หนังที่มีดารารวมตัวกันอย่างคับคัง แค่เข้าไปดูดาราในเรื่องก็คุ้มแล้ว มี Bill Murray มาร่วมสร้างความฮาหน้าตาย และด้วยความที่เป็นหนังเกี่ยวกับซอมบี้ จึงมี Easter Egg เกี่ยวกับหนังซอมบี้มากมาย อีกทั้งหนังยังมีความรุนแรง สะใจขาโหด Tilda Swinton ยังแอบมาเล่นเป็นตัวละครลับ ที่ฝีมือการใช้ดาบคาตานะเป็นเลิศมาร่วมไล่ล่าซอมบี้ด้วย แต่ด้วยความที่เป็นหนังอินดี้ หนังอาจอยู่ได้ไม่นาน ฉะนั้นรีบดูก่อนออกจากโรง

ข้างล่างพูดถึงส่วนสปอยหนัง 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากใครได้ดูหนังเพียงเพราะคำโปรยที่กล่าวมาข้างต้น หรือ จากตัวอย่างหนังที่ปล่อยมา ยินดีด้วย เราคือคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน 

ไม่รู้ว่าเป็นเหมือนกันไหม เมื่อผมดูหนังเสร็จ สิ่งแรกที่ผมคิดคือ

"อิหยังว้าาา"

หนังน่าเบื่อมาก นักแสดงหน้าตาย ตลกที่ไม่ขำ แล้วยังเนื้อเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลอีก

ออกมาจากโรง มานั่งนึกตรึกตรอง ว่าเราได้เห็นอะไรในหนัง ผู้กำกับต้องการสื่ออะไร

มาค้นหาใน imdb ตัวผู้กำกับก็ไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ หนังชิงรางวัลมาก็เยอะ เขาทำหนังแบบนี้ออกมาทำไม

หลังจากนั่งฌานไปสักพัก ก็ได้บรรลุ สิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อ

หนังต้องการล้อเลียนหนังในปัจจุบันที่มักใส่ "สิ่งฟุ่มเฟือย" ลงไปในหนัง แต่คนดูกลับชอบซะเหลือเกิน และจะอินอย่างที่สุดถ้าคุณดู The Walking Dead เป็นประจำ สิ่งฟุ่มเฟือยอย่างเช่น

๑. Easter Egg (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง): รถรุ่นเดียวกับรถที่ใช้ในหนังซอมบี้ของโรเมโร่, การอ้างอิงหนังสือการตูนหรือชื่อตัวละครที่โด่งดังอย่างบิลโบ้, พ่วงกุญแจเกี่ยวกับ Star Wars ของตัวละคร Adam Driver ซึ่งเล่นเป็น Kylo Ren ใน Star Wars ด้วย

๒. ตัวละครลึกลับ ของ Tilda Swinton (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๓. ฉากเท่ๆ เช่น การรำดาบ การถีบประตูรถ ฉากสโลว์ฟันดาบแบบสวยๆ  ฉากสโลว์ยิงซอมบี้ (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๔. การหักมุมของหนัง ของ Tilda Swinton (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๕. ตัวละครในศูนย์ CDC ชายหนึ่งหญิงสอง เมื่อซอมบี้บุก และตัวละครหนีออกมาได้ ก็หายไปเลย  คงกะเอาไว้ทำภาคต่อ (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง ในภาคนี้ ๕๕๕)

๖. ตัวละครที่เข้าเมืองมาใหม่ หญิงหนึ่งชายสอง ซึ่งแสดงโดยดาราวัยรุ่นชื่อดัง เพื่อให้ Adam Driver ฟันหัวขาด ให้ความสะใจแด่ผู้ชม (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๗. ตัวละครผิวดำ และ เด็กเนิร์ด ที่ใส่เข้ามาเพียงแค่ให้ได้ลุ้นว่าจะอยู่หรือตาย ตามขนบหนังประเภทนี้ (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๘. ฉากรถวิ่งผ่านสถานที่ต่างๆ เผาเวลา (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๙. ฉากเล่นมุก ในลักษณเล่นซ้ำ ขยี้หลายรอบ (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๑๐. ตัวละครฤาษี ซึ่งโผล่มาตั้งแต่ต้นเรื่อง จนถึงตอนจบ เมื่อตัวละครตัวนี้จะมีอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๑๑. ตัวละครที่สนับสนุนทรัมป์ มีมาเพื่อตาย (ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)

๑๒. ประโยคที่ตัวละครที่  Adam Driver ชอบพูดในหนัง ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับ I have a bad feeling about this ของ Star Wars ซึ่ง Adam Driver ก็เล่นด้วย

ตัวละครจริงๆในหนังเรื่องนี้มีแค่สามตัวเท่านั้น คือ นายอำเภอ Cliff Robertson (Bill Murray), เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยนายอำเภอชาย Ronnie Peterson (Adam Driver),  เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยนายอำเภอหญิง Mindy Morrison (Chloë Sevigny) แต่ถึงกระนั้นบทของทั้งสามคนก็ยังมีการยัดเยียดดราม่า ใส่เข้ามา แบบไม่จำเป็น อาทิ

๑. การตัดสินใจออกไปลาดตระเวน ทั้งๆทีมีซอมบี้เต็มท้องถนน ซึ่งนำไปสู่การตายหมู่ในตอนท้าย โดยที่ตัวละครให้เหตุผลในการออกไปลาดตระเวนว่า ถึงเวร

๒. การที่บทพยายามใส่ดราม่าความรักแบบ หญิงหนึ่งชายสอง "จีบกันอยู่เรอะ" "ชอบเขาไหม" 

๓. ขณะที่ตัวละครทั้งสาม ติดอยู่ในรถที่มีซอมบี้รุมล้อม ออกไปไม่ได้ อยู่ดีๆ ซอมบี้คุณยายของนายอำเภอหญิงก็มาเกาะที่ข้างตัวรถ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ผู้ช่วยนายอำเภอหญิงซึ่งกำลังสติแตก พอเห็นคุณยาย ก็เริ่มพูดว่า "ฉันอยากจบเรื่องบ้าๆนี้ ฉันจะไปหาคุณยาย" แล้วก็เปิดประตูลงไปตาย

๔. ตัวละครฤาษี พยายามจบหนังด้วยคำพูดเท่ๆ 

จากทั้งหมดที่ว่ามา ผู้กำกับต้องการจะแสดงให้เห็นว่าหนังรวมถึงซีรีย์ในยุคปัจจุบัน ไม่สนใจที่จะให้ความสำคัญบทและเนื้อเรื่อง ปมประเด็นต่างๆถูกตัดทิ้ง แล้วประเคน ฉากโหด ฉากเท่ Easter Egg มุกตลกซ้ำซาก ดาราหล่อสวย และ การลุ้นแค่ว่าตัวละครตัวไหนจะอยู่หรือจะตาย ผลสุดท้ายคุณจะได้หนังที่มีความน่าเบื่อ จำเจ และ ไม่มีความสร้างสรรค์ใดๆ

หากคุณเห็นว่าหนังเรื่องนี้ห่วย ก็แสดงว่าผู้กำกับทำสำเร็จแล้วครับ ^^

ขอบคุณครับ