รีวิว การทำเลสิกแบบ ICL (เสริมเลนส์) 2019

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ 
นี่เป็นครั้งแรกของผมเลยที่มาเขียนรีวิวใน pantip ถ้าผิดพลาดหรืออ่านไม่รู้เรื่องก็ขอโทษไว้ด้วยนะครับ สาเหตุที่เขียนรีวิวเพราะอยากแชร์ประสบการณ์การทำเลสิกแบบเสริมเลนส์(ICL) สำหรับผู้ที่กระจกตาบางและทำเลสิกปกติไม่ได้หรือกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะทำแบบ ICL ดีมั้ย ซึ่งวิธีการทำเนี่ยผมเห็นหลายกระทู้เขาเขียนไว้เยอะแล้ว ผมเลยจะขออธิบายสั้นๆละกันนะครับ ICL มันก็คือเหมือนใส่เลนส์เข้าไปในตาเหมือนคอนแทคเลนส์นั้นแหละครับ แต่มันจะอยู่กับเราตลอดไป 
งั้นเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ
ผมเป็นคนสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กๆ บวกเอียงด้วย ข้างนึงสั้น650เอียง300 อีกข้างก็พอๆกัน ปกติผมใส่แว่นมาตลอด พึ่งมาใส่คอนแทคเลนส์ตอนเข้ามหาลัย รวมแล้วก็ใส่คอนแทคมา4ปีแล้ว ซึ่งผมลำคานที่ต้องมาคอยใส่ตอนเช้า ตอนเย็นต้องมาทำความสะอาดทุกๆวัน ไม่ใส่ก็ไม่ได้ ใส่แว่นเล่นกีฬาทำอะไรมันขัดใจไปหมด ผมเลยตัดสินใจจะทำเลสิก ซึ่งผมได้เข้าไปตรวจเลสิกมาหลายที่ ผลก็ออกมาเหมือนกันนั้นก็คือผมไม่สามารถทำเลสิคปกติได้เนื่องจากกระจกตาบาง ข้างซ้าย500 ข้างขวา470 ซึ่งถือว่าบางมากครับ ทำได้วิธีเดียวก็คือการเสริมเลนส์หรือ ICLนั้นเองครับ ผมก็ตัดสินใจอยู่นานเพราะค่าใช้จ่ายมันก็แพงกว่าพอสมควร จนในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจทำที่รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้ากับคุณหมอภาวิกา เนื่องจากคุณหมอที่ทำเป็นเพื่อนของแม่ผม ซึ่งแม่ผมก็คอนเฟิร์มเรื่องฝีมือของคุณหมอครับ(ไม่ได้ส่วนลดนะครับ555) คุณหมอภาวิกาเป็นหมอประจำอยู่ที่รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ดูแลเรื่องตาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเลสิก Relex, Femto, ICL หรือต้อกระจกต่างๆนาๆเกี่ยวกับตาครับ ก็นัดวันกันเข้าไปตรวจ โดยก่อนวันตรวจงดใส่คอนแทคเลนส์7-15วันนะครับ พอถึงวันตรวจก็เข้าไป คุณหมอใจดีมากครับพูดจาน่ารักอธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด ตอนแรกคุณหมอแนะนำว่าจิงๆไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆตัดสินใจก็ได้แต่เนื่องจากผมตัดสินใจไว้ก่อนจะมาตรวจแล้วว่าจะทำICL ผมจึงแจ้งคุณหมอไปว่าต้องการทำICLครับ พี่พยาบาลบอกต้องรอเขาสั่งเลนส์ประมาน 2เดือนได้ครับ มัดจำค่าเลนส์4หมื่นบาท ในช่วงระหว่างรอเลนส์มาคุณหมอแจ้งว่าสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ ตอนนั้นผมก็ใช้ชีวิตปกติไปเรื่อยๆจนถึงวันที่เลนส์มา รพ.ก็โทรเข้ามานัดผ่าโดยวันแรกวันที่ 8ตุลาคม ผ่าข้างขวา และวันที่ 22 ตุลาผ่าอีกข้าง 
 
ถึงวันผ่าข้างแรก ข้างขวา บอกเลยว่าตื่นเต้นและกังวลพอสมควรครับ เป็นครั้งแรกที่เข้าห้องผ่าตัด555 ไปถึงพี่พยาบาลจะคอยหยอดยาขยายม่านตาและยาชาบวกกับเอายาอะไรก็ไม่รู้มาให้กินครับ จังหวะนั้นพี่เขาเอายาอะไรมาให้ผมก็กินหมดเพราะกลัวครับ5555 (ดีนะไม่ใช่ยาเสียสาว55555)  พี่พยาบาลแอบกระสิบผมว่าคุณหมอคนนี้เก่งมากๆทำมาหลายเคสแล้วผมเลยหายกังวลลงนิดหน่อยครับแต่ยังตื่นเต้นอยู่ดี ก่อนผ่าคุณหมอแจ้งว่าตอนผ่าไม่เจ็บเนื่องจากจะมีการฉีดยาชาก่อนซึ่งยาชาที่ฉีดก็คือฉีดเข้าไปในลูกตานั้นแหละครับ ผมกลัวตอนฉีดยาที่สุดละ พอถึงเวลาผ่าคุณหมอจะเอาเครื่องมือมาถ่างตา หยอดยาชารัวๆ แล้วคุณหมอก็เริ่มฉีดยาชา แต่แปลกที่ผมไม่รู้สึกตอนฉีดยาเลย พอฉีดยาเสร็จก็ทำการผ่าตัดซึ่งในระหว่างทำ ผมไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย จะมีก็แค่ตึงๆนิดหน่อยตอนคุณหมอฉีดน้ำไล่ของเหลวครับ ใช้เวลาผ่าประมานไม่เกิน20นาทีครับ พอผ่าเสร็จก็ปิดตาคอยวัดความดันโดยพี่พยาบาลจะให้กินกับหยอดยาลดความดัน พอความดันลงก็กลับบ้านได้ครับ(ห้ามเอาที่ปิดตาออกนะครับ) ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นต้องไปตรวจวัดความดันและความเรียบร้อยอีก จังหวะที่พี่พยาบาลแกะที่ปิดตาออก ภาพมันชัดมากครับ พึ่งเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นที่เขาทำแล้วมาเขียนกระทู้รีวิวเรื่องเลสิกก็วันนี้แหละครับ โลกใหม่อันสดใสรอเราอยู่555 จากนั้นก็รอ2อาทิตย์ผ่าอีกข้าง 
 
พอถึงวันผ่าอีกข้าง 22ตุลา 2019 ผมไม่กังวลอะไรแล้วครับ555 ทุกอย่างก็เหมือนตอนผ่ารอบแรกครับ ไม่รู้สึกอะไรเลยยกเว้นตึงๆตอนฉีดน้ำ ทำเสร็จสองข้างผมฟินมากครับ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมานแสนหกครับ ผ่าเสร็จสามารถรับมัดจำคืนได้ บอกเลยว่าคุ้มครับกับการที่เราไม่ต้องใส่แว่น ไม่ต้องเสียบุคลิกเวลาทำอะไร เล่นกีฬาก็ได้ ฟิตเนสสบายๆ ไปเที่ยวไหนไม่ต้องกลัวแว่นหายไม่ต้องพกคอนแทคเลนส์กับน้ำยาล้างคอนแทคไปทุกที่ให้หนักกระเป๋า 
ทั้งหมดที่จะเขียนก็คงมีแค่นี้ครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ยาวเลย555 ขอโทษด้วยที่ไม่มีภาพประกอบเลย หวังว่าคงช่วยในการตัดสินใจของใครหลายคนได้นะครับ สวัสดีครับ
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่