3PASS EBC (Everest Base Camp) @ Nepal



3pass EBC 5-24ตค.62

ทริปนี้..ผมได้รับการชักชวนจาก พี่พิม เพื่อนสหายเดินป่าด้วยกัน โดยทริปนี้เราเพลนการเดินทางกันล่วงหน้าถึง1ปี โดยเราได้พี่พิม เป็นคนช่วยติดต่อประสานงาน

ซึ่งทริปนี้ทีแรก เรามีเพื่อนสมาชิกกัน8คน แต่ก่อนเดินทาง เราเหลือสมาชิกเพียง6คน  เนื่องจากติดงานกัน โดยมีผมเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในทีม คือ พี่พิม พี่อ้อย หมอกิต ก้อย จู ฮ้อ

ส่วนตัวผมเอง รู้สึกว่าช่วงหลังๆ ร่างกายไม่ค่อยดีเท่าไร ทั้งเรื่องโรคภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ รวมถึงเป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ซึ่งส่วนตัวก็กังวลกับร่างกายสำหรับการมาลุยครั้งนี้
:
:
#คลิปvdo
EP.1 https://youtu.be/YRo6hLPDwwA

EP.2 https://youtu.be/s5hcGo1AYlU

EP.3 https://youtu.be/tDNDkpFEKkY

EP.4 https://youtu.be/I4f7T7Mlxuo

#######
:
:
#วันแรก (5ตค.)
เราเดินทางจาก Bangkok-Katmandu ด้วยสายการบินไทย ตอน 10:15 ใช้เวลาเดินทางราว3ชั่วโมงครึ่ง  มาถึงที่ Katmandu ราว12:30 ซึ่งที่นี้เวลาจะช้ากว่าไทย ราว2ชั่วโมง

โดยพวกเราได้มาทำ Visa on Arrival ที่นี้เลย เราอยู่ที่นี้20วัน เลยต้องเสียค่าธรรมเนียม 50$  สำหรับการทำ Visa เพื่ออยู่30วัน ส่วนใครที่ลืมนำรูปถ่ายมา ที่นี้ยังมีตู้อัตโนมัติ สำหรับกรอกแบบฟอร์มพร้อมถ่ายรูปให้ในตัวด้วยเลย

**อนาคตในราวปี2020 ได้ยินไกด์ที่พาเราTrekครั้งนี้ บอกว่า รัฐบาลจะฟรี visa แล้ว จริงหรือเปล่าไม่รู้




:
:

:
:
#รายละเอียดการขอวีซ่า สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้

https://www.skyscanner.co.th/news/how-to-apply-nepal-visa

เราเสียเวลาทำเรื่อง Visa อยู่ราวชั่วโมง กว่าจะเสร็จ และ ผ่านตม. ออกมารับกระเป๋า โดยมีไกด์ ชื่อ กอเนท แต่เราเรียก คเนตร ซึ่งผมเคยเจอเมื่อครั้งมาเดิน Mera Peak เมื่อราว2ปีที่แล้ว มารอรับพวกเรา

ซึ่งปกติแล้วโดยทั่วไป เราจะสามารถนั่งเครื่องบินเล็กไปที่ Lukla ได้ที่ กาฐมาณฑุ แต่เนื่องจากช่วงนี้มีการปรับเปลี่ยนตามแนวนโยบายรัฐบาล เพื่อไม่ให้ที่ สนามบินตรีภูมิวัน แออัดจนเกินไป จนกระทบการบินที่นี้ รวมถึงมีการซ่อมแซมต่อเติมสนามบินเพิ่มด้วย

ทางรัฐบาลจึงจัดให้ เครื่องบินที่เดินทางไปมาจากสนามบิน Lukla ห้ามมาบินลงที่นี้ จึงทำให้เราต้องไปขึ้นเครื่องบินเล็กที่จะไป Lukla ที่ Ramechhap Airport แทน ซึ่งไกลออกจากที่นี้ไปพอสมควร ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไปอีก ราว4-5ชั่วโมง



โดยไกด์ ได้ให้เราเลือก ระหว่างเดินทางเย็นนี้ กับ เช้ามืด ว่าจะเลือกเดินทางช่วงไหน  เราจึงเลือกที่จะเดินทางตอนเย็นเลยดีกว่า เพื่อที่จะได้มีเวลานอนพักมากกว่า และ จะได้ไม่ต้องตื่นเร็ว เพื่อเดินทางไปสนามบิน ตอนตี2

ก่อนเดินทางไป เราจึงขอแวะไปที่ Tamel กันก่อน เพื่อแลกเงิน และ ซื้อของบางอย่างเพิ่มเติมกันก่อน กว่าจะออกจาก #กาฐมาณฑุ ก็ราว4โมงเย็น


อัตราแลกเงิน ที่Tamel ช่วงที่ไป แต่เราต่อรอง เลยได้ เรท 1$=112Rp.
:
แล้วนั่งรถตู้มุ่งหน้าสู่ เมือง #Khurkot  ระหว่างทางจะเป็นถนนลูกรังไม่กว้างมาก เส้นทางลัดเลาะไปตามภูเขา เรียกว่าหวาดเสียวกันพอดู ที่นี้แค่6โมงเย็น ฟ้าก็มืดแล้ว ยิ่งทำให้เส้นทางดูอันตรายมากขึ้น







เราใช้เวลาเดินทาง ราว4ชั่วโมง กว่าจะมาถึงที่พักที่ Khurkot โดยเราพักที่ Hotel Sunrise ที่นี้ความสูงราว500ม. อากาศไม่เย็นเท่าไร แต่ดีตรงที่พักเรา มีเครื่องปรับอากาศให้ คืนนี้กว่าจะกินมื้อค่ำ และ จัดกระเป๋ากันเสร็จ ก็ราว5ทุ่ม
:
:
#########

#วันที่สอง (6ตค.)
เราเดินทางออกจากที่พัก ราว5:30 เพื่อไปยังสนามบิน Ramechhap Airport ใช้เวลาเดินทางอีกราว40นาที เพื่อจะได้คิวบินกันแต่เช้า






ระหว่างรอทำเรื่องตั๋ว ไกด์ก็พาเรามากินอาหารมื้อเช้ากันก่อนแถวนั้นกันก่อน ระหว่างรอตั๋วเครื่องบิน ราว8โมง ก็ถึงคิวที่พวกเราจะได้ตั๋วกันสักที






ซึ่งที่นี้จะจำกัดน้ำหนักรวมเพื่อขึ้นเครื่อง 15kg./คน ส่วนเกินจะคิด กิโลกรัมละ 80 Rp. แล้วผ่านมารอยังจุดพักเพื่อจะรอขึ้นเครื่อง

เรารอกันอยู่นาน กับสภาพอากาศอันร้อนอบอ้าว และ แดดเปรี้ยงของที่นี้ รออยู่นานก็ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องกันสักที แต่มีสิ่งหนึ่งที่สังเกตุเห็น คือ เครื่องบินไม่มีบินขึ้นลงกันเลย ดูท่าสถานการณ์น่าจะไม่ดีซะแล้ว

จนราว10:30 เจ้าหน้าที่สนามบิน ก็มาประกาศแจ้งว่า ตอนนี้ทาง Lukla สภาพอากาศแย่ ฟ้าปิด ยังไม่สามารถออกบินได้ ให้รอกันก่อนอีกสัก1-2ชั่วโมง เราจึงออกไปกินมื้อเที่ยงด้านนอกกันก่อน

จนเวลาผ่านไป ก็ดูท่าแล้ววันนี้คงไม่ได้บินแน่ๆ แต่เราก็ยังคงเฝ้ารอด้วยความหวัง จนราวบ่าย2 เป็นอันต้องกลับไปยังที่พัก เพื่อมาลุ้นกันใหม่ในวันพรุ่งนี้

แต่ที่สำคัญคือ วันเดินTrek ของเราจะเหลือน้อยลง ถึงแม้ว่าจะเผื่อวันมาแล้วก็ตาม จึงทำให้มีปัญหาต่อเส้นทางที่จะเดิน ซึ่งตอนนี้แผนเรา จาก3Pass  อาจจะเหลือเพียง2Pass เดี๋ยวเราค่อยมาลุ้นกันต่อว่าจะยังไง

ทีแรกเราจะขอไกด์ให้จัดหาที่พักใกล้ๆกับสนามบิน Ramechhap Airport กันเลย แต่ทางไกด์แจ้งว่า แถวนี้ถูกจองไว้หมดแล้ว เราจึงต้องนั่งรถตู้กลับไปยังที่พักเดิม ซึ่งต้องนั่งรถไปอีกราว40นาที


กลับมาพักที่เดิม

วันนี้ผิดแผน เนื่องจากไฟล์ดีเลย์ พอเรามาถึงที่พัก หลังเอาสัมภาระเก็บเข้าห้องพักเรียบร้อย ก็ออกมาเดินเล่นบริเวณแถวนั้นกันสักหน่อย







แล้วกลับมากินมื่อเย็น ซึ่งคืนนี้เราพักผ่อนกันเร็วหน่อย ส่วนพรุ่งนี้เรายังคงต้องออกเดินทางกันตั้งแต่ตี5 เพื่อไปจองคิวบินให้เร็วที่สุด

**ที่นี้น้ำอัดลม ขวดละ150Rp. ซึ่งราคาที่ Tamel ขวดละ70Rp.
:
:
##########
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่