ตัวเจ้าของกระทู้ทำงานอยู่ต่างประเทศนะคะ แต่อากาศที่นี่ก็ร้อนชื้นพอๆหรือยิ่งกว่าบ้านเรา ทุกครั้งที่กลับไทยทีไรก็จะตุนเมคอัพเหล่านี้บินกลับทุกที เลยอยากมาแนะนำกันค่ะ ผิวมันผิวผสม หน้ามันแบบ My face is more oily than Saudi Arabia ไปเลยค่ะ!! ที่จะรีวิวส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์ไทย ไม่ก็ drugstore ที่อาจหาไม่ได้ในต่างประเทศนะคะ
กันแดดหน้า
ขอเสนอ
Charcoalogy UV defense Sunscreen SPF50 PA+++ DETOXIFYING OIL- FREE DAILY FACE PROTECTOR 429.-
ชื่อยาววววไปอี๊กกก
- ชอบมาก ที่กันแดดตัวนี้คือเราบีบออกมา ปาดๆตบๆที่หน้าแบบ งานหยาบบบ คือไม่ได้ละเมียดละไมในการเกลี่ยใดๆทั้งสิ้น แต่กลับซึมวับแห้งไปกับหน้า
- ถึงจะซึมผิวแห้ง แต่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง รู้สึกมีความชุ่มฉ่ำให้กับผิว คือดีมากกก ซึมไวในตัวเองแต่ไม่ทำให้หน้าแห้ง
- ตอนทาแรกๆอย่าเพิ่งตกใจที่สีมันจะขาว แล้วมันจะวอกไหม พอแห้งแล้วไม่มีร่องรอยที่ leave white cast ใดๆทั้งสิ้น!- ประหยัดเวลามาก ทาปุ๊บลวกๆ > ใส่เสื้อผ้า > กันแดดแห้งพอดี ไม่วอกไม่ลอย ไม่ฉ่ำ ไม่มัน แต่งหน้าต่อได้เลย
- ไม่อุดตันผิว ไม่ก่อสิวเพิ่ม ถึงแม้ทาแล้วจะให้ฟีล silicone หน่อยๆ แต่เราไม่ถือ ระหว่างวันคือช่วยคุมมันได้ดีมาก
- แพ็กเกจใช้ง่าย กลิ่นหอมเหมือนกลิ่นนมข้าว แนะนำเพื่อนที่ต่างประเทศใช้หลายคน ฝากเราหิ้วจากไทยมาทุกคน
- แนะนำไปซื้อที่แผนก toiletries ที่ Tops เพราะบางทีจัดเซลล์ ลดราคาจาก 429.- เหลือ 299.- ไรงี้ เราซื้อทีครึ่งโหลกะใช้ทั้งปี!
ดินสอเขียนคิ้ว
1) In2it Perfect Eyebrow Liner 199.- (บางทีก็ 139.- ที่ eveandboy)
2) Eglips Natural Auto Eyebrow 129.-
- สองอันนี้ ไม่หลุดเลือนระหว่างวันมากนัก กันน้ำพอควร กันน้ำมัน(จากหน้าเนี่ย)ได้ ตกเย็นคิ้วยังอยู่ 555
- ราคาไม่แรง สีติดชัด เขียนลื่น เขียนง่าย
- เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหัวดินสอเส้นเล็ก ชอบแบบหัวตัดแบนๆ
Eyeliner
1) L'oreal Superliner Black Lacquer 349.-
- โอ๊ยยยย ตัวนี้ที่ตามหากันจนเจอ ตลอดชีวิตวัยยังสาวผ่านอายไลเนอร์มามากมาย เรารู้เลยว่าถ้าใช้แบบหัวเมจิกจะเลอะแน่นอน ต้องมีเลือน ไม่ก็ติดขอบตาล่างเพราะทนความมันหนังตาไม่ได้! ส่วนถ้าใช้แบบจิ้มจุ่มพู่กัน ที่โอเคว่าส่วนมากมักจะติดทนกว่าแบบหัวเมจิก แต่มันเขียนยาก แถมส่วนใหญ่เนื้ออายไลเนอร์มักจะมีความหนืบๆๆๆๆ เวลาปาดพู่กันที มันก็จะไปโดนขนตา ทำให้ขนตาเป็นก้อนไม่ก็ขนตาตก หรือทาปุ๊บกระพริบตาปั๊บ อ้าวเปื้อนนนน จะคอนโทรลลายเส้นก็ยากโดยเฉพาะเวลาจะลากอินไลเนอร์ชิดขอบตา ลำบากมาก เจอตัวนี้คือ รักเดียวใจเดียว แต่หาซื้อยากมากกกก เราดู watson, sasa, guardian ต่างประเทศละไม่มีเลย ต้องมาหาซื้อที่ไทย และมีเป็นบางบูธบางสาขาของ Loreal เท่านั้น ถ้าเจอทีซื้อมากะใช้ทั้งปีตัวเนื้อลิควิดไม่จับขนตา ให้ความเขียนง่ายเหมือนแบบหัวเมจิก เนื้อดำเข้มสนิทพิกเมนต์ดีมาก แมทท์ ไม่ดิ filmsy ดูผู้ดี ติดทนเช้ายันค่ำ ไม่มี smudge เลย ไม่ว่าจะร้องไห้ โดนฝน ตากแดด ไปว่ายน้ำยังไงก็ตามก็ยังติด ข้อเสียนิดหน่อยคือ ถึงแม้จะไม่เลือนเลอะขอบตาล่าง แต่เนื้อมันจะหายวับไปบางส่วน แต่ไม่เปื้อน! ล้างออกไม่ยาก ไม่ต้องใช้ eye remover ก็ได้ไม่รู้ว่าเวอร์ชั่นที่อเมริกาแบบแพ็กเกจสีทอง-ดำ มันเหมือนกันไหมนะ แต่ซื้อจากไทยจะแพ็กเกจสีดำล้วนตลอดจ่ะ
2) ตัวตายตัวแทนเวอร์ชั่นถูกกว่าป้า L'oreal ข้างบน 100 นึง ก็คือน้อง
In2It sphere waterproof eyeliner pen 249.-
- เป็นหัวเมจิกแบบจุกกลมๆ เราว่ามันเขียนง่าย แต่อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ชอบเน้นตวัดหางยาวๆแหลมๆ เน้นเขียนให้ชิดขอบตาหรือเน้นเส้นให้ตาดูกลมโตปลายตกๆแบบเกาหลี- ข้อเสียคือต้องเขย่าให้ลิควิดมันไปออกันที่หัวปากกา ไม่งั้นปาดไปครั้งแรกแล้วเส้นอาจขาดๆเลือนๆได้ แต่ถ้าน้ำยาฉ่ำที่หัวปากกาแล้ว จะได้เส้นที่คม ดำ แห้งง่าย เขียนง่าย และลุคแมท- เทียบกับป้า loreal black lacquer ตัวข้างบนแล้ว ถ้อว่าน้อง In2it อาจมีเลอะขอบตาล่างนิดนึง นิดนึงจริงๆ (แต่ป้าคือไม่เลอะเลย) ตกเย็นเส้นจากดำๆ อาจกลายเป็นเทาๆไปบ้าง แต่ก็ยังดูออกว่ามีอายไลเนอร์อยู่ ถือว่าให้อภัยได้
Concealer
BK Retouch Acne Concealer Pen 389.-
นี่ก็หาซื้อยาก มีเป็นบาง Watson อีก บางทีก็ของหมด สีไม่มี บลาๆๆ ติดหนึบ ติดทน แต่อาจไม่เหมาะกับการมาทาใต้ตา เอาไว้ใช้ปิดสิว ช่วย heal สิวได้บ้างมั้ง (ความเชื่อ + อารมณ์) มีกลิ่น Tea Tree Oil ชอบที่เป็นหัวหมุนๆ แล้วเนื้อจะออกมา แตะนิดดดดเดียวจริงๆ ก็ปาดกลบได้มิด
Mascara
Canmake Quick Lash Curler สีดำ 240.-
เริ่มมาจากใช้แบบสีใสก่อน แล้วปัดด้วยมาสคาร่าปกติ รู้สึกได้ว่าขอนตางอนเด้งทั้งวัน และช่วยระงับไม่ให้เนื้อมาสคาร่าที่ปัดทับมันเลอะขอบตาด้วย เราก็เลยลองใช้เนื้อสีดำแทนมาสคาร่าไปซะเลย จะได้ไม่ต้องปัดซ้ำสองรอบ ชิส์ สรุป มันเวิร์คมากกกกกก อายไลเนอร์กับมาสคาร่าเป็นไอเท็มสุดเฟลที่ลองมาเยอะเลอะมาเยอะ ตัวนี้ตัวเดียวคือจบ ถึงแม้จะดูเนื้อผลิตภัณฑ์น้อยเพราะแท่งเล็ก แต่คือจบ ดัดขนตา แล้วปัดตัวนี้ทับ อาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องขนตาหนาอะไร เหมาะกับแต่งหน้าเบาๆ พอให้รู้ว่าขนตาเข้มขึ้น ช่วยเรื่องงอนเด้ง ดวงตาจะได้ดูเบิกโพรงสดใส หากอยากจะเน้นหนาเน้นยาว เอามาสคาร่าปกติปัดทับไปอีกก็ได้ ช่วยให้เนื้อมาสคาร่าเลอะช้าลงเลอะน้อยลง แต่เราเห็นว่าตัวนี้สีดำอยู่แล้วก็เลยใช้แทนมันซะเลย
Cushion
FIIT Everyday Cushion Perfect Matte 680.-
เราซื้อที่ร้าน Hej ตรงสีลม (มีที่ถูกกว่านี้ไหม?)
เหมาะกับชะนีขี้เกียจทารองพื้น แล้วก็ต้องมาตบแป้งฝุ่น ตัวนี้คือเหมาะกับคนหน้ามันเป็นสิวสุด แบรนด์ไทยนี่แหละ ที่บล็อกเกอร์รีวิวช่วงปีที่แล้ว เราก็ไม่อยากซื้อตามเพราะคิดแค่ว่าเป็นของที่เค้าน่าจะจ้างคนมารีวิว เน้นหน้าม้าช่วงเปิดตัวใหม่ๆ แต่อะไรดลใจไม่รู้เลยลอง tester ปรากฏว่า มันดีกว่าที่คิด ตบปุ๊บคือให้ฟีลแห้งปั๊บ pigmentation ดี จิกเนื้อมานิดเดียวคือปิดรอยดำรอยแดง ปาดไม่เยอะ คือกลบได้ทั้งหน้า เร็วดี เพราะไม่ต้องลงแป้งทับ ไม่ให้ลุค่ที่แมทจนหน้าแบนด้วย เหมือนยังดูเป็นผิวเราจริงๆ แถมสีคือออกแบบมาดีมาก เหมาะกับสาวเอเชียสุดๆ หน้าไม่เทาไม่ลอยแน่นอน ตบไปปีบคือสีเดียวกับสีหน้าเลย (แนะนำให้ลองที่คอ) คุมมันได้อย่างที่เคลม (อาจมีซับบ้างต้องทำใจไม่มีสิ่งใดจีรังยืนยง) ยิ่งใช้คู่กับกันแดด charcoalogy ข้างบน คือดีงามมาก คู่สร้างคู่สมช่วยคุมมันและกลบสิว ชอบอีกคือตลับบาง สลิม พกพาง่ายไม่เทอะทะเหมือนตลับคุชชั่นส่วนใหญ่
จบไปแล้วกับของที่ใช้แล้วดี ต้องบินกลับมาซื้อตุน อาจจะหาซื้อยากไปหน่อย แต่เธอว์ผู้หน้ามันหน้าสิวจะไม่เสียใจ
[CR] แนะนำไอเท็ม makeup drugstore สำหรับคนหน้ามัน+หน้าสิว ที่กลับมาไทยที่ไรก็ต้องซื้อตุนทุกที!
ชื่อยาววววไปอี๊กกก
- ชอบมาก ที่กันแดดตัวนี้คือเราบีบออกมา ปาดๆตบๆที่หน้าแบบ งานหยาบบบ คือไม่ได้ละเมียดละไมในการเกลี่ยใดๆทั้งสิ้น แต่กลับซึมวับแห้งไปกับหน้า
- ถึงจะซึมผิวแห้ง แต่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง รู้สึกมีความชุ่มฉ่ำให้กับผิว คือดีมากกก ซึมไวในตัวเองแต่ไม่ทำให้หน้าแห้ง
- ตอนทาแรกๆอย่าเพิ่งตกใจที่สีมันจะขาว แล้วมันจะวอกไหม พอแห้งแล้วไม่มีร่องรอยที่ leave white cast ใดๆทั้งสิ้น!- ประหยัดเวลามาก ทาปุ๊บลวกๆ > ใส่เสื้อผ้า > กันแดดแห้งพอดี ไม่วอกไม่ลอย ไม่ฉ่ำ ไม่มัน แต่งหน้าต่อได้เลย
- ไม่อุดตันผิว ไม่ก่อสิวเพิ่ม ถึงแม้ทาแล้วจะให้ฟีล silicone หน่อยๆ แต่เราไม่ถือ ระหว่างวันคือช่วยคุมมันได้ดีมาก
- แพ็กเกจใช้ง่าย กลิ่นหอมเหมือนกลิ่นนมข้าว แนะนำเพื่อนที่ต่างประเทศใช้หลายคน ฝากเราหิ้วจากไทยมาทุกคน
- แนะนำไปซื้อที่แผนก toiletries ที่ Tops เพราะบางทีจัดเซลล์ ลดราคาจาก 429.- เหลือ 299.- ไรงี้ เราซื้อทีครึ่งโหลกะใช้ทั้งปี!
2) Eglips Natural Auto Eyebrow 129.-
- สองอันนี้ ไม่หลุดเลือนระหว่างวันมากนัก กันน้ำพอควร กันน้ำมัน(จากหน้าเนี่ย)ได้ ตกเย็นคิ้วยังอยู่ 555
- ราคาไม่แรง สีติดชัด เขียนลื่น เขียนง่าย
- เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหัวดินสอเส้นเล็ก ชอบแบบหัวตัดแบนๆ
- โอ๊ยยยย ตัวนี้ที่ตามหากันจนเจอ ตลอดชีวิตวัยยังสาวผ่านอายไลเนอร์มามากมาย เรารู้เลยว่าถ้าใช้แบบหัวเมจิกจะเลอะแน่นอน ต้องมีเลือน ไม่ก็ติดขอบตาล่างเพราะทนความมันหนังตาไม่ได้! ส่วนถ้าใช้แบบจิ้มจุ่มพู่กัน ที่โอเคว่าส่วนมากมักจะติดทนกว่าแบบหัวเมจิก แต่มันเขียนยาก แถมส่วนใหญ่เนื้ออายไลเนอร์มักจะมีความหนืบๆๆๆๆ เวลาปาดพู่กันที มันก็จะไปโดนขนตา ทำให้ขนตาเป็นก้อนไม่ก็ขนตาตก หรือทาปุ๊บกระพริบตาปั๊บ อ้าวเปื้อนนนน จะคอนโทรลลายเส้นก็ยากโดยเฉพาะเวลาจะลากอินไลเนอร์ชิดขอบตา ลำบากมาก เจอตัวนี้คือ รักเดียวใจเดียว แต่หาซื้อยากมากกกก เราดู watson, sasa, guardian ต่างประเทศละไม่มีเลย ต้องมาหาซื้อที่ไทย และมีเป็นบางบูธบางสาขาของ Loreal เท่านั้น ถ้าเจอทีซื้อมากะใช้ทั้งปีตัวเนื้อลิควิดไม่จับขนตา ให้ความเขียนง่ายเหมือนแบบหัวเมจิก เนื้อดำเข้มสนิทพิกเมนต์ดีมาก แมทท์ ไม่ดิ filmsy ดูผู้ดี ติดทนเช้ายันค่ำ ไม่มี smudge เลย ไม่ว่าจะร้องไห้ โดนฝน ตากแดด ไปว่ายน้ำยังไงก็ตามก็ยังติด ข้อเสียนิดหน่อยคือ ถึงแม้จะไม่เลือนเลอะขอบตาล่าง แต่เนื้อมันจะหายวับไปบางส่วน แต่ไม่เปื้อน! ล้างออกไม่ยาก ไม่ต้องใช้ eye remover ก็ได้ไม่รู้ว่าเวอร์ชั่นที่อเมริกาแบบแพ็กเกจสีทอง-ดำ มันเหมือนกันไหมนะ แต่ซื้อจากไทยจะแพ็กเกจสีดำล้วนตลอดจ่ะ
2) ตัวตายตัวแทนเวอร์ชั่นถูกกว่าป้า L'oreal ข้างบน 100 นึง ก็คือน้อง In2It sphere waterproof eyeliner pen 249.-
- เป็นหัวเมจิกแบบจุกกลมๆ เราว่ามันเขียนง่าย แต่อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ชอบเน้นตวัดหางยาวๆแหลมๆ เน้นเขียนให้ชิดขอบตาหรือเน้นเส้นให้ตาดูกลมโตปลายตกๆแบบเกาหลี- ข้อเสียคือต้องเขย่าให้ลิควิดมันไปออกันที่หัวปากกา ไม่งั้นปาดไปครั้งแรกแล้วเส้นอาจขาดๆเลือนๆได้ แต่ถ้าน้ำยาฉ่ำที่หัวปากกาแล้ว จะได้เส้นที่คม ดำ แห้งง่าย เขียนง่าย และลุคแมท- เทียบกับป้า loreal black lacquer ตัวข้างบนแล้ว ถ้อว่าน้อง In2it อาจมีเลอะขอบตาล่างนิดนึง นิดนึงจริงๆ (แต่ป้าคือไม่เลอะเลย) ตกเย็นเส้นจากดำๆ อาจกลายเป็นเทาๆไปบ้าง แต่ก็ยังดูออกว่ามีอายไลเนอร์อยู่ ถือว่าให้อภัยได้
นี่ก็หาซื้อยาก มีเป็นบาง Watson อีก บางทีก็ของหมด สีไม่มี บลาๆๆ ติดหนึบ ติดทน แต่อาจไม่เหมาะกับการมาทาใต้ตา เอาไว้ใช้ปิดสิว ช่วย heal สิวได้บ้างมั้ง (ความเชื่อ + อารมณ์) มีกลิ่น Tea Tree Oil ชอบที่เป็นหัวหมุนๆ แล้วเนื้อจะออกมา แตะนิดดดดเดียวจริงๆ ก็ปาดกลบได้มิด
เริ่มมาจากใช้แบบสีใสก่อน แล้วปัดด้วยมาสคาร่าปกติ รู้สึกได้ว่าขอนตางอนเด้งทั้งวัน และช่วยระงับไม่ให้เนื้อมาสคาร่าที่ปัดทับมันเลอะขอบตาด้วย เราก็เลยลองใช้เนื้อสีดำแทนมาสคาร่าไปซะเลย จะได้ไม่ต้องปัดซ้ำสองรอบ ชิส์ สรุป มันเวิร์คมากกกกกก อายไลเนอร์กับมาสคาร่าเป็นไอเท็มสุดเฟลที่ลองมาเยอะเลอะมาเยอะ ตัวนี้ตัวเดียวคือจบ ถึงแม้จะดูเนื้อผลิตภัณฑ์น้อยเพราะแท่งเล็ก แต่คือจบ ดัดขนตา แล้วปัดตัวนี้ทับ อาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องขนตาหนาอะไร เหมาะกับแต่งหน้าเบาๆ พอให้รู้ว่าขนตาเข้มขึ้น ช่วยเรื่องงอนเด้ง ดวงตาจะได้ดูเบิกโพรงสดใส หากอยากจะเน้นหนาเน้นยาว เอามาสคาร่าปกติปัดทับไปอีกก็ได้ ช่วยให้เนื้อมาสคาร่าเลอะช้าลงเลอะน้อยลง แต่เราเห็นว่าตัวนี้สีดำอยู่แล้วก็เลยใช้แทนมันซะเลย
เราซื้อที่ร้าน Hej ตรงสีลม (มีที่ถูกกว่านี้ไหม?)
เหมาะกับชะนีขี้เกียจทารองพื้น แล้วก็ต้องมาตบแป้งฝุ่น ตัวนี้คือเหมาะกับคนหน้ามันเป็นสิวสุด แบรนด์ไทยนี่แหละ ที่บล็อกเกอร์รีวิวช่วงปีที่แล้ว เราก็ไม่อยากซื้อตามเพราะคิดแค่ว่าเป็นของที่เค้าน่าจะจ้างคนมารีวิว เน้นหน้าม้าช่วงเปิดตัวใหม่ๆ แต่อะไรดลใจไม่รู้เลยลอง tester ปรากฏว่า มันดีกว่าที่คิด ตบปุ๊บคือให้ฟีลแห้งปั๊บ pigmentation ดี จิกเนื้อมานิดเดียวคือปิดรอยดำรอยแดง ปาดไม่เยอะ คือกลบได้ทั้งหน้า เร็วดี เพราะไม่ต้องลงแป้งทับ ไม่ให้ลุค่ที่แมทจนหน้าแบนด้วย เหมือนยังดูเป็นผิวเราจริงๆ แถมสีคือออกแบบมาดีมาก เหมาะกับสาวเอเชียสุดๆ หน้าไม่เทาไม่ลอยแน่นอน ตบไปปีบคือสีเดียวกับสีหน้าเลย (แนะนำให้ลองที่คอ) คุมมันได้อย่างที่เคลม (อาจมีซับบ้างต้องทำใจไม่มีสิ่งใดจีรังยืนยง) ยิ่งใช้คู่กับกันแดด charcoalogy ข้างบน คือดีงามมาก คู่สร้างคู่สมช่วยคุมมันและกลบสิว ชอบอีกคือตลับบาง สลิม พกพาง่ายไม่เทอะทะเหมือนตลับคุชชั่นส่วนใหญ่
จบไปแล้วกับของที่ใช้แล้วดี ต้องบินกลับมาซื้อตุน อาจจะหาซื้อยากไปหน่อย แต่เธอว์ผู้หน้ามันหน้าสิวจะไม่เสียใจ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้