ซาร์กิส อดัมยาน ยิงครั้งแรกในบุนเดสลีกาพาฮอฟเฟนไฮม์พิชิตบาเยิร์น

เมื่อสองปีที่แล้ว ซาร์กิส อดัมยาน ยังเป็นแค่นักเตะโนเนมในลีกระดับดิวิชั่น 4 ของเยอรมนีอยู่เลย แต่มาตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกหลังเหมาคนเดียวสองประตูพาฮอฟเฟนไฮม์คว่ำยักษ์ใหญ่จากกรุงมิวนิคคาบ้านในเกมลีกนัดที่ 7 โดยในเกมดังกล่าวเริ่มจากประตูขึ้นนำของฮอฟเฟนไฮม์ซึ่งเป็นประตูแรกของเขาในบุนเดสลีกา หลังจากโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ยิงตีเสมอให้บาเยิร์น มิวนิคได้ไม่นาน อดัมยานก็ซัดประตูชัยพาทีมบุกไปเก็บ 3 คะแนนจากถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่าได้แบบพลิกความคาดหมาย

เชื่อว่าแฟนบอลเกือบทุกคนคงไม่เคยได้ยินชื่อของ ซาร์กิส อดัมยาน มาก่อนแน่ๆ เรามาทำความรู้จักกับฮีโร่ของฮอฟเฟนไฮม์คนนี้กันหน่อยดีกว่าว่าเป็นใครมาจากไหน มีของดีอะไรถึงยิงเบิ้ลใส่ยอดทีมจากกรุงมิวนิคได้...

ซาร์กิส อดัมยาน
 
อายุ: 26 ปี
สโมสร: ฮอฟเฟนไฮม์
ตำแหน่ง: ศูนย์หน้า/ปีก
ทีมชาติ: อาร์เมเนีย (ติดทีมชาติ 16 ครั้ง ยิงได้ 1 ประตู)

สถิติที่น่าสนใจ

อดัมยานเกิดที่เมืองเยเรวานซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอาร์เมเนีย ครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ในประเทศเยอรมนีในปี 1998 ตอนเขาอายุได้เพียง 5 ขวบเท่านั้น อดัมยานประเดิมสนามแข่งฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับสโมสรฮันซ่า รอสต็อค ในดิวิชั่น 3 เมื่ออายุได้ 19 ปี หลังลงเล่นได้ 9 นัด เขาก็ย้ายไปอยู่กับ เทเอสเก นอยชเตรลิตซ์ และติดทีมชาติอาร์เมเนียซึ่งเขาทำประตูได้ในเกมพบกับลิกเทนชไตน์เมื่อปีที่แล้ว

ด้วยผลงาน 16 ประตูกับ 5 แอสซิสต์กับต้นสังกัดในลีกดิวิชั่น 4 ศูนย์หน้าเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุตรายนี้จึงเป็นที่จับตามอง ก่อนถูกทีมยาห์น เรเกนส์บวร์กซื้อตัวไปเล่นในดิวิชั่น 2 ในฤดูกาลแรกกับต้นสังกัดใหม่ เข้ายิงได้ 5 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ แต่ในซีซั่นต่อมา อดัมยานระเบิดฟอร์มเก่งทำไป 15 ประตูกับ 11 แอสซิสต์จนฮอฟเฟนไฮม์ต้องรีบซื้อตัวไปร่วมทีม และแล้วก็มาถึงวันที่แฟนบอลบุนเดสลีกาทุกคนได้รู้จักชื่อของเขา หลังจัดการเหมาคนเดียว 2 ตุงพาทีมพิชิตทีมยักษ์ใหญ่ทีมหนึ่งของโลกได้สำเร็จ และยังกลายเป็นนักเตะจากอาร์เมเนียคนที่สองที่ยิงประตูได้ในบุนเดสลีกาต่อจากเฮนริค มคิทาร์ยาน อดีตดาวเตะของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์



สไตล์การเล่นคล้าย มิโรสลาฟ โคลเซ่อ

ชัยชนะที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนานั้นนำเกียรติยศมาสู่อดัมยานซึ่งเขาก็สมควรได้รับมัน เพราะอดัมยานคือนักเตะที่ขยัน อดทน ฝ่าฟันสิ่งต่างๆ มากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ลักษณะแบบนี้ทำให้นึกถึงตำนานศูนย์หน้าเยอรมันอย่าง มิโรสลาฟ โคลเซ่อ ที่เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพค่อนข้างช้า (อายุ 20 ปี) แต่ก็มามีชื่อเสียงเอาในช่วงหลังด้วยการคว้าแชมป์ลีกสองสมัยและแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 แถมยังเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกอีกด้วย นอกจากนี้โคลเซ่อนั้นก็เริ่มเล่นฟุตบอลลีกอาชีพในดิวิชั่น 4 เช่นเดียวกันกับอดัมยานด้วย

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่อดัมยานทำได้ดีกว่าโคลเซ่อ นั่นก็คือกว่าที่โคลเซ่อจะยิงประตูบาเยิร์นได้ก็ปาไปเกมที่ 5 ที่เขาได้ลงฟาดแข้งกับทีมเสือใต้ ในขณะที่อดัมยานเจาะตาข่ายทัพเสือใต้ได้ตั้งแต่เกมแรกที่พบกันเลย!

รู้หรือไม่?

แม้อดัมยานจะเกิดที่อาร์เมเนีย แต่เขาเริ่มหัดเล่นฟุตบอลในเยอรมนีตั้งแต่ต้น แถมยังไม่ได้เข้าฝึกหัดในโรงเรียนอะคาเดมีฟุตบอลเหมือนนักเตะคนอื่นๆ แต่เติบโตมาจากการเล่นสตรีทฟุตบอลเช่นเดียวกับเจ้าหนูมหัศจรรย์ จาดอน ซานโช อดัมยานเข้าร่วมทีมฮันซ่า รอสต็อคเมื่ออายุได้ 16 ปี ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การคุมทีมของโรลันด์ โครส คุณพ่อของโทนี โครส!

รู้สึกอย่างไรกันบ้าง?

“ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย วันนี้โค้ชให้โอกาสผมและมันก็เป็นโอกาสที่ดีที่ได้ออกสตาร์ทลงเล่นในสนามที่สุดยอดแห่งนี้ ผมอยากตอบแทนเขาและผมก็คิดว่าผมทำสำเร็จแล้ว” อดัมยานกล่าวหลังยิงประตูพาฮอฟเฟนไฮม์พิชิตบาเยิร์น

“เขาคือนักเตะที่น่าทึ่ง เป็นนักเตะที่รับบทบาทขุนพลตัวจริงลงแข่งด้วยความปลาบปลื้มยินดี ผมมั่นใจว่าเขาจะสามารถเป็นอาวุธลับให้กับเราได้ในซีซั่นนี้” อเล็กซานเดอร์ โรเซน ประธานสโมสรฮอฟเฟนไฮม์กล่าว



credit : www.siamsport.co.th

จบนะ!บิ๊กดอร์ทมุนด์ลั่นไม่เคยขอยืมเงินบาเยิร์น

ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เค่ ซีอีโอ ดอร์ทมุนด์ บอกเอง พวกตนไม่เคยเข้าไปขอเงินจาก บาเยิร์น ในตอนที่ถังแตกเหมือนที่ลือกัน ระบุ "เสือเหลือง" มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ไปขอเงินจากอริตัวฉกาจ

ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เค่ ประธานบริหารของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดสโมสรแห่งวงการ บุนเดสลีกา เยอรมัน กล่าวว่าตนไม่เคยขอเงินจาก บาเยิร์น มิวนิค คู่แข่งร่วมลีก ในตอนที่ทัพ "เสือเหลือง" มีปัญหาด้านการเงินอย่างหนักเมื่อปี 2005 เหมือนที่หลายคนลือกันแต่อย่างใด

เมื่อราว 14 ปีก่อนสถานการณ์ด้านการเงินของ ดอร์ทมุนด์ ย่ำแย่จนถึงขั้นสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตัดสินให้เป็นบริษัทล้มละลาย ซึ่งที่จริงเมื่อปี 2003 พวกเขาก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายทีมดังแห่งถิ่น ซักนัล อิดูน่า พาร์ค ก็เอาตัวรอดมาได้ โดยเคยมีข่าวลือว่า ดอร์ทมุนด์ ลงทุนติดต่อไปหา บาเยิร์น เพื่อขอยืมเงินด้วย

วัตซ์เค่ เผยว่า "ถ้าให้พูดแบบตลกร้ายน่ะนะ ผมก็ต้องบอกเลยว่าผมแปลกใจมากๆ จากการที่ข่าวลือเรื่องที่ว่า บาเยิร์น ให้เรายืมเงินมันกลายเป็นประเด็นทางสื่อในตอนที่เราได้แชมป์ บุนเดสลีกา สมัยแรก (หมายถึงเพิ่งมีการนำเสนอเรื่องนั้นในตอนที่ ดอร์ทมุนด์ ยุคของ วัตซ์เค่ ได้แชมป์ลีกหนแรก)"

"ผมพยายามที่จะช่วยเหลือสโมสรอยู่บ้างเพื่อไม่ให้เป้าหมายของการพยายามกุข่าวในครั้งนี้มันสำเร็จ ซึ่งเป้าหมายที่ว่าก็คือการทำให้ทุกคนเชื่อว่าผมเข้าไปหา บาเยิร์น แล้วอ้อนวอนขอเงินจากพวกเขา ทั้งที่จริงๆ แล้วผมไม่เคยขอเงินจาก เอฟเซ บาเยิร์น แม้แต่ยูโรเดียว"

"ผมให้ความเคารพพวกเขาอย่างมากนะ แต่ถ้าให้เลือกน่ะ ผมก็ยอมไปนั่งเป็นขอทานใต้สะพานในเมืองดอร์ทมุนด์เพื่อหาเงินเข้าสโมสรยังดีซะกว่าการไปขอเงินจาก บาเยิร์น การไปขอเงินจากคู่แข่งเบอร์ 1 ของคุณมันถือเป็นสิ่งที่น่าอับอายมากที่สุดในโลก"

สำหรับ วัตซ์เค่ นั้น ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอของ ดอร์ทมุนด์ ในปี 2005 นั่นเอง และเขาก็ได้รับคำชมอย่างมากที่ช่วยให้สโมสรรอดจากการล้มละลายได้ ก่อนที่ ดอร์ทมุนด์ ภายใต้การบริหารของเขาจะได้แชมป์ลีกไปครองในฤดูกาล 2010-11 กับ 2011-12 รวมถึงได้แชมป์ เดเอฟเบ-โพคาล อีก 2 หน ในซีซั่น 2011-12 กับ 2016-17



credit : www.siamsport.co.th