เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก เราเดินทางออกจากเมืองซิดนีย์ ไปยังเมืองแคนเบอร์รา ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง ระหว่างทางก็มีแวะให้เข้าห้องน้ำตามที่พักรถ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปั๊มน้ำมัน และมี Minimart เล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินซื้อของกินเล็ก ๆ น้อย ระหว่างเดินทาง หลังจากหลับ ๆ ตื่น ๆ ไปหลายงีบ เราก็มาถึงเมืองแคนเบอร์ราแล้วครับ
สำหรับเมืองแคนเบอร์รา (Canberra) นั้น ได้รับเลือกเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงประจำออสเตรเลียเมื่อ พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ไม่มาก ประมาณ 3- 4 แสนคนเท่านั้นเอง (อย่าเทียบกับกรุงเทพฯ บ้านเรานะ..หุ หุ) โดยเมืองแคนเบอร์ร่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของเครือรัฐออสเตรเลีย ทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่ไม่ติดต่อกับชายฝั่งทะเล เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่าง ๆ เช่น รัฐสภา (Parliament House) , ศาลสูงสุดของออสเตรเลีย (High Court of Australia) และกระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตของประเทศต่าง ๆ รวมกันอยู่เป็นบริเวณกว้างพอสมควร มีสถานทูตไทยด้วยนะ
ไกด์พาเราเดินมาถึงหน้าอาคารรัฐสภาแห่งออสเตรเลีย Australian Parliament House ก็ดูสวยดี มันเป็นอาคารแนวกว้าง มีสีขาวเกือบทั้งหลัง กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ดูร่มรื่นสบายตา หลังจากนั้น เราก็ได้เดินทัวร์รัฐสภา ซึ่งเขาเปิดให้ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมด้านในได้ ภายในตัวอาคารก็มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีในระดับหนึ่ง มีห้องต่าง ๆ หลายห้อง รวมถึงห้องที่สส.เขาไว้ประชุมกันด้วย ผมเห็นห้องประชุมสส. ของพวกเขาแล้วรู้สึกแปลกใจ!! มันเป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเก้าอี้ยาว ๆ อยู่ด้านหน้า และมีที่นั่งให้ สส.นั่งต่อ ๆ กัน เป็นวงล้อมรอบ แลดูน่าอึดอัด และก็มีโต๊ะตัวยาวอยู่ตรงกลางไว้ให้สส. เพื่อใช้ในการอภิปราย แค่นั้นเอง ดูมันเรียบง่ายมากจริง ๆ แต่เขาก็ใช้กันมาแบบนี้ตั้งนานแล้ว
ภาพ Australian Parliament House cr. Tripadvisor
ภาพ : ห้องประชุมสภา cr. Alamy.com
เราเดินเล่นไปสักพักก็มาถึงประตูทางออกของอาคารรัฐสภา ด้านนอกเป็นถนนทอดยาว สองริมฝั่งถนนมีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายกันเป็นทิวแถว เราเดินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร ระหว่างทางเราผ่านสถานกงสุลของประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมถึงสถานกงสุลของประเทศไทยด้วยนะ ( เห็นอะไรไทย ๆ แล้วชักคิดถึงบ้านล่ะ 555 ) ไม่นานนักเราก็เดินมาถึงอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งคนออสเตรเลียได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เหล่าทหารกล้าทุก ๆ คน นั่นคือ Australian War Memorial หรือพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สงครามของออสเตรเลีย อนุสรณ์แห่งนี้เปิดเมื่อ ปี ค.ศ. 1941 อนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้เล่าเรื่องราวมากมาย เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงคราม มีการแสดงภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เช่น รถถัง, เครื่องบินรบ ฯลฯ
ภาพ Australian War Memorial cr. moovit
หลังจากได้ชมภายในพิพิธภัณฑ์แล้ว รู้สึกว่าสงครามไม่ว่าเกิดที่ไหนบนโลกใบนี้ ก็มีแต่ความสูญเสีย แต่ในความสูญเสียเหล่านั้น มันอาจจะรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาบนโลกใบนี้ให้พวกเราได้รู้ ได้เห็นก็เป็นได้ครับ ช่วงบ่ายแก่ ๆ เรานั่งรถโค้ชกลับมาพักโรงแรมที่เมืองซิดนีย์เป็นคืนสุดท้าย คืนนี้คงหลักสบาย เพราะเดินทางข้ามเมืองไปมา มีเหนื่อยเหมือนกัน หุ หุ พรุ่งนี้ก็ได้กลับบ้านล่ะ
เช้าวันนี้ที่เมืองซิดนีย์ อากาศดูแจ่มใส มีลมหนาวพัดตอนเช้าทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ก็ใจหายนิดหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเราที่ประเทศนี้แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน เรายังต้องไปเที่ยวอีก 1 ที่ ก่อนจากประเทศนี้ไป ครับ วันนี้เราไป Shopping กันที่ ห้างควีนวิกตอเรียบิลดิ้ง (Queen Victoria Building) หรือ QVB ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางธุรกิจของเมืองซิดนีย์ ไม่ห่างจากสนามบินที่เราจะโดยสารกลับเท่าไหร่นัก ห้างแห่งนี้เป็นอาคารที่สร้างในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ ออกแบบโดยจอร์จ มักเร (George McRae) สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1898 ตัวอาคารมีถนนล้อมรอบ 4 ด้าน คือ George Street, Market Street, York Street และ Druitt Street อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์การค้าในช่วงแรก และต่อมาถูกใช้งานอย่างหลากหลายจนกระทั่งได้รับการบูรณะให้มีการใช้งานดังเดิมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20
ภาพ : Queen Victoria Building หรือ QVB Cr.วิกิพีเดีย
เมื่อเราเข้าไปชมด้านในของห้างแห่งนี้ มันเหมือนการก้าวข้ามกลับเข้าไปเดินในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 18 อีกครั้ง แม้ว่าภายในห้างจะเต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมดัง ๆ จากทั่วทุกสารทิศของโลกมารวมกันอยู่ที่นี่ แต่มันก็ดูกลมกลืนกันเป็นเนื้อเดียวกันอย่างแยกไม่ออก ทำให้เรานอกจากจะเพลิดเพลินกับการ Shopping แล้ว ยังเพลิดเพลินกับการชมศิลปะและ สถาปัตยกรรมร่วมสมัยอีกด้วย
ภาพ : ด้านในห้าง Queen Victoria Building cr. overseas attractions
หลังจากเราเดิน Shopping กันจนเมื่อย ก็ได้เวลาไปที่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับบ้านกันแล้วครับ ผมรู้สึกประทับใจกับสถานที่เที่ยวต่างของประเทศนี้อย่างมาก และคงเก็บความรู้สึกแบบนี้ไปอีกนาน แอบหวังในใจลึก ๆ ว่า คงมีโอกาสได้กลับมาที่ประเทศนี้อีกครั้ง See you again Sydney!!!
กลับบ้านกันครับ bye bye
เกร็ดควรรู้
ภูมิอากาศ : ประเทศออสเตรเลีย แต่ละเมืองจะมีฤดูการที่ไม่ค่อยเหมือนกัน เนื่องจากแต่ละภูมิภาคนั้นมีสภาพภูมิประเทศแตกต่างกัน อย่างเมือง Darwin มี แค่ 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน กับฤดูฝน เป็นต้น แต่เมือง Sydney มี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน (ราวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) ฤดูใบไม้ร่วง (ราวเดือนมีนาคม - พฤษภาคม) ฤดูหนาว (ราวเดือนมิถุนายน - สิงหาคม) และฤดูใบไม้ผลิ (ราวเดือนกันยายน - พฤศจิกายน) เลือกไปเที่ยวได้ตามใจเลย
อาหารการกิน : จำได้ว่าอาหารมื้อแรกที่โรงแรมในนครซิดนีย์นั้น ก็เป็น Breakfast แบบทั่วไปนี่ละ แต่ที่ผมไม่เคยทานเลย นั่นก็คือ ไส้กรอกเนื้อแกะ แม้ว่ารูปลักษณ์มันจะดูไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนไส้กรอกที่อบจนเกรียมไปหน่อย แต่มันก็อร่อยม๊าก เสียงสูงเลย ถ้าไปต้องลองกินดูน่า ขอบอก นอกนั้นก็จะเหมือนกับที่เราเคยทานกัน ไข่ดาว ขนมปังต่าง ๆ โดยทั่วไป
ห้องน้ำ : สำหรับห้องน้ำ ก็สะอาดดี สมเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กลิ่นจากห้องน้ำก็พอประมาณ พอทนได้ 555 อย่าลืมทิชชูเปียกไปด้วย
Shopping : ส่วนเรื่องการ Shopping ก็มีให้ Shop กันตลอดทาง ร้านขายของที่ระลึกก็มีมากมายตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะเป็นแม็กเน็ตติดตู้เย็นรูปหมีโคอาล่า ,รูปจิงโจ้, หรือรูปโอเปร่าเฮ้าส์ ราคาไม่แพงมาก ประมาณ 1 -3 เหรียญออสเตรเลีย หรือบางคนตั้งใจไปซื้ออาหารเสริมยี่ห้อ Blackmores, Centrum เขาก็มีให้เลือกซื้อตามสะดวก
สกุลเงิน : 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 20.-กว่าบาทไทย (ปัจจุบันนะครับ)
ใครมีโอกาสได้ไปที่ประเทศนี้ รับรองว่าคุณจะอยากกลับไปอีกครั้ง ...ไว้เจอกันใหม่ครับ
Cr. Journey..เจอนั่น By ดช.จุ่น
ติดตามบทความ
Go SYDNEY มีดีกว่าที่คิด!!...ตอนที่ 1 By ดช.จุ่น
https://ppantip.com/topic/39286867
Go SYDNEY มีดีกว่าที่คิด!!...ตอนที่ 1 By ดช.จุ่น
https://ppantip.com/topic/39301462
Go SYDNEY มีดีกว่าที่คิด!!...ตอนที่ 3 (จบ) By ดช.จุ่น
สำหรับเมืองแคนเบอร์รา (Canberra) นั้น ได้รับเลือกเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงประจำออสเตรเลียเมื่อ พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ไม่มาก ประมาณ 3- 4 แสนคนเท่านั้นเอง (อย่าเทียบกับกรุงเทพฯ บ้านเรานะ..หุ หุ) โดยเมืองแคนเบอร์ร่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของเครือรัฐออสเตรเลีย ทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่ไม่ติดต่อกับชายฝั่งทะเล เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่าง ๆ เช่น รัฐสภา (Parliament House) , ศาลสูงสุดของออสเตรเลีย (High Court of Australia) และกระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตของประเทศต่าง ๆ รวมกันอยู่เป็นบริเวณกว้างพอสมควร มีสถานทูตไทยด้วยนะ
ไกด์พาเราเดินมาถึงหน้าอาคารรัฐสภาแห่งออสเตรเลีย Australian Parliament House ก็ดูสวยดี มันเป็นอาคารแนวกว้าง มีสีขาวเกือบทั้งหลัง กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ดูร่มรื่นสบายตา หลังจากนั้น เราก็ได้เดินทัวร์รัฐสภา ซึ่งเขาเปิดให้ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมด้านในได้ ภายในตัวอาคารก็มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีในระดับหนึ่ง มีห้องต่าง ๆ หลายห้อง รวมถึงห้องที่สส.เขาไว้ประชุมกันด้วย ผมเห็นห้องประชุมสส. ของพวกเขาแล้วรู้สึกแปลกใจ!! มันเป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเก้าอี้ยาว ๆ อยู่ด้านหน้า และมีที่นั่งให้ สส.นั่งต่อ ๆ กัน เป็นวงล้อมรอบ แลดูน่าอึดอัด และก็มีโต๊ะตัวยาวอยู่ตรงกลางไว้ให้สส. เพื่อใช้ในการอภิปราย แค่นั้นเอง ดูมันเรียบง่ายมากจริง ๆ แต่เขาก็ใช้กันมาแบบนี้ตั้งนานแล้ว
ภาพ Australian Parliament House cr. Tripadvisor
ภาพ : ห้องประชุมสภา cr. Alamy.com
เราเดินเล่นไปสักพักก็มาถึงประตูทางออกของอาคารรัฐสภา ด้านนอกเป็นถนนทอดยาว สองริมฝั่งถนนมีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายกันเป็นทิวแถว เราเดินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร ระหว่างทางเราผ่านสถานกงสุลของประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมถึงสถานกงสุลของประเทศไทยด้วยนะ ( เห็นอะไรไทย ๆ แล้วชักคิดถึงบ้านล่ะ 555 ) ไม่นานนักเราก็เดินมาถึงอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งคนออสเตรเลียได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เหล่าทหารกล้าทุก ๆ คน นั่นคือ Australian War Memorial หรือพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สงครามของออสเตรเลีย อนุสรณ์แห่งนี้เปิดเมื่อ ปี ค.ศ. 1941 อนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้เล่าเรื่องราวมากมาย เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงคราม มีการแสดงภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เช่น รถถัง, เครื่องบินรบ ฯลฯ
ภาพ Australian War Memorial cr. moovit
หลังจากได้ชมภายในพิพิธภัณฑ์แล้ว รู้สึกว่าสงครามไม่ว่าเกิดที่ไหนบนโลกใบนี้ ก็มีแต่ความสูญเสีย แต่ในความสูญเสียเหล่านั้น มันอาจจะรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาบนโลกใบนี้ให้พวกเราได้รู้ ได้เห็นก็เป็นได้ครับ ช่วงบ่ายแก่ ๆ เรานั่งรถโค้ชกลับมาพักโรงแรมที่เมืองซิดนีย์เป็นคืนสุดท้าย คืนนี้คงหลักสบาย เพราะเดินทางข้ามเมืองไปมา มีเหนื่อยเหมือนกัน หุ หุ พรุ่งนี้ก็ได้กลับบ้านล่ะ
เช้าวันนี้ที่เมืองซิดนีย์ อากาศดูแจ่มใส มีลมหนาวพัดตอนเช้าทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ก็ใจหายนิดหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเราที่ประเทศนี้แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน เรายังต้องไปเที่ยวอีก 1 ที่ ก่อนจากประเทศนี้ไป ครับ วันนี้เราไป Shopping กันที่ ห้างควีนวิกตอเรียบิลดิ้ง (Queen Victoria Building) หรือ QVB ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางธุรกิจของเมืองซิดนีย์ ไม่ห่างจากสนามบินที่เราจะโดยสารกลับเท่าไหร่นัก ห้างแห่งนี้เป็นอาคารที่สร้างในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ ออกแบบโดยจอร์จ มักเร (George McRae) สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1898 ตัวอาคารมีถนนล้อมรอบ 4 ด้าน คือ George Street, Market Street, York Street และ Druitt Street อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์การค้าในช่วงแรก และต่อมาถูกใช้งานอย่างหลากหลายจนกระทั่งได้รับการบูรณะให้มีการใช้งานดังเดิมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20
ภาพ : Queen Victoria Building หรือ QVB Cr.วิกิพีเดีย
เมื่อเราเข้าไปชมด้านในของห้างแห่งนี้ มันเหมือนการก้าวข้ามกลับเข้าไปเดินในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 18 อีกครั้ง แม้ว่าภายในห้างจะเต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมดัง ๆ จากทั่วทุกสารทิศของโลกมารวมกันอยู่ที่นี่ แต่มันก็ดูกลมกลืนกันเป็นเนื้อเดียวกันอย่างแยกไม่ออก ทำให้เรานอกจากจะเพลิดเพลินกับการ Shopping แล้ว ยังเพลิดเพลินกับการชมศิลปะและ สถาปัตยกรรมร่วมสมัยอีกด้วย
ภาพ : ด้านในห้าง Queen Victoria Building cr. overseas attractions
หลังจากเราเดิน Shopping กันจนเมื่อย ก็ได้เวลาไปที่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับบ้านกันแล้วครับ ผมรู้สึกประทับใจกับสถานที่เที่ยวต่างของประเทศนี้อย่างมาก และคงเก็บความรู้สึกแบบนี้ไปอีกนาน แอบหวังในใจลึก ๆ ว่า คงมีโอกาสได้กลับมาที่ประเทศนี้อีกครั้ง See you again Sydney!!!
กลับบ้านกันครับ bye bye
เกร็ดควรรู้
ภูมิอากาศ : ประเทศออสเตรเลีย แต่ละเมืองจะมีฤดูการที่ไม่ค่อยเหมือนกัน เนื่องจากแต่ละภูมิภาคนั้นมีสภาพภูมิประเทศแตกต่างกัน อย่างเมือง Darwin มี แค่ 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน กับฤดูฝน เป็นต้น แต่เมือง Sydney มี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน (ราวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) ฤดูใบไม้ร่วง (ราวเดือนมีนาคม - พฤษภาคม) ฤดูหนาว (ราวเดือนมิถุนายน - สิงหาคม) และฤดูใบไม้ผลิ (ราวเดือนกันยายน - พฤศจิกายน) เลือกไปเที่ยวได้ตามใจเลย
อาหารการกิน : จำได้ว่าอาหารมื้อแรกที่โรงแรมในนครซิดนีย์นั้น ก็เป็น Breakfast แบบทั่วไปนี่ละ แต่ที่ผมไม่เคยทานเลย นั่นก็คือ ไส้กรอกเนื้อแกะ แม้ว่ารูปลักษณ์มันจะดูไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนไส้กรอกที่อบจนเกรียมไปหน่อย แต่มันก็อร่อยม๊าก เสียงสูงเลย ถ้าไปต้องลองกินดูน่า ขอบอก นอกนั้นก็จะเหมือนกับที่เราเคยทานกัน ไข่ดาว ขนมปังต่าง ๆ โดยทั่วไป
ห้องน้ำ : สำหรับห้องน้ำ ก็สะอาดดี สมเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กลิ่นจากห้องน้ำก็พอประมาณ พอทนได้ 555 อย่าลืมทิชชูเปียกไปด้วย
Shopping : ส่วนเรื่องการ Shopping ก็มีให้ Shop กันตลอดทาง ร้านขายของที่ระลึกก็มีมากมายตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะเป็นแม็กเน็ตติดตู้เย็นรูปหมีโคอาล่า ,รูปจิงโจ้, หรือรูปโอเปร่าเฮ้าส์ ราคาไม่แพงมาก ประมาณ 1 -3 เหรียญออสเตรเลีย หรือบางคนตั้งใจไปซื้ออาหารเสริมยี่ห้อ Blackmores, Centrum เขาก็มีให้เลือกซื้อตามสะดวก
สกุลเงิน : 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 20.-กว่าบาทไทย (ปัจจุบันนะครับ)
ใครมีโอกาสได้ไปที่ประเทศนี้ รับรองว่าคุณจะอยากกลับไปอีกครั้ง ...ไว้เจอกันใหม่ครับ
Cr. Journey..เจอนั่น By ดช.จุ่น
ติดตามบทความ
Go SYDNEY มีดีกว่าที่คิด!!...ตอนที่ 1 By ดช.จุ่น https://ppantip.com/topic/39286867
Go SYDNEY มีดีกว่าที่คิด!!...ตอนที่ 1 By ดช.จุ่น https://ppantip.com/topic/39301462