หลายคนคงสงสัย ว่าจะพลาดได้ไง เพราะ ดึงหน้า นั้นถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ปัจจุบันตัวเองอายุก็ 66 ปี แล้ว ขอย้อนความนิดนึง
คือเมื่อสัก 9 ปี ที่แล้ว (ตอนนั้นอายุก็ 56 57 ได้) ต้วเองมีปัญหา ผิวหนังใบหน้าเหี่ยวคล้อย ตามวัย เลยตัดสินใจไปดึงหน้า กับ รพ.แห่งหนึ่งโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูล
ผลลัพธ์ที่ออกมา ความหย่อนคล้อยหายไปจริงค่ะ แต่ได้แผลเป็นที่ใบหน้ามา ทำให้ต้องไปตัดผมสั้นเพื่อปิดแผล ไม่กล้ามัดผม อีกอย่างคือจากที่เป็นคนมีติ่งหู หลังผ่าตัด ติ่งหูหายไป แผลเกิดการตึงรั้ง ทำให้ติ่งหูผิดรูป ไม่มั่นใจเลย จนวันหนึ่งรู้สึกว่าใบหน้าที่ดึงเริ่มกลับคล้อย เลยอยากจะดึงอีกรอบ แต่รอบนี้จะต้องไม่พลาดเหมือนรอบแรก หาข้อมูลทุกช่องทาง หมอไหนดึงหน้าเก่ง หมอไหนดึงหน้าเย็บแผลสวย ทั้งดูรีวิว ทั้งเข้าไปปรึกษา แต่เกณฑ์หลักที่เลือกคือ
1.ผ่าตัดกับหมอ ที่เป็นศัลยแพทย์เฉพาะทาง
2.ผ่าตัดที่ รพ. เพราะรู้สึกมั่นใจ
3.ต้อง ดมยา โดยหมอดมยา
4.มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญการดึงหน้า
5.สามารถแก้แผลเก่า ที่ดึงหน้ามาแล้ว แก้ติ่งหู ที่ผิดรูป ได้
จนสรุปเลือกที่จะมา แก้ดึงหน้า กับ ศัลยแพทย์เฉพาะทาง ท่านนึง ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ มีคลินิกแถวดอนเมือง ซึ่งหลังจาดพูดคุย ได้ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด แก้ดึงหน้า เทคนิค max lift เป็นการดึงหน้า ถึงชั้นกล้ามเนื้อ smas เพื่อให้ใบหน้ายกกระชับแต่ยังคงความธรรมชาติ ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ในส่วนของแผล หมอจะแก้ไข โดยการตัด เย็บซ้อนแผล ให้เห็นแผลน้อยที่สุด ในส่วนที่ติ่งหูผิดรูปนั้น คุณหมอจะทำติ่งหูขึ้นมาใหม่ ในการแก้ดึงหน้าครั้งนี้ เรียกว่า full face lift คือ ดึงขมับ ดึงแก้ม เก็บกรอบหน้า ดึงคอ ก่อนผ่าตัดแอบกังวลและกลัวมาก กลัวผลลัพธ์จะออกมาเหมือนครั้งแรก แต่สุดท้ายหลังผ่าตัด ผลที่ออกมาคนละเรื่องเลย มาดูรูปประกอบ
ก่อนแก้ แผลผ่าตัดชัดมาก นี้ขนาด 9 ปีแล้ว ติ่งหูก็ดูผิดรูป ซึ่งต่างจากติ่งหูปกติ แต่เมื่อหลังแก้ไขแล้ว แผลบริเวณขมับที่กังวลหายไป หมอได้เย็บซ้อนแผล พร้อม ทำติ่งหูให้ใหม่
รูปแรกหลัง 7 วัน หลังแก้ดึงหน้า max lift รูปนี้หลังตัดไหม รอบแรก คือตัดบริเวณหน้าหู จะเหลือบริเวณขมับ ( เป็นแม็ก ) กับหลังหูที่ยังไม่ได้ตัดไหม มีอาการบวมเขียว ช้ำ ซึ่งเป็นปกติ (จะบวมมากคือ วันที่ 4 แล้วเริ่มลดลง)
รูปที่ 2 คือ 14 วันหลังแก้ดึงหน้า max lift ได้เอาแม็กบริเวณขมับออก+ตัดไหมหลังหูออกทั้งหมด อาการเขียวลดลงเหลือแต่อาการบวม
รูปที่ 3 คือ 1 เดือน หลังแก้ดึงหน้า max lift
รูปที่ 3 คือ 2 เดือน หลังแก้ดึงหน้า max lift
รูปที่ 4 คือ 3 เดือน หลังแก้ดึงหน้า max lift
ตอนนี้ แก้ดึงหน้า ได้ 3 เดือนกว่าแล้ว แผลดึงหน้าสวยมาก บริเวณขมับแผลซ้อนอยู่ในไรผม แผลหน้าหูก็โค้งตามรอยหยักของหู ติ่งหูที่ผิดรูป ตอนนี้ก็มีติ่งหูแล้ว แผลหลังหูก็อยู่แนวขอบผม ซึ่งหมอแจ้งว่าแผลจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีจะเริ่มจางลงเรื่อยๆ ก็เลยบอกกับหมอว่าแค่นี้ก็ดีมาก รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะ
บางคนมีคำถามว่า แล้วที่มาเขียนเนี่ยต้องการอะไร เพราะตัวเองเคยผิดพลาดจากการดึงหน้า ที่ไม่ยอมหาข้อมูล เค้าว่าดี ก็ดีตามเค้า บางคนเห็นมีรีวิวเยอะก็คิดว่าที่นี่เก่ง ที่นี่เชี่ยวชาญ แต่เปล่าเลยบางครั้งเป็นการโฆษณา การตลาด ถ้าจะได้ดีเข้าไปปรึกษาเลย เราจะได้เห็นคนไข้จริงๆ เห็นแผล ได้พูดคุยกับคนที่เค้าผ่าตัดจริงๆ และก็อย่าพึ่งรีบตัดสินใจ ไปหลายๆที่ แล้วจากนั้นก็มานั่ง บวก ลบ คูณ หาร ดูว่าที่ไหน ตรงปัญหาตรงใจเรามากที่สุด หากมัดพลาดขึ้นมาแล้วเราจะต้องอยู่กับมันไปตลอด หากใครต้องการข้อมูล หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลหลังไมค์มาได้ ยินดีมาก ด้วยไม่อยากให้ใครมาเจอปัญหาเหมือนเรา สุดท้าย ต้องขอขอบคุณ คุณหมอท่านนี้มาก ให้คำปรึกษาที่ตรงไปตรงมา ได้บอกได้ ไม่ดีก็บอกไม่ดี เข้าใจปัญหาคนไข้ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออก ตรงใจพอใจทั้ง 2 ฝ่าย ขอบคุณจริงๆ
ความผิดพลาด หลัง "ผ่าตัดดึงหน้า"
คือเมื่อสัก 9 ปี ที่แล้ว (ตอนนั้นอายุก็ 56 57 ได้) ต้วเองมีปัญหา ผิวหนังใบหน้าเหี่ยวคล้อย ตามวัย เลยตัดสินใจไปดึงหน้า กับ รพ.แห่งหนึ่งโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูล
ผลลัพธ์ที่ออกมา ความหย่อนคล้อยหายไปจริงค่ะ แต่ได้แผลเป็นที่ใบหน้ามา ทำให้ต้องไปตัดผมสั้นเพื่อปิดแผล ไม่กล้ามัดผม อีกอย่างคือจากที่เป็นคนมีติ่งหู หลังผ่าตัด ติ่งหูหายไป แผลเกิดการตึงรั้ง ทำให้ติ่งหูผิดรูป ไม่มั่นใจเลย จนวันหนึ่งรู้สึกว่าใบหน้าที่ดึงเริ่มกลับคล้อย เลยอยากจะดึงอีกรอบ แต่รอบนี้จะต้องไม่พลาดเหมือนรอบแรก หาข้อมูลทุกช่องทาง หมอไหนดึงหน้าเก่ง หมอไหนดึงหน้าเย็บแผลสวย ทั้งดูรีวิว ทั้งเข้าไปปรึกษา แต่เกณฑ์หลักที่เลือกคือ
1.ผ่าตัดกับหมอ ที่เป็นศัลยแพทย์เฉพาะทาง
2.ผ่าตัดที่ รพ. เพราะรู้สึกมั่นใจ
3.ต้อง ดมยา โดยหมอดมยา
4.มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญการดึงหน้า
5.สามารถแก้แผลเก่า ที่ดึงหน้ามาแล้ว แก้ติ่งหู ที่ผิดรูป ได้
จนสรุปเลือกที่จะมา แก้ดึงหน้า กับ ศัลยแพทย์เฉพาะทาง ท่านนึง ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ มีคลินิกแถวดอนเมือง ซึ่งหลังจาดพูดคุย ได้ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด แก้ดึงหน้า เทคนิค max lift เป็นการดึงหน้า ถึงชั้นกล้ามเนื้อ smas เพื่อให้ใบหน้ายกกระชับแต่ยังคงความธรรมชาติ ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ในส่วนของแผล หมอจะแก้ไข โดยการตัด เย็บซ้อนแผล ให้เห็นแผลน้อยที่สุด ในส่วนที่ติ่งหูผิดรูปนั้น คุณหมอจะทำติ่งหูขึ้นมาใหม่ ในการแก้ดึงหน้าครั้งนี้ เรียกว่า full face lift คือ ดึงขมับ ดึงแก้ม เก็บกรอบหน้า ดึงคอ ก่อนผ่าตัดแอบกังวลและกลัวมาก กลัวผลลัพธ์จะออกมาเหมือนครั้งแรก แต่สุดท้ายหลังผ่าตัด ผลที่ออกมาคนละเรื่องเลย มาดูรูปประกอบ
ก่อนแก้ แผลผ่าตัดชัดมาก นี้ขนาด 9 ปีแล้ว ติ่งหูก็ดูผิดรูป ซึ่งต่างจากติ่งหูปกติ แต่เมื่อหลังแก้ไขแล้ว แผลบริเวณขมับที่กังวลหายไป หมอได้เย็บซ้อนแผล พร้อม ทำติ่งหูให้ใหม่
รูปแรกหลัง 7 วัน หลังแก้ดึงหน้า max lift รูปนี้หลังตัดไหม รอบแรก คือตัดบริเวณหน้าหู จะเหลือบริเวณขมับ ( เป็นแม็ก ) กับหลังหูที่ยังไม่ได้ตัดไหม มีอาการบวมเขียว ช้ำ ซึ่งเป็นปกติ (จะบวมมากคือ วันที่ 4 แล้วเริ่มลดลง)
รูปที่ 2 คือ 14 วันหลังแก้ดึงหน้า max lift ได้เอาแม็กบริเวณขมับออก+ตัดไหมหลังหูออกทั้งหมด อาการเขียวลดลงเหลือแต่อาการบวม
รูปที่ 3 คือ 1 เดือน หลังแก้ดึงหน้า max lift
รูปที่ 3 คือ 2 เดือน หลังแก้ดึงหน้า max lift
รูปที่ 4 คือ 3 เดือน หลังแก้ดึงหน้า max lift
ตอนนี้ แก้ดึงหน้า ได้ 3 เดือนกว่าแล้ว แผลดึงหน้าสวยมาก บริเวณขมับแผลซ้อนอยู่ในไรผม แผลหน้าหูก็โค้งตามรอยหยักของหู ติ่งหูที่ผิดรูป ตอนนี้ก็มีติ่งหูแล้ว แผลหลังหูก็อยู่แนวขอบผม ซึ่งหมอแจ้งว่าแผลจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีจะเริ่มจางลงเรื่อยๆ ก็เลยบอกกับหมอว่าแค่นี้ก็ดีมาก รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะ
บางคนมีคำถามว่า แล้วที่มาเขียนเนี่ยต้องการอะไร เพราะตัวเองเคยผิดพลาดจากการดึงหน้า ที่ไม่ยอมหาข้อมูล เค้าว่าดี ก็ดีตามเค้า บางคนเห็นมีรีวิวเยอะก็คิดว่าที่นี่เก่ง ที่นี่เชี่ยวชาญ แต่เปล่าเลยบางครั้งเป็นการโฆษณา การตลาด ถ้าจะได้ดีเข้าไปปรึกษาเลย เราจะได้เห็นคนไข้จริงๆ เห็นแผล ได้พูดคุยกับคนที่เค้าผ่าตัดจริงๆ และก็อย่าพึ่งรีบตัดสินใจ ไปหลายๆที่ แล้วจากนั้นก็มานั่ง บวก ลบ คูณ หาร ดูว่าที่ไหน ตรงปัญหาตรงใจเรามากที่สุด หากมัดพลาดขึ้นมาแล้วเราจะต้องอยู่กับมันไปตลอด หากใครต้องการข้อมูล หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลหลังไมค์มาได้ ยินดีมาก ด้วยไม่อยากให้ใครมาเจอปัญหาเหมือนเรา สุดท้าย ต้องขอขอบคุณ คุณหมอท่านนี้มาก ให้คำปรึกษาที่ตรงไปตรงมา ได้บอกได้ ไม่ดีก็บอกไม่ดี เข้าใจปัญหาคนไข้ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออก ตรงใจพอใจทั้ง 2 ฝ่าย ขอบคุณจริงๆ