สำหรับฅนเหล็กภาคนี้ ผมคาดหวังในระดับนึงครับว่าหนังมันน่าจะออกมาเข้าท่ากว่าภาคอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะหนังได้ James Cameron กลับมาเขียนบทให้เหมือนเดิม และยังได้ Tim Miller(มีผลงานการกำกับมาแล้วใน Deadpool ซึ่งทำได้เด็ดมาก) มาทำหน้าที่กำกับหนังฅนเหล็กภาคนี้ ผมเลยหวังครับว่าหนังน่าจะออกมาสนุกแหละน่า
30 ปี หลังจากที่ “ซาร่า คอนเนอร์” (ลินดา แฮมิลตัน) เอาชนะ T 1000 และปกป้องลูกชายเอาไว้ได้ แต่ทว่า นักฆ่าจักรกลจากโลกอนาคต ยังมาไม่หยุดหย่อน ทำให้ซ่าร่ายังคงต่อสู้กับพวกหุ่นเหล็กหลอมจนอายุเข้าสู่วัยชราเต็มขั้น ซึ่งในครั้งนี้ ซาร่า จะต้องคุ้มกันเด็กสาวที่ชื่อว่า “ดานี่ รามอส” (นาตาเลีย เรเยส) และช่วยเหลือไซบอร์กสาว “เกรซ” (แม็คเคนซี่ เดวิส) ในการปกป้องเธอ และเรื่องราวในภาคนี้ จะเป็นการย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้นของหุ่นเหล็ก T-800 (อาร์โนลด์ ชวาเซเน็กเกอร์) ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และอาจจะถึงขั้นไขความลับของสกายเนตที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
จะว่าไปนี่ก็เป็นภาคต่อ(ที่แท้จริง ภาค 3-5 นี่เป็นภาคคั่นเวลา)ที่ห่างหายไปนานพอสมควรครับ จำได้ว่าฅนเหล็กภาคแรกนี่ 35 ปีที่แล้วเลยนะ(OMG! นานมาก) ภาคนี้เลยเป็นการกลับมาที่แฟนๆ น่าจะหายคิดถึงครับ ส่วนตัวผมนั้นไม่ถึงกับเป็นแฟนตัวยงของเฟรนไชส์นี้ แต่ก็ตามดูทุกภาค ภาคแรกนั้นหลายคนบอกว่าสนุกสนุก แต่ส่วนตัวผมดูแล้วค่อนไปทางเฉยๆ ไม่ได้เลิฟอะไรมาก แต่ภาคที่ผมเลิฟมากๆ ต้องยกให้ภาคสองครับ เป็นภาคที่ผมดูซ้ำหลายรอบมาก จำได้ว่าตอนเด็กถึงกับให้พ่อซื้อแผ่นมาให้ดูเลย เพราะแอคชั่นมันสนุกครับ แถมดำเนินเรื่องน่าติดตาม ส่วนภาคสามที่หลายคนบอกว่าอ่อนลง ส่วนตัวผมดูแล้วไม่ได้ติดอะไรมากนะครับ ออกไปทางสนุกด้วยซ้ำ Salvation นี่ก็ไม่เลวครับ ส่วน Genisys ที่หลายคนบอกว่าห่วยบรม ผมดูผมยังชอบเลย ส่วนภาค Dark Fate นี้..... บอกเลยครับว่าผมชอบรองลงมาจากภาคสองเลย
แม้คอนเซปต์ของหนังจะซ้ำซากไปบ้าง(เปลี่ยนแค่ชื่อตัวละครแต่เนื้อเรื่องคงเดิม) แต่ผมว่า Miller กำกับได้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว ผลออกมาเลย "ถึงแม้จะไม่ใหม่ แต่มีหัวใจและเสน่ห์ที่ฅนเหล็กภาคแรกๆ มี" รสชาติของภาคนี้เลยอร่อยและคล่องคอกว่าที่คาดไว้ครับ ถึงแม้จะรู้รสอยู่แล้ว แต่พอได้กินแล้วก็อร่อยถูกปากดีนะ
และถึงแม้เนื้อเรื่องจะสูตรเดิม แต่การดำเนินเรื่องของหนังนั้นน่าติดตามครับ ช่วงแรกนี่จัดเต็มมากในฉากแอคชั่น ดูแล้วลุ้นครับ ลุ้นสุดโต่ง แถม CG ก็ไม่ได้ขี้เหร่เหมือนในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาเลย(ในตัวอย่างแรกคือลอยแบบทุเรศมาก) ช่วงกลางมีผ่อนบ้างแต่ก็ยังโอเค และช่วงท้ายที่ไม่มีช่วงให้พักเลยครับ ใส่กันมันส์โคตร และปิดท้ายได้อย่างสวยงาม เลยไม่แปลกครับที่ผมจะเพลินกับหนังมากกว่าที่คาดไว้
ในด้านบทก็นับว่าโอเคเลยครับ ถึงแม้จะมีบางจุดที่รู้สึก "เอ๊ะ!" ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดันทุรังเหมือนภาค Genisys แถมยังสร้างตัวละครใหม่มาได้มีเสน่ห์สุดๆ ส่วนตัวผมชอบตัวละคร "เกรซ" มากครับ หลายฉากเธอเท่ห์มาก มิติในเรื่องเธอก็ค่อนข้างเด่น เลยกลายเป็น 1 ในตัวละครในหนังเฟรนไชส์นี้ที่ผมชอบมากที่สุด ส่วนตัวละคร "REV-9" ผมก็ชอบครับ พิษสงเยอะดี ในขณะที่ตัวละคร "แดนี่"
ไม่ใช่แม่มังกร) ผมเฉยๆ กับเธอ แต่การแสดงไม่ได้ขี้เหร่ครับ พอถูไถไปได้
ส่วนตัวละครเก่า ผมว่ามนต์ขลังจากภาคแรกๆ ช่วยทำให้ตัวละครเหล่านี้เด่นโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเยอะเลย แค่พูดว่า "I'll Be Back." ก็โคตรเท่ห์แล้วครับ ซึ่งแม่ Linda Hamilton ก็เล่นได้สมราคามากๆ เล่นเอาแม่มังกรเอาหัวมุดโอ่งแทบไม่ทันเลย และป๋า Arnold Schwarzenegger ที่ก็ไม่ต้องทำอะไรมากเช่นกันครับ แค่เดินมาแบบนิ่งๆ ก็ได้ใจผมไปหมดละ
แต่ที่ผมรู้สึกดีเป็นพิเศษหน่อยก็คือ "พากย์ไทย" ครับ ผมไปดูมาแล้ว 2 รอบ รอบแรกเป็นรอบ Soundtrack ส่วนรอบที่สองเป็นภาคไทย ซึ่งรู้สึกโคตรคิดถึงเลยครับที่เอาทีมพากย์อินทรีย์มาแจมด้วย เพราะผมดูฅนเหล็กภาคสองแบบเสียงไทยครับ แล้วเสียงพากย์ของแม่ Linda ก็ค่อนข้างติดหูผมจนมาถึงทุกวันนี้ ก็ต้องขอขอบคุณทาง Thailandfox ด้วยครับที่เอานักพากย์คนเดิมมาพากย๋เสียงให้ ทำให้ผมหายคิดถึงเสียงพากย์ที่ผมโตมาด้วย ขอบคุณจริงๆ ครับ
สรุปแล้ว Terminator: Dark Fate เป็นการกกลับมาของฅนเหล็กที่ไม่เสียของเก่า และทำให้ขลังมากขึ้นด้วย ถึงแม้หนังจะไม่ได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง แต่ในฐานะหนังฅนเหล็กและหนังแอคชั่น ผมว่าไม่เลวเลยนะครับสำหรับการกลับมาครั้งนี้
คะแนนเฉลี่ยรวม : 8.5/10
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
[CR] [##REVIEW##] Terminator: Dark Fate (2019) ฅนเหล็ก: วิกฤตชะตาโลก | เหล้าเก่าในขวดใหม่ [ไร้ส้มป่อย]
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้