นั่งนึกเล่นๆ ว่าเคยใช้มือถือมากี่เครื่องแล้วนะตั้งแต่เครื่องแรกที่จำได้จนถึงปัจจุบัน ทำไปทำมานี่ก็เปลี่ยนมือบ่อยใช่ย่อยเหมือนกันนะเนี่ย ก็ว่าอยู่ตอนนั้นทำไมเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่ว่าไม่มีเงินเก็บเหลือเลย 555+ ขนาดว่าที่บ้านให้เงินใช้ปกติ มีค่าเทอมให้ มีเงินไปโรงเรียนทุกวัน ถึงจะไม่ได้รวย แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ที่ออกไปทำงาน Part time ตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมก็เพราะว่าเบื่อๆ กับการอยู่บ้านฟังพ่อบ่นแค่นั้นเอง นี่ก็ปาไป 20 กว่าเครื่องแล้วนะเนี่ย ฟุ่มเฟือย
ดดด แต่ที่เมื่อก่อนเปลี่ยนมือถือบ่อยๆ ได้ ส่วนนึงก็เพราะว่าราคาตอนเอาไปเทรินเครื่องใหม่ราคามันยังดีอยู่ ก็เลยซื้อได้บ่อย เพิ่มเงินไม่เท่าไหร่ก็ได้เครื่องใหม่แล้ว ถ้าราคาแรงมาก ก็เก็บเงินเพิ่มหน่อย ไม่เหมือนสมัยนี้ ออกรุ่นใหม่ๆ มาถี่เหลือเกิน ราคาดิ่งลงเหวเร็วเว่อร์ หลังๆ เลยไม่ค่อยได้เปลี่ยนละ อ่ะ...มาลองดูกันเท่าที่นึกได้ (จริงๆ มีเยอะกว่านี้อีก นึกออกแค่นี้)
Alcatel OT300 (หารูปที่เหมือนไม่เจอ แต่ทรงนี้แหละ สีเงินทั้งเครื่อง)
มือถือเครื่องแรกที่ใช้ ไม่ใช่ Nokia หรือ Motorola นะ แต่เป็น Alcatel OT300 เครื่องนี้อยู่ดีๆ แม่ก็ถามว่า "ซื้อมือถือให้เอาป่าว?" เปิดมาขนาดนี้ ไม่เอาก็โง่ดิ ไปซื้อเลยจร้า แต่ว่าเครื่องแรกราคาไม่แรงนะ เจ็ดพันกว่าบาทมั๊ง ซื้อที่ DTAC โทรนาทีละ 5 บาท ซ์้อบัตรเติมเงินมาแล้วก็ขูดๆ เติมเงินกัน ไม่แน่ใจเรื่องปีที่ซื้อ น่าจะตอนปี 2000 พอดี เสียงเรียกเข้าอู้ๆ อี้ๆ ตลกดีนะ มีเมนูภาษาไทย (สมัยนั้นมือถือยังไม่ค่อยมีภาษาไทยในเครื่อง) แต่พิมพ์ภาษาไทยไม่ได้นะ เวลาชาร์จต้องตั้งกับแท่นชาร์จ มีความเกร๋ตรงปุ่มกลาง สำหรับเลื่อนเมนูที่เป็นเหมือนจอยสติ๊ก ดันขึ้น ลง และกดลงตรงๆ ได้ ปุ่มรับสาย กับวางสายเป็นปุ่มเดียวกัน ไฟหน้าจอสีส้มสวยงาม แบตด้านหลังเหมือนเอาถ่าน AAA สามก้อนมาติดกัน นี่แอบคิดเองว่าถ้าแบตหมด อยากจะลองเอาถ่าน AAA ใส่เองดูน่าจะใช้ได้เหมือนกัน ที่สำคัญแต่ง Ringtone ได้อยู่เด้อออ ซ์้อสมุดมา แล้วก็เลือกเพลง จิ้มๆ กดๆ กันไป ตอนนั้นจำได้ว่าใช้เพลง ธรณีกรรแสง เป็นเสียงเรียกเข้า เพราะคิดว่าเหมาะกับเสียงลำโพงเครื่องที่สุดละ
MOTOROLA T300
เครื่องต่อมาที่ใช้เป็น motorola t300 ตัวนี้เลย จำได้เลยว่า Orenge แจกฟรี หรือถ้าจะเอาเป็น Nokia 3310 ต้องเพิ่มเงินซ์้อเครื่อง (ตอนนี้เป็น True แล้ว) นี่ไปนั่งรอต่อคิว รอรับเครื่อง เลือกเบอร์เองได้ด้วยนะ เบอร์สวยจริงๆ ไม่อยากโม้ ทุกวันนี้ยังเก็บเบอร์นี้ไว้ใช้อยู่เลย เรียกได้ว่าเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ตั้งแต่สัญญานไม่ค่อยจะมี ไปต่างจังหวัดที เป็นสากกะเบือไปเลย 555+ เครื่องไม่รองรับภาษาไทย แถมใหญ่กว่าเครื่องก่อนหน้าที่ใช้อีก ไม่รู้เอามาทำไมเหมือนกัน ไฟหน้าจอสีเขียวๆ จำได้ว่าถ้าเปิดเสียงเครื่องจะไม่สั่น ถ้าเปิดสั้น เครื่องจะไม่มีเสียงด้วยนะ ก็เลยเอา OT310 กลับมาใช้ เครื่องนี้ก็ให้พ่อไป พ่อใส่ซองหนัง มีที่เหน็บเอวด้วยนะ อิอิ
Motorola V50
พอเริ่มทำงาน Part time เก็บเงินได้บ้าง ก็ไปถอย Motorola V50 มาใช้ เกร๋ๆ จริงๆ อยากได้ V ยิ้ม (V8088) มากกว่า แต่ว่าราคาน่ากลัวมากเว่อร์ เอาที่คล้ายๆ ละกัน เป็นฝาพับเหมือนกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่ราคาไม่แรงเท่า สมัยนั้นถือว่า Cool มากแล้ว ถ้าไม่นับพวก Nokia 3310 หรือ 3210 นะ จริงๆ ตอนนั้นก็อยากได้ แต่ชอบความเป็นมือถือฝาพับมากกว่า ถึงจะอยากเล่นเกมส์งูก็เถอะ ยืมเพื่อนเล่นเอาก็ได้เหมือนกัน ตอนนั้นก็ซื้อสาย ห้อยคอกันสิ มือถือใครเค้าใส่กระเป๋ากัน ห้อยคอโชว์ไปจร้า ไม่มีใครโทรมาหรอก
Motorola T109
ก็หมวยนี่คะ...ม่ายช่าย อันนั้นมัน Motorola T191 เครื่องนี้มาตอนปี 2002 ราตรีพอดี ตอนนั้น motorola t191 กำลังดังเลย แต่ว่าราคาก็มาพอๆ กับความดังเช่นกัน เพราะฉะนั้น เหมือนเดิมครับ เราเอาตัวรองลงมา ที่เปิดตัวไล่เลียกัน เป็น Motorola T190 แทน ทรงเหมือนกัน รูปร่างเดียวกัน ต่างกันตรงวัสดุปุ่มกดนิดหน่อย ที่เหลือแทบไม่มีอะไรต่างกันเลย นอกจากราคา ที่สำคัญตอนนี้มือถือส่วนใหญ่รองรับภาษาไทยแล้ว เซฟชื่อลง Sim กันไว้เป็นภาษาไทยได้แล้ว (อย่าลืมนะ ไม่เกิน 7 ตัวอักษร) พร้อมรับส่งข้อความภาษาไทยกันได้ จำได้ว่าตอนไปเข้าค่าย รด. ที่เขาชนไก่ก็เอาไปด้วย แบตยังเหลือกลับมา ไม่ต้องชาร์จ เครื่องนี้ยอมรับว่าชอบมากที่สุดเครื่องนึงเลย ขนาด รูปทรง น่ารักมาก ห้อยคอโชว์ได้ ไม่อายใคร ก่อนจะลาโลกไป เพราะว่าหลานเอาเครื่องไปแช่น้ำมันมวย ไม่รู้คิดอะไร แต่ต้องยอมรับในความพยายามที่หลานปีนขึ้นโต๊ะหยิบไปตอนไหนก็ไม่รู้ นี่ก็ว่าทั้งวันมือถือไม่ดังเลยแปลกจัง พอเดินไปจะหยิบมือถือมาเล่นซะหน่อย (มีเกมงูนะเออ) เครื่องยุ่ยไปเลยจร้า แบบว่าเอานิ้วถูแล้วมือถือมันยุ่ยๆ ติดกับเล็บไปเลย ซิมเหลือง หอมกรุ่นกลิ่นน้ำมันมวย พังพินาศไปจร้า
siemens S45
จากเหตุการณ์ฆาตกรรม Motorola T109 ไปแล้ว อาเจ็ก (พ่อของหลาน) ก็เลยเอาเครื่องนี้มาให้ใช้แทนเครื่องที่พังไป เป็น siemens S45 ต้องบอกว่าสมัยนั้น siemens เป็นมือถือ hi end ที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (มือถือจอสีเครื่องแรกของโลกไม่ใช่ Nokia นะ แต่ว่าเป็น siemens พอดีอาเจ็กเปลี่ยนไปใช้รุ่นนั้นพอดี เลยเอาเครื่องนี้มาให้) ก็เลยพอรับได้ แต่ก็ติดอยู่ตรงที่เครื่องไม่รองรับภาษาไทย แต่ว่าเกร๋ไกร๋ ไฮโซ เครื่องเข้า internet ได้ ซึ่งไม่ได้ใช้ แต่ก็ใช้อยุ่ไม่นาน รู้สึกไม่ชอบ ไม่คุ้นมือ ใช้งานยากยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็เลิกใช้ไป
Nokia 8250
มาแล้วจร้า Nokia เครื่องแรก (มือสอง) เครื่องนี้น่าจะออกมาสองสามปีแล้ว แต่ด้วยความอยากได้ ก็เลยไปซ์้อมาใช้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ถือว่าเก่า หรือเชยนะ ไม่เหมือนกับเดี่ยวนี้ ออกมาไม่นานก็ตกรุ่นไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่ใฝ่ฝันอยากได้ ใครๆ ก็ต้องอยากถือเจ้า Nokia8250 หรือว่าเจ้าผีเสื้อจอฟ้ารุ่นนี้กันแน่ๆ หล่ะ ในสมัยนั้น ทั้งรูปทรง ทั้งขนาด ชอบไปหมด พอมือถือดัง ไฟหน้าจอติดเป็นสีฟ้าขึ้นมา เป็นอันรู้ว่าใช้เจ้าผีเสื้อ Nokia8250 hiso แน่นอน ถึงจะไม่ได้ใหม่ แต่ราคาลงมาหน่อยแล้วพอซื้อได้
sony ericsson t100
ใครยังจำได้ กับมือถือเดินได้อยู่บ้างนะ sony ericsson t100 ตัวนี้ มาพร้อมกับจอสีฟ้า ภาพหน้าจอน่ารักๆ และที่สำคัญ "เดินได้" รุ่นน้องๆ น่าจะงง คือตอนนั้นเค้าโฆษณาว่ามือถือเดินได้ เพราะเวลาเอาเครื่องตั้ง (ตามรูป) แล้วพอมีคนโทรเข้ามา เครื่องสั่นๆ แล้วมันจะขยับได้เพราะแรงสั่น แค่นั้นแหละ สิ่งที่ทำคือ ซื้อมาใช้งานอ่ะไม่เท่าไหร่ หลักๆ คือตั้งไว้ แล้วเอามือถือเพื่อนโทรเข้า ให้มันเดิน เพื่อ!? แต่ส่วนตัวชอบเสียงปุ่มกดของ Ericsson เป็นการส่วนตัว รู้สึกว่าเสียงน่ารัก อันนี้เป็นรุ่นแรกๆ ที่เริ่มรวม Ericsson เข้ากับ Sony ถ้าจำไม่ผิด เพราะว่าก่อนหน้านี้ Ericsson เป็นมือถือที่แพงมากยี่ห้อนึงเลยหล่ะ มีหลายรุ่นของ Ericsson ที่อยากได้ แต่ไม่มีปัญญาซื้อจริงๆ แต่เจ้า T100 นี่ก็ใช้ไม่นาน น่าจะไม่กี่เดือนนะ จำไม่ได้แล้ว
Nokia 2300
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น Nokia 2300 ตัวนี้นั่นเอง หลักๆ เพราะว่าฟังวิทยุได้ เวลาไปไหนมาไหน ก็เสียบหูฟัง ฟังวิทยุ ฟังเพลงไปเรื่อย ถ้าจำไม่ผิดมี Nokia รุ่นอื่นๆ ที่ฟังได้เหมือนกัน แต่ว่ารุ่นนี้ราคาไม่แพงมาก ก็เลยเลือกซ์้อมาเป็นรุ่นนี้แทน แต่ก็เหมือนเดิม ใช้แปปเดียว ไม่นานก็ส่งต่อให้แม่ไปใช้งานต่อ
Panasonic GD55
นี่เลยจร้า Panasonic GD55 เครื่องต่อมา เหมือนเดิม ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเล็ก น่ารัก เล็กสุดแล้วมั๊งยุคนั้น จะมียุคนึงที่โทรศัพท์มือถือแข่งกันเล็ก เล็กลงๆ ใครเล็กสุดชนะ ว่างั้น!! เจ้า Panasonic GD55 ตัวนี้ก็ถือว่าเล็กที่สุดในโลกเครื่องนึงเลยแหละ แต่ว่ารูปทรงน่ารักมาก ก็เลยสอยมาใช้อยู่แปปนึง ไม่น่าจะเกินสองเดือนนะ ถ้าจำไม่ผิด ช่วงนั้นเปลี่ยนบ่อยจริงๆ จนจำไม่ได้แล้วทั้งรุ่นที่ใช้ก่อนหลัง รวมไปถึงระยะเวลา
Siemens SL55
อีกหนึ่งมือถือที่ภูมิใจว่าเคยใช้ เมื่อเข้าสู่ยุคโทรศัพท์มือถือจอสีแล้ว Siemens SL55 ถึงจะมีจอสีแต่ว่าไม่มีกล้องนะ ถ้าอยากได้กล้องต้องซื้อเพิ่ม เหมือนช่วงนั้น Siemens จะออกจอสีมาหลายรุ่น ที่ต่อกล้องเพิ่มได้ แต่จะเป็นกล้องแยก ต่อเข้ากับโทรศัพท์อีกที พร้อมไฟแฟลช์ แต่ว่าเราสะดุดตาตัวนี้มากที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่เปิดตัวได้ ฮือฮา มากที่สุดช่วงนั้นก็ว่าได้ สวยงาม หรูหรา สไลด์ไปมา เคยสไลด์แล้วหสุดออกมาจากกันด้วยนะ 555+ ดูทรงไม่แข็งแรง เน้นสวยงามอย่างเดียว เลยใช้อยู่ไม่นาน อีกอย่างช่วงนั้น Siemens จอสีก็จริง แต่ไปเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ นี่ว่าสีไม่สวยเอาซะเลย สีจะออกตุ่นๆ เสียชื่อที่เคยมีมือถือจอสีเครื่องแรกของโลกซะจริง
Motorola E365
มาถึงยุคมือถือจอสี มีกล้องกันแล้ว เครื่องแรกที่ใช้เป็น Motorola E365 จอสีจืดๆ กล้องชัดแล้วแหละตอนนั้น จริงๆ ก่อนหน้านั้นก็มีมือถือที่จอสี มีกล้อง ออกมาหลายรุ่นแล้วนะ แต่ว่าที่เลือกเป็นเจ้าตัวนี้มาใช้ตอนนั้น ต้องบอกว่าค่อนข้างชอบ Motorola เป็นการส่วนตัว แล้วก็รู้สึกว่ามือถือจอสี กับจอขาวดำที่ออกมาก่อนหน้านั้น แค่หน้าจอเป็นสี แต่ว่าทำอะไรได้ไม่ต่างกับจอขาวดำเท่าไหร่ ก็เลยยังไม่ค่อยได้สนใจมากนัก เจ้า E365 นี่มีปุ่มชัตเตอร์ พร้อมกับฝาเลื่อนเปิด ปิดเลนส์กล้องนะเออ ตุ่มเงินๆ ด้านหลังเอาไว้เซลฟี่ตัวเองได้แหละ
Sony Ericsson T610
มาต่อที่ Sony Ericsson T610 ตัวนี้ สวย ครบ จบในหนึ่งเดียวจริงๆ มีกล้อง จอสีสวยงาม เป็นเครื่องที่ชอบที่สุดเครื่องนึงเลย ใช้งานนานประมาณนึงเลยหล่ะ เกร๋ตรงปุ่มจอยสติ๊กตรงกลาง โยกได้ 5 ทิศทาง ขึ้น ลง ซ้าย ขวา และกดลงตรงๆ ตอนนั้นยี่ห้ออื่นๆ ยังคงทำเป็นปุ่มกดธรรมดาอยู่ มีบลูธูท รับส่งเพลง ไฟล์รูปภาพได้ จอแสดงผล 128 x 160 16bit ความละเอียดไม่ต่างกับยี่ห้ออื่นๆ เท่าไหร่ แต่ว่าสีสันหน้าจอต้องยกให้ในยุคนั้น
Nokia 3200
Nokia 3200 ตัวนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ซ์้อมาเหมือนกัน หน้าจอ 128 x 128 15bit ถ่ายรูปได้ ฟังวิทยุได้ มีไฟฉาย ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ้ามือถือรูปร่างประลาดๆ อันนี้มันช่างเท่เสียเหลือเกิน แต่เจ้าปุ่มกดก็ใช้งานยาก กรอบพลาสติกใสๆ ที่เปลี่ยนลายหน้ากากข้างในได้ก็เป็นรอยง่าย พร้อมกับช่องหูฟังที่ไม่ค่อยจะได้ยินเสียง ก็ตามเดิม ใช้ไม่นานลาก่อนนน
อาจจะผิดพลาดเรื่องข้อมูลไปบ้างต้องขออภัย รุ่นต่างๆ ที่ใช้อาจจะสลับกันเล็กน้อย จำไม่ได้จริงๆ อันไหนใช้ก่อน ใช้หลัง อย่างที่บอกว่าเมื่อก่อนมือถือไม่ได้ตกรุ่นเร็วขนาดนี้ บางทีก็อยากได้เครื่องเก่าๆ มาใช้ ก็ไปหาซื้อมาใช้เองเพราะชอบแค่นั้น ยังมีเหลืออีกหลายเครื่องเลย เดี่ยวมาเล่าต่อให้ฟัง ใครเคยใช้รุ่นไหน หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรบอกกันได้นะครับ เดี่ยวค่อยมาต่อให้ใหม่
ย้อนความหลัง มือถือที่เคยใช้ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา (Part1)
Alcatel OT300 (หารูปที่เหมือนไม่เจอ แต่ทรงนี้แหละ สีเงินทั้งเครื่อง)
มือถือเครื่องแรกที่ใช้ ไม่ใช่ Nokia หรือ Motorola นะ แต่เป็น Alcatel OT300 เครื่องนี้อยู่ดีๆ แม่ก็ถามว่า "ซื้อมือถือให้เอาป่าว?" เปิดมาขนาดนี้ ไม่เอาก็โง่ดิ ไปซื้อเลยจร้า แต่ว่าเครื่องแรกราคาไม่แรงนะ เจ็ดพันกว่าบาทมั๊ง ซื้อที่ DTAC โทรนาทีละ 5 บาท ซ์้อบัตรเติมเงินมาแล้วก็ขูดๆ เติมเงินกัน ไม่แน่ใจเรื่องปีที่ซื้อ น่าจะตอนปี 2000 พอดี เสียงเรียกเข้าอู้ๆ อี้ๆ ตลกดีนะ มีเมนูภาษาไทย (สมัยนั้นมือถือยังไม่ค่อยมีภาษาไทยในเครื่อง) แต่พิมพ์ภาษาไทยไม่ได้นะ เวลาชาร์จต้องตั้งกับแท่นชาร์จ มีความเกร๋ตรงปุ่มกลาง สำหรับเลื่อนเมนูที่เป็นเหมือนจอยสติ๊ก ดันขึ้น ลง และกดลงตรงๆ ได้ ปุ่มรับสาย กับวางสายเป็นปุ่มเดียวกัน ไฟหน้าจอสีส้มสวยงาม แบตด้านหลังเหมือนเอาถ่าน AAA สามก้อนมาติดกัน นี่แอบคิดเองว่าถ้าแบตหมด อยากจะลองเอาถ่าน AAA ใส่เองดูน่าจะใช้ได้เหมือนกัน ที่สำคัญแต่ง Ringtone ได้อยู่เด้อออ ซ์้อสมุดมา แล้วก็เลือกเพลง จิ้มๆ กดๆ กันไป ตอนนั้นจำได้ว่าใช้เพลง ธรณีกรรแสง เป็นเสียงเรียกเข้า เพราะคิดว่าเหมาะกับเสียงลำโพงเครื่องที่สุดละ
MOTOROLA T300
เครื่องต่อมาที่ใช้เป็น motorola t300 ตัวนี้เลย จำได้เลยว่า Orenge แจกฟรี หรือถ้าจะเอาเป็น Nokia 3310 ต้องเพิ่มเงินซ์้อเครื่อง (ตอนนี้เป็น True แล้ว) นี่ไปนั่งรอต่อคิว รอรับเครื่อง เลือกเบอร์เองได้ด้วยนะ เบอร์สวยจริงๆ ไม่อยากโม้ ทุกวันนี้ยังเก็บเบอร์นี้ไว้ใช้อยู่เลย เรียกได้ว่าเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ตั้งแต่สัญญานไม่ค่อยจะมี ไปต่างจังหวัดที เป็นสากกะเบือไปเลย 555+ เครื่องไม่รองรับภาษาไทย แถมใหญ่กว่าเครื่องก่อนหน้าที่ใช้อีก ไม่รู้เอามาทำไมเหมือนกัน ไฟหน้าจอสีเขียวๆ จำได้ว่าถ้าเปิดเสียงเครื่องจะไม่สั่น ถ้าเปิดสั้น เครื่องจะไม่มีเสียงด้วยนะ ก็เลยเอา OT310 กลับมาใช้ เครื่องนี้ก็ให้พ่อไป พ่อใส่ซองหนัง มีที่เหน็บเอวด้วยนะ อิอิ
Motorola V50
พอเริ่มทำงาน Part time เก็บเงินได้บ้าง ก็ไปถอย Motorola V50 มาใช้ เกร๋ๆ จริงๆ อยากได้ V ยิ้ม (V8088) มากกว่า แต่ว่าราคาน่ากลัวมากเว่อร์ เอาที่คล้ายๆ ละกัน เป็นฝาพับเหมือนกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่ราคาไม่แรงเท่า สมัยนั้นถือว่า Cool มากแล้ว ถ้าไม่นับพวก Nokia 3310 หรือ 3210 นะ จริงๆ ตอนนั้นก็อยากได้ แต่ชอบความเป็นมือถือฝาพับมากกว่า ถึงจะอยากเล่นเกมส์งูก็เถอะ ยืมเพื่อนเล่นเอาก็ได้เหมือนกัน ตอนนั้นก็ซื้อสาย ห้อยคอกันสิ มือถือใครเค้าใส่กระเป๋ากัน ห้อยคอโชว์ไปจร้า ไม่มีใครโทรมาหรอก
Motorola T109
ก็หมวยนี่คะ...ม่ายช่าย อันนั้นมัน Motorola T191 เครื่องนี้มาตอนปี 2002 ราตรีพอดี ตอนนั้น motorola t191 กำลังดังเลย แต่ว่าราคาก็มาพอๆ กับความดังเช่นกัน เพราะฉะนั้น เหมือนเดิมครับ เราเอาตัวรองลงมา ที่เปิดตัวไล่เลียกัน เป็น Motorola T190 แทน ทรงเหมือนกัน รูปร่างเดียวกัน ต่างกันตรงวัสดุปุ่มกดนิดหน่อย ที่เหลือแทบไม่มีอะไรต่างกันเลย นอกจากราคา ที่สำคัญตอนนี้มือถือส่วนใหญ่รองรับภาษาไทยแล้ว เซฟชื่อลง Sim กันไว้เป็นภาษาไทยได้แล้ว (อย่าลืมนะ ไม่เกิน 7 ตัวอักษร) พร้อมรับส่งข้อความภาษาไทยกันได้ จำได้ว่าตอนไปเข้าค่าย รด. ที่เขาชนไก่ก็เอาไปด้วย แบตยังเหลือกลับมา ไม่ต้องชาร์จ เครื่องนี้ยอมรับว่าชอบมากที่สุดเครื่องนึงเลย ขนาด รูปทรง น่ารักมาก ห้อยคอโชว์ได้ ไม่อายใคร ก่อนจะลาโลกไป เพราะว่าหลานเอาเครื่องไปแช่น้ำมันมวย ไม่รู้คิดอะไร แต่ต้องยอมรับในความพยายามที่หลานปีนขึ้นโต๊ะหยิบไปตอนไหนก็ไม่รู้ นี่ก็ว่าทั้งวันมือถือไม่ดังเลยแปลกจัง พอเดินไปจะหยิบมือถือมาเล่นซะหน่อย (มีเกมงูนะเออ) เครื่องยุ่ยไปเลยจร้า แบบว่าเอานิ้วถูแล้วมือถือมันยุ่ยๆ ติดกับเล็บไปเลย ซิมเหลือง หอมกรุ่นกลิ่นน้ำมันมวย พังพินาศไปจร้า
siemens S45
จากเหตุการณ์ฆาตกรรม Motorola T109 ไปแล้ว อาเจ็ก (พ่อของหลาน) ก็เลยเอาเครื่องนี้มาให้ใช้แทนเครื่องที่พังไป เป็น siemens S45 ต้องบอกว่าสมัยนั้น siemens เป็นมือถือ hi end ที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (มือถือจอสีเครื่องแรกของโลกไม่ใช่ Nokia นะ แต่ว่าเป็น siemens พอดีอาเจ็กเปลี่ยนไปใช้รุ่นนั้นพอดี เลยเอาเครื่องนี้มาให้) ก็เลยพอรับได้ แต่ก็ติดอยู่ตรงที่เครื่องไม่รองรับภาษาไทย แต่ว่าเกร๋ไกร๋ ไฮโซ เครื่องเข้า internet ได้ ซึ่งไม่ได้ใช้ แต่ก็ใช้อยุ่ไม่นาน รู้สึกไม่ชอบ ไม่คุ้นมือ ใช้งานยากยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็เลิกใช้ไป
Nokia 8250
มาแล้วจร้า Nokia เครื่องแรก (มือสอง) เครื่องนี้น่าจะออกมาสองสามปีแล้ว แต่ด้วยความอยากได้ ก็เลยไปซ์้อมาใช้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ถือว่าเก่า หรือเชยนะ ไม่เหมือนกับเดี่ยวนี้ ออกมาไม่นานก็ตกรุ่นไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่ใฝ่ฝันอยากได้ ใครๆ ก็ต้องอยากถือเจ้า Nokia8250 หรือว่าเจ้าผีเสื้อจอฟ้ารุ่นนี้กันแน่ๆ หล่ะ ในสมัยนั้น ทั้งรูปทรง ทั้งขนาด ชอบไปหมด พอมือถือดัง ไฟหน้าจอติดเป็นสีฟ้าขึ้นมา เป็นอันรู้ว่าใช้เจ้าผีเสื้อ Nokia8250 hiso แน่นอน ถึงจะไม่ได้ใหม่ แต่ราคาลงมาหน่อยแล้วพอซื้อได้
sony ericsson t100
ใครยังจำได้ กับมือถือเดินได้อยู่บ้างนะ sony ericsson t100 ตัวนี้ มาพร้อมกับจอสีฟ้า ภาพหน้าจอน่ารักๆ และที่สำคัญ "เดินได้" รุ่นน้องๆ น่าจะงง คือตอนนั้นเค้าโฆษณาว่ามือถือเดินได้ เพราะเวลาเอาเครื่องตั้ง (ตามรูป) แล้วพอมีคนโทรเข้ามา เครื่องสั่นๆ แล้วมันจะขยับได้เพราะแรงสั่น แค่นั้นแหละ สิ่งที่ทำคือ ซื้อมาใช้งานอ่ะไม่เท่าไหร่ หลักๆ คือตั้งไว้ แล้วเอามือถือเพื่อนโทรเข้า ให้มันเดิน เพื่อ!? แต่ส่วนตัวชอบเสียงปุ่มกดของ Ericsson เป็นการส่วนตัว รู้สึกว่าเสียงน่ารัก อันนี้เป็นรุ่นแรกๆ ที่เริ่มรวม Ericsson เข้ากับ Sony ถ้าจำไม่ผิด เพราะว่าก่อนหน้านี้ Ericsson เป็นมือถือที่แพงมากยี่ห้อนึงเลยหล่ะ มีหลายรุ่นของ Ericsson ที่อยากได้ แต่ไม่มีปัญญาซื้อจริงๆ แต่เจ้า T100 นี่ก็ใช้ไม่นาน น่าจะไม่กี่เดือนนะ จำไม่ได้แล้ว
Nokia 2300
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น Nokia 2300 ตัวนี้นั่นเอง หลักๆ เพราะว่าฟังวิทยุได้ เวลาไปไหนมาไหน ก็เสียบหูฟัง ฟังวิทยุ ฟังเพลงไปเรื่อย ถ้าจำไม่ผิดมี Nokia รุ่นอื่นๆ ที่ฟังได้เหมือนกัน แต่ว่ารุ่นนี้ราคาไม่แพงมาก ก็เลยเลือกซ์้อมาเป็นรุ่นนี้แทน แต่ก็เหมือนเดิม ใช้แปปเดียว ไม่นานก็ส่งต่อให้แม่ไปใช้งานต่อ
Panasonic GD55
นี่เลยจร้า Panasonic GD55 เครื่องต่อมา เหมือนเดิม ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเล็ก น่ารัก เล็กสุดแล้วมั๊งยุคนั้น จะมียุคนึงที่โทรศัพท์มือถือแข่งกันเล็ก เล็กลงๆ ใครเล็กสุดชนะ ว่างั้น!! เจ้า Panasonic GD55 ตัวนี้ก็ถือว่าเล็กที่สุดในโลกเครื่องนึงเลยแหละ แต่ว่ารูปทรงน่ารักมาก ก็เลยสอยมาใช้อยู่แปปนึง ไม่น่าจะเกินสองเดือนนะ ถ้าจำไม่ผิด ช่วงนั้นเปลี่ยนบ่อยจริงๆ จนจำไม่ได้แล้วทั้งรุ่นที่ใช้ก่อนหลัง รวมไปถึงระยะเวลา
Siemens SL55
อีกหนึ่งมือถือที่ภูมิใจว่าเคยใช้ เมื่อเข้าสู่ยุคโทรศัพท์มือถือจอสีแล้ว Siemens SL55 ถึงจะมีจอสีแต่ว่าไม่มีกล้องนะ ถ้าอยากได้กล้องต้องซื้อเพิ่ม เหมือนช่วงนั้น Siemens จะออกจอสีมาหลายรุ่น ที่ต่อกล้องเพิ่มได้ แต่จะเป็นกล้องแยก ต่อเข้ากับโทรศัพท์อีกที พร้อมไฟแฟลช์ แต่ว่าเราสะดุดตาตัวนี้มากที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่เปิดตัวได้ ฮือฮา มากที่สุดช่วงนั้นก็ว่าได้ สวยงาม หรูหรา สไลด์ไปมา เคยสไลด์แล้วหสุดออกมาจากกันด้วยนะ 555+ ดูทรงไม่แข็งแรง เน้นสวยงามอย่างเดียว เลยใช้อยู่ไม่นาน อีกอย่างช่วงนั้น Siemens จอสีก็จริง แต่ไปเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ นี่ว่าสีไม่สวยเอาซะเลย สีจะออกตุ่นๆ เสียชื่อที่เคยมีมือถือจอสีเครื่องแรกของโลกซะจริง
Motorola E365
มาถึงยุคมือถือจอสี มีกล้องกันแล้ว เครื่องแรกที่ใช้เป็น Motorola E365 จอสีจืดๆ กล้องชัดแล้วแหละตอนนั้น จริงๆ ก่อนหน้านั้นก็มีมือถือที่จอสี มีกล้อง ออกมาหลายรุ่นแล้วนะ แต่ว่าที่เลือกเป็นเจ้าตัวนี้มาใช้ตอนนั้น ต้องบอกว่าค่อนข้างชอบ Motorola เป็นการส่วนตัว แล้วก็รู้สึกว่ามือถือจอสี กับจอขาวดำที่ออกมาก่อนหน้านั้น แค่หน้าจอเป็นสี แต่ว่าทำอะไรได้ไม่ต่างกับจอขาวดำเท่าไหร่ ก็เลยยังไม่ค่อยได้สนใจมากนัก เจ้า E365 นี่มีปุ่มชัตเตอร์ พร้อมกับฝาเลื่อนเปิด ปิดเลนส์กล้องนะเออ ตุ่มเงินๆ ด้านหลังเอาไว้เซลฟี่ตัวเองได้แหละ
Sony Ericsson T610
มาต่อที่ Sony Ericsson T610 ตัวนี้ สวย ครบ จบในหนึ่งเดียวจริงๆ มีกล้อง จอสีสวยงาม เป็นเครื่องที่ชอบที่สุดเครื่องนึงเลย ใช้งานนานประมาณนึงเลยหล่ะ เกร๋ตรงปุ่มจอยสติ๊กตรงกลาง โยกได้ 5 ทิศทาง ขึ้น ลง ซ้าย ขวา และกดลงตรงๆ ตอนนั้นยี่ห้ออื่นๆ ยังคงทำเป็นปุ่มกดธรรมดาอยู่ มีบลูธูท รับส่งเพลง ไฟล์รูปภาพได้ จอแสดงผล 128 x 160 16bit ความละเอียดไม่ต่างกับยี่ห้ออื่นๆ เท่าไหร่ แต่ว่าสีสันหน้าจอต้องยกให้ในยุคนั้น
Nokia 3200
Nokia 3200 ตัวนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ซ์้อมาเหมือนกัน หน้าจอ 128 x 128 15bit ถ่ายรูปได้ ฟังวิทยุได้ มีไฟฉาย ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ้ามือถือรูปร่างประลาดๆ อันนี้มันช่างเท่เสียเหลือเกิน แต่เจ้าปุ่มกดก็ใช้งานยาก กรอบพลาสติกใสๆ ที่เปลี่ยนลายหน้ากากข้างในได้ก็เป็นรอยง่าย พร้อมกับช่องหูฟังที่ไม่ค่อยจะได้ยินเสียง ก็ตามเดิม ใช้ไม่นานลาก่อนนน
อาจจะผิดพลาดเรื่องข้อมูลไปบ้างต้องขออภัย รุ่นต่างๆ ที่ใช้อาจจะสลับกันเล็กน้อย จำไม่ได้จริงๆ อันไหนใช้ก่อน ใช้หลัง อย่างที่บอกว่าเมื่อก่อนมือถือไม่ได้ตกรุ่นเร็วขนาดนี้ บางทีก็อยากได้เครื่องเก่าๆ มาใช้ ก็ไปหาซื้อมาใช้เองเพราะชอบแค่นั้น ยังมีเหลืออีกหลายเครื่องเลย เดี่ยวมาเล่าต่อให้ฟัง ใครเคยใช้รุ่นไหน หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรบอกกันได้นะครับ เดี่ยวค่อยมาต่อให้ใหม่