เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราท้อง (ท้อง 3 ท้องแรกปกติ ท้อง2แท้ง(8มค.62อายุครรภ์ประมาน 8-9 สัปดาห์) ) ประมาณ 11-12 สัปดาห์นับจากการมีประจำเดือน
วันแรกของประจำเดือน (6 สค. หยุด 11 สค.)(ปล่อยช่วงไข่ตก วันที่ 22กับวันที่26 สค.)
ซาวครั้งแรก ช่วง กย. คุณหมอบอกว่าเห็นถุงตั้งครรภ์แต่ยังไม่เจอตัวเด็กค่ะ คุณหมอเลยนัด follow up วันที่ 7 ตค.62 ก็เจอหัวใจน้องเต้น ล่าสุดวันที่ 27 ตค.มีเลือดออกช่วงเที่ยง ประมาณเลือดปนน้ำอะไรสักอย่าง ออกสีชมพูแดง พอเรานั่งลงฉี่ ก็อมีหยดลงในชักโครก 3-4 หยด และใช้ทิชชูเช็ดเจอเป็นมูกใสปนเลือด แต่ไม่มีชิ้นเนื้อนะคะ ไม่เจ็บไม่ปวดใดๆทั้งสิ้นค่ะ พอสักพักก็ไม่มีอีกไอ้เราก็นึกว่าจะหมดเราก็รอเพื่อจะเข้าไปในเมืองเพราะเราฝากครรภ์(ฝากพิเศษ)ในตัวังหวัดค่ะ ช่วงเย็นก็มีอีก แต่เป็นเหมือนออกสีน้ำตาลมาเรื่อยๆแต่ไม่เยอะค่ะ เราก็ตกใจกลัวเหมือนเป็นแท้งรอบที่ 2 (ตอนแท้งครั้งแรกเลือกออกไม่เยอะเป็นสีน้ำตาลติดกกน.ประมาณ 2-3 วัน) เมื่อคืนนี้เราก็เยมา รพ. คุณหมอห้องฉุกเฉินซาวด์หน้าท้องก็บอกว่าไม่เห็นหัวใจน้องเต้น เขาเลยเจาะเลือดปลายนิ้วไปตรวจว่าเสียเลือดมากไหมแล้วหมอก็บอกว่าเดี๋ยวส่งต่อห้องสูตินะ สักพักเขาก็มารับไปห้องสูติ พอถึงห้องบรรยากาศเดิมที่เราเป็นช่วง ต้นเดือน มค.62 ภาพมันลอยมามันเจ็บปวดทรมารมากไม่อยากเจอกับความรูสีกนั้นอีก คุณหมอก็ซาวด์หน้าท้องก็ไม่เจอหัวใจน้องเต้น ก็ตรวจช่องคลอดก็ไม่มีเลือไหล ก็ซาวด์ในช่องคลอดต่อคุณหมอแจ้งว่าก็ไม่เห็นการเต้นของหัวใจน้อง แต่อายุครรภ์ที่ชาวด์ผ่านช่องคลอดแค่ 8 w5d. คุณหมอบอกว่าน้องอาจจะเสียไปสักพักแล้ว ซึ่งมันไม่ตรงกับใบฝากครรภ์ คุณหมอถามต่อว่าจำประจำเดือนมาล่าสุดแม่นไหม เราเลยตอบว่าแมนค่ะเพราะใช้แอฟชาวยจำ คุณหมอเลยบอกว่ามีทางเลือดให้เรา 2 ทางเลือกคือ 1. นอนรพ.ยุติการตั้งครรภ์แล้วสอดยา ซึ่งเป็นเหมือนตอนแท้งที่2 มันทรมารมากค่ะ 2.ปล่อยให้หลุดเอง แล้วถ้าเจอชิ้นเนื้อหลุดก็เอามาที่ รพ. เราเลยบอกว่าขอรอตรวจอีกครั้งได้ไหมหมอประจำตัวนัดอีกที่วันที่ 6 พย. เผื่อน้องยังอยู่ เขาเลยบอกว่าได้เผื่อมีปาฏิหารย์ ให้อาจารย์หมอคอนเฟริมอีกที ถ้าถึงวันนั้นแล้วถ้าไม่เห็นหัวใจน้องเต้นเราก็จะทำใจค่ะ แต่ตอนนี้เราแอบหวังว่าขอให้น้องยังเล็กยุและยังไม่เห็นหัวใจน้อง และช่วงที่เราปล่อยมันอาจจะติดช่วงหลังก็เป็นได้ เลยทำให้อายุครรภ์นับไม่เท่ากัน เราก็หวัง และภาวนาให้น้องยังอยู่กับเราซึ่งนี้เราก็มีอาการคัดเต้านมอยู่เป็นปกติของคนตั้งครรภ์ มีคุณแม่ไหนเคยมีประสบการณ์ประมานนี้ไหมคะ
อัลตร้าซาวด์เจอการเต้นของหัวใจ และซาวด์อีกไม่เจอ ถ้ารอเวลาซาวด์อีกมีสิทธิเจอไหมคะ
วันแรกของประจำเดือน (6 สค. หยุด 11 สค.)(ปล่อยช่วงไข่ตก วันที่ 22กับวันที่26 สค.)
ซาวครั้งแรก ช่วง กย. คุณหมอบอกว่าเห็นถุงตั้งครรภ์แต่ยังไม่เจอตัวเด็กค่ะ คุณหมอเลยนัด follow up วันที่ 7 ตค.62 ก็เจอหัวใจน้องเต้น ล่าสุดวันที่ 27 ตค.มีเลือดออกช่วงเที่ยง ประมาณเลือดปนน้ำอะไรสักอย่าง ออกสีชมพูแดง พอเรานั่งลงฉี่ ก็อมีหยดลงในชักโครก 3-4 หยด และใช้ทิชชูเช็ดเจอเป็นมูกใสปนเลือด แต่ไม่มีชิ้นเนื้อนะคะ ไม่เจ็บไม่ปวดใดๆทั้งสิ้นค่ะ พอสักพักก็ไม่มีอีกไอ้เราก็นึกว่าจะหมดเราก็รอเพื่อจะเข้าไปในเมืองเพราะเราฝากครรภ์(ฝากพิเศษ)ในตัวังหวัดค่ะ ช่วงเย็นก็มีอีก แต่เป็นเหมือนออกสีน้ำตาลมาเรื่อยๆแต่ไม่เยอะค่ะ เราก็ตกใจกลัวเหมือนเป็นแท้งรอบที่ 2 (ตอนแท้งครั้งแรกเลือกออกไม่เยอะเป็นสีน้ำตาลติดกกน.ประมาณ 2-3 วัน) เมื่อคืนนี้เราก็เยมา รพ. คุณหมอห้องฉุกเฉินซาวด์หน้าท้องก็บอกว่าไม่เห็นหัวใจน้องเต้น เขาเลยเจาะเลือดปลายนิ้วไปตรวจว่าเสียเลือดมากไหมแล้วหมอก็บอกว่าเดี๋ยวส่งต่อห้องสูตินะ สักพักเขาก็มารับไปห้องสูติ พอถึงห้องบรรยากาศเดิมที่เราเป็นช่วง ต้นเดือน มค.62 ภาพมันลอยมามันเจ็บปวดทรมารมากไม่อยากเจอกับความรูสีกนั้นอีก คุณหมอก็ซาวด์หน้าท้องก็ไม่เจอหัวใจน้องเต้น ก็ตรวจช่องคลอดก็ไม่มีเลือไหล ก็ซาวด์ในช่องคลอดต่อคุณหมอแจ้งว่าก็ไม่เห็นการเต้นของหัวใจน้อง แต่อายุครรภ์ที่ชาวด์ผ่านช่องคลอดแค่ 8 w5d. คุณหมอบอกว่าน้องอาจจะเสียไปสักพักแล้ว ซึ่งมันไม่ตรงกับใบฝากครรภ์ คุณหมอถามต่อว่าจำประจำเดือนมาล่าสุดแม่นไหม เราเลยตอบว่าแมนค่ะเพราะใช้แอฟชาวยจำ คุณหมอเลยบอกว่ามีทางเลือดให้เรา 2 ทางเลือกคือ 1. นอนรพ.ยุติการตั้งครรภ์แล้วสอดยา ซึ่งเป็นเหมือนตอนแท้งที่2 มันทรมารมากค่ะ 2.ปล่อยให้หลุดเอง แล้วถ้าเจอชิ้นเนื้อหลุดก็เอามาที่ รพ. เราเลยบอกว่าขอรอตรวจอีกครั้งได้ไหมหมอประจำตัวนัดอีกที่วันที่ 6 พย. เผื่อน้องยังอยู่ เขาเลยบอกว่าได้เผื่อมีปาฏิหารย์ ให้อาจารย์หมอคอนเฟริมอีกที ถ้าถึงวันนั้นแล้วถ้าไม่เห็นหัวใจน้องเต้นเราก็จะทำใจค่ะ แต่ตอนนี้เราแอบหวังว่าขอให้น้องยังเล็กยุและยังไม่เห็นหัวใจน้อง และช่วงที่เราปล่อยมันอาจจะติดช่วงหลังก็เป็นได้ เลยทำให้อายุครรภ์นับไม่เท่ากัน เราก็หวัง และภาวนาให้น้องยังอยู่กับเราซึ่งนี้เราก็มีอาการคัดเต้านมอยู่เป็นปกติของคนตั้งครรภ์ มีคุณแม่ไหนเคยมีประสบการณ์ประมานนี้ไหมคะ