อันนี้ลงใน theathletic แต่ยังไม่เห็นที่ไหนที่แปล หรือถอดความเยอะพอให้ได้น้ำได้เนื้อเลย
- เอ็ดเป็นคนฉลาดและวางตัวดี และรู้จักเกลเซอร์ครั้งแรกเมื่อเป็นคนทำดีลเทคโอเวอร์ แมนยู
-ในตอนนั้นเอ็ดเป็นแค่เจ้าหน้าที่ระดับกลาง แต่เพราะดีลนี้ทำให้สนิทสนมกับเกลเซอร์
- ปีที่ผ่านมาเอ็ดพึ่งหล่นวาทะเด็ดในงานประชุมผู้ถือหุ้น
"ผลงานในสนามไม่เกี่ยวกับผลประกอบการด้านพาณิชย์"
- เป็นแฟนพันธุ์แท้รูนี่ เมื่อเชลซีและมูรินโญ่ ขอซื้อ เอ็ดเป็นคนขวางดีลว่า เวร์น จะไม่ย้ายทีมไปไหนทั้งนั้น
- วางตัวไม่คงเส้นคงวา กับนักเตะบางคน สนิทมาก กับนักเตะอีกหลายคน ไม่เคยได้การ์ดหรือคำอวยพร หรือ SMS ในกรณีใดๆ
- มอยส์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่แน่ใจว่าเอ็ดเป็นอัจฉริยะหรือตัวตลก เมื่อดีลอย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า เชส ฟราเบรกาส โทนี ครูส ฯลฯ ลอยหายไปในสายลมโดยไม่เกิดอะไรขึ้น
- ระบบซื้อขายที่เซอร์ทิ้งไว้มีปัญหา เมื่อพลาดตัว ซาอูล ไนเกซ และ มอยส์ปฏิเสธ ติอาโก้ ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่รู้จักนักเตะ
- เอ็ดพยายามแก้ โดยการคุยกับผู้เล่นเกินกว่าหนึ่งคนพร้อมกัน หลายครั้งไปจนเจรจาสัญญาจนจบแล้วเอ็ดก็โทรไปขอโทษทีหลังว่าเซ็นคนอื่นไปแล้ว
- การซื้อ เริ่มจากแมตต์จัดส์ โทรหาเอเยนต์
- ปีนี้ เอ็ดเน้นไปที่บิสซาก้าก่อน ทำให้ดีลแมคไกวส์ ล่าช้า
- โซลชา แจ้งตั้งแต่ต้นว่าลูกากูไม่อยู่ในแผน และควรรีบๆขาย แต่ไม่ได้ราคาที่ต้องการเสียที ทำให้ดีลลากยาว
- เซอร์วางแผนเลือกมอยส์ เป็นตัวแทน แล้ววางทีมอย่างฟีแลน มูเลนสตีน คอยเป็นพี่เลี้ยง การที่เอ็ดยอมให้มอยส์ไล่ทีมงานออก ทำให้แผนของเซอร์พังไม่เป็นท่า รวมทั้งหอบองค์ความรู้ด้านฟุตบอลทั้งหมดออกไปจากสโมสรพร้อมๆกัน
- เซอร์โกรธมาก และนับแต่นั้นสองคนนี้ไม่คุยกัน ไม่เช็คแฮนด์กัน
- ฟาน กัลบอกว่าเขาโดนเอ็ดทรยศ
- เขาไม่เคยได้นักเตะที่ต้องการ และนักเตะทั้งหมดมาจากเอ็ด หรือไม่ก็ จัดส์
- มูรินโญ่ ไม่เคยอยากได้เฟร็ด แต่ถ้าไม่เอา ก็ไม่มีใคร เอ็ดไม่จัดให้ และ คำร้องขอเซนเตอร์แบ็ค ไม่เคยได้รับการตอบสนอง
- ปีนี้ดีขึ้นหน่อย เพราะคนร่างรายชื่อนักเตะคือ จิม ลอเลอร์ โซลชา และ ฟีแลน แต่คนดีลเป็นเอ็ด และ จัดส์ อยู่ดี
- เอเยนต์บอกว่าการซื้อตัวของแมนยูไม่เกี่ยวกับผู้จัดการ คนที่คุยด้วยหลักๆคือ จัดส์ ซึ่งเหมือนเป็น DOF กลายๆ
-ทีมบริหารหลักของแมนยู เอ็ด จัดส์ และ ริชาร์ดอาโนล จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน(บริสตอล) และมีงานเก่าที่ PWC หรือไม่ก็ JP Morgan
- เอ็ด เป็นเพื่อนกับจัดส์ ที่เป็นเพื่อนกับอาโนล ก่อนหอบหิ้วกันมานั่งในแมนยู โดยทั้งสามคนทำงานในภาคการเงินมาก่อน
- คำแนะนำจากเฟอร์ดินานด์ เอฟร่า เฟล็ตเชอร์ ต่อทีมนั้นมีถึงระดับเป็นลายลักษณ์อักษรที่สโมสรรับไปวางประดับ(และไม่ได้ดำเนินงานต่อ)
- เอ็ดพยายามมากในดีลซานเชซ จนยอมทุ่มค่าเหนื่อยห้าแสน ก่อนที่ดีลนี้จะย้อนใส่ตัว
- นักเตะคนอื่นๆไม่พอใจ และพยายามเรียกค่าแรงเพิ่ม และเมื่อเพิ่มให้ไม่ได้ บางคนก็ตัดสินใจย้ายทีม
- บรรยากาศในห้องแต่งตัวแย่ลง
- เอ็ดแสดงให้เห็นว่าดีลไม่ทันเกมเอเยนต์ตั้งแต่ตอนดีล ทอมเคลฟเวอรี่
- แต่เอ็ดชอบบิ๊กดีล โดยเฉพาะดีลที่ได้พาดหัว
- เกลเซอร์มีส่วนมากกว่าที่คุณคิด แต่ให้เอ็ดออกหน้า จะได้ลอยตัว
- เกลเซอร์ทนต่อผลงานแย่ๆได้มากกว่าที่คุณคิด แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ชนะ 27 แพ้ 53 มาตลอดห้าปี แล้ว CEO (Jason Licht) ก็ยังอยู่
https://theathletic.com/1282731/2019/10/11/1282731/
วีรกรรมของเอ็ด
- เอ็ดเป็นคนฉลาดและวางตัวดี และรู้จักเกลเซอร์ครั้งแรกเมื่อเป็นคนทำดีลเทคโอเวอร์ แมนยู
-ในตอนนั้นเอ็ดเป็นแค่เจ้าหน้าที่ระดับกลาง แต่เพราะดีลนี้ทำให้สนิทสนมกับเกลเซอร์
- ปีที่ผ่านมาเอ็ดพึ่งหล่นวาทะเด็ดในงานประชุมผู้ถือหุ้น
"ผลงานในสนามไม่เกี่ยวกับผลประกอบการด้านพาณิชย์"
- เป็นแฟนพันธุ์แท้รูนี่ เมื่อเชลซีและมูรินโญ่ ขอซื้อ เอ็ดเป็นคนขวางดีลว่า เวร์น จะไม่ย้ายทีมไปไหนทั้งนั้น
- วางตัวไม่คงเส้นคงวา กับนักเตะบางคน สนิทมาก กับนักเตะอีกหลายคน ไม่เคยได้การ์ดหรือคำอวยพร หรือ SMS ในกรณีใดๆ
- มอยส์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่แน่ใจว่าเอ็ดเป็นอัจฉริยะหรือตัวตลก เมื่อดีลอย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า เชส ฟราเบรกาส โทนี ครูส ฯลฯ ลอยหายไปในสายลมโดยไม่เกิดอะไรขึ้น
- ระบบซื้อขายที่เซอร์ทิ้งไว้มีปัญหา เมื่อพลาดตัว ซาอูล ไนเกซ และ มอยส์ปฏิเสธ ติอาโก้ ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่รู้จักนักเตะ
- เอ็ดพยายามแก้ โดยการคุยกับผู้เล่นเกินกว่าหนึ่งคนพร้อมกัน หลายครั้งไปจนเจรจาสัญญาจนจบแล้วเอ็ดก็โทรไปขอโทษทีหลังว่าเซ็นคนอื่นไปแล้ว
- การซื้อ เริ่มจากแมตต์จัดส์ โทรหาเอเยนต์
- ปีนี้ เอ็ดเน้นไปที่บิสซาก้าก่อน ทำให้ดีลแมคไกวส์ ล่าช้า
- โซลชา แจ้งตั้งแต่ต้นว่าลูกากูไม่อยู่ในแผน และควรรีบๆขาย แต่ไม่ได้ราคาที่ต้องการเสียที ทำให้ดีลลากยาว
- เซอร์วางแผนเลือกมอยส์ เป็นตัวแทน แล้ววางทีมอย่างฟีแลน มูเลนสตีน คอยเป็นพี่เลี้ยง การที่เอ็ดยอมให้มอยส์ไล่ทีมงานออก ทำให้แผนของเซอร์พังไม่เป็นท่า รวมทั้งหอบองค์ความรู้ด้านฟุตบอลทั้งหมดออกไปจากสโมสรพร้อมๆกัน
- เซอร์โกรธมาก และนับแต่นั้นสองคนนี้ไม่คุยกัน ไม่เช็คแฮนด์กัน
- ฟาน กัลบอกว่าเขาโดนเอ็ดทรยศ
- เขาไม่เคยได้นักเตะที่ต้องการ และนักเตะทั้งหมดมาจากเอ็ด หรือไม่ก็ จัดส์
- มูรินโญ่ ไม่เคยอยากได้เฟร็ด แต่ถ้าไม่เอา ก็ไม่มีใคร เอ็ดไม่จัดให้ และ คำร้องขอเซนเตอร์แบ็ค ไม่เคยได้รับการตอบสนอง
- ปีนี้ดีขึ้นหน่อย เพราะคนร่างรายชื่อนักเตะคือ จิม ลอเลอร์ โซลชา และ ฟีแลน แต่คนดีลเป็นเอ็ด และ จัดส์ อยู่ดี
- เอเยนต์บอกว่าการซื้อตัวของแมนยูไม่เกี่ยวกับผู้จัดการ คนที่คุยด้วยหลักๆคือ จัดส์ ซึ่งเหมือนเป็น DOF กลายๆ
-ทีมบริหารหลักของแมนยู เอ็ด จัดส์ และ ริชาร์ดอาโนล จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน(บริสตอล) และมีงานเก่าที่ PWC หรือไม่ก็ JP Morgan
- เอ็ด เป็นเพื่อนกับจัดส์ ที่เป็นเพื่อนกับอาโนล ก่อนหอบหิ้วกันมานั่งในแมนยู โดยทั้งสามคนทำงานในภาคการเงินมาก่อน
- คำแนะนำจากเฟอร์ดินานด์ เอฟร่า เฟล็ตเชอร์ ต่อทีมนั้นมีถึงระดับเป็นลายลักษณ์อักษรที่สโมสรรับไปวางประดับ(และไม่ได้ดำเนินงานต่อ)
- เอ็ดพยายามมากในดีลซานเชซ จนยอมทุ่มค่าเหนื่อยห้าแสน ก่อนที่ดีลนี้จะย้อนใส่ตัว
- นักเตะคนอื่นๆไม่พอใจ และพยายามเรียกค่าแรงเพิ่ม และเมื่อเพิ่มให้ไม่ได้ บางคนก็ตัดสินใจย้ายทีม
- บรรยากาศในห้องแต่งตัวแย่ลง
- เอ็ดแสดงให้เห็นว่าดีลไม่ทันเกมเอเยนต์ตั้งแต่ตอนดีล ทอมเคลฟเวอรี่
- แต่เอ็ดชอบบิ๊กดีล โดยเฉพาะดีลที่ได้พาดหัว
- เกลเซอร์มีส่วนมากกว่าที่คุณคิด แต่ให้เอ็ดออกหน้า จะได้ลอยตัว
- เกลเซอร์ทนต่อผลงานแย่ๆได้มากกว่าที่คุณคิด แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ชนะ 27 แพ้ 53 มาตลอดห้าปี แล้ว CEO (Jason Licht) ก็ยังอยู่
https://theathletic.com/1282731/2019/10/11/1282731/