ปีนี้เส้นทางบินตรงกทม. - ฟุกุโอกะ(คิวชู) เปิดใหม่จาก 2 สายการบินLCC
1. ไทยไลอ้อนแอร์ บินตรงทุกวัน
2. แอร์เอเชีย บินตรงสัปดาห์ละ 4 วัน (พุธ พฤ. เสาร์ และ อาทิตย์)
ถ้าใครกำลังวางแผนจะไปคิวชูครั้งแรก ไม่ควรพลาดสถานที่เหล่านี้เลย
ในตอนที่ 1 นี้ เราจะพาไปลุยจังหวัด Oita และ Kumamoto กันจ้า
-----------------------------------------------
1. รถไฟ Yufuin no mori
-----------------------------------------------
รถไฟที่จะพาคุณวิ่งชมวิวป่าไม้สีเขียว สัมผัสกับธรรมชาติของคิวชู เริ่มต้นวิ่งจาก สถานี Hakata ไป Yufuin หรือ Beppu
ภายในขบวนรถ ตกแต่งด้วยไม้ มี free space เป็น Lounge ชมวิว
ปกตินักท่องเที่ยวทั่วไป วิ่งตรง ไปลงที่สถานี Yufuin เลย แต่คราวนี้เรามาลงเที่ยวที่สถานี Hita กันก่อน
-----------------------------------------------
2. Mamedamachi, Hita
-----------------------------------------------
ในสมัยเอโดะ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้า มีแม่น้ำไหลผ่านทำให้การคมนาคมสะดวกสบาย ได้ถูกเรียกว่าเป็น “เมืองแห่งน้ำ” อีกทั้งยังมีป่าไม้มาก ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตรองเท้าเกี๊ยไม้ของคนญี่ปุ่นอีกด้วย
ตึกร้านค้าที่นี่ยังคงได้บรรยากาศเมืองเก่าของญี่ปุ่น
เดินไป เดินมา ก็จะเจอรองเท้าเกี๊ยที่ใหญที่สุดในญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาฮินะ สำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งที่นี่จัดไว้ตลอดปีเลย
เราเลือกนอนที่เมืองฮิตะก่อนสักคืน ตอนกลางคืนเดินมาริมน้ำ ได้วิวฮิตะออนเซ็น จริงๆ ถ้าเราพักที่โรงแรมริมน้ำ ก็จะได้ทานอาหารค่ำบนเรือชิลๆ
หลังจากนั้น วันถัดไปเราก็ไป Yufuin, Beppu
-----------------------------------------------
3. ถนนคนเดิน หมู่บ้านYufuin
-----------------------------------------------
คิดว่าหลายๆคนคงรู้จัก Yufuin แล้วล่ะ เมืองต้นกำเนิดของไอเดีย OTOP ของบ้านเรา ไปที่นี่ทีไร ถนน ร้านค้า 2 ฝากฝั่ง ก็ขยายต่อยาวไปเรื่อยๆ คึกคักขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ
เดินไปจนสุดทาง ก็จะเจอทะเลสาบ Kinrin เป็นเหมือนจุดหมายปลายทางที่บอกว่า เราต้องจากที่นี่ไปอีกแล้ว
-----------------------------------------------
4. บ่อนรก Kamado Jigoku, Beppu
-----------------------------------------------
บ่อน้ำร้อนออนเซ็นที่ Beppu นี้ มีหลากหลายแหล่ง สวยงามและร้อนมาก จึงเหมาะแก่การชมมากกว่าการลงไปแช่น้ำออนเซน ตามโรงแรมเรียวกังที่เราแช่อยู่นั้น เขาได้ผสมน้ำธรรมดาเข้าไปด้วย เพื่อลดอุณหภูมิลงมาให้เราแช่ได้
ที่บ่อ Kamado Jigoku เราสามารถชมบ่อแดง บ่อโดน บ่อฟ้า...แถมยังแช่เท้าได้อีกด้วย ถือว่า เสีย 400 เยน ก็คุ้มอยู่
👉ที่ตั้ง :
https://goo.gl/maps/Ufz7ViANZY1jvHgx8
👉เวลาเปิด-ปิด : 8:00 - 17:00
-----------------------------------------------
5. อบทรายร้อนริมทะเล
-----------------------------------------------
การอบทรายร้อน นี่ถือเป็น 1 ใน bucket list ของการมาคิวชูเลย มาแล้วห้ามพลาด ถ้าไม่ลองที่ Beppu ต้องไปที่ออริจินัล ที่ Ibusuki
👉ที่ตั้ง :
https://goo.gl/maps/o8wJYF5TTb3U3HRQ8
👉เวลาเปิด-ปิด :
[มีนาคม - พฤศจิกายน] 8:30 น. - 18:00 น. (รอบสุดท้าย 17:00 น.)
[ธันวาคม - กุมภาพันธ์] 9:00 น. - 17:00 น. (รอบสุดท้าย 16:00 น.)
กลางคืนที่เมืองเบปปุ ใกล้ๆก็ยังพอออกมาเดินเล่นได้ ไม่เงียบจนเกินไป มีห้าง Youme ใกล้ๆ Beppu Tower
-----------------------------------------------
6. รถไฟ Aso boy
-----------------------------------------------
เช้าวันถัดไป เราไปนั่ง Aso boy จากสถานี Beppu ไปสถานี Aso อย่าลืมเช็คด้วยว่ารถไฟวิ่งวันไหนบ้าง ปกติ Aso boy จะวิ่งแต่วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
เราเฝ้านับวัน กดจองที่นั่ง ตั้งแต่วันเปิดให้จอง (30วันล่วงหน้าก่อนที่จะเดินทาง) จึงมีโอกาสได้นั่ง Panorama seat ชมวิวแบบ 180 องศา ไม่มีอะไรมาขวาง
ถ้าใครอยากจองตั๋วรถไฟแบบขาเดียว หรือ ซื้อ JR Kyushu Rail Pass ออนไลน์เลย ก็ดูรายละเอียดที่นี่เลย
https://www.jrkyushu.co.jp/english/
แต่ถ้าใครมาพร้อมเด็กๆ ก็เลือกนั่งขบวนกลางดีกว่า เพราะมีที่นั่ง ที่เล่นสำหรับน้องๆเพียบ เป็นการเดินทาง 2 ชม. ที่ลืมเวลาไปเลยทีเดียว
พอมาถึงสถานี Aso เราต้องเช่ารถขับกันแล้ว...
-----------------------------------------------
7. Asono Yamaboushi
-----------------------------------------------
กินข้าวกลางวันกันแบบท้องถิ่นกันที่ Asono Yamaboushi ที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติจากภูเขา แม่น้ำ มาเสียบไม้ ทาซอสมิโซะ ปิ้งไฟเบาๆ รอจนสุก...ขอบอกเลยว่าได้บรรยากาศมาก (แต่ถ้าใครมาอย่างหิวโหย ไม่แนะนำนะ เพราะใช้เวลาอยู่เหมือนกัน)
👉ที่ตั้ง :
https://goo.gl/maps/LRHosAcQmzq1izty8
👉เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 16:00
-----------------------------------------------
8. จุดชมวิว Daikanbo
-----------------------------------------------
ถ้าอยากดูภูมิทัศน์ภูเขา Aso และเมือง Aso แบบเต็มๆ ต้องไม่พลาดจุดชมวิว Daikanbo หน้าร้อนแบบนี้สีต้นไม้มันช่างเขียวชอุ่มได้ใจ เราสามารถนั่งตากลมเย็นๆ ดูวิวตรงได้นานเลย ไม่อยากไปเพราะถ้าลงจากเขาต้องไปเผชิญอากาศร้อน...555
-----------------------------------------------
9. น้ำตก Nabegataki
-----------------------------------------------
จุดสุดท้ายของตอนที่ 1 นี้ คือ น้ำตก Nabegataki น้ำตกผ้าม่านที่สวยงามจังหวัด Kumamoto จากที่จอดต้องเดินเจ้ามาซะหน่อย แต่ก็พิเศษมาก เพราะเราสามารถดูวิวที่นี่ได้ จากทั้ง 2 ด้านเลย
แล้วพบกันใหม่ตอนที่ 2 ที่จะมาแนะนำจุดเช็ดอินใน Saga และ Fukuoka
มาแล้วจ้า
https://ppantip.com/topic/39517967
--------------------------
แล้วพบกันใหม่ กับเส้นในคิวชู
--------------------------
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคิวชูได้ที่
ส่วนลด จ้อเสนอในคิวชู เพิ่มเป็นเพื่อนทาง Line ที่ bit.ly/JDpantip
แนะนำเส้นทางคิวชูเหนือ 4 จังหวัด ในหน้าร้อน (ตอนที่ 1)
ภายในขบวนรถ ตกแต่งด้วยไม้ มี free space เป็น Lounge ชมวิว
ปกตินักท่องเที่ยวทั่วไป วิ่งตรง ไปลงที่สถานี Yufuin เลย แต่คราวนี้เรามาลงเที่ยวที่สถานี Hita กันก่อน
ตึกร้านค้าที่นี่ยังคงได้บรรยากาศเมืองเก่าของญี่ปุ่น
เดินไป เดินมา ก็จะเจอรองเท้าเกี๊ยที่ใหญที่สุดในญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาฮินะ สำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งที่นี่จัดไว้ตลอดปีเลย
เราเลือกนอนที่เมืองฮิตะก่อนสักคืน ตอนกลางคืนเดินมาริมน้ำ ได้วิวฮิตะออนเซ็น จริงๆ ถ้าเราพักที่โรงแรมริมน้ำ ก็จะได้ทานอาหารค่ำบนเรือชิลๆ
หลังจากนั้น วันถัดไปเราก็ไป Yufuin, Beppu
เดินไปจนสุดทาง ก็จะเจอทะเลสาบ Kinrin เป็นเหมือนจุดหมายปลายทางที่บอกว่า เราต้องจากที่นี่ไปอีกแล้ว
ที่บ่อ Kamado Jigoku เราสามารถชมบ่อแดง บ่อโดน บ่อฟ้า...แถมยังแช่เท้าได้อีกด้วย ถือว่า เสีย 400 เยน ก็คุ้มอยู่
👉ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/Ufz7ViANZY1jvHgx8
👉เวลาเปิด-ปิด : 8:00 - 17:00
👉ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/o8wJYF5TTb3U3HRQ8
👉เวลาเปิด-ปิด :
[มีนาคม - พฤศจิกายน] 8:30 น. - 18:00 น. (รอบสุดท้าย 17:00 น.)
[ธันวาคม - กุมภาพันธ์] 9:00 น. - 17:00 น. (รอบสุดท้าย 16:00 น.)
กลางคืนที่เมืองเบปปุ ใกล้ๆก็ยังพอออกมาเดินเล่นได้ ไม่เงียบจนเกินไป มีห้าง Youme ใกล้ๆ Beppu Tower
เราเฝ้านับวัน กดจองที่นั่ง ตั้งแต่วันเปิดให้จอง (30วันล่วงหน้าก่อนที่จะเดินทาง) จึงมีโอกาสได้นั่ง Panorama seat ชมวิวแบบ 180 องศา ไม่มีอะไรมาขวาง
ถ้าใครอยากจองตั๋วรถไฟแบบขาเดียว หรือ ซื้อ JR Kyushu Rail Pass ออนไลน์เลย ก็ดูรายละเอียดที่นี่เลย
https://www.jrkyushu.co.jp/english/
แต่ถ้าใครมาพร้อมเด็กๆ ก็เลือกนั่งขบวนกลางดีกว่า เพราะมีที่นั่ง ที่เล่นสำหรับน้องๆเพียบ เป็นการเดินทาง 2 ชม. ที่ลืมเวลาไปเลยทีเดียว
พอมาถึงสถานี Aso เราต้องเช่ารถขับกันแล้ว...
👉ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/LRHosAcQmzq1izty8
👉เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 16:00
แล้วพบกันใหม่ตอนที่ 2 ที่จะมาแนะนำจุดเช็ดอินใน Saga และ Fukuoka
มาแล้วจ้า https://ppantip.com/topic/39517967