สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
"ใจ" ไม่พร้อมครับ ไม่ใช่ไม่รักหรือยังไม่มั่นใจในตัวฝ่ายตรงข้ามนะ แต่ยังไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่ "สามี" ของใครซักคน
ไม่พร้อมที่จะต้องนอนเตียงเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน กินข้าวเย็นพร้อมกัน กับคนคนเดียวตลอดชีวิต และกลัวที่ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปจากที่เคยชิน
ตัวผมเองคบกับแฟนมา 11 ปี ตั้งแต่อยู่ต่างประเทศด้วยกัน พอกลับมาเมืองไทยต่างคนก็ไปทำงานที่ตัวเองรัก แต่ก็อยู่ใน กทม. ทั้งคู่
พอปีที่ 5 - 6 ผมต้องกลับช่วยธุรกิจของครอบครัวที่ ตจว. โชคดีที่เป็นจังหวัดใหญ่มีสนามบิน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็เลยยังได้อยู่ด้วยกัน
ผมบินไปกลับทุกสัปดาห์แบบนี้อยู่ 5 ปี ได้ ซึ่งเหนื่อยมาก ประกอบกับแฟนผมเองก็เริ่มอิ่มตัวกับงานที่ทำ พร้อมจะออกมาอยู่เป็นแม่บ้านกับผม
ที่ ตจว. แล้ว เลยตัดสินใจว่าคงถึงเวลาแล้วหละ
ช่วง 3 เดือนก่อนแต่ง ผมรู้สึกเครียดมากๆ แบบบอกไม่ถูกเลย จากที่ปกติจะออกไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆเดือนละครั้ง 2 ครั้ง กลายเป็นออก
แทบทุกวัน เหมือนกลับไปใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นอีกครั้งเลย เพราะกลัวว่าต่อไปเราจะทำตัวแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว อีกอย่างคือต้องการปรึกษาด้วยว่า
เราพร้อมที่จะแชร์ชีวิตที่เหลือกับใครซักคนจริงๆหรอ? ซึ่งแน่นอนคงคุยกับแฟนไม่ได้ ผมคิดมากถึงขั้นเลิกกันไปเลยดีมั้ย แต่การ์ดก็แจกไปแล้ว
งานก็เตรียมเรียบร้อยแล้ว ไหนจะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายอีก สุดท้ายก็แต่งและงานแต่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ปัจจุบันผมมีลูกชาย 1 คน อายุ 3 ขวบแล้ว ส่วนภรรยาก็เป็นแม่บ้าน full time ช่วยดูแลผมกับลูกอยู่ที่ ตจว. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมคงจะรีบแต่งตั้งนานแล้ว ไม่ยอมเสียเวลาตั้งหลายปีแบบนี้หรอก เพราะจริงๆความสุข ความท้าทายในชีวิตที่เรากลัวมาตลอดว่าจะหมดไปหลังแต่งงาน มันไม่ได้
หายไปไหน แค่เปลี่ยนรูปแบบไปและมีมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ไม่พร้อมที่จะต้องนอนเตียงเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน กินข้าวเย็นพร้อมกัน กับคนคนเดียวตลอดชีวิต และกลัวที่ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปจากที่เคยชิน
ตัวผมเองคบกับแฟนมา 11 ปี ตั้งแต่อยู่ต่างประเทศด้วยกัน พอกลับมาเมืองไทยต่างคนก็ไปทำงานที่ตัวเองรัก แต่ก็อยู่ใน กทม. ทั้งคู่
พอปีที่ 5 - 6 ผมต้องกลับช่วยธุรกิจของครอบครัวที่ ตจว. โชคดีที่เป็นจังหวัดใหญ่มีสนามบิน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็เลยยังได้อยู่ด้วยกัน
ผมบินไปกลับทุกสัปดาห์แบบนี้อยู่ 5 ปี ได้ ซึ่งเหนื่อยมาก ประกอบกับแฟนผมเองก็เริ่มอิ่มตัวกับงานที่ทำ พร้อมจะออกมาอยู่เป็นแม่บ้านกับผม
ที่ ตจว. แล้ว เลยตัดสินใจว่าคงถึงเวลาแล้วหละ
ช่วง 3 เดือนก่อนแต่ง ผมรู้สึกเครียดมากๆ แบบบอกไม่ถูกเลย จากที่ปกติจะออกไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆเดือนละครั้ง 2 ครั้ง กลายเป็นออก
แทบทุกวัน เหมือนกลับไปใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นอีกครั้งเลย เพราะกลัวว่าต่อไปเราจะทำตัวแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว อีกอย่างคือต้องการปรึกษาด้วยว่า
เราพร้อมที่จะแชร์ชีวิตที่เหลือกับใครซักคนจริงๆหรอ? ซึ่งแน่นอนคงคุยกับแฟนไม่ได้ ผมคิดมากถึงขั้นเลิกกันไปเลยดีมั้ย แต่การ์ดก็แจกไปแล้ว
งานก็เตรียมเรียบร้อยแล้ว ไหนจะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายอีก สุดท้ายก็แต่งและงานแต่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ปัจจุบันผมมีลูกชาย 1 คน อายุ 3 ขวบแล้ว ส่วนภรรยาก็เป็นแม่บ้าน full time ช่วยดูแลผมกับลูกอยู่ที่ ตจว. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมคงจะรีบแต่งตั้งนานแล้ว ไม่ยอมเสียเวลาตั้งหลายปีแบบนี้หรอก เพราะจริงๆความสุข ความท้าทายในชีวิตที่เรากลัวมาตลอดว่าจะหมดไปหลังแต่งงาน มันไม่ได้
หายไปไหน แค่เปลี่ยนรูปแบบไปและมีมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
แสดงความคิดเห็น
ผู้ชายที่คบแฟนมาเกิน10ปี มีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าที่การงาน ฐานะความมั่นคง แต่ไม่ยอมขอแฟนแต่งงานมีเหตุผลจากอะไรบ้างคะ
มีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าที่การงาน
ฐานะความมั่นคง
แต่ไม่ยอมขอแฟนแต่งงานมีเหตุผลจากอะไรบ้างคะ
แค่สงสัย?
ขอคนที่เป็นแบบนี้จริงๆมาตอบค่ะ😆😆😆
และอยากทราบความรู้สึกของผู้หญิงที่แฟนไม่ขอแต่งงานด้วยค่ะ
ป.ล.อ้างอิงจากละครซีรีย์รักฉุดใจนายฉุกเฉิน