ตัวผมไม่ค่อยมีตังค์นะครับ แต่ที่บ้านมีเงินรวมๆ น่าจะเกือบ 50 ล้านได้ ไม่รวมบ้านที่ดิน
คนที่บ้านไม่มีหัวด้านลงทุนค้าขาย แต่ได้เงินก้อนจากเกษียณก่อนกำหนด รวมทั้งขายที่ดินต่างจังหวัดบางส่วน
พ่อแม่ผมทั้งฝากประจําระยะยาว ซื้อพันธบัตร ซื้อประกันชีวิต ซื้อกองทุนความเสี่ยงต่ำ รวมทั้งสลากออมสินและธ.ก.ส.
ผลตอบแทนไม่สูงอะไร แต่ก็พอมีเงินจากดอกเบี้ย พอจ่ายค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภครายเดือน ตามอัตภาพ
(ครอบครัวเราค่อนข้างประหยัด เลยไม่เดือดร้อน ไม่เคยเอาเงินต้นมาใช้)
แน่นอนว่าเงิน 50 ล้านสมัยนี้ ไม่เยอะเหมือนก่อน มีแต่จะลดลงตามเงินเฟ้อ
ผมเองก็พยายามเก็บออมเท่าที่โอกาสเอื้ออำนวย
พอเกษียณในอีก 30 ปีข้างหน้า จะได้ไม่ขัดสน เพราะไม่รู้เศรษฐกิจโลกจะเป็นงัยในตอนนั้น
สิ่งนึงที่ผมแอบกังวลไม่ได้คือ สินทรัพย์หมุนเวียนที่มีตอนนี้ ดันเก็บในรูปเงินบาทซะหมด
ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่รุนแรง หรือเกิดวิกฤตอย่างอาร์เจนตินา กรีซ เวเนซุเอลา
ที่ทำให้สินค้าราคาแพง แต่เงินมีค่าลดลง ถึงมีเป็น 100 ล้าน ก็อาจไร้ความหมาย
ผมเลยอยากขอปรึกษาครับว่า จะกระจายความเสี่ยงนี้ยังไงดี
ต่อให้ถือทรัพย์สินบางส่วนเป็นเงินตราต่างประเทศ ก็ใช่จะปลอดภัย
ราคาทองเองก็สูงมาก ซื้อเก็บไว้เยอะ ก็ใช่ที่
ที่ดินต่างจังหวัดก็พอเหลืออยู่บ้าง เลยไม่รู้จะซื้อเพิ่มทำไม
ที่ผ่านมา พวกเรา(ทั้งในไทยและต่างประเทศ)ใช้ทรัพยากรอย่างไม่บันยะบันยัง
คงไม่สามารถผลาญทรัพยากรเพื่อให้เศรษฐกิจโตได้เรื่อยๆอย่างไม่สิ้นสุด
อาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองครั้งใหญ่ ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า
แต่ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม คนที่เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ น่าจะได้เปรียบสุด
คำถามผมคือ ควรเก็บสินทรัพย์ในรูปใดบ้าง เพื่อให้ปลอดภัยต่อวิกฤตต่างๆมากที่สุด?
แม้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตเงินเฟ้อ ก็ยังมีสินทรัพย์บางส่วน(ในรูปอื่น)ที่นำมาใช้ดำเนินชีวิตได้ไม่ลำบาก
และถ้ามีวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลกเกิดขึ้นในอนาคต เราจะเตรียมตัวเนิ่นๆได้ยังไงบ้างครับ?
อยากทราบความเห็น และขอคำแนะนำเพื่อนๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยครับ
เงิน 50 ล้าน ไม่ควรเก็บเป็นเงินบาทอย่างเดียวใช่มั้ยครับ?
คนที่บ้านไม่มีหัวด้านลงทุนค้าขาย แต่ได้เงินก้อนจากเกษียณก่อนกำหนด รวมทั้งขายที่ดินต่างจังหวัดบางส่วน
พ่อแม่ผมทั้งฝากประจําระยะยาว ซื้อพันธบัตร ซื้อประกันชีวิต ซื้อกองทุนความเสี่ยงต่ำ รวมทั้งสลากออมสินและธ.ก.ส.
ผลตอบแทนไม่สูงอะไร แต่ก็พอมีเงินจากดอกเบี้ย พอจ่ายค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภครายเดือน ตามอัตภาพ
(ครอบครัวเราค่อนข้างประหยัด เลยไม่เดือดร้อน ไม่เคยเอาเงินต้นมาใช้)
แน่นอนว่าเงิน 50 ล้านสมัยนี้ ไม่เยอะเหมือนก่อน มีแต่จะลดลงตามเงินเฟ้อ
ผมเองก็พยายามเก็บออมเท่าที่โอกาสเอื้ออำนวย
พอเกษียณในอีก 30 ปีข้างหน้า จะได้ไม่ขัดสน เพราะไม่รู้เศรษฐกิจโลกจะเป็นงัยในตอนนั้น
สิ่งนึงที่ผมแอบกังวลไม่ได้คือ สินทรัพย์หมุนเวียนที่มีตอนนี้ ดันเก็บในรูปเงินบาทซะหมด
ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่รุนแรง หรือเกิดวิกฤตอย่างอาร์เจนตินา กรีซ เวเนซุเอลา
ที่ทำให้สินค้าราคาแพง แต่เงินมีค่าลดลง ถึงมีเป็น 100 ล้าน ก็อาจไร้ความหมาย
ผมเลยอยากขอปรึกษาครับว่า จะกระจายความเสี่ยงนี้ยังไงดี
ต่อให้ถือทรัพย์สินบางส่วนเป็นเงินตราต่างประเทศ ก็ใช่จะปลอดภัย
ราคาทองเองก็สูงมาก ซื้อเก็บไว้เยอะ ก็ใช่ที่
ที่ดินต่างจังหวัดก็พอเหลืออยู่บ้าง เลยไม่รู้จะซื้อเพิ่มทำไม
ที่ผ่านมา พวกเรา(ทั้งในไทยและต่างประเทศ)ใช้ทรัพยากรอย่างไม่บันยะบันยัง
คงไม่สามารถผลาญทรัพยากรเพื่อให้เศรษฐกิจโตได้เรื่อยๆอย่างไม่สิ้นสุด
อาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองครั้งใหญ่ ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า
แต่ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม คนที่เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ น่าจะได้เปรียบสุด
คำถามผมคือ ควรเก็บสินทรัพย์ในรูปใดบ้าง เพื่อให้ปลอดภัยต่อวิกฤตต่างๆมากที่สุด?
แม้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตเงินเฟ้อ ก็ยังมีสินทรัพย์บางส่วน(ในรูปอื่น)ที่นำมาใช้ดำเนินชีวิตได้ไม่ลำบาก
และถ้ามีวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลกเกิดขึ้นในอนาคต เราจะเตรียมตัวเนิ่นๆได้ยังไงบ้างครับ?
อยากทราบความเห็น และขอคำแนะนำเพื่อนๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยครับ