ผมเป็นเซบเดิร์ม (Seb Derm) ที่หน้ามา น่าจะประมาณเกือบ 10 ปีแล้ว
เวลาเป็นทีไร ผื่นแดงก็จะขึ้นมา มันจะคันๆ แสบๆ หน่อยๆ ถ้าทายาหมอ 2-3 วันก็จะหายไปเอง
เป็นแบบนี้มาเกือบ 10 ปี
จนช่วง 2-3 ปีหลัง หน้าเริ่มแย่ลง ผิวหน้าเริ่มแย่ลง ผิวหน้าเริ่มสากๆ
ผื่นเริ่มเป็นบ่อยขึ้น ทายาทา (ตอนหลังถึงรู้ว่ายาทาคือสเตียรอย)
แล้วหายแค่ 2-3 วัน ผื่นก็ขึ้นอีก ก็ต้องอีก เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว
ทำไมมันเป็นแบบนี้ ยาทาของหมอ ทาแล้วก็ควรจะหาย
แต่มันไม่หาย แถมเป็นถี่กว่าเดิม
ไปถามหมอที่รักษา หมอก็บอกว่าโรคนี้ มันได้แค่บรรเทาอาการ
แต่มันไม่มีทางหายขาดได้ เราก็ตกใจ ว่าเอ๊ะ มันเป็นเพราะอะไร
ทำไมถึงไม่หายขาด และเหมือนจะหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ
จากนั้นก็ลองไปรักษาที่อื่น คลีนิคอื่นบ้าง สถานบันโรคผิวหนังบ้าง
โรงพยาบาลแถววังหลังบ้าง หาทั้งคลีนิค และโรงพยาบาลใหญ่ๆ
ผลที่ได้คือ ยาทาสเตียรอย หรือไม่ก็ยาที่ไม่ใช่สเตียรอย แต่เป็นยากดภูมิ
ที่ออกฤทธิ์เหมือนสเตียรอย ซึ่งมันก็กลับสู่วังวนเดิม
คือทาวันนี้ พรุ่งนี้หาย อีก 2 วัน เป็นอีกแล้ว หยุดทาไม่ได้เลย
เราก็หาข้อมูลการรักษาวิธีอื่น ทั้งจากทาง Google และ youtube
ว่ามันมีวิธีอื่นในการรักษา Sebderm ไหม
จนบังเอิญ Youtube สุ่มคลิปของคุณหมอที่ พีระกุลคลีนิคขึ้นมา
เป็นวิธีการรักษาแบบไม่ใช้สเตียรอย
แต่ใช้วิธีการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การตากแดดตอนเช้า
รวมถึงการใช้ยาสมุนไพรที่ไม่มีสเตียรอย มารักษาควบคู่กัน
ช่วงแรกที่รักษากับคุณหมอ ต้องหยุดยาสเตียรอยทั้งหมด
เดือนแรก หน้าเห่อมากสุดๆ ครับ แดงทั้งน้า สะเก็ดขึ้นหลายจุด
ทั้งหว่างคิ้ว ข้างจมูก ริมปาก ตรงคิ้ว ฯลฯ จนไม่กล้าออกไปไหนเลย
ต้องใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา
พอทำตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่าง ทั้งควบคุมอาหาร
ออกกำลัง พักผ่อนให้พอ ไม่เกา โดยแสงแดดเช้าๆ
และทาครีมบรรเทาสมุนไพรของคุณหมอ อาการดีขึ้นมากครับ
หายได้ประมาณ 80% แล้วตอนนี้
อนาคตถ้าหายได้ 100% โดยที่ไม่ต้องทาครีม แล้ว Sebderm
ก็ไม่กลับมา คือ ถ้ามันไม่กลับอีกในระยะยาว โดยไม่ต้องใช้ยาอะไรเลย
จะกลับมาอัพเดทข้อมูลให้อีกทีนึงครับ
[CR] รีวิว การรักษา เซบเดิร์ม ที่หน้า โดยไม่ใช้สเตียรอย
เวลาเป็นทีไร ผื่นแดงก็จะขึ้นมา มันจะคันๆ แสบๆ หน่อยๆ ถ้าทายาหมอ 2-3 วันก็จะหายไปเอง
เป็นแบบนี้มาเกือบ 10 ปี
จนช่วง 2-3 ปีหลัง หน้าเริ่มแย่ลง ผิวหน้าเริ่มแย่ลง ผิวหน้าเริ่มสากๆ
ผื่นเริ่มเป็นบ่อยขึ้น ทายาทา (ตอนหลังถึงรู้ว่ายาทาคือสเตียรอย)
แล้วหายแค่ 2-3 วัน ผื่นก็ขึ้นอีก ก็ต้องอีก เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว
ทำไมมันเป็นแบบนี้ ยาทาของหมอ ทาแล้วก็ควรจะหาย
แต่มันไม่หาย แถมเป็นถี่กว่าเดิม
ไปถามหมอที่รักษา หมอก็บอกว่าโรคนี้ มันได้แค่บรรเทาอาการ
แต่มันไม่มีทางหายขาดได้ เราก็ตกใจ ว่าเอ๊ะ มันเป็นเพราะอะไร
ทำไมถึงไม่หายขาด และเหมือนจะหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ
จากนั้นก็ลองไปรักษาที่อื่น คลีนิคอื่นบ้าง สถานบันโรคผิวหนังบ้าง
โรงพยาบาลแถววังหลังบ้าง หาทั้งคลีนิค และโรงพยาบาลใหญ่ๆ
ผลที่ได้คือ ยาทาสเตียรอย หรือไม่ก็ยาที่ไม่ใช่สเตียรอย แต่เป็นยากดภูมิ
ที่ออกฤทธิ์เหมือนสเตียรอย ซึ่งมันก็กลับสู่วังวนเดิม
คือทาวันนี้ พรุ่งนี้หาย อีก 2 วัน เป็นอีกแล้ว หยุดทาไม่ได้เลย
เราก็หาข้อมูลการรักษาวิธีอื่น ทั้งจากทาง Google และ youtube
ว่ามันมีวิธีอื่นในการรักษา Sebderm ไหม
จนบังเอิญ Youtube สุ่มคลิปของคุณหมอที่ พีระกุลคลีนิคขึ้นมา
เป็นวิธีการรักษาแบบไม่ใช้สเตียรอย
แต่ใช้วิธีการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การตากแดดตอนเช้า
รวมถึงการใช้ยาสมุนไพรที่ไม่มีสเตียรอย มารักษาควบคู่กัน
ช่วงแรกที่รักษากับคุณหมอ ต้องหยุดยาสเตียรอยทั้งหมด
เดือนแรก หน้าเห่อมากสุดๆ ครับ แดงทั้งน้า สะเก็ดขึ้นหลายจุด
ทั้งหว่างคิ้ว ข้างจมูก ริมปาก ตรงคิ้ว ฯลฯ จนไม่กล้าออกไปไหนเลย
ต้องใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา
พอทำตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่าง ทั้งควบคุมอาหาร
ออกกำลัง พักผ่อนให้พอ ไม่เกา โดยแสงแดดเช้าๆ
และทาครีมบรรเทาสมุนไพรของคุณหมอ อาการดีขึ้นมากครับ
หายได้ประมาณ 80% แล้วตอนนี้
อนาคตถ้าหายได้ 100% โดยที่ไม่ต้องทาครีม แล้ว Sebderm
ก็ไม่กลับมา คือ ถ้ามันไม่กลับอีกในระยะยาว โดยไม่ต้องใช้ยาอะไรเลย
จะกลับมาอัพเดทข้อมูลให้อีกทีนึงครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้