพื่อนผู้ชายที่คอยเทียวรับเทียวส่งเธออยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มอันธพาลเข้ามาตามจีบโมลีอีกด้วย อีกทั้งบัวลอยหลานสาวตัวแสบของเขาก็มักจะพูดย้ำเตือนถึงคำสอนของแม่ที่ได้เคยพูดไว้กับบุญชูว่า "น้ำตาจะเช็ดหัวเข่า"  ที่ทำให้เขาต้องรู้สึกชั่งอกชั่งใจระหว่างความรักกับคำสั่งสอนของแม่บังเกิดเกล้า

บุญชู ผู้น่ารักเป็นภาพยนตร์จากการกำกับและเขียนบทโดย  "คุณบัณฑิต ฤทธิ์ถกล"  ผู้กำกับและผู้เขียนบทมากฝีมือประจำค่ายหนังไฟว์สตาร์ พร้อมด้วยเพลงประกอบที่บรรเลงร่วมกับตัวภาพยนตร์ตลอดทั้งเรื่องจากฝีมือของโฟล์คซองคำเมือง  "คุณจรัล มโนเพ็ชร" ผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซของทั้งสองท่าน




ภาพของบุญชูหนุ่มสุพรรณใจซื่อ ผู้มีสำเนียงพูดเหน่อ คือภาพจำของคุณหนุ่ม สันติสุขที่ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของชาวไทยมากที่สุด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด บุญชูที่แสดงโดยพระเอกหนุ่มสันติสุข พรหมศิริยังคงครองใจคนไทยตลอดมา




ขณะเดียวกันในช่วงที่คุณแหม่ม จินตหราได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ความงดงามและความสดใสน่ารักของเธอก็เปล่งประกายออกมาอย่างเหลือล้น ฉากที่เธอปรากฏตัวออกมาในบุญชูเป็นครั้งแรกทำให้ผู้ชมในโรงต้องร้องออกมาด้วยความตกตะลึง

นอกจากนี้ผลงานภาพยนตร์เรื่องบุญชูยังถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของสองคู่ขวัญสันติสุข-จินตหรา ที่สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าผลงานการแสดงเรื่องนี้คือผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของสองคู่ขวัญ


 


อีกทั้งนักแสดงสมทบหลายท่านภายในเรื่องยังถูกจดจำในภาพของตัวละครจากภาพยนตร์เรื่องบุญชู 

แม้ตัวภาพยนตร์จะเน้นไปที่บทบาทของบุญชู แต่สิ่งที่สร้างสีสันให้เนื้อเรื่องคือกลุ่มผองเพื่อนของบุญชู ตัวละครผองเพื่อนของบุญชูแต่ละตัวมีลักษณะนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งช่วยเสริมสร้างเนื้อเรื่องให้มีสีสัน น่าติดตาม และทำให้ตัวละครน่าหลงรัก 

นอกจากเรื่องราวชีวิตอันเรียบง่ายและความรักระหว่างบุญชูกับโมลีแล้ว บุญชูยังได้พูดถึงมิตรภาพระหว่างบุญชูและกลุ่มเพื่อน

มิตรภาพของบุญชูและกลุ่มเพื่อนคือมิตรภาพในแบบบริสุทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ต้องขอชื่นชมว่าคุณบัณฑิตมีความคิดที่ดีมากที่สร้างปูมหลังให้ตัวละครในกลุ่มเพื่อนของบุญชูแทบทุกคนเป็นคนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาอาศัยในกรุงเทพเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

เสมือนกับว่า  "คนบ้านเดียวกัน"  คนต่างจังหวัดต่างเข้าอกเข้าใจ เอื้อเฟื้อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน




ความสัมพันธ์ของหนุ่มบุญชูและสาวโมลีเริ่มโคจรเข้าหากันเมื่อโมลีเดินทางไปกลับโดยผ่านท่าเรือของบุญช่วยเป็นประจำทุกวัน บุญชูรู้จักชื่อโมลีเป็นครั้งแรกจากบัตรนักเรียนที่ได้จากการเดินชนโมลีในครั้งก่อน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มก่อกำเนิดขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง ท่าทีของโมลีในคราวที่ได้พูดคุยกับบุญชูอย่างเป็นจริงเป็นจังครั้งแรกนั้นดูเรียบง่าย ไม่เสแสร้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต แม้หนุ่มบุญชูคนนี้จะมีท่าทีไม่ค่อยเป็นภาษา พร้อมพูดด้วยสำเนียงออกเหน่อในแบบของคนสุพรรณ กระนั้นเธอก็ยังคงพูดคุยกับบุญชูด้วยท่าทีเป็นมิตร ไม่แสดงอาการดูถูกดูแคลนถึงความเป็นคนต่างจังหวัดของหนุ่มบุญชู

หลังจากที่บุญชูเริ่มสนิทสนมกับกลุ่มเพื่อนมากขึ้น ทำให้เขาได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในการรุกหน้าจีบโมลีที่มีเพื่อนชายคอยเทียวรับเทียวส่งและชายหนุ่มจากกลุ่มวัยรุ่นเกเรเข้าหา 

วันหนึ่งบุญชูและผองเพื่อนได้ตามโมลีไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งจากการได้ยินถึงการนัดแนะไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าหลังจากเรียนกวดวิชาเสร็จ พวกเขาตามโมลีไปที่นั่น

หากสังเกตุ ในฉากนี้จะบ่งบอกถึงสภาพห้างสรรพสินค้าในช่วงยุคนั้นได้เป็นอย่างดี บุญชูถือเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งยุคสมัย แฝงวิถีชีวิตและสภาพสถานที่ต่างๆ ในยุคสมัยช่วงปลายยุค 80 จนถึงช่วงยุค 90 ตั้งแต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบสอบเอนทรานซ์ซึ่งแตกต่างกับในยุคสมัยนี้ที่ใช้การสอบในระบบ TCAS หรือแม้แต่วิถีชีวิตของผู้คน ยานพาหนะ เทคโนโลยี สถานที่ต่างๆ ในขณะนั้น

หากต้องการสัมผัสถึงกลิ่นอายหรือศึกษาถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในยุคสมัยนั้นนับว่าภาพยนตร์บุญชูถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมากทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่