Korea EP.1 : Busan
ถ้าพูดถึง Busan ใครหลายๆคนอาจจะนึกถึงหนังเรื่อง Train to Busan หรือไม่ก็พระเอกสุดหล่อตลอดกาลอย่างกงยู บางคนก็จะจำภาพ Busan จากหนังเรื่องนี้ซึ่งขอบอกเลยว่านั่นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น แต่ที่ Busan ยังมีสถานที่มากมายที่น่าสนใจที่เราไม่ได้เห็นในหนัง ที่รอให้เราได้ค้นหาและสัมผัสถึงเสน่ห์ความน่ารักของเมืองนี้
Busan เป็นเมืองที่เงียบสงบ,สะอาด และอากาศดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะมาพักผ่อนเติมพลังให้กับตัวเองในวันหยุดยาว รับรองได้ว่าหากใครได้ลองมาเที่ยวที่ Busan จะทำให้หลงรักประเทศเกาหลีมากขึ้นกว่าเดิม และอยากกลับมาที่ Busan อีกแน่นอน
ตอนแรกที่เพื่อนชวนไปเที่ยวเกาหลีเรารู้สึกเฉยๆไม่ค่อยอยากไปเพราะเคยไปที่ Seoul มาแล้ว แต่แค่อยากไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ก็เลยนั่นคิดว่าที่ในไหนเกาหลีที่ยังไม่เคยไป นั่นคิดสักพักก็ผุดคำว่า Busan ขึ้นมาในหัว ตอนแรกภาพในหัวคือคิดว่าเมืองชนทบธรรมดา เงียบๆเล็กๆไม่น่าจะมีอะไรมากแต่แค่อยากลองไปให้รู้ว่ามันเป็นยังไง คือตอนนั้นเรายังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ Busan หลังจากที่คิดว่าจะไปแล้วก็เลยมานั่นทำการบ้านวางแผนการเที่ยว ครั้งแรกที่เปิด Google หารูปด้วยคำว่า Busan ก็ถึงกับตะลึงถึงความสวยงามของหมู่บ้าน Busan Gamcheon culture village ซึ่งก็คือสถานที่คุณได้เปิดดูรูปอยู่ตอนนี้ รูปของหมู่บ้านนี้มันเราให้เรารู้สึกตื่นเต้น และทำให้อยากอยากไปเกาหลีอีกครั้งจากตอนแรกที่รู้สึกเฉยๆ แนะนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางในเกาหลีครั้งนี้ อย่ารอช้าไปลุยกันเลยดีกว่า
ที่แรกที่ไปจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก Busan Gamcheon culture village เพราะเป็นที่ที่ทำให้เราอยากมา Busan ที่สุดแล้ว การเดินทางก็ต้องนั่งรถบัสเพราะว่ามันตั้งอยู่บนเขาจึงไม่สามารถนั่นรถไฟไปถึงได้เลย รถบัสก็จะมาจอดบริเวณนี้เลยครับหน้าทางเข้าหมู่บ้าน
ช่วงระหว่างทางเดินขึ้นไปที่จุดชมวิวก็จะมีจุดให้เราได้ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
เดินเข้าไปอีกหน่อยก็เจอกับจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกจุดนึง เหมือนจะเป็นขั้นบันไดที่เค้าวาดรูปทาสีอย่างสวยงาม ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าตรงนี้คือจุดที่เค้ามาถ่ายรูปกัน ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกว่าสวยดีก็เลยถ่ายเล่นกับเพื่อนเพราะตอนนั้นยังไม่มีคนมาต่อแถวถ่ายรูป ก็เลยรู้สึกว่าโชคดีอีกแล้วที่ตอนไปมีคนถ่ายรูปอยู่แค่สองสามคน แต่พอเราถ่ายเสร็จมีคนมาต่อแถวถ่ายรูปประมาณสิบกว่าคน
จุดนี้คือไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ที่ใครมาจะต้องมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าชายน้อยตรงนี้ ตอนแรกก่อนมาถึงบอกกับเพื่อนว่าขี้เกียจถ่ายนะคนน่าจะเยอะเพราะดูรูปจากใน Google คนต่อแถวยาวมาก แต่โชคดีมากตอนที่เรามาคนน้อยมากต่อคิวไม่เกิน 5 คนเลยรีบเข้าไปถ่าย พอถ่ายเสร็จเดินออกมาเห็นคนต่อแถวยาวมากน่าจะเกิน 20 คน เลยรู้สึกว่าเรานี่โชคดีจริงๆมาถึงถ่ายได้เลยไม่ต้องรอนาน
เดินมาถึงจุดชมวิวของ Busan Gamcheon culture village วิวดีมากมองเห็นหมู่บ้านที่มีสีสันน่ารักตั้งอยู่บนภูเขาแบบเต็มๆ และยังสามารถถ่ายรูปคู่กับหมู่บ้านอันสวยงามแห่งนี้ได้อีก บรรากาศดีมากเราเลยนั่งพักที่บริเวณนี้เพื่อที่จะซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่
นั่งรถบัสไปต่อที่ Haedong Yonggung Temple ลงจากป้ายรถบัสต้องเดินต่อเข้าไปข้างในอีกไกลเลยเพราะว่าวัดแห่งนี้อยู่ริมชายฝั่งทะเล เดินมาเรื่อยๆก็จะเห็นตลาดก็แสดงว่าใกล้ถึงทางเข้าวัดแล้ว
เดินมาไกลมากในที่สุดก็ถึงแล้ว Haedong Yonggung Temple มาถึงแล้วหายเหนื่อยเลยเพราะว่าวัดสวยมาก บรรยากาศรอบๆวัดดีมาก ทำให้เรารู้สึกสงบและผ่อนคลาย แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าคนเยอะมากเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญชาวต่างชาติมาชมกันเยอะมาก รวมทั้งคนเกาหลีเองก็มากันเยอะเช่นกันเพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญลำดับต้นๆของประเทศเลย
ชอบตรงที่วัดอยู่ติดชายฝั่งทะเลสวยงามจริงๆ
แวะมาถ่ายรูปเล่นตามโขดหินรอบๆวัด และถ้าใครสังเกตเห็นหินที่ตั้งวางเรียงเป็นชั้นๆที่เรียงซ้อนไปซ้อนมาเหมือนเจดีย์อันเล็กๆ เค้าเรียกว่า โซมังทลทับ หรือ เจดีย์แห่งความปรารถนา เป็นความเชื่อเล็กๆของคนเกาหลีที่จะอธิฐานกับก้อนหิน ระหว่างที่ค่อยๆเรียง ก็ค่อยๆอธิษฐานแล้ววางซ้อนขึ้นให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญเค้าเชื่อว่าถ้าเรียงได้สูงสุดโดยไม่ล้ม และตั้งยืนยงอยู่เช่นนั้นความปรารถนาจะกลายเป็นจริงด้วย
วันต่อมาเราไปที่ Haeundae beach ด้วยความที่อยากเห็นชายหาดต่างประเทศว่าบรรยากาศจะเหมือนบ้านเราไหมก็เลยเลือกที่จะมาที่นี่ ในช่วงที่ไปอากาศยังไม่หนาวมากคนก็เลยสามารถลงไปเล่นน้ำกันได้อยู่ หาดสะอาดดีไม่มีขยะมีการจัดการที่ดี ใครที่อยากเล่นน้ำก็สะดวกเพราะว่ามีห้องน้ำให้อาบนี้ฟรีด้วย
มี street show ให้ดูด้วย หนึ่งสิ่งที่ชอบในเกาหลีนั่นก็คือตามที่สาธารณะต่างๆ เค้าจะมีการจัดพื้นที่ให้คนได้มาแสดงความสามารถไม่ว่าจะเป็น เต้น,ร้องเพลง หรือการแสดงต่างๆ และก็จะมีคนมานั่งดูนั่งเชียร์หากใครที่ชื่นชอบก็สามารถให้เงินเค้าได้ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักแสดงได้ทำในสิ่งที่รักต่อไป เป็นวัฒนธรรมที่น่ารักดีครับ
ที่หาดก็มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA LIFE Busan Aquarium หากใครที่สนใจก็ลองแวะเข้าไปดูได้นะครับ รอบนี้เราไม่ได้เข้าเพราะว่าวางแผนจะไปที่อื่น
ตรงข้ามกับชายหาดก็จะเป็นถนน Gunam-ro ซึ่งเป็นแหล่ง shopping มีทั้งร้านอาหาร และเครื่องสำอางต่างๆ ในวันที่เราไปพอดีมีจัดงานเทศกาลและตลาดนัดพอดีก็เลยดูคึกคักกว่าปกติ
ภายในถนน Gunam-ro จะมีซอยนึงเข้าไปจะเจอกับ Haeundae Market เป็นตลาดขายอาหารทะเลชื่อดัง จะขายอาหารทะเลยาวตลอดทั้งซอย
วันต่อมาเขาจะไปที่ Busan tower ตังอยู่บนภูเขาต้องเดินขึ้นเขายาวอีกแล้ว T_T แต่บรรยากาศดีมากเลยมีต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่นตลอดทาง ซึ่งตอนขากลับเรากลับมาพบว่ามันมีทางเข้าอีกทางนึงที่มีบันไดเลื่อนเป็นทางเชื่อมไปที่ตลาดนัมโพดง T_T (ขอร้องไห้อีกรอบ)
เดินมาถึงซะที Busan tower ค่าเข้าชมไม่แพงเลยแค่ 8,000 วอนเอง
นี่ก็เป็นวิวของเมือง Busan ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นเมืองที่เจริญไม่แพ้ที่ Seoul เลย
หลังจากลงมาก่อนทางออกก็จะมีห้องให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกัน ก็ประทับใจนะเพราะตอนไปไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้ด้วย
ห้องแรกก็จะเป็นเหมือนห้องที่ทำเหมือนภาพในหนังสือการ์ตูนลายเส้นขาวดำ
ห้องต่อมาจะเป็นห้องที่เล่นกับแสงไฟ
ต่อมาเป็นห้องที่ใช้สีเรืองแสง
ชมวิวเสร็จก็ไปต่อที่ Nampodong Street เป็นแหล่ง shopping ชื่อดังใน Busan มีทั้งเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง และร้านอาหาร คิดว่าน่าจะเป็นแหล่ง shopping ที่คึกคักที่สุดใน Busan คนเดินเยอะมาก
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ของแบรนด์เนม เพราะเดินเข้าไปเรื่อยๆก็เจอกับตลาดที่มีขายของทั่วๆไปอีกด้วย
Street food ก็มีให้เลือกกินอย่างหลากหลาย ตลาดใหญ่มากเดินไปกินไปน่ากินทุกอย่าง
ถือโอกาสลองกินบิงซูต้นตำหรับที่ประเทศเกาหลี นี่คือหน้าตาบิงซูแบบดั้งเดิมก็จะเหมือนกับน้ำแข็งใสบ้านเราตาจะใส่เครื่องเยอะหน่อย เครื่องส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ต่างๆ แต่ที่ทำให้เรารู้สึกอร่อยนั่นก็คือถั่วแดงคือแบบอร่อยมาก
เดินไปเดินมาบังเอิญไปเจอกับ Gukje Market พอดีเลย เป็นอีกนึงตลาดขายอาหารชื่อดัง อาหารในตลาดนี้น่าจะอร่อยจริงๆเพราะว่าเห็นหลายๆร้านมีลูกค้าต่อแถวคิวยาวตลอดทางเลย
วันต่อมาเราไปที่ Songdo Beach หาดนี้อาจจะไม่คึกคักเท่า Haeundae beach น่าจะเป็นเพราะว่าวิวชายฝั่งทะเลไม่สวยมากเพราะว่าจะมีโขดหินเยอะ เห็นเรือขนส่งสินค้าและมีสิ่งปลูกสร้างค่อนข้างเยอะ
แต่ที่ที่ทำให้เราต้องมา Songdo Beach เพราะว่าจะมาดู Sky walk ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่หาดแห่งนี้
ทำทางสวยดีครับ ก็จะมีที่ให้เดินตรงเข้าไปที่ชุดชมวิวที่ใกล้ชิดกับทะเลมากๆ
ก็ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน
ที่ก็เป็นภาพบรรยากาศที่สุดขอบทางเดินจุดชมวิว จะได้เห็นวิวทะเลเป็นเต็มตา
เพื่อที่จะสัมผัสบรรยากาศแบบในหนัง Train to Busan เราก็เลยจะนั่งรถไฟไป Seoul ก็เลยกลายเป็น Train to Seoul แทนแต่พอเข้าไปนั่นในรถไฟแล้วคือแบบมันใช่เลยฉากเดียวกันกับในหนังเลย เห็นภาพที่กงยูปีนหลบซอมบี้บนชั้นวางของด้านบนเลย นั่งรถไฟไป Seoul ใช้เวลาแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง การเที่ยวเกาหลีของเรายังไม่จบเท่านี้ ตอนต่อไปเราจะไปบุกที่ Seoul จะมีอะไรน่าสนใจและสนุกแค่ไหนฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ ^_^
สามารถดูคลิปวีดีโอได้ตามลิ้งนี้เลย
Korea EP.1 - Busan
https://youtu.be/-R5r8bw0lp4
ฝากกดติดตามเพจ One free day ด้วยนะครับ
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ^_^
สามารถติดตามรีวิวอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ
Face book - One free day : เพจท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/onefreedaytravel/
IG - tae_thanit
https://www.instagram.com/tae_thanit/?hl=th
You tube - One free day
https://youtu.be/qeSDkPRABhU
[CR] One free day : Korea EP.1 เที่ยวปูซาน (Busan)
ถ้าพูดถึง Busan ใครหลายๆคนอาจจะนึกถึงหนังเรื่อง Train to Busan หรือไม่ก็พระเอกสุดหล่อตลอดกาลอย่างกงยู บางคนก็จะจำภาพ Busan จากหนังเรื่องนี้ซึ่งขอบอกเลยว่านั่นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น แต่ที่ Busan ยังมีสถานที่มากมายที่น่าสนใจที่เราไม่ได้เห็นในหนัง ที่รอให้เราได้ค้นหาและสัมผัสถึงเสน่ห์ความน่ารักของเมืองนี้
Busan เป็นเมืองที่เงียบสงบ,สะอาด และอากาศดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะมาพักผ่อนเติมพลังให้กับตัวเองในวันหยุดยาว รับรองได้ว่าหากใครได้ลองมาเที่ยวที่ Busan จะทำให้หลงรักประเทศเกาหลีมากขึ้นกว่าเดิม และอยากกลับมาที่ Busan อีกแน่นอน
ตอนแรกที่เพื่อนชวนไปเที่ยวเกาหลีเรารู้สึกเฉยๆไม่ค่อยอยากไปเพราะเคยไปที่ Seoul มาแล้ว แต่แค่อยากไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ก็เลยนั่นคิดว่าที่ในไหนเกาหลีที่ยังไม่เคยไป นั่นคิดสักพักก็ผุดคำว่า Busan ขึ้นมาในหัว ตอนแรกภาพในหัวคือคิดว่าเมืองชนทบธรรมดา เงียบๆเล็กๆไม่น่าจะมีอะไรมากแต่แค่อยากลองไปให้รู้ว่ามันเป็นยังไง คือตอนนั้นเรายังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ Busan หลังจากที่คิดว่าจะไปแล้วก็เลยมานั่นทำการบ้านวางแผนการเที่ยว ครั้งแรกที่เปิด Google หารูปด้วยคำว่า Busan ก็ถึงกับตะลึงถึงความสวยงามของหมู่บ้าน Busan Gamcheon culture village ซึ่งก็คือสถานที่คุณได้เปิดดูรูปอยู่ตอนนี้ รูปของหมู่บ้านนี้มันเราให้เรารู้สึกตื่นเต้น และทำให้อยากอยากไปเกาหลีอีกครั้งจากตอนแรกที่รู้สึกเฉยๆ แนะนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางในเกาหลีครั้งนี้ อย่ารอช้าไปลุยกันเลยดีกว่า
ที่แรกที่ไปจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก Busan Gamcheon culture village เพราะเป็นที่ที่ทำให้เราอยากมา Busan ที่สุดแล้ว การเดินทางก็ต้องนั่งรถบัสเพราะว่ามันตั้งอยู่บนเขาจึงไม่สามารถนั่นรถไฟไปถึงได้เลย รถบัสก็จะมาจอดบริเวณนี้เลยครับหน้าทางเข้าหมู่บ้าน
ช่วงระหว่างทางเดินขึ้นไปที่จุดชมวิวก็จะมีจุดให้เราได้ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
เดินเข้าไปอีกหน่อยก็เจอกับจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกจุดนึง เหมือนจะเป็นขั้นบันไดที่เค้าวาดรูปทาสีอย่างสวยงาม ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าตรงนี้คือจุดที่เค้ามาถ่ายรูปกัน ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกว่าสวยดีก็เลยถ่ายเล่นกับเพื่อนเพราะตอนนั้นยังไม่มีคนมาต่อแถวถ่ายรูป ก็เลยรู้สึกว่าโชคดีอีกแล้วที่ตอนไปมีคนถ่ายรูปอยู่แค่สองสามคน แต่พอเราถ่ายเสร็จมีคนมาต่อแถวถ่ายรูปประมาณสิบกว่าคน
จุดนี้คือไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ที่ใครมาจะต้องมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าชายน้อยตรงนี้ ตอนแรกก่อนมาถึงบอกกับเพื่อนว่าขี้เกียจถ่ายนะคนน่าจะเยอะเพราะดูรูปจากใน Google คนต่อแถวยาวมาก แต่โชคดีมากตอนที่เรามาคนน้อยมากต่อคิวไม่เกิน 5 คนเลยรีบเข้าไปถ่าย พอถ่ายเสร็จเดินออกมาเห็นคนต่อแถวยาวมากน่าจะเกิน 20 คน เลยรู้สึกว่าเรานี่โชคดีจริงๆมาถึงถ่ายได้เลยไม่ต้องรอนาน
เดินมาถึงจุดชมวิวของ Busan Gamcheon culture village วิวดีมากมองเห็นหมู่บ้านที่มีสีสันน่ารักตั้งอยู่บนภูเขาแบบเต็มๆ และยังสามารถถ่ายรูปคู่กับหมู่บ้านอันสวยงามแห่งนี้ได้อีก บรรากาศดีมากเราเลยนั่งพักที่บริเวณนี้เพื่อที่จะซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่
นั่งรถบัสไปต่อที่ Haedong Yonggung Temple ลงจากป้ายรถบัสต้องเดินต่อเข้าไปข้างในอีกไกลเลยเพราะว่าวัดแห่งนี้อยู่ริมชายฝั่งทะเล เดินมาเรื่อยๆก็จะเห็นตลาดก็แสดงว่าใกล้ถึงทางเข้าวัดแล้ว
เดินมาไกลมากในที่สุดก็ถึงแล้ว Haedong Yonggung Temple มาถึงแล้วหายเหนื่อยเลยเพราะว่าวัดสวยมาก บรรยากาศรอบๆวัดดีมาก ทำให้เรารู้สึกสงบและผ่อนคลาย แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าคนเยอะมากเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญชาวต่างชาติมาชมกันเยอะมาก รวมทั้งคนเกาหลีเองก็มากันเยอะเช่นกันเพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญลำดับต้นๆของประเทศเลย
ชอบตรงที่วัดอยู่ติดชายฝั่งทะเลสวยงามจริงๆ
แวะมาถ่ายรูปเล่นตามโขดหินรอบๆวัด และถ้าใครสังเกตเห็นหินที่ตั้งวางเรียงเป็นชั้นๆที่เรียงซ้อนไปซ้อนมาเหมือนเจดีย์อันเล็กๆ เค้าเรียกว่า โซมังทลทับ หรือ เจดีย์แห่งความปรารถนา เป็นความเชื่อเล็กๆของคนเกาหลีที่จะอธิฐานกับก้อนหิน ระหว่างที่ค่อยๆเรียง ก็ค่อยๆอธิษฐานแล้ววางซ้อนขึ้นให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญเค้าเชื่อว่าถ้าเรียงได้สูงสุดโดยไม่ล้ม และตั้งยืนยงอยู่เช่นนั้นความปรารถนาจะกลายเป็นจริงด้วย
วันต่อมาเราไปที่ Haeundae beach ด้วยความที่อยากเห็นชายหาดต่างประเทศว่าบรรยากาศจะเหมือนบ้านเราไหมก็เลยเลือกที่จะมาที่นี่ ในช่วงที่ไปอากาศยังไม่หนาวมากคนก็เลยสามารถลงไปเล่นน้ำกันได้อยู่ หาดสะอาดดีไม่มีขยะมีการจัดการที่ดี ใครที่อยากเล่นน้ำก็สะดวกเพราะว่ามีห้องน้ำให้อาบนี้ฟรีด้วย
มี street show ให้ดูด้วย หนึ่งสิ่งที่ชอบในเกาหลีนั่นก็คือตามที่สาธารณะต่างๆ เค้าจะมีการจัดพื้นที่ให้คนได้มาแสดงความสามารถไม่ว่าจะเป็น เต้น,ร้องเพลง หรือการแสดงต่างๆ และก็จะมีคนมานั่งดูนั่งเชียร์หากใครที่ชื่นชอบก็สามารถให้เงินเค้าได้ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักแสดงได้ทำในสิ่งที่รักต่อไป เป็นวัฒนธรรมที่น่ารักดีครับ
ที่หาดก็มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA LIFE Busan Aquarium หากใครที่สนใจก็ลองแวะเข้าไปดูได้นะครับ รอบนี้เราไม่ได้เข้าเพราะว่าวางแผนจะไปที่อื่น
ตรงข้ามกับชายหาดก็จะเป็นถนน Gunam-ro ซึ่งเป็นแหล่ง shopping มีทั้งร้านอาหาร และเครื่องสำอางต่างๆ ในวันที่เราไปพอดีมีจัดงานเทศกาลและตลาดนัดพอดีก็เลยดูคึกคักกว่าปกติ
ภายในถนน Gunam-ro จะมีซอยนึงเข้าไปจะเจอกับ Haeundae Market เป็นตลาดขายอาหารทะเลชื่อดัง จะขายอาหารทะเลยาวตลอดทั้งซอย
วันต่อมาเขาจะไปที่ Busan tower ตังอยู่บนภูเขาต้องเดินขึ้นเขายาวอีกแล้ว T_T แต่บรรยากาศดีมากเลยมีต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่นตลอดทาง ซึ่งตอนขากลับเรากลับมาพบว่ามันมีทางเข้าอีกทางนึงที่มีบันไดเลื่อนเป็นทางเชื่อมไปที่ตลาดนัมโพดง T_T (ขอร้องไห้อีกรอบ)
เดินมาถึงซะที Busan tower ค่าเข้าชมไม่แพงเลยแค่ 8,000 วอนเอง
นี่ก็เป็นวิวของเมือง Busan ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นเมืองที่เจริญไม่แพ้ที่ Seoul เลย
หลังจากลงมาก่อนทางออกก็จะมีห้องให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกัน ก็ประทับใจนะเพราะตอนไปไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้ด้วย
ห้องแรกก็จะเป็นเหมือนห้องที่ทำเหมือนภาพในหนังสือการ์ตูนลายเส้นขาวดำ
ห้องต่อมาจะเป็นห้องที่เล่นกับแสงไฟ
ต่อมาเป็นห้องที่ใช้สีเรืองแสง
ชมวิวเสร็จก็ไปต่อที่ Nampodong Street เป็นแหล่ง shopping ชื่อดังใน Busan มีทั้งเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง และร้านอาหาร คิดว่าน่าจะเป็นแหล่ง shopping ที่คึกคักที่สุดใน Busan คนเดินเยอะมาก
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ของแบรนด์เนม เพราะเดินเข้าไปเรื่อยๆก็เจอกับตลาดที่มีขายของทั่วๆไปอีกด้วย
Street food ก็มีให้เลือกกินอย่างหลากหลาย ตลาดใหญ่มากเดินไปกินไปน่ากินทุกอย่าง
ถือโอกาสลองกินบิงซูต้นตำหรับที่ประเทศเกาหลี นี่คือหน้าตาบิงซูแบบดั้งเดิมก็จะเหมือนกับน้ำแข็งใสบ้านเราตาจะใส่เครื่องเยอะหน่อย เครื่องส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ต่างๆ แต่ที่ทำให้เรารู้สึกอร่อยนั่นก็คือถั่วแดงคือแบบอร่อยมาก
เดินไปเดินมาบังเอิญไปเจอกับ Gukje Market พอดีเลย เป็นอีกนึงตลาดขายอาหารชื่อดัง อาหารในตลาดนี้น่าจะอร่อยจริงๆเพราะว่าเห็นหลายๆร้านมีลูกค้าต่อแถวคิวยาวตลอดทางเลย
วันต่อมาเราไปที่ Songdo Beach หาดนี้อาจจะไม่คึกคักเท่า Haeundae beach น่าจะเป็นเพราะว่าวิวชายฝั่งทะเลไม่สวยมากเพราะว่าจะมีโขดหินเยอะ เห็นเรือขนส่งสินค้าและมีสิ่งปลูกสร้างค่อนข้างเยอะ
แต่ที่ที่ทำให้เราต้องมา Songdo Beach เพราะว่าจะมาดู Sky walk ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่หาดแห่งนี้
ทำทางสวยดีครับ ก็จะมีที่ให้เดินตรงเข้าไปที่ชุดชมวิวที่ใกล้ชิดกับทะเลมากๆ
ก็ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน
ที่ก็เป็นภาพบรรยากาศที่สุดขอบทางเดินจุดชมวิว จะได้เห็นวิวทะเลเป็นเต็มตา
เพื่อที่จะสัมผัสบรรยากาศแบบในหนัง Train to Busan เราก็เลยจะนั่งรถไฟไป Seoul ก็เลยกลายเป็น Train to Seoul แทนแต่พอเข้าไปนั่นในรถไฟแล้วคือแบบมันใช่เลยฉากเดียวกันกับในหนังเลย เห็นภาพที่กงยูปีนหลบซอมบี้บนชั้นวางของด้านบนเลย นั่งรถไฟไป Seoul ใช้เวลาแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง การเที่ยวเกาหลีของเรายังไม่จบเท่านี้ ตอนต่อไปเราจะไปบุกที่ Seoul จะมีอะไรน่าสนใจและสนุกแค่ไหนฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ ^_^
สามารถดูคลิปวีดีโอได้ตามลิ้งนี้เลย
Korea EP.1 - Busan
https://youtu.be/-R5r8bw0lp4
ฝากกดติดตามเพจ One free day ด้วยนะครับ
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ^_^
สามารถติดตามรีวิวอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ
Face book - One free day : เพจท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/onefreedaytravel/
IG - tae_thanit
https://www.instagram.com/tae_thanit/?hl=th
You tube - One free day
https://youtu.be/qeSDkPRABhU
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้