ผมเป็นพนักงานออฟฟิศที่ปกติก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เรียกได้ว่าขี้เกียจออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ จนพักหลังๆ เริ่มรู้สึกว่าทำอะไรเชื่องช้าลงกว่าปกติ แถมน้ำหนักก็เริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนเมื่อเดือนก่อน ผมได้ไปเดินงานไทยเที่ยวไทยที่ไบเทคกับคุณแม่ แล้วก็ได้ไปเจอบูธนาฬิกา Xfit Watch ที่เขาบอกว่าเป็นแบรนด์ของคนไทย ดูน่าสนใจดีก็เลยเข้าไปดู
คุณแม่ของผมสนใจ Xfit Pro เพราะมันเป็นนาฬิกาสุขภาพที่วัดข้อมูลสุขภาพได้ด้วย ที่ชอบคือวัด ECG ออกมาเป็นกราฟเหมือนตอนที่วัดในโรงพยาบาลได้ด้วย สุดท้ายคุณแม่ก็ซื้อมา 1 เครื่อง ซึ่งตอนนี้คุณแม่ก็ยังไม่เลิกเห่อนาฬิกาเครื่องนี้เลย
ส่วนผมไม่ได้เน้นวัดข้อมูลสุขภาพก็เลยไม่ได้ซื้อ เพราะถ้าอยากวัดก็ยืมแม่มาวัดก็ได้ แต่ส่วนตัวผมสนใจ Xfit Sport สำหรับใช้ออกกำลังกาย ซึ่งมีโหมดออกกำลังกายต่างๆ ได้ถึง 24 ชนิดกีฬา และก็มี GPS ในตัว เวลาออกกำลังกายก็ไม่ต้องพกโทรศัพท์ ก็สามารถจับเส้นทางการออกกำลังกายของเราได้ ผมลองเล่นดูเห็นราคาไม่ได้แพงมาก ก็เลยซื้อมาลองใช้ 1 เครื่อง ซึ่งมีสาย 3 สีให้เลือก ผมเลือกสีดำ เพราะมันใส่กับชุดเวลาไปทำงานได้เข้ากันดูดีเลย
หลังจากใช้ได้ประมาณ 1 เดือน วันนี้ผมก็เลยจะมารีวิว Xfit Sport นาฬิกาออกกำลังกาย สำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกายหรือคนที่ขี้เกียจออกกำลังกายแบบผม
ต้องบอกเลยว่าหลังจากได้นาฬิกา XfitSportมาแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวกับการออกกำลังกายมาก ทั้งฟังก์ชั่นการนับก้าว ที่มันทำให้รู้ว่าวันนี้เราเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน หากผ่านมาครึ่งวันแล้วจำนวนก้าวเราน้อยๆ ก็ทำให้เราต้องแอ็คทีฟในช่วงบ่าย เพื่อที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจากที่ทดสอบใช้มาผมว่ามันนับก้าวแม่นกว่าพวก Mi Band อีกนะ ตอนขับรถหรือนั่งทำงาน จำนวนก้าวก็ไม่เพิ่มขึ้น
ฟังก์ชั่นแรกที่อยากแนะนำ ก็คือการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งนอกจากจะแสดงว่าอัตตาการเต้นของหัวใจเรากี่ ครั้ง/นาที แล้ว บนหน้าปัดนาฬิกายังแสดงแถบสีโซนหัวใจ (Heart Rate Zone) อีกด้วย รวมทั้งเราสามารถตั้งให้วัดอัตราการเต้นของหัวใจเราตลอดทั้งวันได้อีกด้วย โดยจะทำการวัดทุกๆ 3 นาที โดยที่เราไม่ต้องกดวัดเอง เมื่อเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น จะมีข้อมูลแสดงออกมาเป็นกราฟ
แต่ฟังก์ชั่นที่หลักของ Xfit Sport ก็คือการออกกำลัง ซึ่งจริงๆแล้วสามารถเลือกได้ถึง 24 ชนิดกีฬาเลยทีเดียว โดย 24 ชนิดกีฬาได้แก่ เดิน, วิ่ง, จักรยาน, วิ่งบนลู่, เดินป่า, จักรยานในล่ม, ฟุตบอล, สเก็ต, โยคะ, บาสเก็ตบอล, สกี, เทนนิส, ปิงปอง, วอลเลย์บอล, โบว์ลิง ,ยกน้ำหนัก, เต้น, แบดมินตัน, เบสบอล, ยิมนาสติก, ไต่เขา, กระโดดเชือก, ปาลูกดอก และ แพลงค์
แต่ใน 24 ชนิดกีฬา เราจะต้องเลือกมาใช้ในนาฬิกาได้ 6 ชนิดกีฬา โดย เดิน กับ วิ่ง จะถูกตั้งตายตัวอยู่ในนาฬิกาอยู่แล้ว ทำให้เหลืออีก 4 ชนิดกีฬาที่เราสามารถเลือกมาไว้ในนาฬิกาได้ โดยการเปลี่ยนชนิดกีฬาก็สามารถทำได้ง่ายๆ ในแอพพลิเคชั่น
โดยบางชนิดกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนที่ เช่น เดิน วิ่ง หรือ จักรยาน ก็จะมีระบบ GPS เพื่อติดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของเรา จากการทดสอบคุณภาพการจับสัญญาณ GPS ถ้าเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีเมฆมาก จะใช้เวลาประมาณ 50-60 วินาที ในการจับสัญญาณเจอ แต่ถ้าเครื่องเคยจับสัญญาณในบริเวณนั้นมาก่อนแล้ว ก็จะหาสัญญาณ GPS ในได้เวลาประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าใช้เวลาในการจับสัญญาณ GPS ได้เร็วพอสมควรเลยครับ
โดยระหว่างที่ออกกำลังกายที่นาฬิกาก็จะแสดงอัตตาการเต้นของหัวใจแบบ Real time, แคลอรี, ระยะทาง, เวลาที่ออกกำลังกาย, ความเร็ว และ จำนวนก้าว นอกจากนี้ยังมีความสูงจากพื้น สำหรับบางชนิดกีฬา เช่น เดินป่า ด้วย
เมื่อออกกำลังกายเสร็จ เราก็สามารถนำข้อมูลมา Syncกับแอพพลิเคชั่น Hi Move เพื่อดูข้อมูลการออกกำลังกายของเราย้อนหลังได้ โดยจะมีเส้นทางที่เราออกกำลังกาย รายละเอียดการออกกำลังกาย ได้แก่ เวลา, การเผาผลาญ, อัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย, ความเร็ว, และระยะก้าวเฉลี่ยของเรา
นอกจากนี้ยังแยกกราฟโซนหัวใจ (Heart Rate Zone) มาแสดงให้เห็น พร้อมทั้งสรุปให้ว่าในช่วงที่เราออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจเราอยู่ในแต่ละโซนเป็นเวลากี่นาทีเพื่อดูว่าเราออกกำลังกายตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น หากต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ก็ควรวิ่งให้อยู่ในโซน 2 เยอะๆ เป็นต้นครับ
นอกจากการออกกำลังกายที่มี GPS ในตัวแล้ว Xfit Sport ก็มีคุณสมบัติครบเหมือน Smart Watch ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนสายโทรเข้า ซึ่งสามารถที่จะกดปฏิเสธรับสายได้จากนาฬิกาเลย รวมทั้งการแจ้งเตือนข้อความจากแอพพลิเคชั่นดังๆ เช่น Line, Facebook ซึ่งรองรับข้อความภาษาไทย แต่ที่ผมรู้สึกชอบมากที่สุดก็คือ เวลาที่มีข้อความเข้ามามันจะสั่นเตือนที่ข้อมือ จะไม่แสดงข้อความที่หน้าจอนาฬิกาทันที แต่ข้อความจะแสดงเฉพาะตอนที่เรายกข้อมือขึ้นมาแสดงเท่านั้น มันทำให้คนอื่นจะแอบอ่านข้อความของเราไม่ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมต้องเข้าไปดูในแอพพลิเคชั่นทุกเช้าก็คือ ค่าการนอนหลับ หลังจากตื่นนอนแล้ว จะมีการอัพเดทว่าคืนที่ผ่านมา เราเข้านอนเวลาไหน แล้วตื่นเวลาไหน รวมแล้วหลับไปกี่ชั่วโมง กี่นาที แยกเป็นหลับลึกและหลับตื้นให้เราด้วย บางคืนตื่นมาเข้าห้องน้ำ มันก็รู้ด้วยว่าเราตื่นแล้วกลับเข้าไปนอน ซึ่งหลังๆ มานี้ มันก็ทำให้ผมเริ่มมีวินัยในการนอนมากขึ้น เข้านอนเร็วขึ้น ทำให้พักผ่อนได้เพียงพอ
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ของ Xfit Sport หากเปิดงานปกติทั่วไป สามารถอยู่ได้ประมาณ 10-15 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่ถ้าใช้โหมดออกกำลังกายที่มีการใช้ GPS ก็สามารถใช้ต่อเนื่องได้ถึง 5 ชั่วโมงเลยครับ หมดห่วงเรื่องแบตเตอรี่หมดเวลาออกกำลังได้เลย แถมการชาร์จก็ทำได้ง่ายๆ เพียงถอดสายที่ตัวนาฬิกาก็จะมีหัว USB ไว้สำหรับเสียบกับอแดปเตอร์หรือช่อง USB ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์, พาวเวอร์แบงค์ ก็ได้ เรียกว่าถ้าแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็สามรถชาร์จได้ง่ายๆเลย ใช้เวลาในการชาร์จ 1 ครั้งเพียงชั่วโมงกว่าๆ เอง
จากคุณสมบัติที่ผมเล่ามา ก็สรุปได้เลยว่า Xfit Sport เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่าทั้งการใช้ในการออกกำลังกาย และการใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ส่วนตัวผมนับว่าพอใจมากครับ สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้ไม่แพ้ Smart Watch เจ้าดังๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเป็นแบรนด์คนไทย บางฟังก์ชั่นผมไม่เข้าใจว่าใช้ยังไง ก็โทรไป Call Center ของเขา ก็มีพนักงานคอยตอบจนเราใช้ได้ เรื่องบริการของแบรนด์นี้ ผมประทับใจมากจริงๆ
ถ้าอยากจะหานาฬิกาออกกำลังกายสักเครื่อง ผมก็ขอแนะนำ Xfit Sport ตัวนี้เลยครับ ราคาก็ไม่แพงเพียง 2,990 บาท เท่านั้น !!
ดูข้อมูลการของนาฬิการุ่นนี้เพิ่มเติมได้ที่
https://www.xfitwatch.com/p/sport/
หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Xfit Watch (
https://www.facebook.com/XfitThailand/) หรือแอดไลน์มาที่ @xfit ก็ได้เช่นกัน พี่ๆ แอดมินตอบคำถามกันเร็วมาก
หรือถ้าใครไม่สะดวกพิมพ์ ก็โทรไปที่ Call Center ของเขาก็ได้ที่ 02-026-3581 เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 น. – 17.00 น. นะครับ
[Advertorial]
[BR] รีวิว Xfit Sport นาฬิกาออกกำลังแบรนด์คนไทย มี GPS ในตัว ใช้งานง่ายมากๆ แถมราคาไม่แพง
คุณแม่ของผมสนใจ Xfit Pro เพราะมันเป็นนาฬิกาสุขภาพที่วัดข้อมูลสุขภาพได้ด้วย ที่ชอบคือวัด ECG ออกมาเป็นกราฟเหมือนตอนที่วัดในโรงพยาบาลได้ด้วย สุดท้ายคุณแม่ก็ซื้อมา 1 เครื่อง ซึ่งตอนนี้คุณแม่ก็ยังไม่เลิกเห่อนาฬิกาเครื่องนี้เลย
ส่วนผมไม่ได้เน้นวัดข้อมูลสุขภาพก็เลยไม่ได้ซื้อ เพราะถ้าอยากวัดก็ยืมแม่มาวัดก็ได้ แต่ส่วนตัวผมสนใจ Xfit Sport สำหรับใช้ออกกำลังกาย ซึ่งมีโหมดออกกำลังกายต่างๆ ได้ถึง 24 ชนิดกีฬา และก็มี GPS ในตัว เวลาออกกำลังกายก็ไม่ต้องพกโทรศัพท์ ก็สามารถจับเส้นทางการออกกำลังกายของเราได้ ผมลองเล่นดูเห็นราคาไม่ได้แพงมาก ก็เลยซื้อมาลองใช้ 1 เครื่อง ซึ่งมีสาย 3 สีให้เลือก ผมเลือกสีดำ เพราะมันใส่กับชุดเวลาไปทำงานได้เข้ากันดูดีเลย
หลังจากใช้ได้ประมาณ 1 เดือน วันนี้ผมก็เลยจะมารีวิว Xfit Sport นาฬิกาออกกำลังกาย สำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกายหรือคนที่ขี้เกียจออกกำลังกายแบบผม
ต้องบอกเลยว่าหลังจากได้นาฬิกา XfitSportมาแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวกับการออกกำลังกายมาก ทั้งฟังก์ชั่นการนับก้าว ที่มันทำให้รู้ว่าวันนี้เราเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน หากผ่านมาครึ่งวันแล้วจำนวนก้าวเราน้อยๆ ก็ทำให้เราต้องแอ็คทีฟในช่วงบ่าย เพื่อที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจากที่ทดสอบใช้มาผมว่ามันนับก้าวแม่นกว่าพวก Mi Band อีกนะ ตอนขับรถหรือนั่งทำงาน จำนวนก้าวก็ไม่เพิ่มขึ้น
ฟังก์ชั่นแรกที่อยากแนะนำ ก็คือการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งนอกจากจะแสดงว่าอัตตาการเต้นของหัวใจเรากี่ ครั้ง/นาที แล้ว บนหน้าปัดนาฬิกายังแสดงแถบสีโซนหัวใจ (Heart Rate Zone) อีกด้วย รวมทั้งเราสามารถตั้งให้วัดอัตราการเต้นของหัวใจเราตลอดทั้งวันได้อีกด้วย โดยจะทำการวัดทุกๆ 3 นาที โดยที่เราไม่ต้องกดวัดเอง เมื่อเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น จะมีข้อมูลแสดงออกมาเป็นกราฟ
แต่ฟังก์ชั่นที่หลักของ Xfit Sport ก็คือการออกกำลัง ซึ่งจริงๆแล้วสามารถเลือกได้ถึง 24 ชนิดกีฬาเลยทีเดียว โดย 24 ชนิดกีฬาได้แก่ เดิน, วิ่ง, จักรยาน, วิ่งบนลู่, เดินป่า, จักรยานในล่ม, ฟุตบอล, สเก็ต, โยคะ, บาสเก็ตบอล, สกี, เทนนิส, ปิงปอง, วอลเลย์บอล, โบว์ลิง ,ยกน้ำหนัก, เต้น, แบดมินตัน, เบสบอล, ยิมนาสติก, ไต่เขา, กระโดดเชือก, ปาลูกดอก และ แพลงค์
แต่ใน 24 ชนิดกีฬา เราจะต้องเลือกมาใช้ในนาฬิกาได้ 6 ชนิดกีฬา โดย เดิน กับ วิ่ง จะถูกตั้งตายตัวอยู่ในนาฬิกาอยู่แล้ว ทำให้เหลืออีก 4 ชนิดกีฬาที่เราสามารถเลือกมาไว้ในนาฬิกาได้ โดยการเปลี่ยนชนิดกีฬาก็สามารถทำได้ง่ายๆ ในแอพพลิเคชั่น
โดยบางชนิดกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนที่ เช่น เดิน วิ่ง หรือ จักรยาน ก็จะมีระบบ GPS เพื่อติดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของเรา จากการทดสอบคุณภาพการจับสัญญาณ GPS ถ้าเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีเมฆมาก จะใช้เวลาประมาณ 50-60 วินาที ในการจับสัญญาณเจอ แต่ถ้าเครื่องเคยจับสัญญาณในบริเวณนั้นมาก่อนแล้ว ก็จะหาสัญญาณ GPS ในได้เวลาประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าใช้เวลาในการจับสัญญาณ GPS ได้เร็วพอสมควรเลยครับ
โดยระหว่างที่ออกกำลังกายที่นาฬิกาก็จะแสดงอัตตาการเต้นของหัวใจแบบ Real time, แคลอรี, ระยะทาง, เวลาที่ออกกำลังกาย, ความเร็ว และ จำนวนก้าว นอกจากนี้ยังมีความสูงจากพื้น สำหรับบางชนิดกีฬา เช่น เดินป่า ด้วย
เมื่อออกกำลังกายเสร็จ เราก็สามารถนำข้อมูลมา Syncกับแอพพลิเคชั่น Hi Move เพื่อดูข้อมูลการออกกำลังกายของเราย้อนหลังได้ โดยจะมีเส้นทางที่เราออกกำลังกาย รายละเอียดการออกกำลังกาย ได้แก่ เวลา, การเผาผลาญ, อัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย, ความเร็ว, และระยะก้าวเฉลี่ยของเรา
นอกจากนี้ยังแยกกราฟโซนหัวใจ (Heart Rate Zone) มาแสดงให้เห็น พร้อมทั้งสรุปให้ว่าในช่วงที่เราออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจเราอยู่ในแต่ละโซนเป็นเวลากี่นาทีเพื่อดูว่าเราออกกำลังกายตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น หากต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ก็ควรวิ่งให้อยู่ในโซน 2 เยอะๆ เป็นต้นครับ
นอกจากการออกกำลังกายที่มี GPS ในตัวแล้ว Xfit Sport ก็มีคุณสมบัติครบเหมือน Smart Watch ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนสายโทรเข้า ซึ่งสามารถที่จะกดปฏิเสธรับสายได้จากนาฬิกาเลย รวมทั้งการแจ้งเตือนข้อความจากแอพพลิเคชั่นดังๆ เช่น Line, Facebook ซึ่งรองรับข้อความภาษาไทย แต่ที่ผมรู้สึกชอบมากที่สุดก็คือ เวลาที่มีข้อความเข้ามามันจะสั่นเตือนที่ข้อมือ จะไม่แสดงข้อความที่หน้าจอนาฬิกาทันที แต่ข้อความจะแสดงเฉพาะตอนที่เรายกข้อมือขึ้นมาแสดงเท่านั้น มันทำให้คนอื่นจะแอบอ่านข้อความของเราไม่ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมต้องเข้าไปดูในแอพพลิเคชั่นทุกเช้าก็คือ ค่าการนอนหลับ หลังจากตื่นนอนแล้ว จะมีการอัพเดทว่าคืนที่ผ่านมา เราเข้านอนเวลาไหน แล้วตื่นเวลาไหน รวมแล้วหลับไปกี่ชั่วโมง กี่นาที แยกเป็นหลับลึกและหลับตื้นให้เราด้วย บางคืนตื่นมาเข้าห้องน้ำ มันก็รู้ด้วยว่าเราตื่นแล้วกลับเข้าไปนอน ซึ่งหลังๆ มานี้ มันก็ทำให้ผมเริ่มมีวินัยในการนอนมากขึ้น เข้านอนเร็วขึ้น ทำให้พักผ่อนได้เพียงพอ
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ของ Xfit Sport หากเปิดงานปกติทั่วไป สามารถอยู่ได้ประมาณ 10-15 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่ถ้าใช้โหมดออกกำลังกายที่มีการใช้ GPS ก็สามารถใช้ต่อเนื่องได้ถึง 5 ชั่วโมงเลยครับ หมดห่วงเรื่องแบตเตอรี่หมดเวลาออกกำลังได้เลย แถมการชาร์จก็ทำได้ง่ายๆ เพียงถอดสายที่ตัวนาฬิกาก็จะมีหัว USB ไว้สำหรับเสียบกับอแดปเตอร์หรือช่อง USB ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์, พาวเวอร์แบงค์ ก็ได้ เรียกว่าถ้าแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็สามรถชาร์จได้ง่ายๆเลย ใช้เวลาในการชาร์จ 1 ครั้งเพียงชั่วโมงกว่าๆ เอง
จากคุณสมบัติที่ผมเล่ามา ก็สรุปได้เลยว่า Xfit Sport เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่าทั้งการใช้ในการออกกำลังกาย และการใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ส่วนตัวผมนับว่าพอใจมากครับ สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้ไม่แพ้ Smart Watch เจ้าดังๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเป็นแบรนด์คนไทย บางฟังก์ชั่นผมไม่เข้าใจว่าใช้ยังไง ก็โทรไป Call Center ของเขา ก็มีพนักงานคอยตอบจนเราใช้ได้ เรื่องบริการของแบรนด์นี้ ผมประทับใจมากจริงๆ
ถ้าอยากจะหานาฬิกาออกกำลังกายสักเครื่อง ผมก็ขอแนะนำ Xfit Sport ตัวนี้เลยครับ ราคาก็ไม่แพงเพียง 2,990 บาท เท่านั้น !!
ดูข้อมูลการของนาฬิการุ่นนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.xfitwatch.com/p/sport/
หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Xfit Watch (https://www.facebook.com/XfitThailand/) หรือแอดไลน์มาที่ @xfit ก็ได้เช่นกัน พี่ๆ แอดมินตอบคำถามกันเร็วมาก
หรือถ้าใครไม่สะดวกพิมพ์ ก็โทรไปที่ Call Center ของเขาก็ได้ที่ 02-026-3581 เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 น. – 17.00 น. นะครับ
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน