เจาะใจ”อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา”ทายาทกลุ่มคิงเพาเวอร์ นำทัพฉลอง30ปีคืนกำไรทุกรูปแบบดันออนไลน์โต220% ลั่นดอนเมืองขาดพรีเมียมแอร์ไลน์ไร้ขาช้อปกระเป๋าหนัก สมัครบัตรคิง เพาเวอร์ต.ค.นี้รับสิทธิ์ลด15%บวกOntop มูลนิธิวิชัยศรีวัฒนประภามอบเงินวิหารเลสเตอร์ 36ล้านททท.นำเอกชนหน้าใหม่บุกเวที ITB ASIA2019สิงคโปร์ สุรินทร์จัดเต็มการแสดงช้างสุดยอดอลังการ 14-17 พ.ย.

นับเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ “อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา” บุตรชายคนโตทายาทของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มาเปิดทุกแง่มุมธุรกิจ ในฐานะผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ในโอกาสคิง เพาเวอร์ ฉลอง 30 ปี จัดอย่างยิ่งใหญ่ “Delights & Surprises Celebrate 30 years of remarkable Jouney” ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม ได้ลุ้นบินฟรี 30 เส้นทาง มหกรรมคืนกำไรนักช้อปคนไทยและต่างชาติตลอดเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกับชี้การขายสินค้าออนไลน์ปีที่ 3 ยอดโตเพิ่มกว่า 220 % หลังลุยลงทุนในจีน ผนึก OTA และผุดศูนย์บริการหลังการขาย ขานรับพฤติกรรมลูกค้า ดันยอดขาย 5 อันดับแรงติดลมบน “น้ำหอม-เครื่องสำอาง-อิเลคทรอนิกส์-แฟชั่น-ผลิตภัณฑ์ไทย” โดยแบรนด์มิสทีน ยาหม่องถ้วยทอง ตราเสือ ยอดขายแรงสุด ๆ และเกาะติดประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองปลายปี’62 สนามบินซึ่งเป็นฮับโลว์คอสต์ ไร้วี่แววพรีเมียมแอร์ไลน์ ส่งผลให้ขาดกำลังซื้อกลุ่มพรีเมี่ยม ทำยอดขายได้แค่ปีละ 5 % น้อยกว่าสนามบินภูมิภาค
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้จัดฉลองคิง เพาเวอร์ 30 ปี ตลอดเดือนตุลาคม Delights & Surprises 2019 ไฮไลต์ที่สมาชิกและนักท่องเที่ยวกลุ่มช้อปปิ้งรอคอยช่วงระหว่าง 17-20 ตุลาคม นี้ โปรโมชั่นพิเศษหลักลด 30 % ตามมาด้วยอีก 3 รายการ คือ 1.ช้อปครบ 50,000 บาท ฟรีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ 2.ช้อปครบ 30,000 บาท/ใบเสร็จ/วัน ลุ้นรับสูงสุดคะแนนสะสมมูลค่า 3 ล้านกะรัต 3 ล้านบาท 3.ช้อปครบ 5,000 บาท ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินฟรีทั่วโลก 30 เส้นทาง โดยผู้ซื้อจะต้องกรอกรายละเอียดข้อมูลหย่อนลงชิงโชคเพื่อจับฉลากหลังเสร็จสิ้นการจัดงาน

ผลตอบรับช่วงแรก 1-15 ตุลาคม 2562 กระแสนักท่องเที่ยวมาช้อปค่อนข้างดี เนื่องจากมีคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ และต่างชาติก็เข้ามาเที่ยวด้วย ยกเว้นนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควรโดยเฉพาะช่วงวันชาติจีน 1-10 ตุลาคม 2562 ส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลจีนรณรงค์ให้คนจีนเที่ยวในประเทศ ชาวจีนบางส่วนยังคงออกท่องเที่ยวแต่จำนวนคนกับการใช้จ่ายเงินในเมืองไทยยังไม่ว้าวเท่าที่ควร ดังนั้นจะใช้ศักยภาพและจุดแข็งกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงครึ่งหลังเดือนตุลาคมนี้ นำเหล่าศิลปินดารามาเป็นแม่เหล็กดึงคนเข้ามาจับจ่ายใช้เงินช้อปปิ้งเพิ่มมากขึ้น

นายอภิเชษฐ์กล่าวว่าการวางกลยุทธ์ภาพรวมด้านตลาดการขายสินค้าผ่านออนไลน์ใน www.kingpoweronline.com ทั้งสมาชิกและนักเดินทางทั่วไปสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์และแอพลิเคชั่นได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากเป็นสินค้าแบรนด์เนมนักเดินทางจะต้องรับบริเวณ Pick up Counter สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ก่อนออกไปเที่ยวต่างประเทศ การขายผ่านออนไลน์คิง เพาเวอร์ ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 โดยเฉพาะปี 2562 เกิดสัญญาณบวกอย่างมีนัยสำคัญยอดซื้อขายสินค้าหมุนเวียนตลอด 9 เดือน ระหว่างมกราคม-กันยายน 2562 เติบโตเพิ่ม 220 % หรือกว่า 2 เท่า เป็นผลมาจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวและเดินทางเปลี่ยนไป เช่น สินค้าบางอย่างที่ใช้เป็นประจำคุ้นเคยเป็นอย่างดีก็สามารถสั่งซื้อได้ทันที

หมวดสินค้าคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ แบ่งชัดเจน คือ 1.สินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศ ต้องมีตั๋วโดยสารบินต่างประเทศจึงจะสามารถซื้อได้ ตามระเบียบจะต้องนำออกไปในช่วงเดินทาง 2.สินค้าแบรนด์ไทย ส่วนใหญ่ผลิตและขายในประเทศ และ In House Brand คิง เพาเวอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นแก็ตเจ็ตและอิเลคทรอนิกส์ต่าง ๆ

โดยแบ่งเป็นสินค้ายอดนิยมในกลุ่มคนไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ สั่งแล้วส่งถึงบ้านได้เลย มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 80 % ที่เหลือจะเป็นสินค้าเอ็กคลูซีฟ และแฟชั่น สำหรับลูกค้าชาวจีน ได้แก่ เครื่องสำอาง น้ำหอม ตามด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค ของฝาก สินค้าไทย เครื่องปรุงอาหารไทยสำเร็จรูป และสินค้าที่โด่งดังในเมืองไทย อย่าง เครื่องสำอางแบรนด์มิสทีม ยาหม่องตราถ้วยทอง ตราเสือ สมุนไพรไทย ซึ่งสามารถใช้ได้จริงอย่างมีคุณภาพ เรื่อยไปจนถึงหมวดเครื่องประดับ นาฬิการะดับกลางขึ้นไป

ขณะเดียวกันสินค้า In House Brand คิง เพาเวอร์ ด้วยความที่คลุกคลีอยู่กับลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นของฝาก ของที่ระลึก Suvinior ที่มีความแตกต่างกันไปในตลาด หรือกลุ่มคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ซื้อเครื่องแกงสำเร็จรูปที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพเกรดเอจึงได้รับการอุดหนุนทั้งจากคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งขนมขบเคี้ยว ผลไม้อบแห้งต่าง ๆ ยอดขายค่อนข้างโดดเด่นทุกเดือน

การวางกลยุทธ์เจาะลึกทำตลาดการขายสินค้าออนไลน์ ได้ประมวลผลเสียงสะท้อนจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแล้วนำมาปรับปรุงอยู่ตลอดให้สอดคล้องกับความต้องการปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ปัจจุบันเปิดโอกาสให้นักช้อปออนไลน์สามารถสะสมคะแนนกะรัตได้ทันทีแตกต่างยุคบุกเบิกสมัยแรกยังไม่มีระบบสะสมคะแนน ซึ่งต่อไปสามารถนำมาแลกซื้อหรือใช้เป็นส่วนลด บริการอื่น ๆ ของกลุ่มคิง เพาเวอร์ ตลอดที่มีการจัดแคมเปญและกิจกรรมโปรโมชั่น ต่าง ๆ

นอกจากนั้นกลุ่มสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มเห็นถึงประโยชน์และประสิทธิภาพการขายของคิง เพาเวอร์ จึงเข้ามาร่วมมือมากขึ้น ขณะนี้ได้เดินหน้านำสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ และคิง เพาเวอร์ แบรนด์ มาวางขายเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นหมวดสินค้าที่มีความแปลกแตกต่างจากออนไลน์แห่งอื่น จึงทำให้สินค้าที่วางขายในเว็บไซต์และแอพลิเคชั่นมีให้เลือกจำนวนมากหลากหลาย

ส่วนสินค้าของคิงเพาเวอร์ออนไลน์เปิดขายตลาดในประเทศกับลูกค้าคนไทย และต่างประเทศโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งฉลาดช้อปและหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น มีเสียงสะท้อนจากจีนมีประโยชน์ในการนำมาประยุกต์พัฒนาสินค้าอยู่ตลอด โดยได้วางกลยุทธ์แยกออกไปโดยเฉพาะด้วยการใช้บริษัทจีนเป็นผู้พัฒนาแต่ละส่วน เพราะเข้าใจถึงพฤติกรรมชาวจีน ดีไซน์โปรดักต์แตกต่างจากคนไทย คัดเลือกสินค้าโดนใจชาวจีนได้มากกว่า จึงสามารถเจาะตลาดจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวให้เข้ามาช้อปปิ้งคิง เพาเวอร์ มากขึ้น

ภาคีพันธมิตรหลักของคิง เพาเวอร์ จะเป็นกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการขายท่องเที่ยวออนไลน์หรือ Online Travel Agents : OTA ซึ่งมีจำนวนมากหลากหลายบริษัท เพราะชาวจีนใช้แอพลิเคชั่นจองผ่านออนไลน์ทั้งตั๋วโดยสาร ห้องพัก ร้านค้าช้อปปิ้งคิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ รวมทั้งผูกการขายตั๋วขึ้นไปยังจุดชมวิว คิง เพาเวอร์ มหานคร สกาย วอล์ค บนชั้น 78 พร้อมกันนี้ก็ยังวางแผนเปิดสำนักงานขายในสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดได้ 4-5 ปี ลงทุนทำขึ้นเพื่อให้บริการหลังการขาย คอยให้คำแนะนำตอบคำถามลูกค้า เพราะเดิมจะต้องติดต่อกลับมายังเมืองไทย

ส่วนแบรนด์ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” หลังจากเปิดอาคารไปเกือบปีก็พยายามพัฒนาให้เป็น ICON BRAND หรือ SUVINIOR BRAND เพราะตัวอาคารมหานครก็เป็น ICON DESTINATION อยู่แล้ว ผู้ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็จะต้องแวะไปเยี่ยมชมจุดชมวิว คิง เพาเวอร์ มหานคร สกาย บาร์ กับกระจกใส Glass Tray บริเวณชั้น 78 ซึ่งมองเห็นภาพพาโนรามากรุงเทพฯ และปริมณฑลแบบ 360 องศา

ขณะเดียวกันก็จะมีพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรี บริเวณชั้น 1-4 แบ่งเป็นหลายแนว ประกอบด้วย แฟชั่น Street Wear สินค้าที่ระลึกซึ่งเป็นแลนด์มาร์กตึกมหานคร ยอดซื้อขายค่อนข้างดี ในโซนร้านค้านั้นเป็นการขายอัตโนมัติ เพราะส่วนใหญ่แม่เหล็กหลัก ๆ คือ มหานคร สกาย วอล์ค, สกาย บาร์, แบงค็อก สกาย บาร์ แล้วก็แวะช้อปปิ้งร้านดิวตี้ฟรี ไฮไลต์จะเปิดโรงแรม “โอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส” แห่งแรกของโลก เตรียมเปิดบริการไตรมาส 3 ปี 2563 เป็นต้นไป จะเน้นจุดขายความหรูหราระดับเกิน 5 ดาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร

สำหรับบริเวณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ วางกลยุทธ์จัดอีเวนต์รายการสำคัญ ๆ โดยใช้พื้นที่บริเวณฟาวเท่น สแควร์ กลางแจ้งหน้าตึกคิง เพาเวอร์ สำนักงานใหญ่ ก็เตรียมจัดเคาน์ดาวน์ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต่อเนื่องไปถึงวันเด็กเดือนมกราคม 2563 โดยมีความร่วมมือกับแบรนด์มิกกี้เมาส์ซึ่งเป็นขวัญใจเด็ก ๆ และกลุ่มครอบครัวคนไทยและต่างชาติ ตามแผนงานปีหน้าจะเน้นอีเวนต์การจัดงานกลางแจ้งหลายกิจกรรมด้วยกัน

นายอภิเชษฐ์กล่าวว่าช่วงปลายปี 2562 มีหลายเรื่องที่ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะต้องเดินหน้าทำอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะข่าวการเตรียมเปิดประมูลพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีในสนามบินดอนเมือง ตามกติกาใหม่ที่เผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ จะแตกต่างไม่เหมือนเดิม เนื่องจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” จะแยกสัญญาสัมปทานพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีกับจุดส่งมอบสินค้าสนามบิน (Pick up Counter) ออกจากกัน

ดังนั้นความน่าสนใจจึงต่างจาก 7 ปีที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้ไม่รวม Pick up Counter แต่เมื่อ ทอท.เจ้าของสนามบินประกาศเปิดประมูล ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงจะลงแข่งขันประกอบการพื้นที่ทั้งดิวตี้ฟรีและจุดส่งมอบสินค้าสนามบินดอนเมือง แต่ก็ต้องประมวลผลข้อจำกัดอีกหลายอย่างควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีแต่เที่ยวบินต้นทุนต่ำ (low cost airlines) ให้บริการ จำนวนสลอตเที่ยวบินเข้าออกเต็มเกือบหมดแล้ว และยังไม่ได้ขยายสนามบินเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร และกำลังซื้อของนักช้อป ตามสถิติก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก

สถิติปี 2562 ร้านค้า คิง เพาเวอร์ สนามบินดอนเมืองมีพื้นที่ประมาณ 1,800 ตารางเมตร ขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิมีประมาณ 12,000 ตารางเมตร เพราะฉนั้นดอนเมืองเป็นสนามบินมีข้อจำกัดหลายส่วนโดยเฉพาะสล็อตเที่ยวบินแน่นมากจึงน่าจะไม่มีตารางเวลาให้สายการบินพรีเมี่ยมและยากจะทำได้ ส่งผลไปถึงกลุ่มผู้โดยสารพรีเมี่ยมที่จะสนใจซื้อสินค้าดิวตี้ฟรีก็อาจจะไม่มาก ขณะนี้ทำให้ยอดขายสินค้าของคิง เพาเวอร์ ในสนามบินดอนเมืองทำได้เพียงวันละ 10-14 ล้านบาท ปี 2561 มียอดขายแค่ 5,000 ล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนน้อยคิดเป็น 5 % ของกลุ่มบริษัท อีกทั้งเปรียบเทียบแล้วน้อยกว่าสนามบินภูมิภาคอีก 3 แห่ง คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ซึ่งทำส่วนแบ่งยอดขายได้เกินกว่า 8 % ของแต่ละปี

แต่อย่างไรทาง กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ยังให้ความสำคัญและสนใจการลงแข่งขันประมูลพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าดิวตี้ฟรีสนามบินดอนเมือง ในปีต่อไปด้วย โดยได้ติดตามข่าวจาก ทอท.ต่อไปในช่วงปลายปี 2562

ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/penroong.yaisamsaen