[SR] รีวิว XIAOMI REDMI NOTE 8 PRO พร้อม MTK HELIO G90T กล้องหลัง 4 ตัว 64MP !


 
Redmi นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนน่าจะติดตามกันมานานครับเป็นแบรนด์ที่ทำมือถืออะไรออกมาจับในตลาดที่ราคาถูกและคุ้มค่ากว่ารุ่นอื่นๆรวมถึงสเปคอะไรหลายๆอย่างนั้นให้มาคุ้มค่าและทำราคาดีมากๆ ยิ่งในยุคแรกๆที่หลายคนนั้นไปหาหิ้วกันจากเมืองนอกกันเลยทีเดียว และในครั้งนี้หลังจากที่ในประเทศไทยนั้นมีตัวแทนอย่างเป็นทางการก็เริ่มจับต้องได้ง่ายหาซื้อได้ง่ายกว่าเดิมเยอะมากครับและเอาเข้ามาทำให้ใช้งานได้หายห่วงมีประกันอะไร และล่าสุดก็ได้เอาตระกูลคุ้มค่า Redmi Note มาในไทยทั้ง 2 รุ่นคือ Note 8 / Note 8 Pro ครับ และในครั้งนี้เราจะมาอยู๋กับรุ่นพี่ Note 8 Pro ที่จะเน้นในเรื่องกล้อง 64MP และใช้งาน MTK G90T ถือว่าแรงพอสมควรในเรทราคาที่ดี
 

 
Redmi Note 8 Pro นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลายๆอย่างที่ใส่เข้ามาทั้งเรื่องของกล้องหลัง 4 ตัวมาพร้อมกับเซนเซอร์ 64MP และยังใช้งาน MTK G90T แน่นอนว่าแรงสูสีกับ 730 กันเลยครับในรุ่นนี้และบอดี้งานประกอบค่อนข้างสวย และใช้งานกระจกแบบ3D  มาดูสเปคเต็มๆกันเลย หน้าจอความละเอียด FHD+ ขนาด 6.53 นิ้ว อัตราส่วนต่อตัวเครื่อง 91.4% มาพร้อม Mediatek Helio G90t และใช้ GPU Mali-G76 มาพร้อม RAM 6 GB STORAGE 128 GB และใช้งาน UFS ครับ ส่วนตัวกล้องนั้นใช้งาน เซ็นเซอร์ Samsung Bright GW1 ความละเอียด 64MP + เลนส์ Ultrawide 120° ความละเอียด 8MP + เลนส์มาโคร 2MP ที่ถ่ายได้ระยะใกล้ถึง 2 ซม. + กล้องจับความลึก 2MP ถือว่าเป็นรุ่นแรกๆในเรทต่ำกว่าหมื่นที่รองรับมาโครแบบใกล้ 2 เซนติเมตรครับ และ ใช้งานแบต 4500 mAh รองรับชาร์จไว 18W รวมถึงยังมี NFC ด้วย ในภาพรวมนั้นสเปคถือว่าจัดเต็มพอสมควรครับ
 

 

 
ในด้านของราคานั้น Redmi Note 8 Pro / Ice Jade, Fritillaria White, Electro-optic Ash
- Redmi Note 8 Pro   (6GB / 64GB)   เปิดราคา 7,999 บาท
- Redmi Note 8 Pro  (6GB / 128GB)  เปิดราคา 8,999 บาท 
 

 

 
UNBOX
 
    - ตัวเครื่อง Note 8 Pro
    - ตัวเคส TPU สีดำ / ถ้าเครื่องขาวจะสีใส นะครับ
    - สายชาร์จ USB-C
    - Adaptor 15W
    - คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
 

 

 
ตัวเคสที่แถมมาให้วัสดุแบบเดิมเป็น TPU ใสโทนสีดำเข้มครับเมื่อใส่แล้วค่อนข้างกระชับและพอดีกับตัวเครื่องไม่หนา หรือ บางจนเกินไปพอใช้งานแก้ขัดไปได้ครับ ซึ่งถ้าสีอื่นๆตัวเคสจะเป็นสีใส นะครับแต่รุ่นนี้จะเป็นสีดำเข้ากับตัวเครื่องสีดำได้ดี เมื่อใส่แล้วด้านหลังจะค่อนข้างมืดและปิดส่วนโลโก้อะไรไป รวมถึงฝาหลังก็ไม่ค่อยเห็นเลยนั้นเองอีก 1 จุดที่อยากให้เห็นกันว่า เคสที่แถมมันไม่ปกป้อง เลนส์กล้อง และ ไม่ปกป้องหน้าจอนะครับ จากภาพเป็นว่าขอบเคสมันไม่ได้คลุมหน้าจอ หรือ ป้องกันหน้าจอเวลาใช้งานเท่าไร หรือ ตก วางคว่ำเสี่ยงที่จะจอเป็นรอยได้ รวมถึงเลนส์กล้องครับ อันนี้ก็ต้องระวังกันนิดนึงสำหรับตัวเคสที่แถมมาให้ แต่เปิดแบบนี้ทำให้ติดฟิลม์อะไรได้ง่ายครับไม่โดนเคส
 

 
DESIGN
 
ในด้านการออกแบบนั้นในรุ่นนี้วางกล้องตรงกลาง และจะแตกต่างกับรุ่นน้องแบบชัดเจนครับรวมถึงวัสดุงานประกอบ กระจกโค้งนั้นดูดีมากๆเลย การวางกล้องจะไปคล้ายๆพวก Mi9T แต่มีรวมโมดูลเข้าด้วยกันและใส่สแกนนิ้วไปเนียนๆรวมถึงแยกเลนส์ที่ 4ไปไว้ข้างนอกครับ ก็ถือว่าในเรทราคานี้ก็จัดเต็ม 4 กล้องกันไปเป็นมาตรฐานแล้วนั้นเอง ในด้านของน้ำหนักนั้นกำลังดีและไม่ได้หนักมากแต่ที่ชอบคือความรู้สึกเวลาสัมผัสครับกระจกทำได้ดีและกระชับมือ รวมถึงสีดำนั้นจะไปคล้ายๆพวก MI9 แต่เพิ่มความสว่างขึ้นและอาจจะไม่ได้เล่นกับเงาได้มากเท่าไรแต่ก็สวยในแบบของมัน
 

 
ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับ จอความละเอียด FHD+ ขนาด 6.53 นิ้ว อัตราส่วนต่อตัวเครื่องสูงถึง 91.4% และใช้งานหน้าจอแบบ IPS LCD  ใช้งานกระจก Gorilla Glass 5 และรองรับ HDR และสว่างสุด 500 NITS ครับ
 

 
ในแง่ของการออกแบบนั้นยังคงมีติ่งหน้าจออยู่ แต่ก็มีไฟแจ้งเตือนอยู่ข้างๆกล้องครับสีขาว ถือว่ายังไม่ได้ตัดออกไป ส่วนจะเห็นขอบลำโพงและ เซนเซอร์จะแฝงๆอยู่บริเวณรอบกล้องหน้านั้นเองครับ กล้องหน้าให้มาที่  20MP ครับ
 

 
ในส่วนของขอบล่างนั้นยังคงมีความหนาอยู่พอสมควร แน่นอนว่าเป็นปกติของบรรดามือถือในเรทประมาณนี้นะ และปุ่มควบคุมนั้นสามารถใช้งานเต็มจออะไรได้ครับ และ ทำให้หน้าจอนั้นเต็มขึ้นนั้นเอง
 

 
ด้านขอบล่างของเครื่องจะเป็น รู 3.5 มม. พร้อมกับ พอร์ต USB-C รูไมค์ และ ลำโพงหลักของตัวเครื่องนั้นเอง
 

 
ในด้านบนนั้นจะเป็น รูไมค์ตัวที่ 2 และ ช่อง IR ที่ยังมีมาให้ถือว่าดีมากๆเลย ส่วนขอบวัสดุเงารอบเครื่องสวยงามครับ
 

 
ในขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเป็นถาดซิมที่รองรับใช้งานแบบ HYBRID SLOT นะครับ และจะเห็นว่างานประกอบและตัวบอดี้เงาสวยงามมากๆเข้ากันกับฝาหลังได้เนียนๆเลยครับสีดำนั้นก็สวยงามและดูดีพอสมควร
 

 
ในขอบด้านขวากันบ้างจะเป็นปุ่ม Power และ เพิ่ม ลดเสียงครับ ตัวปุ่มไม่มีทำพื้นผิวสัมผัสอะไรพิเศษครับเรียบๆ
 

 
ในด้านหลังเครื่องการออกแบบวางกล้องตรงกลางครับเรียงกัน 3 ตัวหลักๆซึ่งจะเป็น กล้องมุมกว้าง และ กล้องหลัก รวมถึงตัวจับระยะครับ ส่วนกล้องมาโครระยะใกล้นั้นไปไว้มุมขวาครับ  และมีวงแหวนล้อมรอบกล้องบนสุดรวมถึง สแกนนิ้วก็ซ่อนเนียนๆไว้ตรงล่างสุดของ โมดูลกล้องครับ และมีเขียน 64MP AI Super Camera ในแนวนอน และวัสดุนั้นจะเป็นฝาหลังแบบ กระจก ใช้ขอบโค้งแบบ 3D มุมซ้าย และ ขวา และใช้กระจกของ Gorilla Glass ครับ
 

 
เลนส์หลักนั้นจะมี ความละเอียด 64 MP Samsung ISOCELL GW1 (f/1.8) + เลนส์มุมกว้าง Wide-angle ความละเอียด 8 MP (f/2.2) + เลนส์ macro ความละเอียด 2 MP (f/2.4) และ Depth Sensor ความละเอียด 2 MP (f/2.4) ในตัวกล้องใต้แฟลชนั้นจะเป็น กล้องมาโครนั้นเองครับ รวมถึงไฟแฟลชนั้นมี 2 ดวงครับ
 

 
SPEC
 
    - หน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) อัตราส่วน 19.5 : 9
    - CPU Helio G90t + GPU Mali-G76
    - RAM 6GB
    - STORAGE 64GB / 128GB
    - กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 64 MP Samsung ISOCELL GW1 (f/1.8) + เลนส์มุมกว้าง Wide-angle ความละเอียด 8 MP (f/2.2) + เลนส์ macro ความละเอียด 2 MP (f/2.4) และ Depth Sensor ความละเอียด 2 MP (f/2.4)
    - กล้องหน้าความละเอียด 20 MP (f/2.0)
    - สแกนนิ้วมือด้านหลัง
    - แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว 18W
    - ระบบ Android 9 ครอบด้วย MIUI 10
    - สีที่วางจำหน่าย : Ice Jade, Fritillaria White, Electro-optic Ash
    - การเชื่อมต่อ Wi-Fi AC, 2×2 MIMO, Bluetooth 5.0, AptX HD, LDAC, A-GPS, NFC, 3.5mm headphone jack, Rear fingerprint scanner, IR Blaster, USB-C
 

 
PERFORMANCE
 
ทางด้านประสิทธิภาพนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะตัวนี้นั้นใช้งาน MTK HELIO G90T พร้อมกับ RAM 6GB ทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละ และหน่วยความจำนั้นเป็นแบบ UFS อ่านได้ 517 ถือว่าอยู่ในเรทที่ดี และได้คะแนน Antutu ไปที่ 226696 คะแนนครับถือว่าแรงเอาเรื่องในระดับนี้เพราะมันแรงเท่ากับรุ่นพี่ MI9T เลยครับและแรงกว่านิดหน่อยด้วยนะ ในเรื่องความแรงนั้น MTK จริงๆทำได้ดีมาตลอดนะแต่ในเรื่องการใช้งานจริงๆก็ต้องดูกันอีกทีรวมถึงการเล่นเกมครับ ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเป็น DRM L1 สบายๆครับตัวนี้
 

 
SYSTEM UI
 
หน้าตาระบบใช้ MIUI 10 ที่คุ้นเคยกันดีพร้อมกับ Android 9.0 ตัวล่าสุดไม่นับตัว Q ที่อยู่ในเบต้านะครับ หน้าตานั้นคุ้นเคยกันอย่างดี หน้าตาแอพยังคงมาในแนวแบนๆ เรียบๆครับ แอพติดเครื่องเยอะตามแบบของ Xiaomi และ มีโฆษณาแฝงตามแอพมาให้เหมือนเดิม ต้องไปไล่ปิด ข้อเสนอแนะเอาแต่ละแอพครับ ส่วนเรื่องของการแจ้งเตือนทำได้ดี มีเลขมุมแอพมาให่และรองรับภาษาไทยปกติครับสำหรับเครื่องศูนย์ของ Xiaomi ถือว่าแจ้งเตือนดีอยู่
 

 
หน้าตาตัวการตั้งค่าอะไรก็ สามารถปรับแสงหน้าจออะไรได้ ตั้งค่าแบบด่วนต่างๆ รวมถึงถ้าลากลงมาสามารถปัดหน้าไปซ้ายขวา ได้ และ แบ่งหน้าจอ เคลียร์แอพอะไรได้ปกติครับผม ใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกันได้เลยเลือกแอพเอาเลย
 

 
หน่วยความจำ 128GB  พื้นที่ระบบกินไป 8-9GB เหลือใช้งานจริงประมาณ 120 GB ครับ ส่วน RAM 6 GB ตัวนี้ใช่งานไป 1.6 ครับ เหลือใช้งานได้ 4.3 GB เหลือๆสบายๆ ส่วนแป้นพิมพ์ของเดิม Google มาใช้งานกันละกัน พิมพ์ไทยได้สบายครับ เป็นคีย์บอร์ดที่บอกในทุกรีวิวว่าค่ายไหนติดมาให้แบบนี้จะชอบมากๆเลยแหละ
 

 
Gesture ต่างๆเยอะแยะมากๆสามารถเลือกใช้งานได้ตามภาพเลยครับ และ  ความปลอดภัยรองรับ สแกนใบหน้า สแกนนิ้วต่างๆ และ สามารถ กดปุ่มเพิ่มเสียงเพื่อเปิดหน้าจอได้ รวมถึง กดลดเสียง 2 ครั้งเพื่อเปิดกล้องแบบด่วนๆได้ครับ ใช้งานเต็มหน้าจอ สลับปุ่มควบคุมได้ ใช้งานแบบปัดไปมาเต็มหน้าจอได้  ไฟสถานะตัวนี้ยังคงมีอยู่นะแต่ฉลาดมากๆว่าไปซ่อนตรงกล้องขอบด้านบนครับเป็นไฟสีฟ้าทำให้ยังพอรู้ว่าเสียบชาร์จหรือแจ้งเตือนอะไรใหม่ๆเข้ามาดีกว่าตัดออกไป และสามารถเปิดปิดติ่งได้ครับเป็นการถมดำแถบข้างบน รุ่นนี้ยังคงมีมาให้ปรับใช้งาน
 
ชื่อสินค้า:   Xiaomi Redmi Note 8 Pro
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่