อยากแชร์ประสบการณ์ และความผิดพลาด เกี่ยวกับ ชีวิตคู่ ครั้งหนึ่ง ไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับ คนวัย สร้างตัว 25-30 ของผมครับ

ขอเอ่ย ตามตรงเลยนะครับว่า ทั้งหมดนี้ จะเล่าตามข้อเท็จจริง อาจจะเป็นการระบายเสียมากกว่า
 
 
1.ผมเริ่มคบกับแฟน ที่อายุน้อยกว่าราว 5 ปี ได้เริ่มต้น ทำงานมาก่อน โดย ที่ก่อนหน้านี้ผมมีปัญหากับทางครอบครัว
เรียนไม่จบแล้ว ได้มารู้จักกับแฟน อยู่กับแฟน ราวๆ 3-4 เดือน เริ่มออกมาทำงาน เป็นช่างคอม กับร้านเล็กๆ ในตจว
ไต่เต้า จากเงินเดือน 6000 บาท ขึ้นมา 15,000  ทำงานราวๆ 2 ปี แฟนก็เรียบ จบ ปตรี มาอยู่ด้วยที่ร้าน เกือบๆ ปี
โดยที่ ไม่ทำงานอะไร อ้างว่า เงินเดือนน้อย ตาม ตจว โดยที่ ขอพ่อแม่ เดือนละ 2000 - 3000 ทำ งานอดิเรก ถักงานฝีมือขาย
รายได้เดือนนึงไม่เกิน 1000 -2000 บาท ไม่รวมต้น ทุน 
ผมเลยรู้สึกว่า หากจบแล้วไม่รีบทำงาน จะยิ่งหางานทำลำบาก เลย พยายาม พลักดัน กดดันให้ หางานทำ หาก ตจว เงินเดือนไม่พอ ใจ
ก็ลองถามเพื่อน ไป ชลบุรี หรือ ที่ กทม แล้วแต่จะ ต้องการให้ ได้เริ่มงาน   พาไปสัมภาษณฺ์ อยู้ 2-3 ที่ ยังไม่ได้ งาน
 
ทุกครั้งทีต้องลางานไปเพื่อน แฟน ทาง เจ้าของร้านก็เริ่มไม่พอใจ ที่ ผมจะต้องไปเพื่อนแฟนตลอด + กับเริ่มรู้ว่าหาก แฟนได้งาน ทำ ในเมือง
ผมมีสิทธิ ที่จะย้ายงานตามแฟน ตำแหน่งที่ ทำตอนนั้น คือ ผู้จัดการ ประกอบกับแฟนเก่า ผม คนนั้น ก็ค่อนข้าง เจ้ากี้ เจ้าการ กับ พนักงานคนอื่นในร้าน ทั้งที่ตนเอง ไม่ได้มีสิทธิ ใดๆ เกี่ยวกับการจัดการ รวมถึง เอ่ยปาก ต่อว่าพนักงานคนอื่น หรือ พูดง่ายๆ ขาดสัมมาคราวะ และ กาละเทศะ ต่อ เจ้าของร้าน นั่นคือผมที่ ผมระอาย  และ ตัวผมเอง เริ่ม ระหอง ระแหงกับ ที่ทำงานเดิม และ ตัดสินใจปรึกษากับทางบ้านแฟน ว่าจะลาออกมา ทำร้านเอง และ ให้แฟน หางานทำแถวบ้าน โดยที่ ไม่ได้ ปรึกษาหารือ กันให้ละเอียดรอบคอบ ผมเลยได้กลับบ้าน ทางบ้านผม ยินดีที่ได้รับกลับไป และ อยากให้แฟน ลองมองหางานทำระหว่างรอตำแหน่งงานที่อยากทำ หรือ รอสอบ แน่นอน แฟนผมไม่ทำ และ มองว่า เป็นจำนวนเงินน้อยเกินไป 
กิจการร้านที่จะสร้างชงักไปเพราะ แฟนก็ไม่ทำอะไร ตัวเราก็ ไม่ได้เริ่มอะไร เพราะออกมากลางคัน จาก ปัญหาข้างต้น
 
2. เลยตัดสินใจไป ชลบุรี เพื่อ ทำงาน โรงงาน ปรากฏว่าทำได้แค่ วันเดียว แฟน ตัดสินใจไม่ไปทำต่อ บอกว่าทำไม่ไหว
นางอยากทำคลินิค เลยไปสมัคร คลินิค จัดฟัน ทำได้ไม่ถึง เดือน ก็อ้างว่า โดนกลั่นแกล้ง จากที่ทำงาน จนออกจากงาน ระหว่างที่ ว่างงานกันทั้งสอง
 
 
3. สุดท้ายตัดสินใจ ย้ายมาทำงานที่ กทม. จนได้งาน แฟนผมทำงานได้แค่ สาม เดือน ก็ เข้าๆออกๆ เนื่องจากปัญหา ต่างๆ ยอมรับว่าเริ่มมีปากเสียงกัน
ในฐานะ คนที่เคยทำงานประจำมาก่อน ย่อมรู้ดี ว่าแบบไหน คือสิ่งที่แฟนเราต้องปรับตัวเข้าหา ไม่ใช่ ให้ผู้ใหญ่ มา ปรับตัว จน 3 เดือน เปลี่ยนงานที 
ผมทำงานก็อึดอัด กับความจู้จี้ จุกจิก และ ไม่โตของแฟน จนส่งผลกระทบต่องานตัวเอง  การย้ายงานเปลี่ยนงานบ่อย ทุกอย่างมี ค่าใช้จ่าย เลยเกิด หนี่เสียจากบัตร เครดิต คือ ชื่อ แฟน ผม หาเงินมา จุนเจือ ได้แค่ พอ ค่าขั้นต่ำ และ ค่าห้อง ค่า กิน 
จนสุดท้าย ไปกันไม่รอด  แฟน เก่า เลยตัดสินใจ ขอแยกทาง พยายาม ขอร้องแล้ว ให้อยู่ช่วยกัน เคลียร์หนี่สินก่อน เพราะผมกำลังจะได้ งานใหม่ ที่เพียงพอจะใช้หนี้ หมดภายใน 3 เดือน แต่ เธอไม่ยอม ยืนยันที่จะ แยกทางไปให้ ได้ สดท้ายเลยต้องปล่อย..... ทั้งที่หนี้สินบัตรแฟนยังเคลียร์ไม่หมด
 
 
4. ผ่านไป  6 เดือนต่างคนต่างมี ชีวิตใหม่ ผมได้ย้ายงาน หน้าที่การงานดี ขึ้น รายได้ เพียงพอ ได้โอกาสศึกษา ต่อ เพราะ เปลี่ยนตัวเอง มีเวลา จากการทะเลาะเบาะแบ้ง เครียดกับปัญหาเก่าๆ มาให้ตัวเอง สุขภาพจิต ดีขึ้น และ ได้ มีแฟนใหม่ ที่มีการวางแผนอนาคตร่วมกัน
เมื่อวานนี้ แฟนเก่าจัดการ ส่ง แชทเฟสบุ๊ค และ คำประนาม ต่อว่า ผมสารพัด ให้แฟน ใหม่ ผมได้รับ ทราบ พร้อมกับ คำพูดที่ว่า
"หนูโดนฟ้องศาล เรื่องบัตรเครดิต ที่ ผมเอาไปผลาญ ถ้าพี่มีเงินกันขนาดนั้น น่าจะคิดช่วยเหลือหนูบ้าง "  แฟนผม มีวุฒิภาวะ พอที่จะไม่ต่อ ปากต่อคำ
และให้นางพิมพ์ร่ายยาวมา สารพัด แฟนปัจจุบันผม นำแชทนั้นเปิดให้ผม ดู
ผมรู้สึก อึ้งมากๆครับ กับ การที่  ทั้งโดนทิ้ง โดนขอเลิก  โดนให้ต้องรับผิดชอบ ชีวิตคนเดียว อีกคนหนีไปมีแฟนใหม่  แต่พอมีปัญหา เรื่องเงิน กลับ ใช้วิธี สาดโคลน ให้ผม ผ่านแชท ทางแฟน ปัจจุบัน  เธอเคยโทรมาทวงเงิน ที่จะให้ผมใช้หนี้ด้วย แต่ ผมได้ คุยกับเธอแล้วว่า จำวัน ที่เราตกลง กันได้ไหมว่า 
ให้อยู่ก่อน ช่วยเคลียร์ก่อนแยก ทาง หาก จะไป แต่เธอ กลับยืนยันที่จะไป นางวางสาย ตัดสายผมไป และ ไม่มีคร่าวคราวใดๆ อีกเลย
 
ตอนนี้รู้สึก แค่ว่า เราโชคดีแล้ว ที่เรามีชีวิตที่ดีขึ้นงาน ที่ดี สภาพคล่องการเงิน ที่ดี กว่าอดีต มี เป้าหมาย ในชีวิต และได้ลงมือทำ จริง 
แต่กับคนที่ไม่ยอมจบ และ เพื่อนเราแท้ๆที่คบไม่ได้ คน กลับนำเราไปพูดสนุกปาก ในลับหลัง
 
รู้สึกเจ็บปวดครับ และ พยายามอยากจะให้อภัย คนเหล่านี้ให้ได้  พยายามจะนิ่งให้มากที่สุด
แต่ตอนนี้รู้สึก จุก และ เจ็บ ในใจแปลบๆ ที่ ทั้งโดนทิ้ง ชีวิตดีขึ้น แต่กลับต้อง  ถูกปั่น ป่วน จาก อดีต เก่าๆ ให้ไปช่วยใช้หนี้ ที่เหลือ ที่ไม่ใช่ภาระ ผูกพัน ทางกฏหมาย ใดๆกับผมอีก
 
เหนื่อยเหลือเกินครับ กับการเป็นคนดี แต่ บางที ถ้าจะดีจริงๆ ก้ต้องเข้มแข็ง ให้ได้ ไม่ใจอ่อน รวนเร และ แปรปรวน แบบครั้งอดีตอีก 

มีอะไรจะแนะนำ เพื่อนสมาชิก สามารถ แบ่งปันกันได้นะครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่