ระหว่างรออีกคนยังไม่มาถึง คนขับรถแนะนำว่าไป shopping กันก่อนที่อยู่ใกล้ๆ สนามบิน มีลักษณะคล้ายกับบ้านเราเลยค่ะ เราก็ไปหาซื้อขนมถั่ว มันฝรั่งทอดใส่ไข่เค็ม และสุดท้ายขาดไม่ได้คือผ้าถุง ค่ะ จะซื้อมาใส่ตอนไปวัดวันอื่นต่อค่ะ เจอล๊อตตอรี่พม่า ลองซื้อไว้หน่อย เพื่อจะมีโชคบ้าง ตอนนี้ท้องเริ่มร้องแล้ว คนขับรถแนะนำว่าไปกิน Hot Pot กัน บุฟเฟต์ด้วยจ้า.....อิอิ
ร้าน Hot Pot King Hot Pot and BBQ Buffet Restaurant ร้านนี้ให้ 4 ดาวเลยค่ะ บรรยากาศร้านดี พนักงานต้อนรับดีมากค่ะ อาหารสดใหม่ มีทั้งกุ้งแม่น้ำ กุ้งลายเสื้อ ปู และอย่างอื่นเยอะมากเลย ทุกอย่างเติมไม่อั้นค่ะ และที่สำคัญคือ เตาปิ้งจะไว้ตรงข้าง ส่วนหม้อต้มจะมีของใครของมันเลย รวมทั้งไม่จำกัดเวลาด้วย
[SR] มาแสวงบุญตามสายบุญกัน เที่ยวพม่า 4 วัน 3 คืน ณ สิเรียม พระธาตุอินท์แขวน ย่างกุ้ง หงสาวดี
วันที่ 1
การเดินทางสายการบิน lion air เวลา 7.35 แต่ฝนตกหนักมาก ได้ขึ้นเครื่องตอนประมาณ 9 โมง
กว่า ถึงสนามบินย่างกุ้งประมาณ 10 โมงค่ะ เราใช้บริการของ Thu Ya ค่ะ พอดีที่เรียกไว้ก่อนหน้าเขาติดธุระมาไม่ได้ค่ะ เราบอกคนขับรถว่าขอเที่ยวใกล้ๆ ก่อน เพราะอีกคนจะลงเครื่องตอนบ่าย 2.30 และแลกเงินและซื้อซิมการ์ดที่สนามบินเลย จากนั้น มาที่วัดแรกเลยค่ะ คือ วัดเก๊าตอจี วัดนี้อยู่ใกล้สนามบินเลยค่ะ มีพระหินอ่อนองค์ใหญ่ และพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนสวยงามมากค่ะ
ขับรถออกจากวัดมายังไม่หายร้อนเลย ขับข้ามฝั่งมาฝั่งตรงข้ามมาดูช้างเผือกของพม่า หรือช้าง 7 สี ซึ่งช้างเผือกคนพม่าบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของบุญบารมีค่ะ
ไปพระเจดีย์กาบาเอ เป็นเจดีย์ทรงกลม ป็นที่มีพระเขี้ยวแก้ว ประดิษฐานพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร ที่ได้มาจากศรีลังกาตั้งแต่สมัยบุเรนองประดิษฐานอยู่ ตอนไปกำลังทำพิธีกันอยู่เลย และเจ้าหน้าที่ก็ให้เราเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ ได้ด้วยค่ะ พอออกจากเจดีย์มาเจอพิพิธภัณฑ์ Museum of the Buddha’s Life and Sasana เป็นสระน้ำปูนปั้นและบริเวณนั้นมีเหรียญให้โยนเสี่ยงทายกันใส่บาตร แต่ละบาตรจะมีเขียนเป็นภาษาพม่าไว้ค่ะ มีเหรอจะพลาดจัดค่ะ คนขับรถบอกว่าอันนนี้คือ ความโชคดี เราก็โยนไปค่ะ ไม่เข้าเลย ดันไปลงอันข้างๆ เลยถามว่าอะไร เขาเลยบอกว่า boyfriend ค่ะ ขำกันเลยขนาดไม่ได้ตั้งใจนะนิ
มาต่อที่วัดชเวตอเมียต หรือวัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี เป็นสถาปัตยกรรมแบบพุกามโบราณ องค์เจดีย์เป็นสีทองทรงแปดเหลี่ยม กลางโถงเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว ที่อัญเชิญมาจากประเทศจีน
ระหว่างรออีกคนยังไม่มาถึง คนขับรถแนะนำว่าไป shopping กันก่อนที่อยู่ใกล้ๆ สนามบิน มีลักษณะคล้ายกับบ้านเราเลยค่ะ เราก็ไปหาซื้อขนมถั่ว มันฝรั่งทอดใส่ไข่เค็ม และสุดท้ายขาดไม่ได้คือผ้าถุง ค่ะ จะซื้อมาใส่ตอนไปวัดวันอื่นต่อค่ะ เจอล๊อตตอรี่พม่า ลองซื้อไว้หน่อย เพื่อจะมีโชคบ้าง ตอนนี้ท้องเริ่มร้องแล้ว คนขับรถแนะนำว่าไปกิน Hot Pot กัน บุฟเฟต์ด้วยจ้า.....อิอิ
ร้าน Hot Pot King Hot Pot and BBQ Buffet Restaurant ร้านนี้ให้ 4 ดาวเลยค่ะ บรรยากาศร้านดี พนักงานต้อนรับดีมากค่ะ อาหารสดใหม่ มีทั้งกุ้งแม่น้ำ กุ้งลายเสื้อ ปู และอย่างอื่นเยอะมากเลย ทุกอย่างเติมไม่อั้นค่ะ และที่สำคัญคือ เตาปิ้งจะไว้ตรงข้าง ส่วนหม้อต้มจะมีของใครของมันเลย รวมทั้งไม่จำกัดเวลาด้วย
พอได้เวลารีบไปสนามบินอีกรอบค่ะ หลังจากสมาชิกครบแล้วเราต้องรีบขึ้นไปพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ และคนขับรถบอกว่าไม่ทันต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงไปถึงที่นู่นก็ค่ำๆ เลยซึ่งตอนแรกเราจอง รร Yoe Yoe lay hetel ไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน เลยส่งเมล์กลับไม่บอกว่าเข้าพักไม่ทันค่ะ คนขับรถเลยหาที่พักให้ใหม่ ชื่อ Family hotel ซึ่งราคาถูกและสะอาดด้วยค่ะข้างๆ โรงแรมจะมีร้านอาหารของชาวบ้านอยู่ค่ะ ต้องไปลองหน่อย เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง ราคาถูกมาก ข้าวและกับเติมได้ตลอดเลยราคาเดิม เจ้าของร้านพูดไทยได้ค่ะ มาทำงานแถวมหาชัยบ้านเราเอง555 กินเสร็จแล้วกลับโรงแรมนอนเอาแรงพรุ่งนี้ต่อค่ะ ......
วันที่ 2
ตื่นเช้ามาแต่งตัวเป็นสาวพม่ากันค่ะ กินข้าวร้านเดิมแต่เพิ่มเติมคือมีชาพม่ากับ ปาท่องโก๋มาเพิ่มหน่อย แถวนั้นมีพระเดินมา เราสามารถทำบุญใส่บาตรได้ค่ะ พระให้พรยาวมากไม่รู้ว่าอะไรบ้างเป็นภาษาพม่าค่ะ จากนั้นได้เวลาขึ้นไปทำบุญพระธาตุอินทร์แขวนกันค่ะ
เรายืนรอที่หน้าโรงแรมได้เลย มีบันไดให้ขึ้นด้วย เดี๋ยวรถขนหมูจะมารับพวกเราค่ะ อยากนั่งหลังแต่ที่ไหนได้คนขับรถของเราให้เรานั่งที่นั้น VIP ค่ะคู่กับคนขับไปเลย มีแคปด้านหลังด้วย
ระหว่างทางจะมีคนขึ้นตลอด และรถจะแบ่งหยุดเป็นช่วงๆ ระหว่างที่หยุดจะมีคนมาขอเรี่ยไรเงินทำบุญค่ะ ระหว่างทางจะเป็นวิวธรรมชาติตลอดทางมีน้ำตกด้วย ผ่านไปประมาณ 10 นาที เราถึงสถานี Cable Car คนขับรถ Thu Ya ถามว่าขึ้นมั้ย ถ้าขึ้นขาไม่ขึ้นนะกลัวกลัวความสูง เราเลยบอกว่ามาด้วยกันเลย
เมื่อถึงพระธาตุอินทร์แขวนแล้วจะมีด่านเก็บเงินค่าเข้า สำหรับชาวต่างชาติ และให้ทุกคนถอดรองเท้าเดินกันเลย ระหว่างทางจะมีของกิน ของเล่น เสื้อ รองเท้า หมวก ขายเยอะไปหมดเลยค่ะ และมีเด็กเดินตามเราเอาของมาขายด้วยตั้งแต่ขึ้นยันกลับก็ตามมา สำหรับคนเดินไม่ไหวมีเสลี่ยง ให้เช่าค่ะ ได้ยินว่า 800 บาท นะคะ
ในที่สุดเราก็ถึงกัน.....
หลังจากนั้น เราไปไหว้พระธาตุอินแขวนหรือ ไจ๋ก์ทิโย กันค่ะ จากนั้นเราเข้าไปที่ศาลา เจอเจ้าอาวาสอยู่ด้วย นานๆ จะเจอทีและเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของคนพม่ามาก คนขับรถบอก เราเลยนำเงินไทยไปทำบุญค่ะ หลวงพ่อให้ของวิเศษมาด้วยค่ะ แล้วหลวงพ่อก็ไม่ได้ให้ใครง่ายๆ ด้วย อิอิ
เมื่อลาหลวงพ่อกลับแล้ว ต้องรีบลงนะคะมันร้อนมากและคนเยอะด้วย ต้องรอคิวและไปต่อแถวขึ้นรถกันอีกที
เราก็รีบกลับมาที่พักเก็บของกลับย่างกุ้งต่อ Thu Ya บอกเราว่าเดี๋ยวพาไปหาลำธารเย็นๆ แถวนี้ และร้านอาหารอร่อย คนทำอาหารเคยไปเป็นกุ๊กที่ไทยมาด้วยและกลับมาทำร้านอาหารที่นี้ อาหารอร่อย รสชาติของคนไทยเลย รู้ใจจริงๆ
เมื่ออิ่มกันแล้วเดินทางไปเมืองหงสาวดีกันต่อค่ะ
ระหว่างขับคนไป Thu Ya รีวิวมาต้องมาลองผลไม้ของพม่ากันหน่อย คือ ทุเรียนกับส้มโอ พอเจอเข้าข้างทางแวะซื้อกันเลยจ้า มาแล้วต้องลองกันหน่อย ทุเรียนราคาไม่แพงกลิ่นแรงมาก เม็ดใหญ่มาก เนื้อน้อย ส่วนส้มโอ จืดสนิทจ้า แต่น้ำเยอะจริง
ส่วนคนขับรถกินสิ่งนี้ จิ้งหรีดทอด
แล้วเราก็มาถึงสถานที่แรกของเมืองหงสาวดี คือ มหาเจดีย์ชวดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา คือได้ว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า และเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่าที่เป็นที่ศรัทธาของคนไทยและคนพม่า หลังจากเกิดแผ่นเดินไหวหลายครั้ง ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา และได้บรูณะและทำซากของพระธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้คนมาสักการะคู่กับองค์ปัจจุบันค่ะ
เดินทางกันต่อไปเที่ยวพระราชวังบุเรงนอง พระราชวังแห่งนี้อยู่สมัยพระเจ้านันทบุเรงนองเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าบุเรงนอง ต่อมาเกิดสงครามได้ถูกพวกยะไข่กับพวกตองอูเสียหายเกือบทั้งหมด ต่อมาปี พ.ศ. 2533 รัฐบาลของพม่าได้รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ และได้พบซากของพระราชวังเหลือเพียงเป็นต่อไม้เท่านั้น จึงได้มีการสร้างพระราชวังจำลองขึ้นมาใหม่ และฉาบด้วยสีทองทั้งหลัง และมีต่อไม้วางไว้ข้างๆกับเสาต้นใหม่ด้วย
จากพระราชวังมาต่อที่ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว เป็นพระนอนที่งามที่สุดในพม่า โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาทกัน ซึ่งจะแตกต่างกับของไทยค่ะ คนขับรถบอกว่าเป็นพระรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพาน
ขับรถเข้าไปอีกนิดหนึ่ง จะเจอ มหาเจดีย์ Mahasedi หรือมหาเซดี เป็นวัดหนึ่งที่คนส่วนมากไม่ค่อยเข้ามาค่ะ วัดนี้เป็นวัดที่พระเจ้าบุเรงนองจุดอธิษฐานชัยชนะก่อนจะออกสงครามค่ะ เจดีย์นี้ไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไปนะคะ และเราสามารถทำพิธีตรงสถานที่ที่เขาจัดไว้ให้ เป็นรูปปั้นพระเจ้าบุเรงนองชี่ช้างและทหารอยู่ข้างๆ เราไปเดินจงกรม 3 รอบ เพื่อขอชัยชนะกันค่ะ
และสถานที่สุดท้ายของวันนี้ คือ เจดีย์ไจ้ท์ปุ้น หรือพระพุทธรูป 4 ทิศ เป็นวัดเก่าศักดิ์สิทธิ์และนับถือมากของคนพม่า วัดนี้สร้างขึ้นโดย 4 สาวที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนาและสร้างขึ้นแทนตนเองและได้สาบานว่าจะไม่ยุ่งกับชายหนุ่ม ต่อมา 1 ใน 4 ได้พบรักและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปจนเกิดรอยร้าวขึ้น และหน้าพระพักตร์องค์นั้นจะเศร้ากว่าองค์อื่นๆ ลองเดินและสังเกตดูก็เจอพระพุทธรูปองค์นั้นตามที่บอกจริงๆ ค่ะ
ถึงเวลากินอีกแล้ว คนขับรถเราพาไปร้าน ต้มยำหม้อไฟ ค่ะ จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อร่อยจริง ชามใหญ่จริง แล้วเข้าที่พัก East Hotel มีโรงหนังขนาบข้างด้วย
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 3 กันค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้