อนธการตำนานลับ | เปิดคลังสรรพาวุธอาถรรพ์ | DEVA HELLBLAZER

ปี 2548
วงการภาพยนตร์ไทยได้รู้จักกับ ‘จอมขมังเวทย์’ ภาพยนตร์สืบสวน – สยองขวัญที่นอกจากจะกวาดทั้งรายได้ คำวิจารณ์ด้านบวก และรางวัลสุพรรณหงส์ไปถึงสามรางวัลแล้ว ยังมีการนำพาสรรพวิชา ของขลัง จากโลกแห่งอาถรรพ์ออกมาโลดแล่นได้อย่างตื่นตา

และปีนี้...Deva Hellblazer จะขอพาทุกคนไปเจาะลึกสรรพาวุธมรณะแห่งไสยศาสตร์ ในเรื่องราวที่ผันเปลี่ยนจากการสืบสวนเฉือนคมระหว่างอาคมมรณะ กับอำนาจอยุติธรรม สู่มหึมาภาพยนตร์แอ็กชัน – แฟนตาซีส่งท้ายปี โดยสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และเฉลิมไทยสตูดิโอ
เมื่อยุคสมัยได้ผันแปร อารยธรรมของมนุษย์ยิ่งเฟื่องฟู แต่เหล่าผู้เวียนว่ายอยู่ในโลกแห่งอาถรรพ์ยังคงแก่งแย่งชิงดี และคอยชักใยอยู่เบื้องหลังความศรีวิไลของโลกาภิวัฒน์ สงครามครั้งใหม่จึงบังเกิด เมื่อ ‘เจ้าแห่งไสยเวทย์’ มีได้เพียงหนึ่งเดียว!


ในทางพุทธคุณ...หากผู้ใดต้องการสั่งสมวิชาและบารมี ก็ต้องหมั่นยึดมั่นถือมั่นในศีล และถวายจตุปัจจัย
แต่ในทางไสยคุณ หากจะได้มาซึ่งอำนาจ บงการอวิชชามนต์ดำเพื่อเป็นหนึ่งเหนือผู้ใด ก็จำต้องมีการเซ่นสรวงแก่มนต์ดำ
 
ถ้าหนึ่งในปัจจัยถวายแก่พุทธคุณ คือภัตตาหารของสมณเพศ
ปัจจัยถวายแก่ไสยคุณ ย่อมเป็นเลือดเนื้อ และชีวิตของสรรพสัตว์น้อยใหญ่
เพื่อให้เหล่าสัมภเวสีได้ดื่มกิน และยอมมาเป็นบริวาร สร้างเสริมอำนาจให้แก่เรา

ซึ่งในภาพยนตร์ จอมขมังเวทย์ นับตั้งแต่ภาคแรก ก็มีการถวายเครื่องเซ่นแด่สัมภเวสีมาแล้วเช่นกัน อย่างฉากที่เจ้าหน้าที่ในเรือนจำคนหนึ่งได้รับข้อเสนอจาก ‘อิทธิ’ จอมขมังเวทย์ตัวเอกของภาคแรก ให้ตระเตรียมหัวหมู ต้มแดง ต้มเขียว ผลไม้ห้าอย่าง เหล้า และจุดธูปสามสิบหกดอก ไหว้กลางที่แจ้ง เพื่อเรียกสัมภเวสีให้มาดลบันดาลอาถรรพ์ให้ลูกชายของตนหายจากการเจ็บป่วย
และในบางครั้งบนโลกความเป็นจริง ก็จะพบซากสัตว์เช่น หมู หมา แมว เป็ด หรือไก่ ถูกเชือดและแขวนไว้รอบๆ ผู้ที่บูชาอำนาจด้านไสยคุณเช่นกัน

เช่นเดียวกับในโลกตะวันตก ผู้ที่ต้องการทำสัญญากับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ก็จะทำการวาดตราเวทย์ซึ่งเป็นรูปดาวหกแฉก และทำพิธี ‘บูชาปิศาจ’

โดยในภาพยนตร์ จอมขมังเวทย์ 2020 ผู้ที่ประกอบพิธีกรรมนี้ก็คือ ‘ก็อด’ ชายหนุ่มผู้มีฉากหน้าเสมือนผู้นำด้านจิตใจของตน แต่แท้จริงแล้วเขาคือจอมขมังเวทย์ในยุคใหม่ที่ผสมผสานศาสตร์มืดของทั้งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน เห็นได้จากการที่เขาได้ทำการบูชายัญแพะ เบื้องหน้าตราเวทย์ซึ่งมีพระเกศขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ด้วย เพื่อให้ได้มาซึ่งที่สุดของอำนาจ และบารมีเหนือสากลโลก

เมื่อได้มาแล้วซึ่งอำนาจอันดลบันดาลมาจากสิ่งเหนือธรรมชาติ ในขั้นต่อไป...คือการนำพาผู้ที่ถูกหมายตาให้เป็นเหยื่อ ต้องผจญกับสารพัดไสยวัตถุจากพิธีกรรมสาปแช่งให้ทุกข์ทรมานดั่งตกนรกทั้งเป็น...

เหนียวคงกระพันดั่งเกราะป้องกัน
หากอยู่ในร่างของเหยื่อ
ก็จะแผ่ขยายจากภายใน
บดขยี้ระบบหายใจให้แหลกสลาย

ทิ่มแทงจากภายนอก ยังไม่ทรมานเท่าถูกชอนไชจากภายใน
เพียงหนึ่งตัว ก็เจ็บปวดดั่งต้องหมุดหนามจากอเวจี

แต่หากยามใดที่เราคือหนึ่งในผู้ศึกษาด้านไสยเวทย์ จนมาถึงคราวที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ใช้อาคมหวังจะเล่นงาน ก็จำต้องมีวิชา และวัตถุ เอาไว้ตั้งรับและต่อกร

เพียงหนึ่งกำมือ เป่าใส่ศัตรูยามเข้าตาจน
จะปรากฏภาพหลอน คอยอำพรางให้หลบหลีก

โดยปกติแล้ว ‘กำยาน’ จะมีสรรพคุณในด้านการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้มากมาย ทั้งระบบทางเดินหายใจ บำรุงเลือดลม เผารมควันเพื่อเป็นยาหอม บรรเทาอาการเครียด
ทว่าในทางไสยคุณ จะมีการผสมขี้เถ้าจากกระดูก หรือดินเจ็ดป่าช้า เพื่อเป็นสื่อนำพาสิ่งเหนือธรรมชาติให้มาปรากฏตัวและรังควานศัตรู

“โสโส กาวิระ ตะจิตโต โยโส ปะมาโณ โสสะ
เทวะเกสังโก ปัตเต ธัมโม โสพะระวะนัง นะมิหัง
มะอะอุ มะอะ มะอุ ฯ”
แค่เพียงได้ยิน ก็จักถูกสะกดนิ่ง หลบหนีไม่ได้
ปรากฏเรื่องราวการสยบโจรของ ‘หลวงพ่อทา นครปฐม’ เมื่อครั้งหนึ่งที่ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปเป็นอุปัชฌาย์ ระหว่างทางก็ได้พบกับโจรห้าคนที่เข้ามาขอม้าซึ่งเป็นพาหนะเดินทางของหลวงพ่อ ท่านจึงว่าคาถานี้ เมื่อโจรทั้งห้านิ่งไป ก็บอกให้รอก่อน เมื่อบวชนาคเสร็จแล้วจะกลับมา
จนเมื่อถึงคราวเดินทางกลับ โจรทั้งห้ายังคงนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม ท่านจึงอบรมสั่งสอนโจรทั้งห้า เสร็จแล้วก็คลายคาถา โจรทั้งห้าจึงรามือและเลิกอาชีพโจรไปนับแต่นั้นมา

ในภาพยนตร์ จอมขมังเวทย์ 2020 วิชาคาถานะจังงัง ก็กลายมาเป็นหนึ่งในอาคมที่ ‘อิทธิ’ จอมขมังเวทย์ในตำนานผู้กลับมาได้อย่างเป็นปริศนา ใช้สะกด ‘วิน’ จอมขมังเวทย์รุ่นใหม่ในการต่อสู้บนรถไฟฟ้าใต้ดิน
“เถโร อันตะระธายิตะวา ภูมิยัง สุขุมัง
ปะระมานูภะคะวะโต อิตถิยา อัตตะโน สะรีเร
มังสัง จักขุอะวะสุสะตุ อะวะสุสะเต สะรีเร มังสัง โลหิตัง”

‘ประสานกระดูก’ หรือชื่อเต็มคือ ‘คาถาพระโมคคัลลานะประสานกระดูก’ เป็นวิชาที่สืบทอดมานับแต่พุทธกาล เมื่อพระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า ได้พบกับโจรห้าร้อยคน แม้จะมีวิชาหลบหนีได้ แต่เพราะเกิดระลึกถึงกรรมเก่า จึงยอมถึงฆาตด้วยน้ำมือโจร
แต่ก่อนที่พระโมคคัลลานะจะสิ้นลม หลังจากถูกเหล่าโจรทุบตีจนกระดูกแหลกละเอียด ท่านก็ว่าคาถาประสานกระดูก จนทุกบาดแผลบนร่างกายประสานกันเช่นเดิม แล้วปล่อยให้ดวงจิตเข้าสู่ห้วงแห่งนิพพานไป

ซึ่งใน จอมขมังเวทย์ 2020 คาถาประสานกระดูก เป็นวิชาที่ ‘วิน’ ตัวเอกของเรื่องศึกษาไว้ติดตัว จากภูมิหลังเดิมที่เป็นนักมวย จึงได้นำวิชานี้มาประยุกต์ใช้ในยามที่ต้องปะทะกับศัตรูด้วยศิลปะการต่อสู้


มหาศาสตราที่เหล่าผู้ฝักใฝในอาถรรพ์ต่างถวิลหา
ยามป้องกัน คือสุดยอดเกราะคุ้มภัย
แต่ยามถูกชอนไชจะทุกข์ทรมานดั่งเหล็กหลอมแผดเผาทั้งร่างกาย

ธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่มีมากถึงสิบชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีผู้คุ้มครองที่ต่างกัน อาทิ พญานาค ฤๅษี เจ้าป่าเจ้าเขา คนธรรพ์ ผีป่า ฯลฯ มีคุณสมบัติในด้านความคงกระพัน ป้องกันอาวุธได้แม้กระทั่งระเบิด แต่บางชนิดก็มีคุณในด้านการรักษา เช่น นำมาทาบตรงแผลที่ถูกพิษ ก็จะดูดพิษออกได้
ทว่าศาสตราชิ้นนี้นั้นยากที่จะได้ในครอบครอง เพราะผู้จะครอบครองได้ ถือว่าเป็นผู้ที่ประพฤติชอบ รักษาศีลได้อย่างมั่นคง หากครอบครองด้วยใจอหังการ์ มีความโลภ ก็อาจเกิดเพทภัยถึงแก่ชีวิต

โดยเหล็กไหลนั้นได้ปรากฏตั้งแต่จอมขมังเวทย์ ภาคแรก ในฉากที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งรู้ถึงการกลับมาล้างแค้นของอิทธิ จึงหวังจะใช้เหล็กไหลมาประกอบกับอาคมของตนเอง แต่ถูกอิทธิชิงมาได้และปลุกให้ย้อนกลับไปปลิดชีพเสียก่อน
ส่วนใน จอมขมังเวทย์ 2020 เหล็กไหลได้กลับมาอีกครั้งในฐานะเครื่องรางที่ ‘วิน’ ได้หลอมรวมเข้ากับร่างของตนเองเพื่อเป็นเกราะคุ้มกันภัยอันตราย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่