ถูกผู้บังคับบัญชา...ให้ออกจากงานด้วยวิธีสกปรก..ทั้งที่ไม่มีความผิดแบบสมเหตุสมผล

กระทู้คำถาม
ดิฉันอายุ 40 ปี แม่เลี้ยงเดี่ยว ได้สมัครงานและได้เข้าทำงานเมื่อต้นเดือน กค. 62 ที่ผ่านมา คนที่รับสมัครพี่ผู้ชายเป็นหัวหน้างาน ชื่อพี่ก.  ซึ่งตำแหน่งที่รับเป็นตำแหน่งที่คนออกบ่อยมาก เราสมัครวันนั้น ได้รับแจ้งหลังจากออกมาจากการสัมภาษณ์ ให้มาทำงานพรุ่งนี้ทันที ดีใจมากที่ได้งาน เพราะห่วงว่าจะไม่มีเงินเลี้ยงลูก แต่ในใจก็รู้สึกประหลาดใจ ทำไมคนออกบ่อย และรีบรับเราเร็วขนาดนี้ 

   เมื่อเริ่มงาน สิ่งแรกที่ทำให้เริ่มรู้ว่าเพราะอะไรคนถึงออกบ่อยคือ ตำแหน่งเดียวกับเรา. ที่ทำก่อนมีอยู่ 3 คน มีสภาพเครียดตลอดเวลา งานเร่ง งานด่วนตลอดเวลา เพราะใหม่กันหมด บางคนกางจากที่ตัวเองจดบันทึกไปทำไป และมีแต่เสียงบ่นงึมงำ แทบไม่มีใครสอนงานเราเลย พอเราถามก็ได้รับคำตอบว่าเดี๋ยวนะยุ่งอยู่ พอมาสอน เราจะจด คนสอนก็บอกถ้ามัวจดมันช้านะ ไม่มีเวลารอขนาดนั้น เห้อออ...เราก็พยายามสอดแทรก โดยการจำตอนเขาทำบ้าง ถามบ้างยามมีโอกาส 
  มาถึงประเด็นหัวหน้างาน  พี่ก. เขามักจะมาทักทายเราบ่อยๆ น้อยนักที่จะทักเพื่อนร่วมงานคนอื่น เพราะกลัวเราออก ในใจเราบอกแต่ต้นไม่อยากทำที่นี่เลย  แต่ก็คิดว่าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ซิ 
   มาถึงเรื่องของการวางตัว 2คน ให้ได้รับหน้าที่หลักของแผนก พี่ก. ดันเลือกเรากับน้องอีกคนที่มาหลังเราให้ทำ ทำให้คนที่อยู่ก่ิอนเราไม่พอใจแสดงออกชัดเจน เราเองกับน้องอีกคนพูดออกไปชัดเจนต่อหน้าทุกคนว่า เราเพิ่งมาใหม่ไม่รู้รายละเอียดงานอะไรเลย ทำได้เหรอ หัวหน้าบอกไม่มีปัญหา พี่สามารถจัดการได้ จนมีการนัดประชุมผู้ที่ได้รับมอบหมายที่กล่าวไปนั้น ยังคงเป็นเราและน้องคนนั้น แต่ยังไม่ทันเข้าประชุม มีการเรียกตัวด่วนทั้งแผนกกับหัวหน้างานคนหนึ่งที่อยู่แผนกอื่ชื่ออ. ผู้บริหารคนนี้ถามคำถามแรกว่าทำไมเรากับน้องคนนี้ได้รับเลือกให้มาทำตรงนี้ 1คนในแผนกเราตอบว่า "พี่คนเลือกให้เหตุผลว่าสองคนนี้มีภาวะคล่องตัวมากกว่าพวกหนู  เลิกดึกได้" ผู้บริหารไม่ยอม และใช้คำสั่งว่า "นับจากนาทีนี้พวกเธอมีหัวหน้าคือ อ. จะผ่านงานหรือไม่ผ่านงานขึ้นอยู่กับอ." 
   เราเริ่มรู้แล้วว่าที่นี่มีการแบ่งพักแบ่งพวก และไม่ถูกกัน สุดท้ายเรากับน้องไม่ได้ทำหน้าที่นี้. ระหว่างการทำงานเราไม่เคยมีพฤติกรมมต่อต้านหรือแสดงให้เห็นว่าเราอยู่ฝ่ายไหน เราทำงานอย่างเดียว แต่ในแผนก 3คนที่อยู่ก่อนเรากับน้องประจบ อ.อย่างเห็นได้ชัด และพอมองออกว่า 3 คนนี้ และอ. ระแวงเรากับน้อง กลัวว่าจะเอาเรื่องไปบอกกับ พี่ก. ขอเพิ่มความเป็นตัวตนของพี่ก. นิดหนึ่งคือ เขาขะออกแนวขี้คุย ขี้อวด ว่าตนเก่ง ตนสามารถซัพพอตทุกคนได้ เจ้านายแคร์เขา นี่คือคำพูดของเขา เรามองออกแต่เงียบ
   จนเกิดเรื่องราว. พี่ก. สั่งให้น้องขึ้นประชุม แต่ไม่ได้แจ้งว่าประชุมเรื่องอะไร ทุกคนที่แผนกได้ยิน น้องก็ทำหน้างงๆประชุมอะไร ถึงเวลาประชุม คำถามแรกจากผู้บริหารคนที่สั่งเปลี่ยนหัวหน้าถามว่า "เธอมาฐานะอะไร"  น้องตอบไม่ได้ น้องบอก"พี่....เขาให้เข้าประชุมหนูก็เลยมาค่ะ"
หลังจากประชุมเสร็จ วันรุ่งขึ้น ผู้บริหารคนเดิม เรียกประชุมแผนก ยกเว้นเรากับน้อง *มีการแสดงออกอย่างชัดเจนขึ้น** คนที่สมัครเห็นเหตุการณ์และกระซิบบอกเรากับน้องเจอหลังเลิกงานที่ร้านกาแฟ
เรากับน้องไปตามนัด พี่คนนี้ใช้คำพูดแบบโอ้อวดแบบเคย บอกอย่าไปกลัว เจ้านายรักพี่ ถ้าผู้บริหารคนนี้ทำอะไรพี่จัดการเอง ถ้าพี่ออกคนอื่นก็ตามพี่ไปหมด เราพูดไปตรงๆ ว่า"พี่..เราสองคนอยู่ยากมาก  พี่ให้เราสองคนทำอะไร แต่ไม่แจ้งผู้บริหาร พวกเราไม่รู้ว่าควรฟังคำสั่งใคร  งงไปหมดแล้ว "นอกจากพี่เขาไม่ฟังยังยุให้ออกจากงาน เสนอว่าจะฝากงานให้ ซึ่งตรงข้ามกับที่ได้ขอให้อดทนทำนานๆกับที่ตอนสัมภาษณ์  คุยกับน้องเราคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว  เหมือนเขาใช้เราเป็นเครื่องมือในการฟาดฟันกัน สรุปเขาไม่ถูกกันจริงๆ
   หลังจากทำงานได้ใกล้จะพ้นโปร ฝ่ายบุคคลและอ.เรียกพบ เรากับน้อง ให้เข้าไปทีละคน น้องเข้าไปก่อน เราเดาแค่ว่าคงถูกต่อว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงคิวเรา คำถามแรกHRถามคือ เมื่อสักครู่น้องคนที่เข้ามาก่อนส่งอะไรถึงเธอ เราตอบว่า "น้องส่งมาว่ายังไม่เริ่มคุยเลย" และถามเราต่อว่ารู้ไหมว่าไม่ผ่านโปร (เราตกใจมาก) เพราะอ.และทางHRเห็นว่าน้องทำงานผิดพลาด คะแนนการทำงานต่ำมาก (เขายื่นคะแนนให้ดู คะแนนมีแค่ 1กับ 2 เต็ม 5) และยื่นใบลาออกให้เราเขียน เราถามว่าเขียนวันนี้เหรอคะ HRบอก "ใช่ ส่งตอนนี้"  และถามเราว่ามีอะไรจะพูดไหม เรานิ่งแป้บหนึ่ง รวบรวมคำพูด เราพูดว่า"ที่จริงมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูด แต่ในเมื่อให้เขียนใบลาออกขนาดนี้แล้วคิดว่าไม่มีประโยชน์ค่ะ แต่แค่ขอให้รู้ว่า ฉันรู้ว่าเรื่องราวมันเกิดจากอะไร พวกคุณตัดสินเราไปแล้ว โดยไม่ถามสักคำ เรามาใหม่ เราเองไม่กล้าเปิดปากถามว่าเราต้องทำยังไง คะแนนผลประเมินงาน มีแค่ 1กับ 2  และยังไม่ถึงกำหนดแจ้งผลการประเมิน น้องอีกคนเหลือเวลาอีก 1 เดือนเต็มกว่าจะถึงกำหนดประเมิน ทำไมรวบรัดเราสองคนแบบนี้" แล้วเราก็ร้องไห้ ไม่ได้เสียใจที่ผลไม่ผ่านงาน แต่เสียใจที่ทำอะไรไม่ได้. เราเหลือบไปเห็นคะแนนน้อง ต่ำกว่าเรามาก ทั้งๆที่น้องตั้งใจทำงาน ทำดี หัวไวและHRก็บังคับให้เราไปเก็บของ และออกไปจากบริษัททันที 
   มันเป็นความรู้สึกที่โหดร้ายมากๆ เราอายุมากแล้วกว่าจะได้งาน เราต้องเดินทางไปสมัครกี่ที่ พอได้ เราก็มาเจอเรื่องแบบนี้อีก 
   ยังไม่จบนะคะ พี่ก. มีการไลน์มายุให้ฟ้องกรมแรงงาน บอกว่าถ้าเราสองคนฟ้องชนะแน่นอน เขาจะเป็นพยานให้  เราเองบอกตรงๆไปว่า "พี่...แค่พวกหนูตกงานยังไม่พอเหรอ อย่าให้พวกหนูเดือดร้อนไปกว่านี้เลย  "เขาเห็นว่าเราไม่สนใจเรื่องฟ้องกรมแรงงาน รีบยกเลิกข้อความที่ยุยง กลัวเราหักหลัง 
พอเราออกมาได้1วัน พี่ก.ไปเที่ยวป่าวประกาศว่าเราจะฟ้องกรมแรงงาน แต่HRคนนั้นดักทางเก่ง เขาบอกจะโทรมาถามว่าใครยุ ใครอยู่เบื้องหลังให้ฟ้องกรมแรงงาน พี่ก.รีบโทรมาขอร้องเราให้ช่วย ถ้าทางHRโทรมาถามว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องไหม ให้ตอบว่าไม่มีส่วน เห้ออ..ทำไมชีวิตต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย.. 
    ตอนทำงานเราอดทนมากนะ เราไม่ได้เล่าปัญหาเพื่อนร่วมงาน 3. คนนั้นที่ทำกับเรา เราเจอปัญหาทุกวัน เราอดทน และมองผ่านไป ขนาดทำงานเรายังไม่พอใช้ เพราะเงินเดือนเราน้อย เราคำนวณว่าต้องให้ลูกเท่าไร ที่เหลืแเราได้ใช้เท่าไร บางวันได้กินมื้อเดียวถึงจะพอชนเดือน มาตกงานแบบนี้เราจะทำยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่