คนที่กำลังจะมาเรียนต่อมักจะถามคำถามนี้กับนัท ถ้าตอบคำเดียวว่ายากหรือไม่ยาก มันก็จะกำปั้นทุบดินไป เรียนจบมาแล้วสามเดือนตอนนี้นัทก็ยังหางานอยู่ ในห้องคนที่ยังหางานอยู่ก็มี คนที่ได้งานแล้วก็เยอะ ขอมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวละกันนะคะว่าเจออะไรมาบ้าง
สิ่งที่นัทคิดว่าช่วยให้เราหางานง่ายที่เนเธอร์แลนด์คือ
1. Search Year Visa ช่วยทำให้เรามีเวลาหางานได้นานขึ้น
หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในเนเธอร์แลนด์แล้วเราสามารถต่อวีซ่าชื่อ Search Year Visa ได้ วีซ่านี้ทำให้เราสามารถอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ทำงานอะไรก็ได้ (จะไม่ทำก็ได้) หนึ่งปี ก็เป็นข้อดีที่ทำให้เรามีเวลาหางาน และหลังจาก Search Year หมด บริษัทต้องสปอนเซอร์วีซ่าให้เรา (ถ้าเราไม่มี Partner Visa หรือ Permanent Visa) เป็น Highly Skilled Migrant Visa ถ้าเราจบจากเนเธอร์แลนด์ เราจะได้เงินเดือนลดลงมาเป็นรายได้ขั้นต่ำตามอายุ ทำให้หางานได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าเราไม่ได้จบจากเนเธอร์แลนด์การสมัคร Highly Skilled Migrant Visa ต้องได้เงินเดือนมากกว่า 4,500 ยูโรต่อเดือน (โดยเฉลี่ยรายได้คนดัชต์อยู่ที่ 2,700 ยูโรต่อเดือน)
2. มีงานภาษาอังกฤษเยอะ
คนดัชต์พูดภาษาอังกฤษได้ดี และบริษัทต่างชาติในเนเธอร์แลนด์ก็มีเยอะ เลยมีหลายงานที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ แต่ก็มีบางสายงาน เช่นต้องติดต่อกับโรงงาน หรือคนในท้องที่ ก็ต้องใช้ภาษาดัชต์
แต่การหางานที่นี่ก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน เช่น
1. หางานที่นี่ต้องมี Connection
เวลาเรากดดูตำแหน่งงานใน LinkedIn จะเห็นว่ามีคนสมัครไปแล้วกี่คน บริษัทใหญ่ที่คนอยากเข้าเยอะๆ บางทีก็มีคนสมัครสองร้อยกว่าคน นัทว่าบริษัทนึง ก็มี HR แค่คนสองคนมารับเรื่อง Vacancy นั้นๆ คนนึงทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เค้าจะสกรีนใบสมัครกันยังไงให้ครบสองร้อยคน หรือว่าเค้าจะใช้คอมพิวเตอร์ โอกาสที่ใบสมัครเราจะได้รับการสนใจก็น้อยลงไป
เราจะหา Connection ยังไง มาเรียนต่างแดนใครๆก็ไม่รู้จัก ก็หาจากคนที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเรา ผ่านกิจกรรม Networking ในมหาวิทยาลัย แต่เอาเข้าจริงนัทก็พบว่า Connection ผ่านมหาวิทยาลัยนั้นน้อยเหลือเกิน ส่วนใหญ่คนที่นัทไปคุยด้วย ก็เป็นคนรู้จักของนัท หรือคนรู้จักของเพื่อน, คนที่เคยทำงานด้วยกัน, คนใน LinkedIn หรือฝึกงาน แต่มี Connection แล้วจะทำให้เราได้งานแน่ๆไหม ก็ไม่แน่นะคะ เพราะก็ต้องไปสัมภาษณ์อีก
2. Skill เรามีแค่ไหน
ทั้ง Hard และ Soft เลยค่ะ เช่น ทำงาน Supply Chain ชอบมี Requirement ว่า ใช้โปรแกรม SAP เป็น ใช้ไม่เป็นทำไงดีคะ คอร์สเรียนสามวัน 2,000 ยูโร เพื่อนนัทแนะนำให้ไปซื้อหนังสือมาอ่าน ก็ซื้อ
หลังจากเราผ่านข้อจำกัดมาได้หมด ต่อไปก็คือ สัมภาษณ์ อันนี้ตนแลเป็นที่พึ่งเห็นตน จริงๆ ก็เปิดๆดูคำถามสัมภาษณ์งานแล้วก็มาฝึกๆ เอา Feedback ที่ได้มาปรับปรุงเราก็จะโฆษณาตัวเองได้ดีขึ้น
สรุปคือโอกาสมันก็มี แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายๆ มีคนเคยบอกนัทว่า Luck comes to those who work hard. เพราะฉะนั้นก็ขยันเข้าไว้ โชคจะได้ช่วยให้ก้าวพ้นข้อจำกัดนะคะ
ใครสนใจชีวิตนักเรียน MBA ในเนเธอร์แลนด์ขอฝาก Blog ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
https://natinholland.com/
MBA life in the Netherlands : หางานที่เนเธอร์แลนด์ยากไหม
สิ่งที่นัทคิดว่าช่วยให้เราหางานง่ายที่เนเธอร์แลนด์คือ
1. Search Year Visa ช่วยทำให้เรามีเวลาหางานได้นานขึ้น
หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในเนเธอร์แลนด์แล้วเราสามารถต่อวีซ่าชื่อ Search Year Visa ได้ วีซ่านี้ทำให้เราสามารถอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ทำงานอะไรก็ได้ (จะไม่ทำก็ได้) หนึ่งปี ก็เป็นข้อดีที่ทำให้เรามีเวลาหางาน และหลังจาก Search Year หมด บริษัทต้องสปอนเซอร์วีซ่าให้เรา (ถ้าเราไม่มี Partner Visa หรือ Permanent Visa) เป็น Highly Skilled Migrant Visa ถ้าเราจบจากเนเธอร์แลนด์ เราจะได้เงินเดือนลดลงมาเป็นรายได้ขั้นต่ำตามอายุ ทำให้หางานได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าเราไม่ได้จบจากเนเธอร์แลนด์การสมัคร Highly Skilled Migrant Visa ต้องได้เงินเดือนมากกว่า 4,500 ยูโรต่อเดือน (โดยเฉลี่ยรายได้คนดัชต์อยู่ที่ 2,700 ยูโรต่อเดือน)
2. มีงานภาษาอังกฤษเยอะ
คนดัชต์พูดภาษาอังกฤษได้ดี และบริษัทต่างชาติในเนเธอร์แลนด์ก็มีเยอะ เลยมีหลายงานที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ แต่ก็มีบางสายงาน เช่นต้องติดต่อกับโรงงาน หรือคนในท้องที่ ก็ต้องใช้ภาษาดัชต์
แต่การหางานที่นี่ก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน เช่น
1. หางานที่นี่ต้องมี Connection
เวลาเรากดดูตำแหน่งงานใน LinkedIn จะเห็นว่ามีคนสมัครไปแล้วกี่คน บริษัทใหญ่ที่คนอยากเข้าเยอะๆ บางทีก็มีคนสมัครสองร้อยกว่าคน นัทว่าบริษัทนึง ก็มี HR แค่คนสองคนมารับเรื่อง Vacancy นั้นๆ คนนึงทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เค้าจะสกรีนใบสมัครกันยังไงให้ครบสองร้อยคน หรือว่าเค้าจะใช้คอมพิวเตอร์ โอกาสที่ใบสมัครเราจะได้รับการสนใจก็น้อยลงไป
เราจะหา Connection ยังไง มาเรียนต่างแดนใครๆก็ไม่รู้จัก ก็หาจากคนที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเรา ผ่านกิจกรรม Networking ในมหาวิทยาลัย แต่เอาเข้าจริงนัทก็พบว่า Connection ผ่านมหาวิทยาลัยนั้นน้อยเหลือเกิน ส่วนใหญ่คนที่นัทไปคุยด้วย ก็เป็นคนรู้จักของนัท หรือคนรู้จักของเพื่อน, คนที่เคยทำงานด้วยกัน, คนใน LinkedIn หรือฝึกงาน แต่มี Connection แล้วจะทำให้เราได้งานแน่ๆไหม ก็ไม่แน่นะคะ เพราะก็ต้องไปสัมภาษณ์อีก
2. Skill เรามีแค่ไหน
ทั้ง Hard และ Soft เลยค่ะ เช่น ทำงาน Supply Chain ชอบมี Requirement ว่า ใช้โปรแกรม SAP เป็น ใช้ไม่เป็นทำไงดีคะ คอร์สเรียนสามวัน 2,000 ยูโร เพื่อนนัทแนะนำให้ไปซื้อหนังสือมาอ่าน ก็ซื้อ
หลังจากเราผ่านข้อจำกัดมาได้หมด ต่อไปก็คือ สัมภาษณ์ อันนี้ตนแลเป็นที่พึ่งเห็นตน จริงๆ ก็เปิดๆดูคำถามสัมภาษณ์งานแล้วก็มาฝึกๆ เอา Feedback ที่ได้มาปรับปรุงเราก็จะโฆษณาตัวเองได้ดีขึ้น
สรุปคือโอกาสมันก็มี แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายๆ มีคนเคยบอกนัทว่า Luck comes to those who work hard. เพราะฉะนั้นก็ขยันเข้าไว้ โชคจะได้ช่วยให้ก้าวพ้นข้อจำกัดนะคะ
ใครสนใจชีวิตนักเรียน MBA ในเนเธอร์แลนด์ขอฝาก Blog ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
https://natinholland.com/