เล่าเรื่อง/รีวิว/แชร์ประสบการณ์ การท่องเที่ยวประเทศเอสโตเนีย Estonia ครับ ผมมีโอกาสได้ติดตามภรรยาไปธุระเรื่องของเธอที่เมืองทาลลิน (Tallinn) เอสโตเนีย ครับ ที่ใช้คำว่า "เล่าเรื่อง/รีวิว/แชร์ประสบการณ์" เพราะมันอาจจะไม่ใช่การ รีวิวทั้งหมด หรือการเล่าเรื่องอย่างเดียว แต่จะมีการแชร์ประสบการณ์บางอย่างด้วยครับ สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเมืองทาลลิน เอสโตเนีย ข้อความที่มีการ ***** ต้นประโยค กับท้ายประโยค อยากเน้นให้อ่านเพราะสำคัญครับ และส่วนใหญ่จะไม่ใช่ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว แต่จะเน้นทริคหรือบางอย่างที่จำเป็นต่อการท่องเที่ยว ครับ เช่น บัตรขนส่งสาธารณะ
ขอบคุณรูปภาพจาก medium.com ครับ
หากเล่าซ้ำไปซ้ำมา หรือซ้ำกับท่านอื่น ขออภัยมา ณ ที่นี้ และเรื่องต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้กำลังจะเดินทางไปที่นั้นครับ เพราะที่นำมาแชร์ บางอย่างในแวดวงคนไทยใน pantip หรือในกรุ๊บเที่ยว ในเฟสบุ๊ค ไม่ได้แชร์ (หรืออาจจะเพราะผมค้นหาไม่เจอครับ)
Republic of Estonia หรือ สาธารณรัฐเอสโตเนีย มีเมืองหลวงชื่อ ทาลลิน (Tallinn) เป็นสมาชิกในสหภาพยุโรป และอยู่ในเขตพื้นที่เชงเก้น ซึ่งหากจะเดินทางไปจะต้องขอวีซ่าเชงเก้นกับ
สถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศเอสโตเนียในการขอวีซ่าสำหรับประเทศไทย โดยดำเนินการผ่าน VFS Global (มีรีวิวเยอะแยะ หาอ่านวิธีการขอได้เลยครับ)
***** การเดินทางไปเอสโตเนีย เราอาจจะต้องรู้รายละเอียดเรื่องนี้เลยครับ เพราะ สายการบินก็ดี หรือเจ้าหน้าที่ตม.(ที่ยุโรปก็ดี) อาจจะมีคำถามกับเรา ไปเอสโตเนีย แต่ทำไมขอวีซ่าฟินแลนด์ อธิบายไม่ได้อาจจะมีปัญหาการเดินทางเข้าเชงเก้น ครับ (แม้ว่าเขาทราบ แต่ก็อาจจะถามเราได้อยู่ดีครับ) *****
ข้ามมาช่วงเวลาที่ผมอยู่ทาลลินเลยละกันนะครับไม่ยืดเยื้อ ผมพยายามหารีวิวการเดินทางไปมาด้วยรถสาธารณะใน Pantip หรือกรุ๊ปท่องเที่ยวในเฟสบุ๊ค ไม่เจอ แต่ค้นพบวิธีการเดินทางไปมาด้วยตนเองจากการใช้ Google ครับ ประเทศเอสโตเนีย
หากลองค้นเพิ่มเติมจะพบว่าเป็นประเทศที่ทันสมัยทางเทคโนโลยี เป็นความทันสมัยทางเทคโนโลยีที่ไม่ใช่ความ Hi-Tech แต่เป็นความทันสมัยทางเทคโนโลยีด้วยการบริหารจัดการราชการแผ่นดิน การบริหารจัดการการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ การบริหารการจัดการระบบขนส่งสาธารณะด้วยครับ (ซึ่งจะพูดต่อไปในย่อหน้าถัดไป) เขาจะมีคำพูดเท่ห์ๆเกี่ยวกับประเทศเขาว่า "We have built a digital society and so can you" รัฐบาลเอสโตเนียยังเปิดให้ชาวต่างชาติสมัครเป็นพลเมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ของเอสโตเนียได้อีกด้วยครับ เพื่อสามารถทำการค้า(ในลักษณะเหมือนเราตั้งร้านค้าบริษัทที่ประเทศเขา) แต่ไม่ใช่การเป็นพลเมืองเต็มตัวนะครับ
ขอบคุณภาพจาก e-estonia.com ครับ (ในภาพข้างบนยังโชว์การใช้บัตรปชช. ดำเนินนิติกรรมทางออนไลน์อีกนะครับ ว่ากันว่า มีเหตุ 2-3 อย่างเท่านั้นที่จำเป็นต้องไปสถานที่ราชการคือ เช่น โอนกรรมสิทธิ์ซื้อขาย ที่ดิน ครับ)
***** โม้ยาวฉิบ รีวิวเรื่องที่จำเป็นเลย การเดินทางไปมาด้วยระบบขนส่งสาธารณะครับ หลักๆจะมีรถประจำทางได้แก่ รถบัส (Bus) รถบัสแบบต่อสายข้างบน (ไม่รู้คำไทยเรียกอะไรครับ แต่ผมเรียก Trolley) แล้วก็รถรางครับ อันนี้ผมโครตตตตตชอบ (Tram) พลเมืองทาลลินขึ้นฟรีครับ อิจๆๆๆ มาก *****
ขอบคุณภาพจาก en.wikipedia.org, ttu.ee และ news.err.ee ครับ
***** สำคัญมากครับ - การใช้ระบบขนส่งสาธารณะใน ทาลลิน (เมืองอื่นในเอสโตเนีย โปรดศึกษาได้ที่เว็บไซต์หลักของระบบขนส่งสาธารณะ ที่
https://www.pilet.ee ครับ) เราจะใช้บัตร Smart Card สีเขียวข้างบน ซึ่งสามารถหาซื้อได้หลายที่ เช่น ร้าน R-Kiosk (อารมณ์เซเว่นบ้านเรา) มีขายครับ สนามบินก็มี เลิกใช้เราก็คืนบัตรได้ (อาจจะได้เงินคืนด้วย) แต่ผมกับภรรยาไม่ได้ใช้บัตรสีเขียวนี้ครับ เราใช้ Tallinn Card โดยบัตร Smart Card สีเขียว และบัตร Tallinn Card สีแดง เราสามารถจัดการเติมเงิน เติมโปรเหมาตามวัน ดูตารางรถ หรือวางแผนการเดินทางผ่าน Application : pilet.ee มีทั้ง iOS และ Android ครับ *****
เห็นความใช้บัตรเดบิต หรือ เครดิต หรือเติมเงิน เช่นพวก KTB Travel Card , SCB Planet ฯลฯ ที่มี Contactless แตะได้เลย แต่ไม่รู้เงื่อนไขยังไง ผมลองใช้ KTB Travel Card ไม่ได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรไม่ทราบเช่นกันครับ
ใช้งานง่ายครับ มีภาษาเอสโตเนียน อังกฤษ และรัสเซีย หรือจะใช้ Google Map ในการดูเส้นทางเดินทาง รวมทั้งตารางเวลาเดินรถ ก็แม่นยำระดับหนึ่งเลยครับ แนะนำ ผมใช้ Google Map เป็นส่วนใหญ่ แต่ใช้ แอฟ Pilet.ee เพื่อการเติมเงินบัตรเท่านั้นครับ
ด้วยความที่เรามาเที่ยว + ธุระงานของภรรยา ผม ทริปนี้ระยะเวลา สองอาทิตย์ ช่วงแรกยังไม่มีธุระงานเปิดทริปมา เราเลยเที่ยวกันก่อนครับ เลยซื้อ Tallinn Card สีแดง
***** Tallinn Card สีแดง แนะนำสำหรับผู้มาท่องเที่ยวเลยครับ เป็นบัตรท่องเที่ยวที่เหมาเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จ่ายทีเดียวเหมา เข้าฟรีทุกที่ (แต่ต้องเป็นสถานที่ที่เข้าร่วมกับบัตรนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่เข้าร่วมหมด 90-95% ยกเว้นบางที่จริงๆ) จะประหยัดมากๆเลยครับ ที่สำคัญครับ สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะทุกชนิดได้ฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่จำกัดเวลาใช้งาน โดยนับระยะเวลาตั้งแต่เปิดใช้บัตรครั้งแรก และเหมาะกับบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยตรงที่ บัตร Tallinn Card สำหรับผู้ใหญ่ 1 บัตรสามารถมีเด็กอายุไม่เกิน 7 ขวบติดตามได้ 2 คน ฟรี เลิสมากๆ *****
สามารถเลือกบัตรตามความจำเป็นตามลำดับความสำคัญ ดังนี้ครับ
1. จำนวนคนที่ต้องใช้ครับ เด็กมากกว่า 7 ขวบกี่คน เด็กต่ำกว่า 7 ขวบกี่คน และผู้ใหญ่ กี่คน (อายุต่ำกว่า 7 ขวบไม่เกิน 2 คนใช้ร่วมกับผู้ใหญ่ 1 คน)
2. ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ มี 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง นับชั่วโมงตามจริงครับ
3. ***** อันนี้สำคัญครับ จะใช้บัตรธรรมดา หรือ Plus ซึ่งบัตร Plus จะมีบริการรถบัส Hop on Hop off ให้ใช้บริการฟรีทั้งหมด 3 เส้นทางขึ้นกี่ครั้งก็ได้ในระยะเวลาที่เปิดใช้บัตร หากเลือกบัตร Plus ต้องไปขึ้นนะครับ ไม่งั้นไม่คุ้มสุดๆ หากขึ้นก็คุ้มสำหรับเรามากๆเลยครับ *****
ซื้อได้ที่ สนามบิน และ Tourist Information Centre ได้ครับ และหารายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.visittallinn.ee/
***** บัตร Tallinn Card สีแดง แม้หมดอายุแล้ว สามารถใช้แอฟ Pilet.ee เติมเงินเพื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะต่อได้ครับ บัตรผมหมดอายุ แล้วจึงเติมสำหรับ 5 day แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพียงแค่ 5 EUR ครับ ประหยัดมาก จากปกติ ค่าใช้บริการต่อครั้งการขึ้นรถ 2 EUR *****
บรรยากาศภายในรถระบบขนส่งสาธารณะ ครับ และเครื่องแตะบัตร
แม้ในประเทศเขา ไม่มีเสาไฟในเมือง แต่จะมีเสาโยงสายไฟฟ้าสำหรับ ระบบขนส่งสาธารณะครับ
อีกการเดินทาง บัตร Smart Card หรือ Tallinn Card ใช้ไม่ได้นะครับ เป็นการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สวีเดน ฟินแลนด์ ในกรณีนี้ ผมเดินทางไปฟินแลนด์ ไม่ใช่เรือเฟอร์รี่อะไร แต่สำหรับคนไทย อาจจะเรียกว่า เป็นเรือสำราญขนาดเล็กเลยก็ว่าได้ มีคาสิโนเล็กๆ ร้าน Duty Free ห้องร้านอาหาร และคาเฟ่ที่จัดแสดงดนตรีอีกด้วย เลิสมาก
ตัวอย่างอาหารให้เลือกซื้อทานบนเรือครับ มาม่าไทยก็มีนะครับ
บรรยากาศท่าเรือที่ Helsinki ประเทศฟินแลนด์ครับ
***** แนะนำการเดินทางอีกแบบ สนุกดีครับ เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้เราไม่ต้องเดินเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังนะครับ เหมือนจะมีสองเจ้า คือ Bolt และ Citybee ครับ
แนะนำครับ สนุก 5555 ใช้ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้ง ลงทะเบียนในแอฟ และชำระเงินผ่านบัตรเท่านั้น ครับ ส่วนนอกนั้น ก็เดินเอา ครับ TT
โปรดติดตามกระทู้ย่อยข้างล่างต่อครับ จะเป็นพวกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมไม่อยากให้พลาด (และอันที่ผมดันพลาดไม่ได้ไป ที่คุณต้องไป)
เล่าเรื่อง/รีวิว/แชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวประเทศเอสโตเนีย Estonia ครับ
ขอบคุณรูปภาพจาก medium.com ครับ
หากเล่าซ้ำไปซ้ำมา หรือซ้ำกับท่านอื่น ขออภัยมา ณ ที่นี้ และเรื่องต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้กำลังจะเดินทางไปที่นั้นครับ เพราะที่นำมาแชร์ บางอย่างในแวดวงคนไทยใน pantip หรือในกรุ๊บเที่ยว ในเฟสบุ๊ค ไม่ได้แชร์ (หรืออาจจะเพราะผมค้นหาไม่เจอครับ)
Republic of Estonia หรือ สาธารณรัฐเอสโตเนีย มีเมืองหลวงชื่อ ทาลลิน (Tallinn) เป็นสมาชิกในสหภาพยุโรป และอยู่ในเขตพื้นที่เชงเก้น ซึ่งหากจะเดินทางไปจะต้องขอวีซ่าเชงเก้นกับ สถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศเอสโตเนียในการขอวีซ่าสำหรับประเทศไทย โดยดำเนินการผ่าน VFS Global (มีรีวิวเยอะแยะ หาอ่านวิธีการขอได้เลยครับ)
***** การเดินทางไปเอสโตเนีย เราอาจจะต้องรู้รายละเอียดเรื่องนี้เลยครับ เพราะ สายการบินก็ดี หรือเจ้าหน้าที่ตม.(ที่ยุโรปก็ดี) อาจจะมีคำถามกับเรา ไปเอสโตเนีย แต่ทำไมขอวีซ่าฟินแลนด์ อธิบายไม่ได้อาจจะมีปัญหาการเดินทางเข้าเชงเก้น ครับ (แม้ว่าเขาทราบ แต่ก็อาจจะถามเราได้อยู่ดีครับ) *****
ข้ามมาช่วงเวลาที่ผมอยู่ทาลลินเลยละกันนะครับไม่ยืดเยื้อ ผมพยายามหารีวิวการเดินทางไปมาด้วยรถสาธารณะใน Pantip หรือกรุ๊ปท่องเที่ยวในเฟสบุ๊ค ไม่เจอ แต่ค้นพบวิธีการเดินทางไปมาด้วยตนเองจากการใช้ Google ครับ ประเทศเอสโตเนีย
หากลองค้นเพิ่มเติมจะพบว่าเป็นประเทศที่ทันสมัยทางเทคโนโลยี เป็นความทันสมัยทางเทคโนโลยีที่ไม่ใช่ความ Hi-Tech แต่เป็นความทันสมัยทางเทคโนโลยีด้วยการบริหารจัดการราชการแผ่นดิน การบริหารจัดการการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ การบริหารการจัดการระบบขนส่งสาธารณะด้วยครับ (ซึ่งจะพูดต่อไปในย่อหน้าถัดไป) เขาจะมีคำพูดเท่ห์ๆเกี่ยวกับประเทศเขาว่า "We have built a digital society and so can you" รัฐบาลเอสโตเนียยังเปิดให้ชาวต่างชาติสมัครเป็นพลเมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ของเอสโตเนียได้อีกด้วยครับ เพื่อสามารถทำการค้า(ในลักษณะเหมือนเราตั้งร้านค้าบริษัทที่ประเทศเขา) แต่ไม่ใช่การเป็นพลเมืองเต็มตัวนะครับ
ขอบคุณภาพจาก e-estonia.com ครับ (ในภาพข้างบนยังโชว์การใช้บัตรปชช. ดำเนินนิติกรรมทางออนไลน์อีกนะครับ ว่ากันว่า มีเหตุ 2-3 อย่างเท่านั้นที่จำเป็นต้องไปสถานที่ราชการคือ เช่น โอนกรรมสิทธิ์ซื้อขาย ที่ดิน ครับ)
***** โม้ยาวฉิบ รีวิวเรื่องที่จำเป็นเลย การเดินทางไปมาด้วยระบบขนส่งสาธารณะครับ หลักๆจะมีรถประจำทางได้แก่ รถบัส (Bus) รถบัสแบบต่อสายข้างบน (ไม่รู้คำไทยเรียกอะไรครับ แต่ผมเรียก Trolley) แล้วก็รถรางครับ อันนี้ผมโครตตตตตชอบ (Tram) พลเมืองทาลลินขึ้นฟรีครับ อิจๆๆๆ มาก *****
ขอบคุณภาพจาก en.wikipedia.org, ttu.ee และ news.err.ee ครับ
***** สำคัญมากครับ - การใช้ระบบขนส่งสาธารณะใน ทาลลิน (เมืองอื่นในเอสโตเนีย โปรดศึกษาได้ที่เว็บไซต์หลักของระบบขนส่งสาธารณะ ที่ https://www.pilet.ee ครับ) เราจะใช้บัตร Smart Card สีเขียวข้างบน ซึ่งสามารถหาซื้อได้หลายที่ เช่น ร้าน R-Kiosk (อารมณ์เซเว่นบ้านเรา) มีขายครับ สนามบินก็มี เลิกใช้เราก็คืนบัตรได้ (อาจจะได้เงินคืนด้วย) แต่ผมกับภรรยาไม่ได้ใช้บัตรสีเขียวนี้ครับ เราใช้ Tallinn Card โดยบัตร Smart Card สีเขียว และบัตร Tallinn Card สีแดง เราสามารถจัดการเติมเงิน เติมโปรเหมาตามวัน ดูตารางรถ หรือวางแผนการเดินทางผ่าน Application : pilet.ee มีทั้ง iOS และ Android ครับ *****
เห็นความใช้บัตรเดบิต หรือ เครดิต หรือเติมเงิน เช่นพวก KTB Travel Card , SCB Planet ฯลฯ ที่มี Contactless แตะได้เลย แต่ไม่รู้เงื่อนไขยังไง ผมลองใช้ KTB Travel Card ไม่ได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรไม่ทราบเช่นกันครับ
ใช้งานง่ายครับ มีภาษาเอสโตเนียน อังกฤษ และรัสเซีย หรือจะใช้ Google Map ในการดูเส้นทางเดินทาง รวมทั้งตารางเวลาเดินรถ ก็แม่นยำระดับหนึ่งเลยครับ แนะนำ ผมใช้ Google Map เป็นส่วนใหญ่ แต่ใช้ แอฟ Pilet.ee เพื่อการเติมเงินบัตรเท่านั้นครับ
ด้วยความที่เรามาเที่ยว + ธุระงานของภรรยา ผม ทริปนี้ระยะเวลา สองอาทิตย์ ช่วงแรกยังไม่มีธุระงานเปิดทริปมา เราเลยเที่ยวกันก่อนครับ เลยซื้อ Tallinn Card สีแดง
***** Tallinn Card สีแดง แนะนำสำหรับผู้มาท่องเที่ยวเลยครับ เป็นบัตรท่องเที่ยวที่เหมาเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จ่ายทีเดียวเหมา เข้าฟรีทุกที่ (แต่ต้องเป็นสถานที่ที่เข้าร่วมกับบัตรนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่เข้าร่วมหมด 90-95% ยกเว้นบางที่จริงๆ) จะประหยัดมากๆเลยครับ ที่สำคัญครับ สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะทุกชนิดได้ฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่จำกัดเวลาใช้งาน โดยนับระยะเวลาตั้งแต่เปิดใช้บัตรครั้งแรก และเหมาะกับบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยตรงที่ บัตร Tallinn Card สำหรับผู้ใหญ่ 1 บัตรสามารถมีเด็กอายุไม่เกิน 7 ขวบติดตามได้ 2 คน ฟรี เลิสมากๆ *****
สามารถเลือกบัตรตามความจำเป็นตามลำดับความสำคัญ ดังนี้ครับ
1. จำนวนคนที่ต้องใช้ครับ เด็กมากกว่า 7 ขวบกี่คน เด็กต่ำกว่า 7 ขวบกี่คน และผู้ใหญ่ กี่คน (อายุต่ำกว่า 7 ขวบไม่เกิน 2 คนใช้ร่วมกับผู้ใหญ่ 1 คน)
2. ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ มี 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง นับชั่วโมงตามจริงครับ
3. ***** อันนี้สำคัญครับ จะใช้บัตรธรรมดา หรือ Plus ซึ่งบัตร Plus จะมีบริการรถบัส Hop on Hop off ให้ใช้บริการฟรีทั้งหมด 3 เส้นทางขึ้นกี่ครั้งก็ได้ในระยะเวลาที่เปิดใช้บัตร หากเลือกบัตร Plus ต้องไปขึ้นนะครับ ไม่งั้นไม่คุ้มสุดๆ หากขึ้นก็คุ้มสำหรับเรามากๆเลยครับ *****
ซื้อได้ที่ สนามบิน และ Tourist Information Centre ได้ครับ และหารายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.visittallinn.ee/
***** บัตร Tallinn Card สีแดง แม้หมดอายุแล้ว สามารถใช้แอฟ Pilet.ee เติมเงินเพื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะต่อได้ครับ บัตรผมหมดอายุ แล้วจึงเติมสำหรับ 5 day แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพียงแค่ 5 EUR ครับ ประหยัดมาก จากปกติ ค่าใช้บริการต่อครั้งการขึ้นรถ 2 EUR *****
บรรยากาศภายในรถระบบขนส่งสาธารณะ ครับ และเครื่องแตะบัตร
แม้ในประเทศเขา ไม่มีเสาไฟในเมือง แต่จะมีเสาโยงสายไฟฟ้าสำหรับ ระบบขนส่งสาธารณะครับ
อีกการเดินทาง บัตร Smart Card หรือ Tallinn Card ใช้ไม่ได้นะครับ เป็นการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สวีเดน ฟินแลนด์ ในกรณีนี้ ผมเดินทางไปฟินแลนด์ ไม่ใช่เรือเฟอร์รี่อะไร แต่สำหรับคนไทย อาจจะเรียกว่า เป็นเรือสำราญขนาดเล็กเลยก็ว่าได้ มีคาสิโนเล็กๆ ร้าน Duty Free ห้องร้านอาหาร และคาเฟ่ที่จัดแสดงดนตรีอีกด้วย เลิสมาก
ตัวอย่างอาหารให้เลือกซื้อทานบนเรือครับ มาม่าไทยก็มีนะครับ
บรรยากาศท่าเรือที่ Helsinki ประเทศฟินแลนด์ครับ
***** แนะนำการเดินทางอีกแบบ สนุกดีครับ เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้เราไม่ต้องเดินเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังนะครับ เหมือนจะมีสองเจ้า คือ Bolt และ Citybee ครับ
แนะนำครับ สนุก 5555 ใช้ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้ง ลงทะเบียนในแอฟ และชำระเงินผ่านบัตรเท่านั้น ครับ ส่วนนอกนั้น ก็เดินเอา ครับ TT
โปรดติดตามกระทู้ย่อยข้างล่างต่อครับ จะเป็นพวกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมไม่อยากให้พลาด (และอันที่ผมดันพลาดไม่ได้ไป ที่คุณต้องไป)