[CR] เที่ยว "Central Japan" by Shoryudo Highway Bus Pass with Note 10+


Unplan Japan เป็นทริปที่ตัดสินใจเร็วสุด สั้นสุด แพลนแบบคร่าวๆมากๆเลยครับ 😅 

เริ่มต้นจากเห็นโปรแลกไมล์ลด 50% ของการบินไทย ไมล์ก็มี วันลาก็มี คือลาเท่าไหร่ก็ได้ 555 ขอบคุณที่ทำงานมา ณ โอกาศนี้ด้วยครับ คิดว่าไปไหนดีน้าาา กลับบ้านละกันง่ายดี ไม่ต้องแพลนเยอะด้วย

ต้องบอกเลยว่าการบินไทยปล่อยที่เยอะมากๆ คือมีให้เลือกทุกวัน อย่าง Business BKK-Nagoya คือมีวันละ 9 ที่ มีแบบเหลือๆ อยากมาวันไหนจิ้มเอาเลยครับ เรตแลกไมล์ก็ถูกมากเหลือ 37500 จ่ายเพิ่มอีก 58xx บาท เท่านี้ก็ได้ตั๋วมาครอบครองละ (แต่ดองรีวิวไว้จนโปรนี้จองไม่ได้แล้ว)

หลังจากได้ตั๋วมาก่อนเดินทาง 3 วัน ก็หารีวิวอ่าน ดู youtube ดู vlog เดี๋ยวนี้ง่ายมากๆ มีเยอะแยะไปหมด  ได้ที่เที่ยวคร่าวๆในใจก็หา pass 
อย่างที่ทุกคนคงรู้ การเดินทางในญี่ปุ่น ระบบขนส่งสาธารณะคือดีมาก แต่ราคาก็สูงมากเช่นกัน ต้องลองคำนวณคร่าวๆว่าใช้ pass คุ้มกว่า หรือจ่ายเป็นเที่ยวคุ้มกว่า แต่ปกติ ผมจะซื้อ pass ก่อนเลย แล้วดูว่า pass ไปไหนได้บ้างก็จะเที่ยวตามละแวกนั้นๆ

ซึ่งคราวนี้ซื้อ takayama hokuriku area pass มาก่อนเพราะแล้วค่อยมาที่เที่ยว และพบว่า มี pass รถบัสราคาเท่ากัน แต่ครอบคลุมที่จะเดินทางมากกว่า เลยตัดใจซื้อ pass รถบัสใหม่ เดี๋ยว pass JR ค่อยไป refund คืนที่ญี่ปุ่น 

วิธี refund ก็เหมือนตอนแลก pass ครับ ไปที่ JR office แล้วขอ refund ได้เลย ต้องลองเชคดูนะครับว่า refund กับใครเสียน้อยสุด สำหรับกรณีผมจองผ่าน Klook ถ้า refund กับ Klook เสียค่า fee 10% กับ JR ก็เสีย 10% เช่นกัน เลยเลือกมา refund กับ JR ดีกว่า เพราะ ตอนจองกับ Klook คือใช้ code + ได้ส่วนลดมาเกิน 10% แล้ว มา Refund คืนที่ญี่ปุ่นได้เป็นเงินเยนคืนมา คิดแลัวยังได้กำไรนิดหน่อยด้วย

บอก trick การขอ Refund คืนนิดนึงนะครับให้เราไปขอ Refund ที่สถานีค่อนข้างใหญ่คือผมมีปัญหาไปถามขอ Refund ที่สถานีทาคายาม่าแล้วพนักงานไม่ทราบวิธี refund แจ้งแต่ว่าที่นี่ refund ไม่ได้เป็น Exchange Only เท่านั้นซึ่งจริงๆตามเว็บ JR บอกว่าที่ไหนก็ได้ เลยต้องมาขอ Refund คืนที่สถานีนาโกย่า วิธีง่ายคือคุณต้องเอา Exchange ticket ไปแลกเป็น JR Pass ตัวจริงก่อนแล้วค่อยขอ Refund คืนมาเป็นเงินเยนนะครับ ถ้าเราเอา Exchange ticket ไปขอ Refund เลยเนี่ยเขาจะบอกว่า Refund ไม่ได้ ไม่ได้อย่างเดียว แต่จริงคือมันสามารถแลกเป็นพาสได้แล้วก็มา Refund คืนได้ แล้วก็ตอนแลก pass ให้กำหนดวันใช้เป็นวันรุ่งขึ้นที่ไม่ใช่วันนั้นนะครับ เพราะว่าเราจะขอ Refund ได้ก่อนวันที่เริ่มใช้ pass เท่านั้นถ้าถึงวันใช้ Pass แล้วจะขอ Refund คืนไม่ได้ทุกกรณีนะครับ

มาถึงสนามบินนาโกย่าครั้งแรก ก็ตรงไปแลกตั๋วที่ Meitetsu Tourist Information Center โดยเตรียมปริ้น pass มาจากที่บ้านด้วยนะครับ เนื่องจากเครื่องลงไฟท์เช้ามากแล้วเป็น business class ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็วมาแลก pass เป็นคนแรกๆเลย นั่งรอรถไฟเพื่อเข้าไปในเมืองนาโกย่าแป๊บเดียว 


วิธีเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินทำได้หลายวิธี นั่งบัสก็ได้หรือจะนั่งรถไฟก็ได้สำหรับคนที่ใช้พาสนะครับ ผมเลือกนั่งรถไฟเพราะว่าเร็วกว่า รถไฟที่นั่งฟรีจาก pass เป็นรถไฟที่ต้องไม่จองที่นั่งนะครับ ถ้าเลือกขบวนที่ต้อง reserve ก็ต้องเสียเงินเพิ่ม  310 เยน 
 

วันแรกสุดเราตรงไปที่ Hirayu onsen เลย จากสนามบินนาโกย่าเรานั่งรถไฟมาลงที่ Meitetsu Nagoya station เลย ที่นี่จะมี Meitetsu Bus Center อยู่ หลังจากนั้นเราก็ต่อรถบัสไปที่ทาคายาม่า ซึ่งบัสจากนาโกย่าไปทาคายาม่าต้องจองที่นั่งทุกที่นั่ง เพราะฉะนั้นเราต้องเข้ามาจองที่นั่งก่อนนะครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. 45 นาที


จากทาคายาม่าจะมีรถบัสออกทุก 1 ชั่วโมง ไปที่ shinhotaka ropeway นะครับ ซึ่งบัสตรงนี้ไม่ต้องจองที่นั่งแค่เรามารอที่ชานชลาหมายเลข 5 พอรถบัสมาแล้วก็โชว์ pass แล้ว ก็ขึ้นไปได้เลย จากทาคายาม่าถึง Hirayu  ออนเซ็นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถ้าไปถึง shinhotaka ropeway ก็ประมาณชั่วโมงครึ่งครับ (เชคเวลารถจากเวบนี้ครับ https://www.nouhibus.co.jp/route_bus/shinhotaka-line-en/ )


ผมเลือกที่จะลงที่ Hirayu bus terminal แล้วก็เที่ยวแถวนั้นก่อน เพราะว่าวันแรกที่พักอยู่ระหว่าง Hirayu onsen กับ shinhotaka ropeway

เราลงที่ป้าย Hirayu onsen (H037) ตรงนี้เป็น bus terminal นะครับ มีรถต่อไปได้หลายๆ รอบๆบริเวณนั้นก็จะมีที่เที่ยว หลายที่ ทีแรกที่ไปเลยคือ HiayuNomori  เป็นเรียลกังตรงใกล้ๆ bus Terminal ครับ ที่นี่ให้เลือกมาวันธรรมดาเพราะว่าวันหยุดที่ผมเห็นคือรถจอดเยอะมากแล้วคนก็น่าจะเยอะมากด้วย วันที่ผมไปเป็นวันพฤหัสบดีไ ปถึงที่ฮิรายุออนเซ็นน่ะประมาณเกือบๆ 14:00 ละ ก็เข้าไปแช่ออนเซ็นที่เป็น Day spa ที่นี่จะเสียค่าเข้า 600 เยนสำหรับคนที่มีกระเป๋าล้อลากหรือกระเป๋าใบใหญ่จะฝาก logger ตรงบัสเทอร์มินอลก็ได้แต่ว่าผมเลือกที่จะลากกระเป๋ามาด้วยแล้วก็มาฝากตรงที่เคาน์เตอร์ที่โรงแรมที่เราไปแช่ออนเซ็นเลยแล้วก็ไม่ต้องเสียค่าล็อกเกอร์อีก 500 เยน 



บ่อออนเซ็นที่นี่จะแยกฝั่งผู้หญิงผู้ชายนะครับมีทั้ง indoor และ Outdoor  ฝั่งผู้ชาย outdoor มีประมาณ 7 บ่อ indoor บ่อใหญ่มากมี 1 บ่อนะครับ แล้วก็มีบ่อน้ำเย็นให้แช่อีก 1 บ่อ 

เนื่องจากวันที่ผมมาเป็นวันธรรมดาคนละยังไม่เยอะ มีอยู่ข้างนอกประมาณ 7-8 คนข้างในก็ 4-5 คนรวมก็ยังโล่งๆ แช่ได้แบบสบายๆนะครับ แขกที่พักในโรงแรมก็ยังไม่ได้เข้ามาเช็คอินด้วยเพราะเรามาก่อนเวลาเช็คอินโรงแรม คนเลยไม่หนาแน่น เพราะฉะนั้นแนะนำให้เลือกมาแช่ช่วง 12:00 นถึง 15:00 ตอนนี้คนจะน้อยมากๆ ออนเซ็นที่นี่เปิดให้คนนอกแช่ได้ 10.00 - 21.00 ครับ 

น้ำในบ่อ onsen ที่นี่จะมีตะกอนสีขาวเหมือนเป็นตะกอนแร่ ความร้อนแต่ละบ่อไม่เท่ากันบางบ่อจะค่อนข้างร้อน บางบ่อจะแค่อุ่นๆหน่อย สำหรับคนที่ชอบความร้อนแตกต่างกันสามารถมาเลือกแช่ได้ตามความพอใจเลย ซึ่งดีสำหรับผมเพราะว่าผมไม่ได้ชอบแช่น้ำที่ร้อนมากครับ 

ในเรียวกังยังมีร้านขายขนม ของฝาก และคาเฟ่ให้นั่งกินอะไรหลังแช่น้ำด้ยครับ


สำหรับคนที่มาวันเสาร์อาทิตย์แล้วอยากจะแช่ออนเซ็นแบบ open air ถ้าที่นี่คนเยอะ ยังมีอีกที่หนึ่ง อยู่ข้างๆศาลเจ้า Hirayu ครับ ชื่อ Hirayu-No-Yu ตรงนั้นเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วยครับ ออนเซ็ตรงนี้เป็นออนเซ็นที่ใครจะแช่ก็ได้ครับไม่มีค่าบริการตายตัว แต่จะมีกล่องรับบริจาคอยู่หน้าทางเข้า ใส่เงินแล้วก็เข้าไปใช้บริการได้เหมือนออนเซ็นทั่วไป แต่ว่าตรงนั้นจะไม่มีที่ล้างตัวก่อน จะมีแค่บริเวณเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเป็นออนเซ็นเลยนะครับตรงบ่อน้ำร้อนจะมี ขันให้เราตักล้างตัวเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นลงไปแช่ได้เลย แต่ต้องบอกก่อนว่าน้ำตรงนี้ร้อนมากๆแช่แป๊บเดียวก็รู้สึกว่าเหมือนตัวจะสุก ต้องรีบขึ้นแล้วครับ ที่มีคนค่อนข้างน้อย  อันนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากเจอคนเยอะๆแต่น้ำตรงนี้ร้อนมากครับ แช่ได้แป๊บเดียวก็ต้องรีบขึ้นเพราะว่าร้อนจริงๆครับ น้ำเป็นสีออกส้มๆไม่เหมือนที่ HirayuNomori ด้วยครับ


ที่เที่ยวอีกที่นึงที่ใกล้ๆ bus Terminal ก็คือน้ำตก  Hirayu ถ้าเดินไปจาก bus Terminal จะห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตรใช้เวลาเดินประมาณ 25 ถึง 30 นาทีครับ สำหรับคนที่ลงตรงบัสเทอร์มินอลเลย แต่สำหรับคนที่ตั้งใจจะมาที่น้ำตกนี้โดยตรงจะมีป้ายก่อนที่จะถึง bus Terminal 1 ป้าย ลงป้าย Otaki Guchi (H036) ก็ได้ จะเป็นป้ายสกีรีสอร์ทซึ่งจากตรงนั้นเดินขึ้น จะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงน้ำตกแล้วครับ 


เดือนที่ผมไปเป็นเดือนกันยายนน้ำตกยังเขียวอยู่นะครับ ช่วงที่สวยจริงๆของตรงนี้คือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกับช่วงฤดูหนาวซึ่งน้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง มีการจัดงานแสดงแสงสีด้วยดูจากรีวิวแล้วคือช่วงที่จัดแสงสีสวยมาก และคนจะค่อนข้างเยอะสำหรับคนที่จะมาช่วงนั้น คนอาจจะหนาแน่นนิดนึงนะครับ 



ชื่อสินค้า:   central Japan
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่