สืบเนื่องจากเราจะไปล่าแสงเหนือแถบสแกนดิเนเวียร์ สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ และ ฟินด์แลนด์ จึงขอวีซ่าท่องเที่ยว แบบจ่ายเองเจ็บเอง ตื่นเต้นมากกลัวไม่ผ่าน 555 เมื่อพาสปอร์ตส่งมาบ้านดีใจน้ำตาจะไหล จึงถือโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆที่สนใจนำไปปรับใช้กันนะคะ
รีวิว ขอวีซ่าเชงเก้น
ฉบับสปอนเซอร์ตัวเอง แบบมนุษย์เงินเดือน พ่อค้า แม่ค้า อิอ้อย อิแม้น ก็ไปได้
หลักฐานที่เอาไปบางมาก บางจน คนอื่นงง ว่ามีแค่นี้เองหรอ
1.เอกสารแสดงสถานภาพการงาน ที่ชัดเจน แปลเองได้รับรองด้วย
ของเราแปลเอกสารทะเบียนพานิชย์ว่าเป็นประธานบริษัท ที่จดทุน 1,000,000 บาทไป
***ในกรณีที่ไม่ได้จดบริษัท ให้จดทะเบียนพานิช์ร้านค้าที่ อบต. เทศบาล เสียค่าบริการ 50 บาท แปลแล้วรับรองใช้ได้เหมือนกัน***
***ในกรณีเป็นมนุษย์เงินเดือน ใช้สลิปเงินดือน และจดหมายลางาน ลงชื่อหัวหน้าอนุมัติและรับรองว่าจะกลับมาทำงาน***
2.สเตทเม้นท์ 3-6 เดือนค่าบริการ 200 บาท และแบงค์การันตีเงินในสกุลยูโร ค่าบริการ 100 บาท
(ขอจากแบงค์เขียว)
ต้องเป็นบัญชี #ออมทรัพย์ ที่มีการเดินบัญชีตลอด คือมีเงินเข้าออก
ใช้ซื้อของ จ่ายค่าโทรศัพท์ กดมาใช้ บลาๆ ถ้ายอดมาตุงๆเฉพาะตอนไปขอวีซ่า
อันนี้จะถูกเพ่งเล็งว่า จะหนีไปทำงานหรือเปล่า มีผลต่อการพิจารณา
ยอดเงินไม่จำเป็นต้องมากมายอะไร ถ้าไปแค่เดินในเมือง สวยๆถ่ายรูป วงเงิน 50,000 บาท อยู่ได้ 1 เดือน
แต่ยอดเงิน ควรให้สอดคล้องกับแผนการเดินทางที่เราทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายไว้
แบบไปเที่ยวมีเงินจ่าย มีค่าครองชีพในทุกวันและเหลือเงินกลับบ้านหมื่นสองหมื่นพอ
ทริปล่าแสงเหนือนี้บอกตรงๆว่า เงินในบัญชีมีนิดเดียว เพราะตั้งแต่จด บจก. เงินมันไปกองที่บัญชีบริษัทหมด แต่ก็หน้าด้านยื่นไป
ธนาคารการันตีเงินในบัญชีไปแค่หนึ่งแสนบาทไทยกับอีกนิดๆ แต่เดินบัญชีมาอยู่ที่ 4xx,xxx บาทในหกเดือน
สอดคล้องกับหลักฐานเรื่องการชำระภาษีบุคคลธรรมดาที่กำลังจะไปยกเลิก 555 และจดหมายแนะนำตัวว่ามีรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน
3.ประกันชีวิต เอาแบบคุ้มครองดีๆไปเลย หรือเอาตามที่กำหนดคือวงเงินประกัน 1,500,000 บาท
เราซื้อแบบครอบคลุมไป เพราะเกรงว่าจะเกิดการเสียหายของกระเป๋าเดินทาง เบี้ยไม่แพงแค่ พันต้นๆ
แต่วงเงินคุ้มครอง 3,000,000 บาททั้งในกรณีเสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะ
4.ใบจองตั๋วเครื่องบินที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน และที่พัก เลือกแบบจ่ายหน้างาน เพราะถ้าวีซ่าไม่ผ่านเราจะยกเลิกได้
5.แพลนคร่าวๆว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน วันที่เท่าไร ระบุสถานที่ด้วยยิ่งดี และประมาณค่าใช้จ่ายออกมา
*** ตรงนี้สำคัญ ***
การไปเที่ยว หากเราไม่ได้มีเงินเยอะเป็นถุงเป็นถัง ควรวางแผนให้รอบครอบ อาศัยเวลาในการหาข้อมูล
เราใช้เวลา 10 เดือน หาข้อมูล ทำไปพร้อมกับเก็บตัง ต่อให้เรามีรายได้ 15,000 บาทเราก็ไปเที่ยวได้ ขยันหาโปรตั๋วบินถูกๆ ส่วนลดที่พัก วางแผนการเดินให้ประหยัดรัดกุม
ขอเพียงคุณมีวินัยในการเก็บเงิน บางคนอาจใช้เวลาแค่ปีเดียว บางคนอาจใช้แค่เดือนเดียว ก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล
ที่ปรับได้ตามความเหมาะสม แนะนำว่าให้ #พร้อมก่อนค่อยเที่ยว ถ้าแบกภาระหนี้สินไปเที่ยวคุณคงไปได้ไม่สนุกเท่าไร
ไปเที่ยวต้องไปแบบไม่เสียดาย เราทำงานแทบตาย สุดท้ายจะขี้งกไม่ยอมใช้จ่ายไม่ได้ ให้รางวัลตัวเองบ้าง
6.จดหมายแนะนำตัว บอกว่าเราเป็นใคร เลขที่พาสปอร์ตนี้ จะไปเที่ยวที่ไหน เพราะอะไร (ก็เพราะมันสวย อยากไปเห็น 555)
มีหน้าที่การงานที่ไทย ที่ไหน ตำแหน่งอะไร รายได้ต่อเดือนเท่าไร ***มีความจำเป็นต้องกลับมาเนื่องจากต้องทำงาน ต้องดูแลครอบครัวก็ว่ากันไป
แล้วจะเดินทางกลับวันที่ สุดท้ายทิ้งช่องทางการติดต่อเผื่อสถานฑูตขอเอกสารเพิ่มเติม
7.แบบฟอร์มการขอวีซ่าเชงเก้นที่ควรตรวจสอบให้ดี แต่หากผิดจะมีพนักงานคอยแนะนำให้เราแก้ไขและเซ็นรับรอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความจริงใจ ชัดเจนว่า จะไปทำอะไร ไปนานเท่าไร กลับตอนไหน
#ความจริงคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ขอให้โชคดีทุกคนค่า
ป.ล.จะบอกว่าเราได้คำแนะนำที่ดีมาก เรื่องแพลนเรื่องตรวจปรู๊ฟ และก็รุ่นพี่แนะนำเรื่องเอกสารบริษัท งานนี้เลยจบแบบสวยๆ ขอบคุณทุกท่านค่า
[Re] ขอวีซ่าเชงเก้น ฉบับสปอนเซอร์ตัวเอง แบบมนุษย์เงินเดือนก็ไปได้
รีวิว ขอวีซ่าเชงเก้น
ฉบับสปอนเซอร์ตัวเอง แบบมนุษย์เงินเดือน พ่อค้า แม่ค้า อิอ้อย อิแม้น ก็ไปได้
หลักฐานที่เอาไปบางมาก บางจน คนอื่นงง ว่ามีแค่นี้เองหรอ
1.เอกสารแสดงสถานภาพการงาน ที่ชัดเจน แปลเองได้รับรองด้วย
ของเราแปลเอกสารทะเบียนพานิชย์ว่าเป็นประธานบริษัท ที่จดทุน 1,000,000 บาทไป
***ในกรณีที่ไม่ได้จดบริษัท ให้จดทะเบียนพานิช์ร้านค้าที่ อบต. เทศบาล เสียค่าบริการ 50 บาท แปลแล้วรับรองใช้ได้เหมือนกัน***
***ในกรณีเป็นมนุษย์เงินเดือน ใช้สลิปเงินดือน และจดหมายลางาน ลงชื่อหัวหน้าอนุมัติและรับรองว่าจะกลับมาทำงาน***
2.สเตทเม้นท์ 3-6 เดือนค่าบริการ 200 บาท และแบงค์การันตีเงินในสกุลยูโร ค่าบริการ 100 บาท
(ขอจากแบงค์เขียว)
ต้องเป็นบัญชี #ออมทรัพย์ ที่มีการเดินบัญชีตลอด คือมีเงินเข้าออก
ใช้ซื้อของ จ่ายค่าโทรศัพท์ กดมาใช้ บลาๆ ถ้ายอดมาตุงๆเฉพาะตอนไปขอวีซ่า
อันนี้จะถูกเพ่งเล็งว่า จะหนีไปทำงานหรือเปล่า มีผลต่อการพิจารณา
ยอดเงินไม่จำเป็นต้องมากมายอะไร ถ้าไปแค่เดินในเมือง สวยๆถ่ายรูป วงเงิน 50,000 บาท อยู่ได้ 1 เดือน
แต่ยอดเงิน ควรให้สอดคล้องกับแผนการเดินทางที่เราทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายไว้
แบบไปเที่ยวมีเงินจ่าย มีค่าครองชีพในทุกวันและเหลือเงินกลับบ้านหมื่นสองหมื่นพอ
ทริปล่าแสงเหนือนี้บอกตรงๆว่า เงินในบัญชีมีนิดเดียว เพราะตั้งแต่จด บจก. เงินมันไปกองที่บัญชีบริษัทหมด แต่ก็หน้าด้านยื่นไป
ธนาคารการันตีเงินในบัญชีไปแค่หนึ่งแสนบาทไทยกับอีกนิดๆ แต่เดินบัญชีมาอยู่ที่ 4xx,xxx บาทในหกเดือน
สอดคล้องกับหลักฐานเรื่องการชำระภาษีบุคคลธรรมดาที่กำลังจะไปยกเลิก 555 และจดหมายแนะนำตัวว่ามีรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน
3.ประกันชีวิต เอาแบบคุ้มครองดีๆไปเลย หรือเอาตามที่กำหนดคือวงเงินประกัน 1,500,000 บาท
เราซื้อแบบครอบคลุมไป เพราะเกรงว่าจะเกิดการเสียหายของกระเป๋าเดินทาง เบี้ยไม่แพงแค่ พันต้นๆ
แต่วงเงินคุ้มครอง 3,000,000 บาททั้งในกรณีเสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะ
4.ใบจองตั๋วเครื่องบินที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน และที่พัก เลือกแบบจ่ายหน้างาน เพราะถ้าวีซ่าไม่ผ่านเราจะยกเลิกได้
5.แพลนคร่าวๆว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน วันที่เท่าไร ระบุสถานที่ด้วยยิ่งดี และประมาณค่าใช้จ่ายออกมา
*** ตรงนี้สำคัญ ***
การไปเที่ยว หากเราไม่ได้มีเงินเยอะเป็นถุงเป็นถัง ควรวางแผนให้รอบครอบ อาศัยเวลาในการหาข้อมูล
เราใช้เวลา 10 เดือน หาข้อมูล ทำไปพร้อมกับเก็บตัง ต่อให้เรามีรายได้ 15,000 บาทเราก็ไปเที่ยวได้ ขยันหาโปรตั๋วบินถูกๆ ส่วนลดที่พัก วางแผนการเดินให้ประหยัดรัดกุม
ขอเพียงคุณมีวินัยในการเก็บเงิน บางคนอาจใช้เวลาแค่ปีเดียว บางคนอาจใช้แค่เดือนเดียว ก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล
ที่ปรับได้ตามความเหมาะสม แนะนำว่าให้ #พร้อมก่อนค่อยเที่ยว ถ้าแบกภาระหนี้สินไปเที่ยวคุณคงไปได้ไม่สนุกเท่าไร
ไปเที่ยวต้องไปแบบไม่เสียดาย เราทำงานแทบตาย สุดท้ายจะขี้งกไม่ยอมใช้จ่ายไม่ได้ ให้รางวัลตัวเองบ้าง
6.จดหมายแนะนำตัว บอกว่าเราเป็นใคร เลขที่พาสปอร์ตนี้ จะไปเที่ยวที่ไหน เพราะอะไร (ก็เพราะมันสวย อยากไปเห็น 555)
มีหน้าที่การงานที่ไทย ที่ไหน ตำแหน่งอะไร รายได้ต่อเดือนเท่าไร ***มีความจำเป็นต้องกลับมาเนื่องจากต้องทำงาน ต้องดูแลครอบครัวก็ว่ากันไป
แล้วจะเดินทางกลับวันที่ สุดท้ายทิ้งช่องทางการติดต่อเผื่อสถานฑูตขอเอกสารเพิ่มเติม
7.แบบฟอร์มการขอวีซ่าเชงเก้นที่ควรตรวจสอบให้ดี แต่หากผิดจะมีพนักงานคอยแนะนำให้เราแก้ไขและเซ็นรับรอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความจริงใจ ชัดเจนว่า จะไปทำอะไร ไปนานเท่าไร กลับตอนไหน
#ความจริงคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ขอให้โชคดีทุกคนค่า
ป.ล.จะบอกว่าเราได้คำแนะนำที่ดีมาก เรื่องแพลนเรื่องตรวจปรู๊ฟ และก็รุ่นพี่แนะนำเรื่องเอกสารบริษัท งานนี้เลยจบแบบสวยๆ ขอบคุณทุกท่านค่า