ทีมไหนทำได้บ้างย้อนรอย 3 อันดับเกมพรีเมียร์ลีกที่สกอร์ขาดลอยที่สุด

ที่จริงหลายคนก็คิดอยู่แล้วว่า เลสเตอร์ ซิตี้ น่าจะบุกไปชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ถึงสนาม เซนต์ แมรี่ส์ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมาได้ไม่ยากเท่าไหร่ เพราะก่อนลงเล่นเกมนี้ทัพ "สุนัขจิ้งจอก" ก็เป็นถึงอันดับ 3 ในตารางคะแนน ส่วน "นักบุญ" อยู่ในโซนหนีตกชั้น แต่มันก็ไม่มีใครคาดคิดว่าทีมเยือนจะเอาชนะขาดลอยถึง 9-0 แบบนี้



อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของศึก พรีเมียร์ลีก ที่สกอร์ขาดลอยสุดๆ เพราะในอดีตก็เคยมีทีมที่ไล่ต้อนคู่แข่งจนหาทางกลับบ้านแทบไม่ถูกมาแล้ว โดยวันนี้เราจะมาดูเกมที่สกอร์ขาดลอยที่สุด 3 อันดับแรกในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก กัน ซึ่งเราจะไม่ขอพูดถึงผลงานนัดล่าสุดของ เลสเตอร์ เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ จนหลายคนก็รู้รายละเอียดดีอยู่แล้ว และบอกเลยว่ามันไม่ได้มีแค่ 3 เกม เพราะมันมีหลายนัดที่ชนะด้วยสกอร์ขาดลอยเท่ากัน
 
อันดับ 3 ร่วม - เชลซี (เหย้า) ชนะ วีแกน (เยือน) 8-0 : ปี 2010

ก่อนลงเล่นนัดดังกล่าว ซึ่งเป็นเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2009-10 นั้น เชลซี กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ โดยทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" อยู่ในจุดที่ได้เปรียบ เพราะมีคะแนนมากกว่าอีกฝ่าย 1 แต้ม นั่นหมายความว่าถ้าพวกเขาเก็บชัยชนะได้ พวกเขาก็จะการันตีการเป็นแชมป์โดยที่ไม่ต้องสนผลก่ารแข่งขันของ "ปีศาจแดง" ที่ในวันเดียวกันเปิดบ้านเจอ สโต๊ค ซิตี้



ทั้งนี้ เชลซี ก็ทำภารกิจได้ตามเป้าหมาย และพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจแค่มาชนะเพียงไม่กี่ลูกด้วย เพราะเล่นไล่ถล่ม วีแกน จนอีกฝ่ายแทบหาทางกลับบ้านไม่ถูก โดยในวันนั้น ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ทำแฮตทริกได้ ขณะที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ทำไป 2 ประตู ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู และ แอชลี่ย์ โคล ทำไปคนละ 1 ลูก โดยมันยังทำให้ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ เป็นทีมในอังกฤษที่ทำประตูในเกมลีกได้อย่างน้อย 7 ลูกถึง 4 นัด ภายในฤดูกาลเดียวด้วย

อันดับ 3 ร่วม - แมนฯ ซิตี้ (เหย้า) ชนะ วัตฟอร์ด (เยือน) 8-0 : ปี 2019

หลังจากออกไปแพ้ นอริช ซิตี้ แบบสุดช็อก 2-3 ในราว 1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ทีมของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก็ตั้งใจจะแก้ตัวให้ได้ในเกมที่พวกเขาเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาก็ขึ้นนำตั้งแต่ 52 วินาทีแรกของเกมจาก ดาบิด ซิลบา



เกมบุกอันดุดันของ "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เพราะพวกเขามาได้เพิ่มอีก 4 ประตูตั้งแต่ยังไม่ครบ 20 นาทีแรกของการแข่งขัน ประกอบด้วยลูกจุดโทษของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ในนาทีที่ 7, ผลงานของ ริยาด มาห์เรซ ในนาทีที่ 12, ประตูของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ในนาทีที่ 15 และผลงานของ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ในนาทีที่ 18 ก่อนที่ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ จะมาได้อีก 3 ลูกจากการทำเพิ่ม 2 ประตูของ ซิลวา และอีก 1 ลูกของ เควิน เดอ บรอยน์

\

ผลการแข่งขันที่ออกมาทำให้หลายคนคิดว่านั่นจะเป็นสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสกอร์ที่ขาดลอยกว่านั้นในอีกไม่กี่เดือนต่อมา

อันดับ 3 ร่วม - เชลซี (เหย้า) ชนะ แอสตัน วิลล่า (เยือน) 8-0 : ปี 2012

ราว 2 ปีหลังจากที่ถล่ม วีแกน แบบหมดสภาพ มันก็มีเหยื่อที่โดน เชลซี รัวใส่ถึง 8 ลูกอีกครั้ง โดยเกมนั้นนักเตะ เชลซี ทำประตูได้ถึง 7 คน ประกอบด้วย 2 ลูกของ รามิเรส และอีกคนละ 1 ประตูจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาวิด ลุยซ์ และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช



สำหรับลูกแรกของเกมนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่นาทีที่ 3 โดยเป็นผลงานของ ตอร์เรส และที่จริงสกอร์มันเกือบจะขาดลอยมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ยังดีที่ ลูกัส ปิอาซอน ดาวเตะชาวบราซิเลียนของ เชลซี ยิงลูกจุดโทษในนาทีที 89 ไม่เข้า ซึ่งนี่ถือเป็นเกมเดียวในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่มีนักเตะจากทีมๆ หนึ่งทำประตูได้ถึง 7 คนต่อ 1 เกม แถมมันยังเป็นชัยชนะในเกมฟุตบอลอังกฤษที่ขาดลอยที่สุดของ ราฟาเอล เบนิเตซ ด้วย

อันดับ 3 ร่วม - นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (เยือน) 8-0 : ปี 1999

วันที่ 19 กันยายน ปี 1999 ถือเป็นวันที่ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน ได้คุม นิวคาสเซิ่ล ลงเล่นที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นครั้งแรก หลังจากที่ รุด กุลลิท ลาออกจากการเป็นกุนซือ นิวคาสเซิ่ล เพื่อแสงความรับผิดชอบจากการที่พาทีมแพ้ในลีกถึง 4 เกมจาก 5 นัดแรก ซึ่งคู่แข่งของ ร็อบสัน ก็คือ เชฟฯ เว้นส์เดย์



ที่จริงก่อนหน้าที่จะถึงนัดดังกล่าว ร็อบสัน ก็พาทีมไปเยือน เชลซี มาก่อนแล้ว แต่วันนั้นทีมของเขาแพ้ 0-1 ทำให้เจ้าตัวต้องการแก้ตัวให้ได้ และ ร็อบสัน ก้ทำให้เหล่า "ทูน อาร์มี่" ได้กระโดดโลดเต้นแทบจะตลอดทั้งเกม โดยวันนั้น อลัน เชียเรอร์ ทำไปคนเดียวถึง 5 ประตู ส่วนอีก 3 ลูกเป็นผลงานของ อาร่อน ฮิวจ์ส, คีรอย ดายเออร์ และ แกรี่ สปีด

อันดับ 3 ร่วม - สเปอร์ส (เหย้า) ชนะ วีแกน (เยือน) 9-1 : ปี 2009

ตอนแรกนี่เป็นเกมที่ทำท่าว่าจะหนักพอตัวสำหรับ สเปอร์ส เพราะหลังจากได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 9 ด้วยผลงานของ ปีเตอร์ เคร้าช์ แล้วนั้น พวกเขาก็ยิงเพิ่มในครึ่งแรกไม่ได้เลย นั่นหมายความว่าพวกเขายังเสี่ยงที่จะโดนตีเสมอได้ในครึ่งหลัง



อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะในครึ่งหลังเจ้าถอ่นมารัวเพิ่ม 8 ลูก โดยคนที่ได้เฮมากกว่าชาวบ้านคือ เจอร์เมน เดโฟ ที่ทำไป 5 ประตู ส่วนอีก 3 ลูกมาจาก อารอน เลนน่อน, เดวิด เบนท์ลี่ย์ และ นิโก้ ครันชาร์ โดยเกมนั้นทำให้ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่มีนักเตะยิงในเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างน้อย 5 ลูกในนัดเดียว

อันดับ 1 (ที่เพิ่งโดนทาบ) - แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า) ชนะ อิปสวิช (เยือน) 9-0 : ปี 1995

ในช่วงต้นฤดูกาล 1994-95 แมนฯ ยูไนเต็ด เคยออกไปแพ้ อิปสวิช ที่บ้านของอีกฝ่าย 2-3 ด้วยเหตุนี้ พอถึงเดือนมีนาคมของปี 1995 ทีมของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็หมายมั่นปั้นมือที่จะแก้ตัวให้ได้



สุดท้ายแล้ว "ปีศาจแดง" ก็เอาคืนแบบสาแก่ใจ จากการชนะไปแบบขาดลอยจนเป็นสถิติสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก โดยพระเอกในเกมนั้นคือ แอนดี้ โคล ที่รัวไป 5 ประตู ขณะที่ มาร์ค ฮิวจ์ส ทำได้ 2 ลูก ส่วนอีก 2 ประตูมาจาก รอย คีน กับ พอล อินซ์ ซึ่งเกมนี้ก็ครองสถิติแบบเดี่ยวๆ มาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะโดน เลสเตอร์ ทาบรัศมี



 นอกจากนี้ ถึงแม้จะชนะขาดลอยแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้วในซีซั่น 1994-95 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องผิดหวังอยู่ดี เพราะพวกเขาจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับ 2 ในลีก โดยมีคะแนนน้อยกว่า แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1 แต้ม

credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่