แน่นอนว่านยุคนี้การนั่งชิล นั่งดื่มกาแฟ ทำงานในร้านกาแฟนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิต และเมื่อมาถึงปารีสก็ต้องบอกเลยว่ามีร้านกาแฟ คาเฟ่น่านั่งจำนวนไม่น้อยที่ควรค่ากับการเข้าไปลองชิมกาแฟ หรือเครื่องดื่มต่างๆ รวมถึงชักภาพเป็นที่ระลึก ในลิสต์วันนี้เรารวบรวมมาให้ 10 คาเฟ่ด้วยกัน แต่ถ้าอยากได้แบบแน่นๆจุก 20 คาเฟ่ก็เข้าไปตามอ่านได้ที่
https://www.obonparis.com/th/magazine/paris-cafe-guide หรืออดใจรออีกหน่อยแล้วเราจะมาอัพเดตเพิ่มเติมเร็วๆนี้
ไปเริ่มกันเลย
1. TELESCOPE – ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโรงอุปรากรโอเปรา Garnier จริงๆแล้วบริเวณนั้นเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่จำนวนไม่น้อย คาเฟ่แห่งนี้มีขนาดเล็กจึงอาจจะทำให้หลายๆคนมองข้าม แต่เชื่อหรือไม่ว่าถึงแม้ขนาดของร้านจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ร้านนี้มีคนต่อคิวเต็มเกือบทุกวัน เมนูแนะนำของร้านนี้ คือ Iced Coffee Latte นมที่ใช้สำหรับกาแฟชนิดนี้เป็นนมถั่วเหลือง เพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง
ที่อยู่: 5 Rue Villedo, 75001 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Pyramides (สาย 7 และ 14)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:30-17:00 (ปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์)
2. CAFE VERLET – ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคาเฟ่ Telescope และอยู่ใกล้กันกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เพราะทางร้านเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1880 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทางร้านก็ได้นำเข้าเมล็ดกาแฟอาราบิก้า ที่ดีที่สุดในโลกมาคั่วและชงสดๆให้รับประทานกันในร้าน
การตกแต่งของร้านเน้นไปที่สไตล์คลาสสิค หรูหรา มีกาแฟจากนานาประเทศให้เลือก เช่น โคลอมเบีย เคนย่า ไทย พม่า ปานามา กัวเตมาลา เอธิโอเปีย คอสตาริกา เป็นต้น
ที่อยู่: 256 Rue Saint-Honoré, 75001 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Tuileries (สาย 1) หรือสถานี Pyramides (สาย 7 และ 14) หรือสถานี Palais Royal Musée du Louvre (สาย 1 และ 7)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00-19:00 (ปิดทุกวันอาทิตย์)
3. MATAMATA COFEE – คาเฟ่นี้เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่มีชีวิตชีวา แรงบันดาลของเจ้าของร้านเกิดการเดินทางท่องเที่ยวไปที่ประเทศออสเตรเลียและตกหลุมรักในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ จึงเข้าคอร์สเรียนชงกาแฟอย่างเต็มตัว และได้ทำการเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง ชื่อร้าน "Matamata" มาจากชื่อเมืองเล็กๆทางเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ในเขตไวกาโต (Waikato) ในปี 2008 เพื่อนรักของคุณ Gerald และ Co-Founder ของคาเฟ่แห่งนี้ได้จัดงานแต่งงานขึ้นที่เมืองมาทามาท่า พวกเขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อเมืองมาตั้งเป็นชื่อร้าน นอกจากกาแฟรสชาติดีแล้ว ทางร้านยังมีเค้กโฮมเมด อาหารเช้า อาหารกลางวัน รวมไปถึงเมล็ดกาแฟคุณภาพดีขายด้วย
ที่อยู่: 58 Rue d’Argout, 75002 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Sentier (สาย 3)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-17:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00-17:00
4. BOOTS CAFE – ร้านนี้ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆตามโซเชียลมีเดีย จุดเด่นของร้านนี้คือขนาดที่ค่อนข้างเล็ก ภายในมีที่นั่งเพียง 3 โต๊ะเท่านั้น ในอดีตตัวร้านเคยเป็นร้านซ่อมรองเท้ามาก่อน สังเกตได้จากป้าย "Cordonnerie" ที่แปลว่า "ร้านซ่อมรองเท้า" ในภาษาฝรั่งเศส ที่เจ้าของร้านตั้งใจเก็บเอาไว้เป็นหนึ่งในของตกแต่งร้าน อย่างที่บอกว่าร้านมีขนาดเล็ก เมนูของร้านจึงไม่หลากหลายมากนัก แต่รสชาติของเครื่องดื่มที่นี่ก็ต้องบอกว่าดีเยี่ยมไม่แพ้ที่อื่นๆ
ที่อยู่: 19 Rue du Pont aux Choux, 75003 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Saint-Sébastien - Froissart (สาย 8)
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10:00-17:00
5. LOUSTIC – คาเฟ่นี้ตั้งอยู่บนถนนเล็กในย่านเลอมาเรส์ ไม่ไกลจาก Pompidou Center ถ้ามองจากด้านหน้าร้านอาจจะคิดว่าร้านนั้นมีขนาดเล็กๆ แต่เมื่อเดินเข้าไปภายในก็จะพบว่าร้านนี้มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ พร้อมรองรับทุกคน บรรยากาศภายในร้านนั้นอบอุ่นและเป็นกันเอง ทางคาเฟ่ร่วมมือกับ Roasting Company อย่างบริษัท Caffenation จากเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น Roasting Company ที่ดีที่สุดในทวีปยุโรปเลยทีเดียว กาแฟของที่นี่นั้นทั้งนุ่ม หอม และเข้มข้น เหมาะกับคอกาแฟสุดๆ
ที่อยู่: 40 Rue Chapon, 75003 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Arts et Métiers (สาย 3 และ 11)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:30-18:00 / วันเสาร์ 09:30-18:00 / วันอาทิตย์ 10:00-18:00
6. OB-LA-DI – คาเฟ่นี้โด่งดังมาจากเมนูบรั้นช์ อาหารทุกอย่างในร้านเป็นเมนูโฮมเมดทั้งสิ้น จุดเด่นหนึ่งของร้านคือ การตกแต่งด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินลายกราฟฟิคและโต๊ะลายหินอ่อน
ที่อยู่: 54 Rue de Saintonge, 75003 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Filles du Calvaire (สาย 8)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-17:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00-17:00
7. PARTISAN CAFE ARTISANAL – คาเฟ่นี้เปิดขึ้นเมื่อปี 2018 การตกแต่งของร้านเป็นสไตล์มินิมอล เรียบๆ ขนาดของคาเฟ่ค่อนข้างกว้างขวาง ร้านนี้จะคั่วกาแฟกันสดๆให้ทุกคนได้เห็น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการสร้างความตื่นเต้นให้กับการดื่มกาแฟก็ว่าได้
ที่อยู่: 36 Rue de Turbigo, 75003 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Arts et Métiers (สาย 3 และ 11)
เวลาทำการ: วันพุธและวันพฤหัส 08:30-17:00 / วันศุกร์ 08:30-22:00 / วันเสาร์ 09:00-22:00 / วันอาทิตย์ 09:00-18:00 (ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร)
8. TERRES DE CAFE – หลังจากเดินทางมาทั่วโลกเพื่อค้นหากาแฟที่ดีที่สุด เจ้าของร้านคาเฟ่นี้ก็ตัดสินใจเปิดร้านแห่งนี้ขึ้นมา ร้านนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2009 และในปัจจุบันนี้มีสาขาทั้งหมด 3 สาขาด้วยกันทั่วกรุงปารีส เจ้าของร้านนั้นทำกาแฟขึ้นมาตามหลักการของประเทศฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทางร้านใส่ใจในคุณภาพของเมล็ดกาแฟเป็นหลัก ทำให้กาแฟที่ได้ออกมาก็มีคุณภาพที่ดีตามไปด้วย
ร้านนี้ได้รับรางวัล Best Specialty Coffee Roasting Company จากประเทศฝรั่งเศสในปี 2017 มีการคั่วกาแฟในสไตล์ฝรั่งเศส 100% และยังเป็นบริษัทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด
และเพื่อรสชาติที่แม่นยำ ทางร้านได้ใช้ตัวช่วยอย่างคอมพิวเตอร์ในการคั่วเมล็ดการแฟเพื่อรสชาติที่หอมละมุนและอร่อย ที่บาร์เคาน์เตอร์ด้านในร้านนั้นมีเก้าอี้สีเหลืองตั้งอยู่ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถนั่งพูดคุยกับบาริสต้าได้อย่างเป็นกันเอง นอกจากนั้นก็ยังมีเก้าอี้หวายที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของทางร้านอีกด้วย
ที่อยู่: 14 Rue Rambuteau, 75004 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Hôtel de Ville (สาย 1 และ 11)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 09:00-19:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 10:00-19:00
9. LA CFEOTHEQUE - Gloria Montenegro อดีตเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศกัวเตมาลาและเป็นผู้นำนวัตกรรมและวัฒนธรรมใหม่ของคาเฟ่เข้ามาในกรุงปารีส ปัจจุบันนี้เธอเปิดคาเฟ่ La Caféothèque และทำงานเปนทูตกาแฟอย่างไม่เป็นทางการ เดินทางไปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกาเพื่อทำการศึกษาเมล็ดกาแฟชนิดต่างๆ และในฐานะผู้นำของวัฒนธรรมคาเฟ่ในกรุงปารีส
คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่เลียบแม่น้ำแซน (Seine) มองเห็นวิวมหาวิหารนอร์ทเธอดาม (Notre-Dame Cathedrap) จากไกลๆ บรรยากาศโดยรวมนั้นค่อนข้างมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นทั้งด้านในและด้านนอก บางส่วนของทางร้านดูเหมือนร้านขายยาจีนสมัยโบราณ อีกด้านก็ดูเหมือนห้องสมุดที่ชาวปารีเซียงมักจะมานั่งจิบกาแฟพลางอ่านหนังสือหรือทำงานกันอย่างเงียบๆ
ที่อยู่: 52 Rue de l'Hôtel de ville, 75004 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Pont Marie (สาย 7)
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 09:00-20:00
10.IBRIK – ประตูสีแดงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้สามารถดึงดูดผู้คนได้จำนวนไม่น้อย เมื่อเดินเข้าไปในร้านจะได้พบกับ Evil Eyes มากมายซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดีของประเทศตุรกี นอกเหนือจากนั้นแล้ว คาเฟ่ Ibrik ยังมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมลาตินและเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้บรรยากาศภายในร้านนั้นเป็นไปในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนท่ามกลางการตกแต่งสไตล์ Byzantine
ไม่ใช่เพียงการตกแต่งเท่านั้นแต่กาแฟก็ยังเป็นไปในสไตล์ตุรกี คำว่า "Ibrik" นั้นจริงๆแล้วเป็นชื่อเรียกของกาน้ำที่ใช้ทำการใช้ทำกาแฟในประเทศตุรกี นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องทำกาแฟที่เอาไว้ใช้ทำกาแฟสไตล์ตุรกีโดยเฉพาะ ทางร้านใช้ไฟฟ้าในการอุ่นให้ทรายมีความร้อน หลังจากนั้นจึงวางกาน้ำที่มีกาแฟและน้ำเย็นลงไปบนทราย รอจนน้ำเดือด กาแฟของทางประเทศตุรกีนั้นจะมีระดับของคาเฟอีนมากกว่ากาแฟทั่วไปและมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า อยากลองกาแฟตุรกีแบบเเท้ๆ ก็ลองแวะเข้าไปได้ที่นี่เลย
ที่อยู่: 43 Rue Laffitte, 75009 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Notre-Dame-de-Lorette (สาย 12) หรือสถานี Le Peletier (สาย 7)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-16:00 / วันเสาร์ 11:30-17:30 (ปิดทุกวันอาทิตย์)
Café Hopping - พาไปดูแหล่งคาเฟ่นั่งเล่นในปารีส
ไปเริ่มกันเลย
1. TELESCOPE – ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโรงอุปรากรโอเปรา Garnier จริงๆแล้วบริเวณนั้นเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่จำนวนไม่น้อย คาเฟ่แห่งนี้มีขนาดเล็กจึงอาจจะทำให้หลายๆคนมองข้าม แต่เชื่อหรือไม่ว่าถึงแม้ขนาดของร้านจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ร้านนี้มีคนต่อคิวเต็มเกือบทุกวัน เมนูแนะนำของร้านนี้ คือ Iced Coffee Latte นมที่ใช้สำหรับกาแฟชนิดนี้เป็นนมถั่วเหลือง เพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง
การเดินทาง: เมโทรสถานี Pyramides (สาย 7 และ 14)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:30-17:00 (ปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์)
2. CAFE VERLET – ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคาเฟ่ Telescope และอยู่ใกล้กันกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เพราะทางร้านเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1880 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทางร้านก็ได้นำเข้าเมล็ดกาแฟอาราบิก้า ที่ดีที่สุดในโลกมาคั่วและชงสดๆให้รับประทานกันในร้าน
การตกแต่งของร้านเน้นไปที่สไตล์คลาสสิค หรูหรา มีกาแฟจากนานาประเทศให้เลือก เช่น โคลอมเบีย เคนย่า ไทย พม่า ปานามา กัวเตมาลา เอธิโอเปีย คอสตาริกา เป็นต้น
การเดินทาง: เมโทรสถานี Tuileries (สาย 1) หรือสถานี Pyramides (สาย 7 และ 14) หรือสถานี Palais Royal Musée du Louvre (สาย 1 และ 7)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00-19:00 (ปิดทุกวันอาทิตย์)
3. MATAMATA COFEE – คาเฟ่นี้เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่มีชีวิตชีวา แรงบันดาลของเจ้าของร้านเกิดการเดินทางท่องเที่ยวไปที่ประเทศออสเตรเลียและตกหลุมรักในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ จึงเข้าคอร์สเรียนชงกาแฟอย่างเต็มตัว และได้ทำการเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง ชื่อร้าน "Matamata" มาจากชื่อเมืองเล็กๆทางเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ในเขตไวกาโต (Waikato) ในปี 2008 เพื่อนรักของคุณ Gerald และ Co-Founder ของคาเฟ่แห่งนี้ได้จัดงานแต่งงานขึ้นที่เมืองมาทามาท่า พวกเขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อเมืองมาตั้งเป็นชื่อร้าน นอกจากกาแฟรสชาติดีแล้ว ทางร้านยังมีเค้กโฮมเมด อาหารเช้า อาหารกลางวัน รวมไปถึงเมล็ดกาแฟคุณภาพดีขายด้วย
การเดินทาง: เมโทรสถานี Sentier (สาย 3)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-17:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00-17:00
4. BOOTS CAFE – ร้านนี้ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆตามโซเชียลมีเดีย จุดเด่นของร้านนี้คือขนาดที่ค่อนข้างเล็ก ภายในมีที่นั่งเพียง 3 โต๊ะเท่านั้น ในอดีตตัวร้านเคยเป็นร้านซ่อมรองเท้ามาก่อน สังเกตได้จากป้าย "Cordonnerie" ที่แปลว่า "ร้านซ่อมรองเท้า" ในภาษาฝรั่งเศส ที่เจ้าของร้านตั้งใจเก็บเอาไว้เป็นหนึ่งในของตกแต่งร้าน อย่างที่บอกว่าร้านมีขนาดเล็ก เมนูของร้านจึงไม่หลากหลายมากนัก แต่รสชาติของเครื่องดื่มที่นี่ก็ต้องบอกว่าดีเยี่ยมไม่แพ้ที่อื่นๆ
การเดินทาง: เมโทรสถานี Saint-Sébastien - Froissart (สาย 8)
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10:00-17:00
5. LOUSTIC – คาเฟ่นี้ตั้งอยู่บนถนนเล็กในย่านเลอมาเรส์ ไม่ไกลจาก Pompidou Center ถ้ามองจากด้านหน้าร้านอาจจะคิดว่าร้านนั้นมีขนาดเล็กๆ แต่เมื่อเดินเข้าไปภายในก็จะพบว่าร้านนี้มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ พร้อมรองรับทุกคน บรรยากาศภายในร้านนั้นอบอุ่นและเป็นกันเอง ทางคาเฟ่ร่วมมือกับ Roasting Company อย่างบริษัท Caffenation จากเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น Roasting Company ที่ดีที่สุดในทวีปยุโรปเลยทีเดียว กาแฟของที่นี่นั้นทั้งนุ่ม หอม และเข้มข้น เหมาะกับคอกาแฟสุดๆ
การเดินทาง: เมโทรสถานี Arts et Métiers (สาย 3 และ 11)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:30-18:00 / วันเสาร์ 09:30-18:00 / วันอาทิตย์ 10:00-18:00
6. OB-LA-DI – คาเฟ่นี้โด่งดังมาจากเมนูบรั้นช์ อาหารทุกอย่างในร้านเป็นเมนูโฮมเมดทั้งสิ้น จุดเด่นหนึ่งของร้านคือ การตกแต่งด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินลายกราฟฟิคและโต๊ะลายหินอ่อน
การเดินทาง: เมโทรสถานี Filles du Calvaire (สาย 8)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-17:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00-17:00
7. PARTISAN CAFE ARTISANAL – คาเฟ่นี้เปิดขึ้นเมื่อปี 2018 การตกแต่งของร้านเป็นสไตล์มินิมอล เรียบๆ ขนาดของคาเฟ่ค่อนข้างกว้างขวาง ร้านนี้จะคั่วกาแฟกันสดๆให้ทุกคนได้เห็น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการสร้างความตื่นเต้นให้กับการดื่มกาแฟก็ว่าได้
การเดินทาง: เมโทรสถานี Arts et Métiers (สาย 3 และ 11)
เวลาทำการ: วันพุธและวันพฤหัส 08:30-17:00 / วันศุกร์ 08:30-22:00 / วันเสาร์ 09:00-22:00 / วันอาทิตย์ 09:00-18:00 (ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร)
8. TERRES DE CAFE – หลังจากเดินทางมาทั่วโลกเพื่อค้นหากาแฟที่ดีที่สุด เจ้าของร้านคาเฟ่นี้ก็ตัดสินใจเปิดร้านแห่งนี้ขึ้นมา ร้านนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2009 และในปัจจุบันนี้มีสาขาทั้งหมด 3 สาขาด้วยกันทั่วกรุงปารีส เจ้าของร้านนั้นทำกาแฟขึ้นมาตามหลักการของประเทศฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทางร้านใส่ใจในคุณภาพของเมล็ดกาแฟเป็นหลัก ทำให้กาแฟที่ได้ออกมาก็มีคุณภาพที่ดีตามไปด้วย
ร้านนี้ได้รับรางวัล Best Specialty Coffee Roasting Company จากประเทศฝรั่งเศสในปี 2017 มีการคั่วกาแฟในสไตล์ฝรั่งเศส 100% และยังเป็นบริษัทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด
และเพื่อรสชาติที่แม่นยำ ทางร้านได้ใช้ตัวช่วยอย่างคอมพิวเตอร์ในการคั่วเมล็ดการแฟเพื่อรสชาติที่หอมละมุนและอร่อย ที่บาร์เคาน์เตอร์ด้านในร้านนั้นมีเก้าอี้สีเหลืองตั้งอยู่ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถนั่งพูดคุยกับบาริสต้าได้อย่างเป็นกันเอง นอกจากนั้นก็ยังมีเก้าอี้หวายที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของทางร้านอีกด้วย
การเดินทาง: เมโทรสถานี Hôtel de Ville (สาย 1 และ 11)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 09:00-19:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 10:00-19:00
9. LA CFEOTHEQUE - Gloria Montenegro อดีตเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศกัวเตมาลาและเป็นผู้นำนวัตกรรมและวัฒนธรรมใหม่ของคาเฟ่เข้ามาในกรุงปารีส ปัจจุบันนี้เธอเปิดคาเฟ่ La Caféothèque และทำงานเปนทูตกาแฟอย่างไม่เป็นทางการ เดินทางไปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกาเพื่อทำการศึกษาเมล็ดกาแฟชนิดต่างๆ และในฐานะผู้นำของวัฒนธรรมคาเฟ่ในกรุงปารีส
คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่เลียบแม่น้ำแซน (Seine) มองเห็นวิวมหาวิหารนอร์ทเธอดาม (Notre-Dame Cathedrap) จากไกลๆ บรรยากาศโดยรวมนั้นค่อนข้างมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นทั้งด้านในและด้านนอก บางส่วนของทางร้านดูเหมือนร้านขายยาจีนสมัยโบราณ อีกด้านก็ดูเหมือนห้องสมุดที่ชาวปารีเซียงมักจะมานั่งจิบกาแฟพลางอ่านหนังสือหรือทำงานกันอย่างเงียบๆ
การเดินทาง: เมโทรสถานี Pont Marie (สาย 7)
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 09:00-20:00
10.IBRIK – ประตูสีแดงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้สามารถดึงดูดผู้คนได้จำนวนไม่น้อย เมื่อเดินเข้าไปในร้านจะได้พบกับ Evil Eyes มากมายซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดีของประเทศตุรกี นอกเหนือจากนั้นแล้ว คาเฟ่ Ibrik ยังมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมลาตินและเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้บรรยากาศภายในร้านนั้นเป็นไปในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนท่ามกลางการตกแต่งสไตล์ Byzantine
ไม่ใช่เพียงการตกแต่งเท่านั้นแต่กาแฟก็ยังเป็นไปในสไตล์ตุรกี คำว่า "Ibrik" นั้นจริงๆแล้วเป็นชื่อเรียกของกาน้ำที่ใช้ทำการใช้ทำกาแฟในประเทศตุรกี นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องทำกาแฟที่เอาไว้ใช้ทำกาแฟสไตล์ตุรกีโดยเฉพาะ ทางร้านใช้ไฟฟ้าในการอุ่นให้ทรายมีความร้อน หลังจากนั้นจึงวางกาน้ำที่มีกาแฟและน้ำเย็นลงไปบนทราย รอจนน้ำเดือด กาแฟของทางประเทศตุรกีนั้นจะมีระดับของคาเฟอีนมากกว่ากาแฟทั่วไปและมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า อยากลองกาแฟตุรกีแบบเเท้ๆ ก็ลองแวะเข้าไปได้ที่นี่เลย
การเดินทาง: เมโทรสถานี Notre-Dame-de-Lorette (สาย 12) หรือสถานี Le Peletier (สาย 7)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-16:00 / วันเสาร์ 11:30-17:30 (ปิดทุกวันอาทิตย์)