(การสนทนากับโหณพราหมณ์, เริ่มในที่นี้ด้วยพราหมณ์ทูลถาม)
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นเทวดาหรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นเทวดาดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นคนธรรพ์หรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นคนธรรพ์ดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นยักษ์หรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นยักษ์ดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นมนุษย์หรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นมนุษย์ดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! เราถามอย่างไร ๆ ท่านก็ตอบว่ามิได้เป็นอย่างนั้น ๆ, ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นอะไรเล่า ?”
พราหมณ์เอ๋ย ! อาสวะ เหล่าใด ที่จะทำให้เราเป็น เทวดา เพราะยังละมันไม่ได้,
อาสวะเหล่านั้นเราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน
ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว.
พราหมณ์เอย ! อาสวะเหล่าใดที่จะทำให้เราเป็น คนธรรพ์ เป็น ยักษ์ เป็น มนุษย์
เพราะยังละมันไม่ได้, อาสวะเหล่านั้น เราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว
ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มีไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว.
....
("I AM WHO I AM,")
.....เมื่อนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเป็นผู้ออกไป พรากไป
หลุดพ้นไป มีใจอันหาขอบเขตมิได้อยู่ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่
สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์.ดังนี้
.....
พราหมณ์ ! เปรียบเหมือนดอกบัวเขียว บัวหลวง หรือบัวขาว,
มันเกิดในน้ำเจริญในน้ำ โผล่ขึ้นพ้นน้ำตั้งอยู่ น้ำไม่เปียกติดมันได้
ฉันใดก็ฉันนั้นนะพราหมณ์ ! เรานี้เกิดในโลก เจริญในโลก ก็จริง
แต่เราครอบงำโลกเสียได้แล้ว และอยู่ในโลก โลกไม่ฉาบทาแปดเปื้อน เราได้.
พราหมณ์ ! ท่านจงจำเราไว้ว่า เป็น “พุทธะ” ดังนี้เถิด.
พระเจ้าข้า! 🙏
( I AM THAT I AM)
ตถตา...ข้าพระเจ้า👁จึงปรากฎอยู่.
___________________________________
.........
อิมัสมิง มงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงเข้ามาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น
มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว
อะนัตตา. ราชะ เสมานา เขตเม สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ
ธัมมะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ
........
เหมือนดั่งว่า:-🧵
ทั้งโลกนี้แลโลกอื่น ตถาคตผู้ทราบดีอยู่ ได้ประกาศไว้ชัดแจ้งแล้ว.
ทั้งที่ที่มารไปไม่ถึง และที่ที่มฤตยูไปไม่ถึง ตถาคตผู้รู้ชัดเข้าใจชัด
ได้ประกาศไว้ชัดแจ้งแล้ว. เพราะความรู้โลกทั้งปวง. ประตูนครแห่งความไม่ตาย ตถาคตเปิดโล่งไว้แล้ว เพื่อสัตว์ทั้งหลายเข้าถึงถิ่นอันเกษม.
กระแสแห่งมารผู้มีบาป ตถาคตปิดกั้นเสียแล้ว กำจัดเสียแล้ว ทำให้หมดพิษสงแล้ว.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มากมูมด้วยปราโมทย์
ปรารถนาธรรมอันเกษมจากโยคะเถิด.
......
ปัจจะมาเร ชิโน นาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะ กะวาทะ เกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะ ชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ.
.
ไม่ได้เป็นอะไรดอก.(มโน)เอง
ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นอะไรเล่า ?”
(การสนทนากับโหณพราหมณ์, เริ่มในที่นี้ด้วยพราหมณ์ทูลถาม)
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นเทวดาหรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นเทวดาดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นคนธรรพ์หรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นคนธรรพ์ดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นยักษ์หรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นยักษ์ดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นมนุษย์หรือ ?”
พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นมนุษย์ดอก.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! เราถามอย่างไร ๆ ท่านก็ตอบว่ามิได้เป็นอย่างนั้น ๆ, ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นอะไรเล่า ?”
พราหมณ์เอ๋ย ! อาสวะ เหล่าใด ที่จะทำให้เราเป็น เทวดา เพราะยังละมันไม่ได้,
อาสวะเหล่านั้นเราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน
ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว.
พราหมณ์เอย ! อาสวะเหล่าใดที่จะทำให้เราเป็น คนธรรพ์ เป็น ยักษ์ เป็น มนุษย์
เพราะยังละมันไม่ได้, อาสวะเหล่านั้น เราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว
ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มีไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว.
....
("I AM WHO I AM,")
.....เมื่อนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเป็นผู้ออกไป พรากไป
หลุดพ้นไป มีใจอันหาขอบเขตมิได้อยู่ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่
สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์.ดังนี้
.....
พราหมณ์ ! เปรียบเหมือนดอกบัวเขียว บัวหลวง หรือบัวขาว,
มันเกิดในน้ำเจริญในน้ำ โผล่ขึ้นพ้นน้ำตั้งอยู่ น้ำไม่เปียกติดมันได้
ฉันใดก็ฉันนั้นนะพราหมณ์ ! เรานี้เกิดในโลก เจริญในโลก ก็จริง
แต่เราครอบงำโลกเสียได้แล้ว และอยู่ในโลก โลกไม่ฉาบทาแปดเปื้อน เราได้.
พราหมณ์ ! ท่านจงจำเราไว้ว่า เป็น “พุทธะ” ดังนี้เถิด.
พระเจ้าข้า! 🙏
( I AM THAT I AM)
ตถตา...ข้าพระเจ้า👁จึงปรากฎอยู่.
___________________________________
.........
อิมัสมิง มงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงเข้ามาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น
มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว
อะนัตตา. ราชะ เสมานา เขตเม สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ
ธัมมะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ
........
เหมือนดั่งว่า:-🧵
ทั้งโลกนี้แลโลกอื่น ตถาคตผู้ทราบดีอยู่ ได้ประกาศไว้ชัดแจ้งแล้ว.
ทั้งที่ที่มารไปไม่ถึง และที่ที่มฤตยูไปไม่ถึง ตถาคตผู้รู้ชัดเข้าใจชัด
ได้ประกาศไว้ชัดแจ้งแล้ว. เพราะความรู้โลกทั้งปวง. ประตูนครแห่งความไม่ตาย ตถาคตเปิดโล่งไว้แล้ว เพื่อสัตว์ทั้งหลายเข้าถึงถิ่นอันเกษม.
กระแสแห่งมารผู้มีบาป ตถาคตปิดกั้นเสียแล้ว กำจัดเสียแล้ว ทำให้หมดพิษสงแล้ว.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มากมูมด้วยปราโมทย์
ปรารถนาธรรมอันเกษมจากโยคะเถิด.
......
ปัจจะมาเร ชิโน นาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะ กะวาทะ เกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะ ชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ.
.
ไม่ได้เป็นอะไรดอก.(มโน)เอง