กระทู้นี้เราอยากเอามาลงเป็นบันทึกในโอกาสครบรอบ 4 ปีของวงที่สร้างบันทึกหน้าใหม่ในหลายๆด้านของวงการอย่างทไวซ์ค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2015 JYP Entertainment ได้เปิดตัวเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ TWICE
นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 9 คนจากสามประเทศ ที่ได้รับฉายาว่า ‘เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ’ จากการทำงานหนักและความขยันหมั่นเพียร
จุดเริ่มต้น ชัยชนะในรายการเพลง และรางวัลเพลงแห่งปี
ทไวซ์เกิดขึ้นจากรายการแข่งขันแบบเรียลลิตี้ SIXTEEN ที่สร้างฐานแฟนให้กับวงตั้งแต่ก่อนจะเดบิวท์ด้วยเพลง ‘Like OOH-AHH’ ในเดือนตุลาคม ปี 2015
แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าเส้นทางของวงจากค่ายที่ถือว่าเป็น ‘Big 3’ จะง่ายดายหลังจากเดบิวท์ ช่วงเริ่มต้นของทไวซ์กลับถูกจดจำจากเหตุการณ์ที่โชคไม่ดีเอาเสียเลย เมมเบอร์หลายคนได้ไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและข่าวฉาวต่างๆโดยไม่จำเป็น อีกทั้งเรื่องเหล่านั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของเมมเบอร์เอง ตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2015 จนถึงกุมภาพันธ์ปี 2016 เคราะห์ดีที่เมมเบอร์ผ่านมาได้อย่างเข้มแข็งกว่าเดิม และเดินหน้าทำเพลงต่อ
เพียงสองเดือนหลังจากเดบิวท์ด้วย Like OOH-AHH ทไวซ์ก็ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่แห่งปี จาก 2015 Mnet Music Awards (MAMA) ซึ่งถือเป็นก้าวใหญ่ของวง
และแล้วการทำงานอย่างหนักก็ให้ผลตอบแทน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2016 สาวๆชนะรางวัลแรกในรายการเพลงด้วยเพลง Cheer Up ในรายการ M Countdown วันที่ดังกล่าวมีความหมายกับสาวๆมาก เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่รายการ Sixteen ออกอากาศเป็นตอนแรกพอดี
ทไวซ์กวาดรางวัลไปทั้งหมด 11 ถ้วยในรายการเพลงจาก Cheer Up และเป็นเช่นนี้ในทุกเพลงที่ปล่อยมาหลังจากนั้น จนถึงวันนี้ สาวๆได้ถ้วยรายการเพลงไปแล้วกว่า 97 ถ้วย โดยถ้วยล่าสุดมาจากชัยชนะครั้งที่ 7 จากเพลง Feel Special เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การชนะในรายการเพลงทั้งหมดในปี 2016 ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของความสำเร็จและการเป็นที่จดจำของผู้เชี่ยวชาญในวงการเพลง จนกระทั่ง Cheer Up ได้รับรางวัลเพลงแห่งปีถึงสองรางวัลจากงาน MAMA และ Melon Music Awards และนั่นเองทำให้วง(ที่ยังเป็นรุกกี้อยู่)กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลของวงการ K-POP
ในปีต่อๆมา ทไวซ์ก็ได้รับรางวัลเพลงแห่งปีจาก ‘Signal’ และ ‘What is Love?’ ในปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ เมื่อวงได้รับรางวัลเพลงแห่งปีเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว สาวๆก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ จีฮโยได้กล่าวขอบคุณอย่างซึ้งใจว่า
"ขอบคุณมากนะคะที่ให้รางวัลใหญ่ในงาน MAMA มาสามปีแล้ว มีหลายคนเลยที่อยากขอบคุณ
โดยเฉพาะในปีนี้ ฉันอยากขอบคุณเมมเบอร์เป็นพิเศษ การที่เรางานยุ่งมาตลอดสามปี ทำให้ปีนี้เรารู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจอย่างมาก
แต่ฉันอยากขอบคุณเมมเบอร์ที่คอยให้ความสบายใจ เป็นพลังและเป็นความสุขของกันและกัน ทำได้ดีมากเลยนะ
แล้วก็...ฉันอยากจะขอบคุณวันซ์ที่คอยสนับสนุนพวกเราทุกครั้งที่ขึ้นแสดง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและเสียงเชียร์ที่น่าทึ่ง
ขอบคุณเป็นร้อยครั้งก็คงไม่พอ ทไวซ์จะกลับมาอีกพร้อมเพลงที่ดีและการแสดงที่มีพลังค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"
ทุกครั้งที่ได้รางวัล ไม่ว่าจะเป็นในรายการเพลงหรือในงานประกาศรางวัลใหญ่ สาวๆทั้งเก้าไม่เคยลืมที่จะขอบคุณต้นสังกัดอย่าง JYPE ทีมงาน ครอบครัวของพวกเธอ และขอบคุณกันและกัน ในขณะที่หน้าที่การงานไปได้ด้วยดี พวกเธอก็ยังเป็นที่รู้จักในฐานะไอดอลที่ถ่อมตัวแม้ว่าจะเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกแล้วก็ตาม จองยอนอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างดีในบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร Marie Claire เมื่อเร็วๆนี้
ความคิดที่ฉันอยากจะรักษาเอาไว้ตลอดไปเลยก็คือ ‘จงทำงานให้หนักเสมอ’ คุณต้องทำให้เต็มที่ที่สุดแม้กระทั่งอยู่บนเวทีเล็กๆก็ตาม
คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก และทัวร์คอนเสิร์ต
คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ TWICE เกิดขึ้นที่ SK Olympic Handball Gymnasium ในโซล เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2017 การแสดงในครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทัวร์คอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า ‘TWICELAND – The Opening’ ซึ่งทำการแสดงกว่า 7 รอบ รวมการแสดงในต่างประเทศอีกสองรอบแล้ว
ในปีเดียวกันนั้นเอง สาวๆได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นด้วยอัลบั้ม #TWICE เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน และได้จัดงาน ‘TWICE DEBUT SHOWCASE Touchdown in JAPAN’ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม อัลบั้มดังกล่าวมียอดขายกว่า 200,000 แผ่น ในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากวางขาย ทำให้ทไวซ์กลายเป็นหนึ่งในศิลปินเกาหลีที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น
ในเดือนมกราคมปี 2018 ไม่ถึงปีหลังจากการเดบิวท์ในญี่ปุ่น ทไวซ์ก็เริ่มทัวร์ในญี่ปุ่นในชื่อ ‘Twice Showcase Live Tour 2018 “Candy Pop’ ซึ่งประกอบไปด้วยคอนเสิร์ตทั้งหมด 8 รอบ เป็นการตอกย้ำความนิยมของพวกเธอนอกประเทศเกาหลี
ทัวร์ต่อมา ‘Twiceland Zone 2 – Fantasy Park’ เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2018 1 เดือนหลังจากประสบความสำเร็จจากการคัมแบคด้วยเพลง ‘What Is Love?’ สาวๆออกทัวร์ในห้าประเทศในทวีปเอเชีย โดยมีผู้เข้าชมรวมกว่า 100,000 คน
ตามมาด้วย ‘1st Arena Tour ”BDZ’ ในเดือนกันยายน 2018 และยิ่งตอกย้ำความนิยมในญี่ปุ่นด้วย ‘Twice Dome Tour 2019 ‘#Dreamday’’ ซึ่งมียอดผู้เข้าชมกว่า 220,000 คน และทำรายได้ไปราว 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 600 ล้านบาท)
และล่าสุดกับเวิลด์ทัวร์ครั้งแรก ‘TWICELIGHTS’ ในเดือนพฤษภาคม 2019 และเพิ่มรอบไปจนถึง 2020 ด้วยทัวร์ที่เพิ่มมาสำหรับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 23 ตุลาคม นอกจากจะเป็นทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดของวงด้วยการทัวร์ในทั้งเอเชียและอเมริกาเหนือแล้ว ทัวร์นี้ยังเป็นที่จดจำจากอีกหนึ่งสาเหตุ ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม JYPE ได้ประกาศว่ามินะจะพักงานทั้งหมดของวง ในขณะที่วงกำลังทัวร์อยู่ ทำให้สมาชิกอีก 8 คนต้องทำการแสดงต่อโดยไม่มีเธอ
คอนเสิร์ตแรกที่ไม่มีมินะ ‘TWICELIGHTS in Singapore’ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าสมาชิกในวงได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจากการที่มินะไม่ได้มาด้วย สมาชิกทั้ง 8 ร้องไห้ออกมาทั้งระหว่างช่วงพูดคุยและระหว่างทำการแสดง พวกเธอสัญญาว่า คราวหน้าจะกลับมาครบ 9 คนแน่นอน ข้อความดังกล่าวยังถูกส่งต่อไปถึงแฟนๆในการแสดงในอเมริกาเหนือ ซึ่งทไวซ์มีคอนเสิร์ตในสหรัฐ 3 รอบ และ 1 รอบในเม็กซิโก
ในระหว่างทัวร์ที่เหลือ แฟนๆต่างเปลี่ยนสีแท่งไฟเป็นสีเขียวมินต์ ซึ่งเป็นสีประจำตัวของมินะ ในเพลง After Moon ซึ่งเมมเบอร์ก็ได้เห็นและขอบคุณวันซ์ด้วย ในวันที่ 27 สิงหาคม JYPE ได้ออกมายืนยันว่ามินะป่วยด้วยโรควิตกกังวล ซึ่ง ไม่ได้รับการเผยบ่อยนักในวงการ K-POP ซึ่งมักปิดบังเรื่องสุขภาพจิตของไอดอล และแม้ว่ามินะจะพักงานอย่างไม่มีกำหนดจนแฟนๆต่างเป็นห่วง เธอก็ยังกลับมาเกาหลีเพื่อถ่ายมิวสิควิดิโอ Feel Special ร่วมกันกับเพื่อนๆ
เมื่อมีรายงานว่าเธอได้ร่วมถ่ายทำเอ็มวีจนเสร็จสมบูรณ์ด้วยความช่วยเหลือและกำลังใจจากเมมเบอร์ ‘Feel Special’ จึงถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตการทำงานของทไวซ์ ด้วยเนื้อเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งสำหรับเมมเบอร์ จากมื้อเย็นมื้อหนึ่งที่สาวๆนั่งพูดคุยกับพัคจินยองเกี่ยวกับความยากลำบากในชีวิตการเป็นไอดอล ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ พัคจินยอง ผู้ก่อตั้ง JYPE แต่งเพลงที่มีความหมายอย่างมากขึ้นมา ทไวซ์ทำลายสถิติยอดขายสัปดาห์แรกด้วยเพลงดังกล่าวและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
เมื่อสามวันที่แล้ว (17 ตุลาคม) ทไวซ์ได้ปล่อยเอ็มวี Fake & True ซึ่งเป็นเพลงโปรโมทของอัลบั้มเต็มฝั่งญี่ปุ่นอัลบั้มที่ 2 ‘&TWICE’ ที่จะวางขายในวันที่ 20 พ.ย.
ด้วยกิจกรรมที่มีอย่างต่อเนื่องทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น แฟนๆต่างคิดว่าทไวซ์อาจทำงานหนักมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม จองยอนได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร Marie Claire ว่าทุกคนสบายดี
"ทำงานดีกว่าพักค่ะ ฉันไม่เคยคิดว่าการพักจะทำให้แสดงดีขึ้นได้ ตอนนี้การทำงานสำคัญที่สุดค่ะ"
เราตื่นเต้นเหลือเกินว่าทไวซ์เตรียมโปรเจคอะไรรอเราไว้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมมเบอร์ค่อยๆเริ่มแยกย้ายทำงานเดี่ยว
ระหว่างรอภาพจากงานแฟนมีตฮาโลวีน เรามีสเตจเดบิวท์ในธีมฮาโลวีนจากปี 2015 ของทไวซ์มาฝาก ไปชมกันเลย
TH Translation: Strawberry Queen @ Chanraktwice
กรุณาไม่รีโพสต์ก่อนได้รับอนุญาต และนำออกไปพร้อมเครดิต
#4YearsWithTWICE
ดูเพิ่มเติม
[แปล] TWICE กับเส้นทางสู่ดวงดาว
ทไวซ์เกิดขึ้นจากรายการแข่งขันแบบเรียลลิตี้ SIXTEEN ที่สร้างฐานแฟนให้กับวงตั้งแต่ก่อนจะเดบิวท์ด้วยเพลง ‘Like OOH-AHH’ ในเดือนตุลาคม ปี 2015
เพียงสองเดือนหลังจากเดบิวท์ด้วย Like OOH-AHH ทไวซ์ก็ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่แห่งปี จาก 2015 Mnet Music Awards (MAMA) ซึ่งถือเป็นก้าวใหญ่ของวง
อย่างไรก็ตาม การชนะในรายการเพลงทั้งหมดในปี 2016 ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของความสำเร็จและการเป็นที่จดจำของผู้เชี่ยวชาญในวงการเพลง จนกระทั่ง Cheer Up ได้รับรางวัลเพลงแห่งปีถึงสองรางวัลจากงาน MAMA และ Melon Music Awards และนั่นเองทำให้วง(ที่ยังเป็นรุกกี้อยู่)กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลของวงการ K-POP
ในปีต่อๆมา ทไวซ์ก็ได้รับรางวัลเพลงแห่งปีจาก ‘Signal’ และ ‘What is Love?’ ในปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ เมื่อวงได้รับรางวัลเพลงแห่งปีเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว สาวๆก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ จีฮโยได้กล่าวขอบคุณอย่างซึ้งใจว่า
ความคิดที่ฉันอยากจะรักษาเอาไว้ตลอดไปเลยก็คือ ‘จงทำงานให้หนักเสมอ’ คุณต้องทำให้เต็มที่ที่สุดแม้กระทั่งอยู่บนเวทีเล็กๆก็ตาม
คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ TWICE เกิดขึ้นที่ SK Olympic Handball Gymnasium ในโซล เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2017 การแสดงในครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทัวร์คอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า ‘TWICELAND – The Opening’ ซึ่งทำการแสดงกว่า 7 รอบ รวมการแสดงในต่างประเทศอีกสองรอบแล้ว
ในปีเดียวกันนั้นเอง สาวๆได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นด้วยอัลบั้ม #TWICE เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน และได้จัดงาน ‘TWICE DEBUT SHOWCASE Touchdown in JAPAN’ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม อัลบั้มดังกล่าวมียอดขายกว่า 200,000 แผ่น ในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากวางขาย ทำให้ทไวซ์กลายเป็นหนึ่งในศิลปินเกาหลีที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น
ในเดือนมกราคมปี 2018 ไม่ถึงปีหลังจากการเดบิวท์ในญี่ปุ่น ทไวซ์ก็เริ่มทัวร์ในญี่ปุ่นในชื่อ ‘Twice Showcase Live Tour 2018 “Candy Pop’ ซึ่งประกอบไปด้วยคอนเสิร์ตทั้งหมด 8 รอบ เป็นการตอกย้ำความนิยมของพวกเธอนอกประเทศเกาหลี
ทัวร์ต่อมา ‘Twiceland Zone 2 – Fantasy Park’ เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2018 1 เดือนหลังจากประสบความสำเร็จจากการคัมแบคด้วยเพลง ‘What Is Love?’ สาวๆออกทัวร์ในห้าประเทศในทวีปเอเชีย โดยมีผู้เข้าชมรวมกว่า 100,000 คน
ตามมาด้วย ‘1st Arena Tour ”BDZ’ ในเดือนกันยายน 2018 และยิ่งตอกย้ำความนิยมในญี่ปุ่นด้วย ‘Twice Dome Tour 2019 ‘#Dreamday’’ ซึ่งมียอดผู้เข้าชมกว่า 220,000 คน และทำรายได้ไปราว 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 600 ล้านบาท)
และล่าสุดกับเวิลด์ทัวร์ครั้งแรก ‘TWICELIGHTS’ ในเดือนพฤษภาคม 2019 และเพิ่มรอบไปจนถึง 2020 ด้วยทัวร์ที่เพิ่มมาสำหรับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 23 ตุลาคม นอกจากจะเป็นทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดของวงด้วยการทัวร์ในทั้งเอเชียและอเมริกาเหนือแล้ว ทัวร์นี้ยังเป็นที่จดจำจากอีกหนึ่งสาเหตุ ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม JYPE ได้ประกาศว่ามินะจะพักงานทั้งหมดของวง ในขณะที่วงกำลังทัวร์อยู่ ทำให้สมาชิกอีก 8 คนต้องทำการแสดงต่อโดยไม่มีเธอ
คอนเสิร์ตแรกที่ไม่มีมินะ ‘TWICELIGHTS in Singapore’ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าสมาชิกในวงได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจากการที่มินะไม่ได้มาด้วย สมาชิกทั้ง 8 ร้องไห้ออกมาทั้งระหว่างช่วงพูดคุยและระหว่างทำการแสดง พวกเธอสัญญาว่า คราวหน้าจะกลับมาครบ 9 คนแน่นอน ข้อความดังกล่าวยังถูกส่งต่อไปถึงแฟนๆในการแสดงในอเมริกาเหนือ ซึ่งทไวซ์มีคอนเสิร์ตในสหรัฐ 3 รอบ และ 1 รอบในเม็กซิโก
ในระหว่างทัวร์ที่เหลือ แฟนๆต่างเปลี่ยนสีแท่งไฟเป็นสีเขียวมินต์ ซึ่งเป็นสีประจำตัวของมินะ ในเพลง After Moon ซึ่งเมมเบอร์ก็ได้เห็นและขอบคุณวันซ์ด้วย ในวันที่ 27 สิงหาคม JYPE ได้ออกมายืนยันว่ามินะป่วยด้วยโรควิตกกังวล ซึ่ง ไม่ได้รับการเผยบ่อยนักในวงการ K-POP ซึ่งมักปิดบังเรื่องสุขภาพจิตของไอดอล และแม้ว่ามินะจะพักงานอย่างไม่มีกำหนดจนแฟนๆต่างเป็นห่วง เธอก็ยังกลับมาเกาหลีเพื่อถ่ายมิวสิควิดิโอ Feel Special ร่วมกันกับเพื่อนๆ
เมื่อมีรายงานว่าเธอได้ร่วมถ่ายทำเอ็มวีจนเสร็จสมบูรณ์ด้วยความช่วยเหลือและกำลังใจจากเมมเบอร์ ‘Feel Special’ จึงถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตการทำงานของทไวซ์ ด้วยเนื้อเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งสำหรับเมมเบอร์ จากมื้อเย็นมื้อหนึ่งที่สาวๆนั่งพูดคุยกับพัคจินยองเกี่ยวกับความยากลำบากในชีวิตการเป็นไอดอล ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ พัคจินยอง ผู้ก่อตั้ง JYPE แต่งเพลงที่มีความหมายอย่างมากขึ้นมา ทไวซ์ทำลายสถิติยอดขายสัปดาห์แรกด้วยเพลงดังกล่าวและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
เมื่อสามวันที่แล้ว (17 ตุลาคม) ทไวซ์ได้ปล่อยเอ็มวี Fake & True ซึ่งเป็นเพลงโปรโมทของอัลบั้มเต็มฝั่งญี่ปุ่นอัลบั้มที่ 2 ‘&TWICE’ ที่จะวางขายในวันที่ 20 พ.ย.
ด้วยกิจกรรมที่มีอย่างต่อเนื่องทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น แฟนๆต่างคิดว่าทไวซ์อาจทำงานหนักมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม จองยอนได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร Marie Claire ว่าทุกคนสบายดี