แลมพาร์ด ช่วงเป็นนักเตะโชว์ฟอร์มดีที่สุด ก็สมัยมูรินโญ่1 ทีมเล่ด้วยระบบ 4-3-3 มีมิดฟิลตัวรับอย่าง มาเกเลเล่ หรือ เอสซียง ผมก็คิดว่า ทีมมีมิดฟิดตัวรับระดับโลกอย่างกองเต้ พี่คงจัดระบบ 4-3-3 แบบมีมิดฟิลตัวรับ เหมือนยุค มู1 แต่ผมคาดผิด ขนาดกองเต้หายเจ็บก็ยังไม่ได้เล่นมิดฟิลตัวรับเลย

มีคนบอกว่า เชลซีเล่นมีทรง?

ในความคิดผม ก็ทรงซารี่บอลนั้นและ หลักฐาน จอร์จินโญ่ยืนเป็นโฮลดิ้งมิดฟิล แต่เป็นฉบับปรับปรุง ดังนี้

1.แลมพาร์ด เป็นคนกล้าเสี่ยง ที่จริงควรจัดทีม 4-3-3 แบบมู1 เพราะคุ้นเคยระบบนี้มานาน แต่กลับไม่ใช้ เพราะทั้งทีมเล่นซารี่บอล มา1ฤดูกาลแล้ว พี่ปรับตัวเข้าหาทีมแทน มีนักเตะแค่ เมสันเม้า และ แทมมี่ ที่ต้องมาทำความเข้าใจใหม่

2.แลมพาร์ด สามารถกล่อมนักเตะเก่าให้เล่นตามที่แต่ต้องการได้ เช่น
จอร์จินโญ่  อยากพิสูจน์ตัวในตำแหน่งโฮลดิ้ง พยายามแอสซิส เช่น โยนยาวตัดแนวหลังให้เพื่อนทำประตู ซึ่งทำได้ไม่ดีนัก แลมพาร์ดปรับทัศนคติใหม่ เช่น คุณไม่ต้องพยายามทำแอสซิส คุณเล่นเกมรับให้เก่งขึ้น ไม่ใช่เข้ายิมฝึกกล้ามให้หนา แต่เป็นการอ่านเกม การเคลื่อนที่ตอนไม่มีบอล(เพิ่มความฟิต) ฤดูกาลที่แล้วยังให้พี่กองเต้วิ่งมาตัดบอลให้ ฤดูกาลนี้ทำเองหมด วิ่งมากขึ้น ปะทะมากขึ้น 

วิลเลี่ยน ฉายาพ่อเลี้ยง ฤดูกาลนี้เล่นเป็นทีมมากขึ้น จ่ายให้น้องๆได้เล่นมากขึ้น ที่สำคัญโชว์ความเป็นพี่ใหญ่ให้เห็น แกวิ่งลงมาสุดเส้นเพื่อช่วยเกมรับไม่ปล่อยให้เดฟเหงา อย่าลืมแกอายุ30แล้วนะ

3.การเล่นเกมรับ
แลมพาร์ด แสดงให้เห็นความยืดหยุ่น อย่างแรก ซื้อแผงแบ็กโฟร์ยกชุดไม่ได้ อย่างที่สอง จะเล่นเซ็นเตอร์3ตัวทุกนัดไม่ได้เพราะลดประสิทธิภาพเกมรุกไปด้วย(เชลซี ไม่มีวิงแบ็ก2ฝั่งที่เก่งระดับโลกเลย) แลมพาร์แก้โดยใส่ แนวความคิดให้กับทีม คือ นำ1ลูก นำ2ลูก ห้ามอุด ยังเล่นแนวทางเดิม ยามไม่มีบอลเพรสอย่างนักเพื่อเอาบอลกลับมาให้เร็ว มีช่องก็โจมตีทันที

4.การปกป้องดาวรุ่ง
พูลิซิส ก้าวเข้ามาแสตมฟอร์ดบริด ด้วยค่าตัว 50กว่าล้านปอนด์ หวังมาแทนอาซาร์ พอเล่นพรีเมียลีก 5 นัด ก็หลุดเป็นตัวสำรอง หลายสื่อก็บอกว่าหมดอนาคตหรือมกราคมต้องปล่อยยืม แลมพาร์ดให้สัมภาษณ์ พูลิซิส อายุ21ปี พอๆกับ เมสันเม้า หรือ แทมมี่ เหมือดาวรุ่งคนอื่น ความหมายนัยๆ แก่บอกพูลิซิส ไม่ต้องกดดันตัวเองมากเกินไป ก้มหน้าซ้อมอย่างหนัก ยกระดับตัวเองให้ได้ แล้วโอกาสจะตามมา ไม่ใช้ได้ลงเพราะซื้อมาแพง