ครั้งแรกของการรีวิวใน pantip
ครั้งแรกของการมาเจอพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส
ครั้งแรกของการมาสัมผัสธรรมชาติอันสวยงามที่คามิโคจิ
ครั้งแรกที่กล้าตัดสินใจมานอนค้างคืนในป่าที่คามิโคจิคนเดียว!

สวัสดีค่ะ ทริปนี้ทริปเที่ยวตามลำพังคนเดียวที่ญี่ปุ่นอีกแล้ว ปกติจะชอบไปเที่ยวคนเดียว เพราะไม่ค่อยมีใครยอมไปด้วย เนื่องจากไม่ได้ไปแบบสบาย ไม่ได้ไปแหล่งชอปปิ้งหรือไปนานๆ แบบเราได้ เพราะไปแต่ละครั้งก็ต้องลางานกันยาวเลยค่ะ
เริ่มต้นรีวิวเลยนะคะ วางแผนจะมาเที่ยวคามิโคจิหลายครั้งแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องเลื่อนหรือยกเลิกตลอด มาครั้งนี้ปีนี้ ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน เดินทางมาโตเกียวตั้งแต่วันที่ 10Oct2019 ก่อนมา มีแต่คนบอกให้ยกเลิกไม่ต้องไป เพราะพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส กำลังจะเข้าญี่ปุ่น วันที่ 12-13 ซึ่งมันเป็นพายุที่น่ากลัวมาก
ทุกอย่างวางแผนเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับอยากเที่ยวมากๆๆๆ จึงตัดสินใจไม่ยกเลิกคิดว่าเสี่ยงไปเที่ยวดีกว่า และไปในเมืองหรือในป่าคงไม่เจอพายุ (คิดแบบไม่รู้ถึงหายนะที่กำลังจะมาเยือน) ก่อนออกจากบ้านไหว้พราะสวดมนต์ ขออาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย 555
แผนการเดินทางที่วางไว้
วันที่ 10-12/10/19 ไปเที่ยวนิกโก้ (Nikko,Tochigi) พักแถวทะเลสาบชูเซนจิ (Chuzenji Lake) เดินเที่ยวแถว Yumoto Onsen, Ryuze Waterfall,Kegon Waterfall
วันที่ 13-14/10/19 ไปมัตสึโมโตะ (Matsumoto,Nagano) พักที่ Konashidaira Camping Site at Kamikochi
วันที่ 15-16/10/19 ไปคารุอิซาว่า (Karuizawa,Nagano) กลับมาขึ้นเครื่องบินที่ Haneda Airport,Tokyo

ใช่ค่ะ แผนที่วางไว้ล่มค่ะ ท่านผู้อ่าน  ล่มยังงัย ตามมาอ่านกันค่ะ
วันที่ 10/10 วันแรกไฟล์ทถึง 7 โมงเช้า เดินทางโดยใช้ JR East Pass Nagano-Nigata ไปถึงสถานีนิกโก้ก็เกือบบ่าย  ต่อรถบัสไปทะเลสาบชูเซ็นจิ อีกประมาณ 40 นาที ถึงที่พักติดทะเลสาบชื่อ Pensions Lake Nikko ที่พักน่ารักมาก เดินทางสะดวก เห็นวิวทะเลสาบจากห้องพักเลย


จากนั้นก็ได้เดินที่ยวถ่ายรูปน้ำตกเคง่อน ทะเลสาบชูเซ็นจิ แล้วคุยกับเจ้าของโรงแรม เกี่ยวกับเรื่องพายุ เค้าก็ให้ข้อมูลว่าวันที่ 12/10 การเดินทางอาจจะต้องหยุดชะงักหมด ไม่ว่าจะเป็นรถบัส JR, Shinkansen เพราะไต้ฝุ่นเข้าวันนั้น ประกอบกับดูพยากรณ์อากาศ Yahoo Japan วันพรุ่งนี้มีฝนตกทั้งวัน จึงตัดสินใจพักคืนเดียว ยกเลิก 1 คืนเสียค่าธรรมเนียม 50% สถานการณ์บังคับให้ตัดสินใจเปลี่ยนแผนเพราะต้องรีบหนีออกจากNikko ไป Matsumoto ก่อนวันที่ 12 หรือวันที่พายุเข้า เพราะอาจจะต้องติดอยู่ในนิกโก้ยาวหลายวันเลย
วันที่ 11/10 ออกจากที่พักไปสถานีนิกโก้ เพื่อย้ายไปเมืองมัตสึโมโตะ การเดินทางเราใช้ JR East Pass from Nikko to Utsunimiya to Umiya to Nagano to Mataumoto โดย Shinkansen ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 5 ชั่วโมง 
ประมาณ 4 โมงเย็นก็ถึงสถานีมัตสึโมโตะ ระหว่างที่นั่งรถไฟก็ได้หาโรงแรมจาก Agoda เจอที่พักราคาถูกมากที่โรงแรมอัลพิโคพลาซ่า (Alpico Plaza Hotel) ซึ่งอยู่ด้านหน้าสถานีมัตสึโมโตะและอยู่ติดกับ Alpico Bus Terminal  โรงแรมส่วนใหญ่จะว่างและราคาถูกลงมากเนื่องจากนักท่องเที่ยวคงยกเลิกการจองเพราะพายุไต้ฝุ่น ส่วนโรงแรมที่จองไว้แต่แรกก็สามารถยกเลิกได้โดยไม่มีการธรรมเนียมการยกเลิก เรายกเลิกเพราะแผนเปลี่ยน และราคาล่าสุดถูกลงมาก ๆ จึงตัดสินใจพักที่นี่ 2 คืน
วันที่ 12/10 วันที่พายุเข้า ทั้งวันออกไปไหนไม่ได้ เพราะรถบัส รถไฟ รถขนส่งสาธารณะประกาศหยุดให้บริการทั้งหมด ประกอบกับฝนตกฟ้ามืดมิดทั้งวันทั้งคืน ก็ได้แต่อยู่แถวโรงแรมและห้างที่ติดโรงแรม คอยติดตามข่าวพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสทั้งจากมือถือและทีวี และสวดมนต์ขอให้ญี่ปุ่นปลอดภัย
ดูทีวีคืนนั้น พายุเข้าหลายจังหวัดไม่ว่าจะเป็น Shizuoka, Chiba, Kanagawa, Tochigi ทำให้ฝนตกหนักมาก ปริมาณน้ำล้นแม่น้ำ เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
ที่เมือง Nikko, เมือง Utsunimiya ที่พักคืนแรกก็โดนพิษพายุเช่นกัน ทำให้รถบัสและรถไฟ Tobu Nikko ไม่สามารถให้บริการได้ สำหรับตัวเองถือว่าบุญกุศลช่วยเหลือและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ประกอบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากคนญี่ปุ่น ที่ทำให้ตัดสินใจออกมาได้เร็วและไม่เจอเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่อาจต้องเผชิญตัวคนเดียวในสถานการณ์แบบนี้  คืนนั้นทั้งคืนดูทีวีรายงานเหตุการณ์พายุตลอด เกือบ 5 ทุ่ม พายุไต้ฝุ่นได้ออกจากญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ผลกระทบจากพายุทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและน้ำท่วมญี่ปุ่นหลายแห่ง เช่น เมืองฮาโกเน่ (Hagone), Gumma, Saitama,Nagano เป็นต้น
วันที่ 13/10 ตีห้า เปิดหน้าต่างเห็นพระอาทิตย์ขึ้น เริ่มมีแสงแดด ท้องฟ้าสดใส  มือถือมีเสียงดังแจ้งมีเมลล์เข้ามา รีบเปิดเช็ค เป็นเมล์จาก Konashidiara Camping แจ้งว่าวันนี้สถานการณ์ที่คามิโคจิปลอดภัย การเดินทางไม่มีปัญหา หากเราต้องการมาพักก็สามารถมาพักได้ หรือจะยกเลิกก็ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการยกเลิก
ก็ไปสิคะ รออะไร ในเมื่อฟ้าหลังฝนนั้นสดใส พายุร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้ว จุดมุ่งหมายในการมาครั้งนี้คือมาเดินป่าคามิโคจิ  ก็ต้องไปให้ได้ แม้ว่ารถไฟจะยังไม่เปิดให้บริการ เราก็เลือกไปโดยได้รถบัส Alpico  วิ่งจากเมืองสึโมโตะไปเปลี่ยนรถที่สถานี Shinshimashima และนั่งรถบัสไปคามิโคจิ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมง ก็ถึงคามิโคจิ  พอไปถึงทุกอย่างดีงามมากๆๆๆๆๆๆๆ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส มีแดดจ้ากำลังดี แต่อากาศนั้นหนาวเย็นมาก  เราก็ได้เดินจากสะพานคัปปะ เดินไปยังที่พักที่ได้จองไว้ที่ Konashidaira Campground  (จองผ่านเวปไซต์นี้ http://www.nihonalpskankou.com/) เมื่อเข้าที่พักแล้ว ได้แผนที่ก็เริ่มเดินเทรกกิ้งตามเส้นทางในแผนที่ จุดหมายวันนี้คือไปบึงเมียวจิน (Myojin Pond) ระหว่างทางทิวทัศน์ธรรมชาตสวยงดงามมาก ๆ ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส แม่น้ำสีเขียวมรกต ต้นไม้ใบไม้มีหลากสี ทั้งสีเขียว สีเหลืองและสีแดง ลำธารน้ำใสสะอาดมีตะไคร่สีเขียวเข้ม แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ ตลอดเส้นทางที่เดิน เราเจอคนญี่ปุ่น คนต่างชาติ ทั้งเด็ก คนหนุ่มสาว พ่อแม่ลูก และคนแก่ เดินกันชมทิวทัศน์อย่างมีความสุขและตื่นเต้นกับธรรมชาติที่อยู่ตรงหน้า ใครยังไม่เคยมาอยากให้ได้มาเห็น มาเจอ มาสัมผัสกับธรรมชาติอย่างที่เราเห็น แม้ว่าใบไม้เปลี่ยนสีจะยังไม่พีคหรือแดงทั้งหุบเขา แต่วิวที่เราได้เห็นเราถือว่าสวยงาม คุ้มค่ากับการได้มาแล้ว  แม้ว่าจะต้องเจอเหตุการณ์ทั้งก่อนและหลังพายุไต้ฝุ่น ที่ต้องหาทางกลับมาโตเกียวให้ได้ เนื่องจากเมืองนากาโน่น้ำท่วม เส้นทางรถไฟชินคันเซนจากเมืองมัตสึโมโตะวิ่งมาโตเกียว และเส้นทางรถบัสจากมัตสึโมโตะมาชินจูกู ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ 
ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และเป็นความประทับใจมาก ๆ ที่ได้ไปเยือนคามิโคจิ มันสวยงาม ดีต่อใจมาก ๆ ให้ภาพบรรยายนะคะ
Kappa Bridge

Mt.Yakedake ด้านหน้า Campground