แฟนซื้อรถไม่ปรึกษา ไม่เคยชวนไปดูด้วย แบบนี้คุณจะโกรธมั้ย

แฟนซื้อรถไม่ปรึกษา ไม่เคยชวนไปดูด้วย รู้อีกทีก็จองแล้วยื่นเอกสารเรียบร้อย
เขาพูดประมาณว่า อีกวันจะชวนมาดูด้วย แต่เซลล์พูดดักหน้าดักหลัง และเขาก็อยากได้ด้วย เลยตัดสินใจเลย
และเผลอพูดมาอีกว่า ไปดูมาหลายที่ หลายครั้งแล้ว (แต่ไม่เคยชวนหรือบอกเราว่าไปดูรถเลย)
ซึ่งเราก็ไม่ได้ช่วยเขาผ่อนอยู่แล้ว และไม่ขัดแน่นอนถ้าอยากจะซื้อ แต่อยากให้บอกกันซักนิดนึง
เรารู้สึกไม่ดีเลยอ่ะ เหมือนเราไม่มีความสำคัญ  ถามแม่ก็บอกว่าแปลกมาก 
และวางแผนจะแต่งงานกันปีหน้า กลัวเรื่องแบบนี้จะเป็นปัญหาในอนาคต
เพื่อนๆคิดยังไงกันคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่คิดยังไงค่ะ เงินเขาเราไม่ได้ช่วยผ่อน รถของเขาเขาอยากได้คันไหนเขาก็ตัดสินใจเอง มันก็ถูกแล้วนี่
ความคิดเห็นที่ 27
ในมุมผู้ชาย

บางที พอบอกไป เรื่องมันเยอะไง คุณอาจจะไม่ขัด แต่ถามนั่น ถามนี่ ต้องสีนั้น ต้องสีนี้ เจอเข้าไปก็รำคาญไง ไม่บอกดีกว่า หรือ บอกตอนจองไปแล้ว จะได้เปลี่ยนอะไรไม่ได้

ตอนผมจะซื้อรถคันนี้ ผมก็ไม่บอกนะ บอกไปเรื่องเยอะมาก .. จนจองเรียบร้อย จะเข้าไปดูรถ ถึงพาไปดูนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้าจะแต่งงานในระยะเวลาอันใกล้ .. การซื้อรถเงินผ่อน เป็นการสร้างหนี้  ในระยะเวลาหลายปี

จึงควรที่จะปรึกษาคู่ครอง ที่จะมาสร้างครอบครัวในอนาคต ...  และต้องรับผิดชอบในหนี้ก้อนนี้โดยอ้อมด้วย

แต่เขาอาจจะมองว่า การแต่งงานเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่แน่นอน .. และประเมินความสามารถของตนเองในการผ่อน + ความอยากได้รถ ... จึงตัดสินใจซื้อตามใจตัว

แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ความสามารถในการจ่ายค่าสินสอด และจัดงานแต่งของเขาจะลดลงไป

และเป็นข้ออ้างที่จะต่อรองกับทางครอบครัวของ จขกท. ในส่วนนี้
ความคิดเห็นที่ 12
สำหรับเรา ถ้ามีแพลนจะแต่งงานกันก็ควรบอกนะคะ เพราะมันหมายถึงการวางแผนการเงินในอนาคตด้วย รถคันนึงไม่ใช่บาทสองบาท ไม่ใช่แค่รถนะ มือถือสักเครื่อง กล้องสักตัว โน้ตบุ๊กสักเครื่อง ปืนสักกระบอก เรายังอยากให้บอกเลย แต่งงานกันแล้วแยกใช้เงินใครเงินมัน ไม่ต้องสนใจความรู้สึกอีกฝ่าย ก็ไม่รู้จะแต่งกันไปทำไมอะ เพราะฉะนั้น ถ้าถามเรา เราโกรธค่ะ

แต่อย่างว่า มันก็แล้วแต่คู่แหละ ขนาด คห.บนๆ เค้าก็ยังว่าเป็นเรื่องปกติกันเลย
ความคิดเห็นที่ 47
เห็นคุณบอกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องรถ ที่เขาไม่บอกคุณ

คนที่ใกล้จะแต่งงานกัน และมาทำแบบนี้ เรามองว่าแปลก
ถ้าคบกัน รักกัน ถึงขั้นตัดสินใจ สู่ขอแต่งงานกัน ก็น่าจะให้ความสำคัญกับคู่ครองมากกว่านี้
และรถที่ต้องผ่อน คือหนี้ระยะ3-6 ปี น่าจะมาปรึกษากันว่า ออกตอนนี้ดีไหม กระทบกับเงินสินสอดเงินจัดงานอะไรไหม
อย่างน้อยๆ ไม่ชวนไปดูก็วางแผน ปรึกษากันสักหน่อย แค่บอกเล่าให้คนที่จะกลายมาเป็นคู่ชีวิตได้รู้บ้างว่า เออเขากำลังทำอะไร

ถ้าไม่ใช่เรื่องซื้อรถ แต่กลายเป็นว่า เขาเอาเงินไปเล่นพนันจนหนี้มหาศาล โดยที่คุณไม่รู้
หรือทำอะไรอีกหลายๆ เรื่อง โดยที่คุณไม่รู้ ทั้งที่จะแต่งงานกันอยู่แล้ว เรามองว่าไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่

คิดจะสร้างครอบครัว คิดจะแต่งงาน ก็ควรจะใส่ใจความรู้สึกของ ผญ ที่จะมาเป็นคู่ครองด้วย
ถ้าคิดแค่ว่า ยังอยากทำอะไรตามใจตัวเอง อิสระเหมือนที่เคยเป็นมา เราคิดว่า เขายังไม่พร้อมจะแต่งงานนะ
และยิ่งถ้าคุณเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยด้วย ก็ลองเลื่อนๆ งานแต่งออกไปก่อน คบกันให้ชัวร์ๆ อีกหน่อยดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่