เรื่องมันตั้งแต่ผมได้โทรศัพท์เครื่องแรกตั้งแต่ ประถมปลายแล้วครับแต่สมัยนั้นยังไม่ใช่ Smart phone พ่อแต่เราก็ให้ชาร์จไว้ชั้นล่างตลอด (ห้องนอนอยู่ชั้นบน)
ทีนี้พอหลายปีผ่านไป ตั้งแต่ขึ้น ม.ต้นมา เราก็ได้โทรศัพท์ที่เป็น Smart phone แต่ตอนนั้นเราก็ยังเชื่อหังพ่อกับแม่อยุ่แล้วชาร์จไว้ข้างล่างตลอด แล้ว พอขึ้น ม.3 มาเราก็เริ่มรู้สึกว่า อยากชาร์จโทรศัพตัวเองไว้ในห้องเพราะเราเป็นเจ้าของโทรศัพท์ เราไปคุยกับพ่อแม่แต่ท่านก็ไม่อนุญาติ เราก็ไม่ได้ไร พอมันผ่านมาจน ม.5 ตอนนี้ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม พอมีงานกลุ่มเพื่อนโทรมาเราก็ไม่ได้รับสายงานก็เสียอีกเพราะต้องชาร์จโทรศัพไว้ข้างล่าง เราก็เคยคุยกับท่านด้วยเหตุผลนี้แล้วแต่ท่านก็ไม่สนใจ ที่เราอยากเอาโทรศัพไว้ในห้องนี่ ไม่ใช่เพราะว่าจะอยากเอามาเล่นหรืออะไรขนาดนั้นหรอกนะ แต่ เราแค่คิดว่าบางทีสิ่งของที่เราเป็นเจ้าของมันเป็นของใช่ส่วนตัวมันก็น่าจะอยุ่ในครอบครองของเรา และเราก็คิดว่าเราก็โตจนรู้ความแล้วว่าอะไรควรไม่ควร
เราอยากรู้ว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ วัยมัธย จะมีใครที่เป็นแบบเรามั่งรึป่าว
ปล.ที่มาเขียนกระทู้ไม่ได้ต้องเอาชนะอะไรขนาดนั้นครับ แค่สงสัยเฉยๆว่าทำไม555
พ่อแม่ไม่ให้เอาโทรศัพเข้าไปชาร์จในห้องนอน
ทีนี้พอหลายปีผ่านไป ตั้งแต่ขึ้น ม.ต้นมา เราก็ได้โทรศัพท์ที่เป็น Smart phone แต่ตอนนั้นเราก็ยังเชื่อหังพ่อกับแม่อยุ่แล้วชาร์จไว้ข้างล่างตลอด แล้ว พอขึ้น ม.3 มาเราก็เริ่มรู้สึกว่า อยากชาร์จโทรศัพตัวเองไว้ในห้องเพราะเราเป็นเจ้าของโทรศัพท์ เราไปคุยกับพ่อแม่แต่ท่านก็ไม่อนุญาติ เราก็ไม่ได้ไร พอมันผ่านมาจน ม.5 ตอนนี้ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม พอมีงานกลุ่มเพื่อนโทรมาเราก็ไม่ได้รับสายงานก็เสียอีกเพราะต้องชาร์จโทรศัพไว้ข้างล่าง เราก็เคยคุยกับท่านด้วยเหตุผลนี้แล้วแต่ท่านก็ไม่สนใจ ที่เราอยากเอาโทรศัพไว้ในห้องนี่ ไม่ใช่เพราะว่าจะอยากเอามาเล่นหรืออะไรขนาดนั้นหรอกนะ แต่ เราแค่คิดว่าบางทีสิ่งของที่เราเป็นเจ้าของมันเป็นของใช่ส่วนตัวมันก็น่าจะอยุ่ในครอบครองของเรา และเราก็คิดว่าเราก็โตจนรู้ความแล้วว่าอะไรควรไม่ควร
เราอยากรู้ว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ วัยมัธย จะมีใครที่เป็นแบบเรามั่งรึป่าว
ปล.ที่มาเขียนกระทู้ไม่ได้ต้องเอาชนะอะไรขนาดนั้นครับ แค่สงสัยเฉยๆว่าทำไม555