มา!! เข้ามาแชร์กันครับ ใครถูกจัดให้เข้าไปอยู่ในหมวด Friendzone/Brozoned/เป็นแค่พระรอง ที่แสนดี บลาๆๆๆ
พวกคุณสามารถอดทนและจมอยู่กับคนที่คุณรักได้นานแค่ไหน? แล้วคิดว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองควรจะ Move On เพื่อไปหาคนที่เขาให้ราคาเรา?
ถ้าให้แชร์เรื่องของผมคือ
ผมอยู่มาจนอายุเข้า เลข 3 มาแล้ว ผมเองเคยผ่านความรัก ผ่านการมีชีวิตคู่มาก่อน ผ่านมาเยอะเลยแหละ แต่ผมไม่เคยรู้ว่าอะไรคือ "รัก
บริสุทธิ" จนกระทั่งผมได้พบกับคนหนึ่ง ที่สามารถทำให้รู้สึกแบบนั้นได้ ก่อนผมจะอธิบายความรักในแบบที่ผมมี ผมขออธิบายความรัก ในแบบที่ผมเข้าใจก่อน
ที่ผ่านๆมา ผมมองว่าความรักที่ผมมีมันค่อนข้างเห็นแก่ตัว เวลาผมมีความรัก ผมรักเขา ผมอยากมอบสิ่งดีๆให้ และทำให้เขามีความสุข
แต่ผมก็คาดหวัง ผมอยากสมหวัง อยากชนะใจ ผมอยากครอบครอง อยากมีครอบครัวร่วมกัน มีลูก สร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่พอมานั่งคิดดูดีๆแล้ว หรือที่เรารักเขา นั้นเป็นเพราะว่าลึกๆแล้วเรารักตัวเองวะ? เราถึงได้ต้องการให้เขามอบกาย มอบใจเป็นการตอบแทน คิดอยากแต่จะให้สมหวัง?
ซึ่งมันต่างกับความรักครั้งนี้มากๆ เหมือนผมเพิ่งได้รู้ว่าอะไรคือรักแท้ ผมมีความรักในแบบที่
-ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เขาดีใจและมีความสุข ให้สละเงิน เวลา ความสุข ส่วนตัวก็ยอม
-อยากได้รับความรัก ความเชื่อใจ (ไม่จำเป็นต้องสถานะคนรักก็ได้)
-อยากเป็นที่ปรึกษาของเขา อยากเป็นคนที่เขาคิดถึงคนแรกเวลามีปัญหาผมยอมเอาปัญหาของเขามาแบกไว้กับตัวเอง และช่วยหาทางแก้
ไขให้
-อยากดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ พาไปกิน/เที่ยว/ซื้อของให้ อะไรก็ได้ขอแค่มีโอกาสให้เราได้เข้าใกล้ ได้ดูแลก็พอ
ทั้งหมดนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีเรียกร้องใดๆ หรือความต้องการครอบครองเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวเลยนะจริงๆ ซึ่งมันต่างจากความรักใน
ครั้งก่อนๆที่เคยมีมากๆ เพราะโดยปกติทั่วไปผมก็รู้สึกอยากเป็นเจ้าของ อยากสมหวังเหมือนกับคนอื่นๆเนี่ยแหละ จนชักเริ่มจะสงสัยว่า หรือว่านี่คือ รักบริสุทธิ์/รักแท้ มันใช่แบบนี้หรือเปล่า?
ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากเพื่อนสนิท เพื่อนๆพวกนั้นมันว่าผมโง่ ที่ผมเลือกทำในสิ่งที่ผู้ชายส่วนมากเขาไม่ทำกัน ด้วย
ความที่พวกมันรักและเป็นห่วงผม มันก็อยากให้ผมแต่งงาน มีลูกมีเมีย เพราะผมตัวคนเดียว พ่อแม่เสียหมดแล้ว เหลือแต่ตัวจริงๆ มันก็
หวังดีอยากให้ผมสร้างครอบครัวเป็นหลักเป็นฐาน แต่ผมก็ยังยืนยันที่จะทำแบบนี้ต่อไป ผมยอมที่จะเสียโอกาสดีๆปิดกั้นผู้หญิงทุกๆคนที่ดี
กับผม เพื่อที่จะมาเสียเวลาดูแลกับผู้หญิงคนนี้ เพราะการที่ทำให้เขามีความสุข ผมมีความสุขด้วยเช่นกัน จุดที่ผมยืน มันไม่ใช่จุดที่ผมรอ
คอยว่าสักวันนึงเขาจะหันมารักผมหรอก แต่มันคือจุดของคนที่รู้จุดยืนของตัวเองดีแล้วต่างหากว่าเราเป็นได้มากสุดแค่ไหน
ฟังดูดีเนอะ! ที่บอกว่าจะดูแลเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมคือ Family Member ของเขา ผมติดอยู่ในสถานะ Brozoned ผม
เป็นได้แค่ พี่ชายแสนดี ที่เขาให้ความรักเหมือนกับว่าเราคือพี่แท้ๆ / เป็นได้แค่พระรองเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ตัวจริงของเขา ไอ้ความหวังว่า
ผมกับเขาจะได้รักกันมันแทบจะเป็น 0 เพราะผมประเมินจากสถาณการณ์ทุกๆสิ่งไว้อย่างดี และความเป็นไปได้นั้นมันแทบจะติดลบเลย
ด้วยซ้ำ แต่ลึกๆในใจก็แอบฝันเล็กๆนะว่าสักวันนึงเขาอาจจะเห็นความดีของเราและขยับสถานะเราขึ้นมา แต่ผมก็รู้ดีว่ามันยากยิ่งกว่าถูก
หวยรางวัลที่ 1 ซะอีก
แม้ว่าจะไม่ใช่สถานะคนรัก แต่ผมเองก็มีขีดจำกัด Limitation อยู่นะ ไม่ใช่ว่าผมจะทนยอมไปได้แบบนี้จนตลอดชีวิต ผมคิด
เอาไว้ว่า หากสักวันนึงผมดูแลเขาไปเรื่อยๆจนเขาได้เจอคนที่ใช่และเหมาะสมสำหรับเขาแล้ว ผมคงยินดี และดีใจกับสิ่งที่เขาได้เจอ ผม
เป็นคนใจดี แต่ผมไม่ใช่คนใจกว้าง ผมคงไม่สามารถทนเห็นเขาใช้ชีวิตกับคนรักของเขาแล้วมีลูกหลาน อะไรแบบนั้นได้หรอก นี่คือชีวิตจริง
ไม่ใช่นิยายรัก หากวันหนึ่งความสัมพันธ์มันเดินไปถึงจุดนั้น ในวันที่เขาได้เจอคนที่คู่ควร พี่ชายคนนี้ก็คงหมดหน้าที่ ผมคงจะบอกความ
ในใจของผมให้เขาได้รู้ทั้งหมดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมรักเขาแบบคนรัก และผมทำใจไม่ได้ที่จะต้องเห็นเขาไปรักกับใครสักคนที่ไม่ใช่
ผม แล้วผมคงเลือกที่จะหายไปจากชีวิตเขา ผมไม่ได้ต้องการให้เขาเลือกระหว่างพี่ชาย กับแฟน แต่ผมคือคนที่ไม่มีวันได้เป็นคนรัก และผมก็
ไม่ใช่คนที่จะอดทนได้มากขนาดนั้น ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เราคงเสียใจกันทั้งคู่ ผมเสียคนที่ผมรักที่สุดไป และเขาเองก็ต้องเสียพี่ชายดีๆที่เขา
อยากมีไปเหมือนกัน
แต่ถ้ามันไม่มีวันที่เขาจะเปิดใจรับใครมาเป็นคนรัก ผมก็ยินดีที่จะเป็นพี่ชายแบบนี้ตลอดไปนะ ผมพอใจกับจุดที่ตัวเองยืนตอนนี้
ถ้าหากในชีวิตจริงๆของเรา มีคนที่สามารถ อดทนที่จะเห็นคนที่เรารักมากๆไปมีความสุขกับคนอื่นไปเป็นของคนอื่นได้ และยังคงคอยดูแล
เขาไม่ห่างหาย ไม่ทิ้งเขาไปไหน คอยยิ้มให้กับสิ่งดีๆในชีวิตคู่ของเขา ผมกราบหัวใจพวกคุณเลย เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะทำได้ แต่ผมรู้ตัวว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้แน่นอน
นี่คือจุดความอดทนสูงสุดของผมแล้ว
พวกคุณล่ะ สามารถอดทนกันได้ขนาดไหน?
คนหนึ่งคนจะสามารถอดทนอยู่กับความรักที่รู้ว่าไม่มีวันสมหวังได้นานแค่ไหน?
พวกคุณสามารถอดทนและจมอยู่กับคนที่คุณรักได้นานแค่ไหน? แล้วคิดว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองควรจะ Move On เพื่อไปหาคนที่เขาให้ราคาเรา?
ถ้าให้แชร์เรื่องของผมคือ
ผมอยู่มาจนอายุเข้า เลข 3 มาแล้ว ผมเองเคยผ่านความรัก ผ่านการมีชีวิตคู่มาก่อน ผ่านมาเยอะเลยแหละ แต่ผมไม่เคยรู้ว่าอะไรคือ "รัก
บริสุทธิ" จนกระทั่งผมได้พบกับคนหนึ่ง ที่สามารถทำให้รู้สึกแบบนั้นได้ ก่อนผมจะอธิบายความรักในแบบที่ผมมี ผมขออธิบายความรัก ในแบบที่ผมเข้าใจก่อน
ที่ผ่านๆมา ผมมองว่าความรักที่ผมมีมันค่อนข้างเห็นแก่ตัว เวลาผมมีความรัก ผมรักเขา ผมอยากมอบสิ่งดีๆให้ และทำให้เขามีความสุข
แต่ผมก็คาดหวัง ผมอยากสมหวัง อยากชนะใจ ผมอยากครอบครอง อยากมีครอบครัวร่วมกัน มีลูก สร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่พอมานั่งคิดดูดีๆแล้ว หรือที่เรารักเขา นั้นเป็นเพราะว่าลึกๆแล้วเรารักตัวเองวะ? เราถึงได้ต้องการให้เขามอบกาย มอบใจเป็นการตอบแทน คิดอยากแต่จะให้สมหวัง?
ซึ่งมันต่างกับความรักครั้งนี้มากๆ เหมือนผมเพิ่งได้รู้ว่าอะไรคือรักแท้ ผมมีความรักในแบบที่
-ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เขาดีใจและมีความสุข ให้สละเงิน เวลา ความสุข ส่วนตัวก็ยอม
-อยากได้รับความรัก ความเชื่อใจ (ไม่จำเป็นต้องสถานะคนรักก็ได้)
-อยากเป็นที่ปรึกษาของเขา อยากเป็นคนที่เขาคิดถึงคนแรกเวลามีปัญหาผมยอมเอาปัญหาของเขามาแบกไว้กับตัวเอง และช่วยหาทางแก้
ไขให้
-อยากดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ พาไปกิน/เที่ยว/ซื้อของให้ อะไรก็ได้ขอแค่มีโอกาสให้เราได้เข้าใกล้ ได้ดูแลก็พอ
ทั้งหมดนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีเรียกร้องใดๆ หรือความต้องการครอบครองเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวเลยนะจริงๆ ซึ่งมันต่างจากความรักใน
ครั้งก่อนๆที่เคยมีมากๆ เพราะโดยปกติทั่วไปผมก็รู้สึกอยากเป็นเจ้าของ อยากสมหวังเหมือนกับคนอื่นๆเนี่ยแหละ จนชักเริ่มจะสงสัยว่า หรือว่านี่คือ รักบริสุทธิ์/รักแท้ มันใช่แบบนี้หรือเปล่า?
ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากเพื่อนสนิท เพื่อนๆพวกนั้นมันว่าผมโง่ ที่ผมเลือกทำในสิ่งที่ผู้ชายส่วนมากเขาไม่ทำกัน ด้วย
ความที่พวกมันรักและเป็นห่วงผม มันก็อยากให้ผมแต่งงาน มีลูกมีเมีย เพราะผมตัวคนเดียว พ่อแม่เสียหมดแล้ว เหลือแต่ตัวจริงๆ มันก็
หวังดีอยากให้ผมสร้างครอบครัวเป็นหลักเป็นฐาน แต่ผมก็ยังยืนยันที่จะทำแบบนี้ต่อไป ผมยอมที่จะเสียโอกาสดีๆปิดกั้นผู้หญิงทุกๆคนที่ดี
กับผม เพื่อที่จะมาเสียเวลาดูแลกับผู้หญิงคนนี้ เพราะการที่ทำให้เขามีความสุข ผมมีความสุขด้วยเช่นกัน จุดที่ผมยืน มันไม่ใช่จุดที่ผมรอ
คอยว่าสักวันนึงเขาจะหันมารักผมหรอก แต่มันคือจุดของคนที่รู้จุดยืนของตัวเองดีแล้วต่างหากว่าเราเป็นได้มากสุดแค่ไหน
ฟังดูดีเนอะ! ที่บอกว่าจะดูแลเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมคือ Family Member ของเขา ผมติดอยู่ในสถานะ Brozoned ผม
เป็นได้แค่ พี่ชายแสนดี ที่เขาให้ความรักเหมือนกับว่าเราคือพี่แท้ๆ / เป็นได้แค่พระรองเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ตัวจริงของเขา ไอ้ความหวังว่า
ผมกับเขาจะได้รักกันมันแทบจะเป็น 0 เพราะผมประเมินจากสถาณการณ์ทุกๆสิ่งไว้อย่างดี และความเป็นไปได้นั้นมันแทบจะติดลบเลย
ด้วยซ้ำ แต่ลึกๆในใจก็แอบฝันเล็กๆนะว่าสักวันนึงเขาอาจจะเห็นความดีของเราและขยับสถานะเราขึ้นมา แต่ผมก็รู้ดีว่ามันยากยิ่งกว่าถูก
หวยรางวัลที่ 1 ซะอีก
แม้ว่าจะไม่ใช่สถานะคนรัก แต่ผมเองก็มีขีดจำกัด Limitation อยู่นะ ไม่ใช่ว่าผมจะทนยอมไปได้แบบนี้จนตลอดชีวิต ผมคิด
เอาไว้ว่า หากสักวันนึงผมดูแลเขาไปเรื่อยๆจนเขาได้เจอคนที่ใช่และเหมาะสมสำหรับเขาแล้ว ผมคงยินดี และดีใจกับสิ่งที่เขาได้เจอ ผม
เป็นคนใจดี แต่ผมไม่ใช่คนใจกว้าง ผมคงไม่สามารถทนเห็นเขาใช้ชีวิตกับคนรักของเขาแล้วมีลูกหลาน อะไรแบบนั้นได้หรอก นี่คือชีวิตจริง
ไม่ใช่นิยายรัก หากวันหนึ่งความสัมพันธ์มันเดินไปถึงจุดนั้น ในวันที่เขาได้เจอคนที่คู่ควร พี่ชายคนนี้ก็คงหมดหน้าที่ ผมคงจะบอกความ
ในใจของผมให้เขาได้รู้ทั้งหมดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมรักเขาแบบคนรัก และผมทำใจไม่ได้ที่จะต้องเห็นเขาไปรักกับใครสักคนที่ไม่ใช่
ผม แล้วผมคงเลือกที่จะหายไปจากชีวิตเขา ผมไม่ได้ต้องการให้เขาเลือกระหว่างพี่ชาย กับแฟน แต่ผมคือคนที่ไม่มีวันได้เป็นคนรัก และผมก็
ไม่ใช่คนที่จะอดทนได้มากขนาดนั้น ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เราคงเสียใจกันทั้งคู่ ผมเสียคนที่ผมรักที่สุดไป และเขาเองก็ต้องเสียพี่ชายดีๆที่เขา
อยากมีไปเหมือนกัน
แต่ถ้ามันไม่มีวันที่เขาจะเปิดใจรับใครมาเป็นคนรัก ผมก็ยินดีที่จะเป็นพี่ชายแบบนี้ตลอดไปนะ ผมพอใจกับจุดที่ตัวเองยืนตอนนี้
ถ้าหากในชีวิตจริงๆของเรา มีคนที่สามารถ อดทนที่จะเห็นคนที่เรารักมากๆไปมีความสุขกับคนอื่นไปเป็นของคนอื่นได้ และยังคงคอยดูแล
เขาไม่ห่างหาย ไม่ทิ้งเขาไปไหน คอยยิ้มให้กับสิ่งดีๆในชีวิตคู่ของเขา ผมกราบหัวใจพวกคุณเลย เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะทำได้ แต่ผมรู้ตัวว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้แน่นอน
นี่คือจุดความอดทนสูงสุดของผมแล้ว
พวกคุณล่ะ สามารถอดทนกันได้ขนาดไหน?