สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับดิฉันและเพื่อนๆ ซึ่งเหตุเกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดของทางมหาวิทยาลัย
และ นักศึกษาอย่างพวกเราทำได้แค่ "ทำใจ" ก่อนอื่นเลย จุดประสงค์ที่มาเล่าเรื่องนี้คือ ต้องการแชร์เรื่องราว
และสอบถามข้อคิดเห็นจากคนภายนอกมหาวิทยาลัย รวมทั้งแนวทางแก้ไขค่ะ ไม่มีเจตนา ว่าร้ายใส่ความใดๆทั้งสิ้น
ขอไม่เปิดเผยชื่อมหาวิทยาลัยค่ะ
เหตุเกิดเมื่อดิฉันอยู่ปี1ค่ะ
เปิดเทอมวันที่ 6 สิงหาคม 2018
มีเพื่อนคนหนึ่ง (คนสนิท) ขอเรียกว่า เอ
เราเรียนคณะวิศวะ ที่มหาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นภาค inter ซึ่งผู้ที่ได้ที่ 1 ของภาควิชาจะได้ทุนเรียนฟรี
การเรียนภาคอินเตอร์จะมีวิชาภาษาอังกฤษปรับพื้นฐานสำหรับคนที่ไม่มีคะแนน ielts ( ใช้ ielts ยื่นจะได้ ผ่านทันที )
ซึ่งวิชานี้จะมีแค่ Satisfied / Unsatisfied (ผ่าน และไม่ผ่านนั่นเอง) เท่านั้น
เอเป็นคนที่วางแผนในชีวิตมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัย การเรียนถือว่าเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ เพื่ออนาคตที่วางไว้
เขาเคยเป็นเด็กติดเกมส์ วันๆคือเล่นแต่เกมส์ จนจบม ปลายมาด้วยเกรด 2 ปลายๆ แต่เข้ามหาลัยทำให้เอเปลี่ยนไป
เอตั้งใจจะแบ่งเบาภาระพ่อแม่เรื่องค่าใช่จ่ายที่แสนแพงของการเรียนอินเตอร์
และคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองก็เป็นความฝันของเอ เอมักบอกเราเสมอว่า ถ้าได้เกียรตินิยมอันดับ 1
จะเป็นใบเบิกทางในการทำงานและเรียนต่อในอนาคตอย่างมาก เราเข้าใจและก็เอาใจช่วยเสมอ
เริ่มเรียนปี1 นศ ทุกคนยังตื่นเต้นกับการเปิดเทอมและปรับตัวรวมทั้งเราด้วย แต่เอทุ่มเวลาไปกับการเตรียมตัวสอบ
ในทุกๆวันเวลา 20:00-24:00 เขาจะทวนเนื้อหาที่ได้เรียนทุกวัน และ รวมทั้งศึกษาการเขียนโปรแกรมนอกหลักสูตร
แต่เอก็ยังเป็นคนตลกเฮฮาเป็นที่รักของเพื่อนเสมอ
ความพยายามไม่ทรยศใคร สิ้นปี เอได้ที่ 1ของภาควิชา ทั้งเทอม 1 และ เทอม 2 ด้วยเกรด 3.94
ในตอนปิดเทอมวันที่ 7 เดือนกรกฎาคม 2019
มีสายโทรเข้ามาถึงเอตอนประมาณ 5โมงเย็น ปลายสายคือรองอธิการ ฝ่ายวิชาการที่โทรมาแจ้งข่าวว่า
" เอ ไม่มีคุณสมบัติพร้อมจะรับทุนแล้ว เพราะทางหลักสูตรจะเปลี่ยนเกณฑ์การให้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษเป็นแบบมีเกรด
เพราะหลักสูตรคำนวนหน่วยกิตมาผิดตั้งแต่แรก และเอได้ B ในวิชานั้น "
การเปลี่ยนหลักสูตรการนับคะแนนหลังจากที่นศ เรียนวิชานั้นจบไปแล้วนั้นได้ด้วยหรอ?
คำถามยังค้างอยู่ในใจทุกคนในหลักสูตร แต่คนส่วนมากมีคะแนน ielts และสามารถแปลงเป็นเกรด A ได้
แต่คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดย่อมเป็นเอ
เกรดร่วงโดยที่ เอ ยังไม่ได้เตรียมรับด้วยซ้ำ ถ้าความผิดพลาดเกิดจากตนเองคงน่าดีใจซะกว่า
ความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้ดิฉันและลุกขึ้นหาทางแก้
เราดำเนินเรื่องคุยกับอาจารย์ที่ดูแลหลักสูตรภาควิชา ก็ได้ความว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยอมรับเกรด
เราจึงส่งเรื่องไปถึง รองอธิการที่ดูแลหลักสูตรทั้ง อินเตอร์
หลายอาทิตย์ผ่านไปยังไม่มีอะไรคืบหน้า
เราจึงเดินไปถามได้ความว่า ไม่สามารถแก้เกรด ไม่สามารถยื่นไอเอลย้อนหลัง หรือเรียนใหม่ได้
สามารถเรียนซ้ำได้แค่คนที่ได้ F เท่านั้น
ดีที่อาจารย์ทุกท่านน่ารักและให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก
แต่ว่าสุดท้ายแล้วปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข เอไม่ได้วางแผนการเรียนในวิชานี้และไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
เรื่องการลุ้นว่าที่เกียรตินิยมอันดับ1 เหรียญทองได้ตกไปโดยที่ไม่ได้มาจากความผิดของเอนั้นยิ่งน่าเจ็บใจ
เอได้แต่ถามว่าทำไมต้องเป็นเขา และแน่นอนว่าปัญหานี้กระทบทั้งหลักสูตร
เสียงของนศ.นั้นดังแค่ไหน ? ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ควรเป็นตัวนศ.เองหรือไม่ ?
จนเรื่องนี้แล้วมาถึงเดือน ตุลาคม 2019 เรายังไม่ได้รับความยุติธรรม และยอมรับว่า
เอก็หมดไฟไปกับการเรียนเพราะเรื่องนี้ไปหลายวัน ถึงวันนี้เอจะกลับมาลุกขึ้นสู้ใหม่แต่ในใจก็ยังไม่ชัดเจนกับสิ่งที่เขาได้รับ
เรื่องนี้คงยังไม่สามารถตัดสินใครผิดใครถูก แต่เอเป็นแค่ผู้โชคร้ายคนหนึ่ง
หรือเราคงต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร
ความไม่เป็นธรรมของหลักสูตรการศึกษา ซึ่งมีผลต่อนศ.โดยตรง ใครรับผิดชอบ?
และ นักศึกษาอย่างพวกเราทำได้แค่ "ทำใจ" ก่อนอื่นเลย จุดประสงค์ที่มาเล่าเรื่องนี้คือ ต้องการแชร์เรื่องราว
และสอบถามข้อคิดเห็นจากคนภายนอกมหาวิทยาลัย รวมทั้งแนวทางแก้ไขค่ะ ไม่มีเจตนา ว่าร้ายใส่ความใดๆทั้งสิ้น
ขอไม่เปิดเผยชื่อมหาวิทยาลัยค่ะ
เหตุเกิดเมื่อดิฉันอยู่ปี1ค่ะ
เปิดเทอมวันที่ 6 สิงหาคม 2018
มีเพื่อนคนหนึ่ง (คนสนิท) ขอเรียกว่า เอ
เราเรียนคณะวิศวะ ที่มหาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นภาค inter ซึ่งผู้ที่ได้ที่ 1 ของภาควิชาจะได้ทุนเรียนฟรี
การเรียนภาคอินเตอร์จะมีวิชาภาษาอังกฤษปรับพื้นฐานสำหรับคนที่ไม่มีคะแนน ielts ( ใช้ ielts ยื่นจะได้ ผ่านทันที )
ซึ่งวิชานี้จะมีแค่ Satisfied / Unsatisfied (ผ่าน และไม่ผ่านนั่นเอง) เท่านั้น
เอเป็นคนที่วางแผนในชีวิตมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัย การเรียนถือว่าเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ เพื่ออนาคตที่วางไว้
เขาเคยเป็นเด็กติดเกมส์ วันๆคือเล่นแต่เกมส์ จนจบม ปลายมาด้วยเกรด 2 ปลายๆ แต่เข้ามหาลัยทำให้เอเปลี่ยนไป
เอตั้งใจจะแบ่งเบาภาระพ่อแม่เรื่องค่าใช่จ่ายที่แสนแพงของการเรียนอินเตอร์
และคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองก็เป็นความฝันของเอ เอมักบอกเราเสมอว่า ถ้าได้เกียรตินิยมอันดับ 1
จะเป็นใบเบิกทางในการทำงานและเรียนต่อในอนาคตอย่างมาก เราเข้าใจและก็เอาใจช่วยเสมอ
เริ่มเรียนปี1 นศ ทุกคนยังตื่นเต้นกับการเปิดเทอมและปรับตัวรวมทั้งเราด้วย แต่เอทุ่มเวลาไปกับการเตรียมตัวสอบ
ในทุกๆวันเวลา 20:00-24:00 เขาจะทวนเนื้อหาที่ได้เรียนทุกวัน และ รวมทั้งศึกษาการเขียนโปรแกรมนอกหลักสูตร
แต่เอก็ยังเป็นคนตลกเฮฮาเป็นที่รักของเพื่อนเสมอ
ความพยายามไม่ทรยศใคร สิ้นปี เอได้ที่ 1ของภาควิชา ทั้งเทอม 1 และ เทอม 2 ด้วยเกรด 3.94
ในตอนปิดเทอมวันที่ 7 เดือนกรกฎาคม 2019
มีสายโทรเข้ามาถึงเอตอนประมาณ 5โมงเย็น ปลายสายคือรองอธิการ ฝ่ายวิชาการที่โทรมาแจ้งข่าวว่า
" เอ ไม่มีคุณสมบัติพร้อมจะรับทุนแล้ว เพราะทางหลักสูตรจะเปลี่ยนเกณฑ์การให้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษเป็นแบบมีเกรด
เพราะหลักสูตรคำนวนหน่วยกิตมาผิดตั้งแต่แรก และเอได้ B ในวิชานั้น "
การเปลี่ยนหลักสูตรการนับคะแนนหลังจากที่นศ เรียนวิชานั้นจบไปแล้วนั้นได้ด้วยหรอ?
คำถามยังค้างอยู่ในใจทุกคนในหลักสูตร แต่คนส่วนมากมีคะแนน ielts และสามารถแปลงเป็นเกรด A ได้
แต่คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดย่อมเป็นเอ
เกรดร่วงโดยที่ เอ ยังไม่ได้เตรียมรับด้วยซ้ำ ถ้าความผิดพลาดเกิดจากตนเองคงน่าดีใจซะกว่า
ความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้ดิฉันและลุกขึ้นหาทางแก้
เราดำเนินเรื่องคุยกับอาจารย์ที่ดูแลหลักสูตรภาควิชา ก็ได้ความว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยอมรับเกรด
เราจึงส่งเรื่องไปถึง รองอธิการที่ดูแลหลักสูตรทั้ง อินเตอร์
หลายอาทิตย์ผ่านไปยังไม่มีอะไรคืบหน้า
เราจึงเดินไปถามได้ความว่า ไม่สามารถแก้เกรด ไม่สามารถยื่นไอเอลย้อนหลัง หรือเรียนใหม่ได้
สามารถเรียนซ้ำได้แค่คนที่ได้ F เท่านั้น
ดีที่อาจารย์ทุกท่านน่ารักและให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก
แต่ว่าสุดท้ายแล้วปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข เอไม่ได้วางแผนการเรียนในวิชานี้และไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
เรื่องการลุ้นว่าที่เกียรตินิยมอันดับ1 เหรียญทองได้ตกไปโดยที่ไม่ได้มาจากความผิดของเอนั้นยิ่งน่าเจ็บใจ
เอได้แต่ถามว่าทำไมต้องเป็นเขา และแน่นอนว่าปัญหานี้กระทบทั้งหลักสูตร
เสียงของนศ.นั้นดังแค่ไหน ? ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ควรเป็นตัวนศ.เองหรือไม่ ?
จนเรื่องนี้แล้วมาถึงเดือน ตุลาคม 2019 เรายังไม่ได้รับความยุติธรรม และยอมรับว่า
เอก็หมดไฟไปกับการเรียนเพราะเรื่องนี้ไปหลายวัน ถึงวันนี้เอจะกลับมาลุกขึ้นสู้ใหม่แต่ในใจก็ยังไม่ชัดเจนกับสิ่งที่เขาได้รับ
เรื่องนี้คงยังไม่สามารถตัดสินใครผิดใครถูก แต่เอเป็นแค่ผู้โชคร้ายคนหนึ่ง
หรือเราคงต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร