▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
One Day Trip
เที่ยวไทย
[CR] One day trip in Bangkok หนีตามเด็กโลจิสเข้ากรุง
หากว่าใครกำลังเหงาหรือว่าเบื่อจากหน้าที่การงาน เรื่องเรียนอยากหาเวลาได้เที่ยว ได้พักบ้างแต่วันหยุดก็มีอย่างจำกัดเหลือเกิน จขกท.ขอแนะนำให้เที่ยวแบบ one day trip สถานที่ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลเลยจ้ากรุงเทพฯของเรานี่เอง หลายๆคนจะคิดว่ากรุงเทพฯเป็นเมืองที่วุ่นวายแต่ก็มันก็วุ่นวายจริงๆนั่นแหละ 555555 แต่ในความวุ่นวายนี้ก็แอบแฝงไปด้วยความน่าสนใจหลายๆอย่าง ยกตัวอย่างเช่น trip นี้ที่จขกท.จะมารีวิวก็คือออ ความสวยงามของวัดวาอารามในเมืองกรุงและวิถีชีวิตของผู้คน พร้อมที่จะหนีตามเด็กโลจิสสองคนนี้ไปรึยังคะ
มาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า >•< เราเริ่มต้นออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยรถไฟจ้าา ได้อารมณ์สุดๆ เรานัดกับเพื่อนเพื่อมาขึ้นรถไฟที่สถานีเชียงรากน้อย ปลายทางของเราก็คือหัวลำโพงนั้นเอง เสียค่าโดยสารคนละ8บาทถ้วน เช้าๆแบบนี้นั่งรับลมริมหน้าต่างรถไฟถือว่าฟินสุดๆ แต่นั่งมาได้ซักพักใหญ่ๆ ก็นานเหมือนกันแฮะกว่าจะถึงงั้นของีบหน่อยละกันนะ5555555555
ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ ตื่นๆ ตื่นได้แล้วววว
หลังจากลงรถไฟที่หัวลำโพงแล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่ ป้ายรถเมล์บางกอกเซ็นเตอร์ฝั่งตรงข้ามหัวลำโพง เพื่อขึ้นรถเมล์สาย 25 จุดหมายปลายทางของเราก็คือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์นั่นเอง
ขอบอกว่าคุณลุงคนขับรถเมล์ขับรถได้แซ่บมากกก ที่หลับๆอยู่นี่ตื่นเลยจ้า ตื่นเต้นกว่ามาเที่ยวก็นั่งรถนี่แหละเร็วแรงทะลุมิติมาก 5555555 นั่งมาได้ซักพักก็ถึงสถานที่แรกที่เราตั้งใจมาซักที เสียค่าโดยสารคนละ8บาทเอง
วัดแรกที่เรามาคือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ วัดนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก หันซ้ายเป็นจีน หันขวาเป็นเกาหลีงงไปหมด555555 ค่าเข้าวัดคนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ เสียคนละ 50 บาท
<img class="img-in-post in-tiny-editor">
กราบพระ เดินเที่ยววัดกันเสร็จแล้ว เราก็คิดกันได้ว่า ถ้าเดินถัดจากวัดไปหน่อย จะมีมิวเซียมสยามหรือพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้อยู่ใกล้ๆนี่เองเลยตัดสินใจกันว่าลองไปดูซักหน่อย ระยะทางระหว่างวัดไปมิวเซียมสยามน่าจะประมาณ500เมตรได้แค่นี้เองจิ๊บๆ
ในที่สุดเราก็เดินเท้ามาถึงซักที เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน55555 แต่!!! ในวันที่เรามานั้นนน มิวเซียมสยามหรือพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้นี้ดันปิดซะนี่ ฮืออเสียดาย งั้นถ่ายแค่ข้างหน้าละกันเนอะ
แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง! หลังจากเสียใจที่มิวเซียมสยามหรือพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ปิด เสียงท้องเราก็ร้องจ๊อกๆ 555555 เราเลยตัดสินใจเดินกลับไปที่ตลาดท่าเตียนข้างๆวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารหรือวัดโพธิ์อีกครั้ง ร้านอาหารที่เราเลือกเป็นร้านอาหารที่ตกแต่งร้านแบบสไตล์โมเดิล มีอาหารให้เลือกหลากหลายแถมอร่อยอีกด้วย ยกนิ้วให้เลยแหละ
ต้มยำเห็ดก็อร่อยไม่แพ้กัน เห็ดเน้นๆ รสชาติอร่อยกลมกล่อม สายชอบกินเห็ดคือฟิน เริ่ดมากแม่
ข้าวไข่ข้นเป็นอะไรที่สุดยอด อร่อยมากต้องไปลองให้ได้เลย หอมไข่มากๆ เรียกน้ำลายสอได้เลย
น้ำมะนาวโซดา เป็นอะไรที่แซ่บซ่ามากแม่ สมชื่อเขาเลย
แถมบรรยากาศในร้าน อยากนั่งสักครึ่งวัน แอร์เย็นมากกกก5555555 ค่าเสียหายทั้งหมดของมื้อนี้คือ 205 บาทนั้นเอง
ท้องอิ่มกันแล้ว เราก็พร้อมไปต่อ ปลายทางต่อไปของเราก็คือ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารแต่ก่อนจะนั่งเรือข้ามฟากไปวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารไหนๆก็เดินผ่านตลาดท่าเตียนแล้วขอแวะเดินเที่ยวแปบนึงละกัน
ตลาดนี้ส่วนใหญ่จะขายเป็นของจำพวกของแห้ง เช่น ปลาหมึกแห้ง ข้าวเกรียบที่เอาไว้ทอด แล้วก็ของฝากต่างๆ เรามานั่งเรือข้ามฟากกันเถอะพวกเรา ค่าเรือโดยสารแค่ 4 บาทเองงงง
และแล้วเราก็มาถึงวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารกันซักที เดินเข้ามาในวัดเราจะเห็นยักษ์สองตนยืนต้อนรับเราอยู่ เอาจริงๆก็แอบน่ากลัวเหมือนกันนะ5555
คนเยอะมากกกกไม่ต่างจากวัดเเรกเลย ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติทั้งนั้น เรารีบเข้าไปไหว้พระแล้วก็ถ่ายรูปกันเถอะเพราะว่าแดดร้อนมาก5555 ร้อนแบบจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง
ไหว้พระ ถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว สถานที่สุดท้ายที่เราจะไปกันก็คือ โบสถ์ซางตาครู้สหรือวัดกุฎีจีน แต่ก่อนไปขอแวะหลบแดดที่ร้านน้ำก่อนนะไม่ไหวร้อนจะละลายแล้ว55555 ราคาแค่ 20 บาท
ร้านนี้แม่ค้าน่ารักมากก ดูเป็นกันเองแถมยังช่วยบอกทางไปโบสถ์อีกด้วย
โบสถ์ซางตาครู้สหรือวัดกุฎีจีนอยู่ห่างจากวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารค่อนข้างไกล แต่เราพวกเราใช้วิธีการเดินและถามทางชาวบ้านแถวนั้นไปเรื่อยๆตอนแรกก็ว่าสนุกดี แต่หลังๆเริ่มเหนื่อย55555 แต่เราว่ามันก็ได้ฟีลไปอีกแบบนะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้น แถมชาวบ้านยังน่ารักและมีน้ำใจช่วยบอกทางคอยแนะนำว่าไปทางไหนถึงเร็วกว่า ชวนพูดคุยต่างๆ ทำให้รู้ว่าการที่ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เดินมาเรื่อยๆสรุปเราก็มาถึงที่หมายซักที
แต่เป็นอะไรที่น่าเสียดายอีกแล้วววว เพราะว่าโบสถ์ซางตาครู้สหรือวัดกุฎีจีนนี้เปิดในเวลา17.00 น. แต่เวลาที่เรามาถึงกันน่าจะประมาณ14.00 กว่าๆเอง เราเลยตัดสินใจไม่รอเพราะดูจากสภาพอากาศคิดว่าถ้าอยู่รอขากลับต้องติดฝนแน่ๆ แปรปรวนเก่งกว่าใจคนก็สภาพอากาศนี่แหละ กลางวันร้อนจะบ้าตายบ่ายมาฝนจะตก ฉันสับสนใจยิ่งนัก5555 งั้นเราก็ขอจบการเดินทาง one day trip in Bangkok ของเราเพียงเท่านี้นะคะ
เอ้อออเราลืมบอกไปว่าตลอดทั้งทริปนี้เราเดินซะส่วนใหญ่มีแค่นั่งรถเมล์จากหัวลำโพงแล้วก็นั่งเรือข้ามฝากมาวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารแค่นั้นเอง และเดินจนขาลากกันไปจ่ะ55555
กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของเราหากผิดพลาดประการใดก็แนะนำติชมกันมาได้นะคะเรายินดีแก้ไข สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกว่าถ้ามีเวลาและโอกาสลองออกไปเที่ยวดูบ้าง การที่เราได้ไปเที่ยวที่ใหม่ๆพบเจอผู้คนใหม่ๆมันช่วยให้เราหายเบื่อหายเหงาได้จริงๆนะคะ ถ้าไปเที่ยวที่ไหนกันมาหรือมีที่ไหนแนะนำก็อย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะเผื่อเด็กโลจิสสองคนนี้จะหนีตามไปบ้างงง
ปล.อยากเที่ยวแต่ใบลาหมดแล้วววว55555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้