สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้ารายได้เหลือๆ
ผ่อนบ้านไม่ถึง 25% ของรายได้
มันก็ไม่ lock ตัวเองใช่ไหมละครับ
คนบนโลกมีไม่ถึง 10% หรอกครับ ที่ซื้ออสังหาได้โดยไม่ต้องผ่อน
มองกันตามชีวิตจริงๆ ไม่เอาคำพูดสวยหรูมา ปรุงแต่ง
ใครก็อยากมีบ้านของตัวเองทั้งนั้น
การเช่ามันสะดวกกว่า มันถูกกว่าก็จริง วันไหนการเงินล้ม ก็แค่หยุดจบ
แต่มันไม่ได้ความสบายใจหรอกครับ
ตื่นเช้ามา เดินมาเปิดประตูบ้าน ปลูกต้นไม้ นั่งเก้าอี้ จิบกาแฟ อยู่หน้าบ้านตัวเอง
มันมีความสุขกว่า การไปนั่งเช่าเรื่อยๆ หลาย 10 ปีแน่นอนครับ
ผ่อนบ้านไม่ถึง 25% ของรายได้
มันก็ไม่ lock ตัวเองใช่ไหมละครับ
คนบนโลกมีไม่ถึง 10% หรอกครับ ที่ซื้ออสังหาได้โดยไม่ต้องผ่อน
มองกันตามชีวิตจริงๆ ไม่เอาคำพูดสวยหรูมา ปรุงแต่ง
ใครก็อยากมีบ้านของตัวเองทั้งนั้น
การเช่ามันสะดวกกว่า มันถูกกว่าก็จริง วันไหนการเงินล้ม ก็แค่หยุดจบ
แต่มันไม่ได้ความสบายใจหรอกครับ
ตื่นเช้ามา เดินมาเปิดประตูบ้าน ปลูกต้นไม้ นั่งเก้าอี้ จิบกาแฟ อยู่หน้าบ้านตัวเอง
มันมีความสุขกว่า การไปนั่งเช่าเรื่อยๆ หลาย 10 ปีแน่นอนครับ
ความคิดเห็นที่ 4
เป็นแนวคิดแบบ Traditional ที่ปลูกฝังกันมาว่าต้องมีบ้าน จริง ๆ ในอเมริกาก็คิดแบบนี้เช่นกัน แต่หลัง ๆ แนวคิดนี้เริ่มคลายความยึดถือลงบ้างแล้วในกลุ่มคนรุ่นใหม่บางกลุ่ม
เพราะหากมองมุมกว้างออกไปอีก ในโลกนี้มีช่องทางเป็นเจ้าของทรัพย์สินต่าง ๆ มากมาย อาทิ ปัจจุบันนี้เจ้าของเว็บไซต์ แอพพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ คริปโตเคอเรนซี่ ก็เป็นทรัพย์สินในกลุ่ม Digital asset
ในต่างประเทศมีคนที่เข้าใจหลักการเหล่านี้เลือกที่จะเช่าบ้านอยู่ เพราะประเมินแล้วว่าคุ้มกว่า โดยเลือกที่จะไปลงทุนใน Asset ต่าง ๆ และมีรายได้จาก Asset เหล่านั้นมาจ่ายค่าเช่า
นอกจากนั้นยังมีคนที่เลือกที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อให้คนอื่นเช่า ในขณะที่ตัวเอง เช่าที่อยู่อาศัย เช่นกัน ดั่งที่ เศรษฐีนักธุรกิจ Grant Cardone บอกไว้ว่า "Own what you can rent and rent where you want to live." ซื้อบ้านปล่อยเช่า เอารายได้ Passive จากสินทรัพย์ ไปเช่าอยู่ในที่ ๆ คุณอยากอยู่ ซึ่งครอบครัวสมัยใหม่บางคนเป็น ครอบครัวเล็ก ไม่มีลูก เน้นท่องเที่ยว ฯลฯ ก็ไม่ซื้อบ้าน (อเมริกาบางครอบครัวออกแบบรถแวนเป็นบ้าน ฯลฯ)
แนวคิดเหล่านี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในไทยมากนัก ส่วนตัวก็ทำอยู่ ลงทุนใน Asset ที่สร้างผลตอบแทน เอารายได้จาก asset ไปใช้จ่าย เน้นความคล่องตัว ไม่ล็อกตัวเองกับภาระผูกพันระยะยาว ฯลฯ
เพราะหากมองมุมกว้างออกไปอีก ในโลกนี้มีช่องทางเป็นเจ้าของทรัพย์สินต่าง ๆ มากมาย อาทิ ปัจจุบันนี้เจ้าของเว็บไซต์ แอพพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ คริปโตเคอเรนซี่ ก็เป็นทรัพย์สินในกลุ่ม Digital asset
ในต่างประเทศมีคนที่เข้าใจหลักการเหล่านี้เลือกที่จะเช่าบ้านอยู่ เพราะประเมินแล้วว่าคุ้มกว่า โดยเลือกที่จะไปลงทุนใน Asset ต่าง ๆ และมีรายได้จาก Asset เหล่านั้นมาจ่ายค่าเช่า
นอกจากนั้นยังมีคนที่เลือกที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อให้คนอื่นเช่า ในขณะที่ตัวเอง เช่าที่อยู่อาศัย เช่นกัน ดั่งที่ เศรษฐีนักธุรกิจ Grant Cardone บอกไว้ว่า "Own what you can rent and rent where you want to live." ซื้อบ้านปล่อยเช่า เอารายได้ Passive จากสินทรัพย์ ไปเช่าอยู่ในที่ ๆ คุณอยากอยู่ ซึ่งครอบครัวสมัยใหม่บางคนเป็น ครอบครัวเล็ก ไม่มีลูก เน้นท่องเที่ยว ฯลฯ ก็ไม่ซื้อบ้าน (อเมริกาบางครอบครัวออกแบบรถแวนเป็นบ้าน ฯลฯ)
แนวคิดเหล่านี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในไทยมากนัก ส่วนตัวก็ทำอยู่ ลงทุนใน Asset ที่สร้างผลตอบแทน เอารายได้จาก asset ไปใช้จ่าย เน้นความคล่องตัว ไม่ล็อกตัวเองกับภาระผูกพันระยะยาว ฯลฯ
ความคิดเห็นที่ 25
จากใจคนอยู่บ้านเช่ามาตั้งแต่เกิดจน 30+ ปี บ้านเช่ามีปัญหาจุกจิกเยอะมาก
อยากปรับปรุงนั่นนี่หรือทาสีใหม่ต้องขออนุญาต
เจาะกำแพงแขวนรูป แขวนหม้อในครัวต้องบอกก่อน บางที่ก็ไม่ให้เจาะ
วันดีคืนดีเจ้าของขายที่ได้ก็ให้ออก มีรถไฟฟ้าผ่านใกล้ๆ ก็ขึ้นราคาไม่แคร์คนเช่า
มัดจำส่วนใหญ่ 2 เดือนพอออกได้คืนบ้างไม่ได้คืนบ้าง บางทีก็หักนั่นนี่
เวลาย้ายบ้านทีคืองานใหญ่ แพ็คของไม่เท่าไหร่ แต่ตอนจัดบ้านใหม่นี่เหนื่อยสุด ไหนจะค่าขนย้ายอีกไม่น้อย
ไม่ได้บอกว่าการเช่าไม่ดีนะคะ แต่มันเหมาะกับคนที่ข้าวของไม่เยอะ มีแค่ของใช้ส่วนตัวจริงๆ ไม่มีของชิ้นใหญ่ต้องขนย้าย
ตอนนี้เรามีบ้านของตัวเองมันแฮปปี้มาก อยากทำอะไรก็ทำ ที่สำคัญมันคือความมั่นคงอุ่นใจค่ะ
เราผูกพันกับบ้านใหม่ที่เพิ่งอยู่ไม่นานมากกว่าบ้านเช่าที่อยู่เป็น 10 ปีอีกค่ะ
อยากปรับปรุงนั่นนี่หรือทาสีใหม่ต้องขออนุญาต
เจาะกำแพงแขวนรูป แขวนหม้อในครัวต้องบอกก่อน บางที่ก็ไม่ให้เจาะ
วันดีคืนดีเจ้าของขายที่ได้ก็ให้ออก มีรถไฟฟ้าผ่านใกล้ๆ ก็ขึ้นราคาไม่แคร์คนเช่า
มัดจำส่วนใหญ่ 2 เดือนพอออกได้คืนบ้างไม่ได้คืนบ้าง บางทีก็หักนั่นนี่
เวลาย้ายบ้านทีคืองานใหญ่ แพ็คของไม่เท่าไหร่ แต่ตอนจัดบ้านใหม่นี่เหนื่อยสุด ไหนจะค่าขนย้ายอีกไม่น้อย
ไม่ได้บอกว่าการเช่าไม่ดีนะคะ แต่มันเหมาะกับคนที่ข้าวของไม่เยอะ มีแค่ของใช้ส่วนตัวจริงๆ ไม่มีของชิ้นใหญ่ต้องขนย้าย
ตอนนี้เรามีบ้านของตัวเองมันแฮปปี้มาก อยากทำอะไรก็ทำ ที่สำคัญมันคือความมั่นคงอุ่นใจค่ะ
เราผูกพันกับบ้านใหม่ที่เพิ่งอยู่ไม่นานมากกว่าบ้านเช่าที่อยู่เป็น 10 ปีอีกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
การผ่อนบ้าน เมื่อครบกำหนด มันจะเป็นของเรา แปรสภาพจากหนี้สิน กลายเป็นสินทรัพย์ และราคาขยับขึ้นทุกวัน
การเช่าบ้าน เช่าไปตลอดชีวิต ก็ไม่มีวันเป็นของเรา ถึงจะไม่มีหนี้สิน แต่ก็ไม่มีสินทรัพย์ สุดท้ายไม่มีอะไรเลย เงินค่าเช่าจ่ายทุกเดือน หายไปเปล่า ๆ ไม่ได้อะไรคืนมาเลย
นายเอ ผ่อนบ้าน 20 ปี ครบกำหนด ได้บ้านพร้อมที่ดินเป็นของตัวเอง
นายบี เช่าบ้าน 20 ปี ครบกำหนด 20 ปี ไม่ได้อะไรเลย
การเช่าบ้าน เช่าไปตลอดชีวิต ก็ไม่มีวันเป็นของเรา ถึงจะไม่มีหนี้สิน แต่ก็ไม่มีสินทรัพย์ สุดท้ายไม่มีอะไรเลย เงินค่าเช่าจ่ายทุกเดือน หายไปเปล่า ๆ ไม่ได้อะไรคืนมาเลย
นายเอ ผ่อนบ้าน 20 ปี ครบกำหนด ได้บ้านพร้อมที่ดินเป็นของตัวเอง
นายบี เช่าบ้าน 20 ปี ครบกำหนด 20 ปี ไม่ได้อะไรเลย
ความคิดเห็นที่ 52
แล้วแต่จะคิดคับ
สำหรับผม บ้านคือ สถานที่ กิน นอน อยู่ ตาย เคยถามตัวเองไหมคับ ว่าอีก 30ปี จะไปอยู่ที่ไหน ตอนแก่จะอยู่ที่ไหน ตอนตายจะตายที่ไหน ผมตัดสินใจซื้อบ้าน ด้วยเหตุผลเหล่านี้ อยากมีพื้นที่เป็นของตัวเอง อยากให้เป็นของเรา อยากทำอะไรก้อได้ อยากจะต่อเติม อยากจะปลูกต้นไม้ อยากจะเจาะผนัง อยากรื้อ ถ้ามันไม่เดือดร้อนบ้านข้างๆก้อทำได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลใจเจ้าของจริงๆ ที่จะทำอะไรต้องขออนุญาต แอบทำเค้าจับได้ ก้อโดนปรับอีก ใช้ของตัวเอง มันสบายใจกว่าใช้ของคนอื่น
ส่วนเรื่องเป็นหนี้ 30ปี เอาจริงๆ เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ ผ่อนหมดก่อน 30ปีแทบทั้งนั้น ของผมเอง หมดใน 12ปี เพราะรีไฟแนนซ์บ้าน ทำให้ยอดเงินกู้ต่ำลง ผ่อนชำระน้อยลง แต่เราชำระเงินผ่อนสูงเท่าเดิม ยิ่งนานวัน ยอดเงินที่ผ่อนเดือนหลายหมื่น เหลือแค่หมื่นกว่า แต่ยังจ่ายหลายหมื่นเท่าเดิม ก้อเลยปิดยอดได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยธนาคารจะสูงหลักล้าน แต่บ้านผมราคาสูงกว่า ราคาบ้าน + ดอกเบี้ย เป็นหลักล้าน แถมอยู่ในทำเลและพื้นที่ที่เราพอใจ อยู่กันยาวๆจนตาย ตอนนี้ผ่อนหมดแล้ว ไม่มีค่าผ่อน เดือนๆนึงเสียแต่ค่าน้ำค่าไฟ ไม่ต้องย้าย ไม่ต้องมีใครไล่ แก่ไป แม้ไม่มีรายได้ก้อมีที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องกังวลใจ แก่จนเดินไม่ได้ ยังต้องหาเงินมาจ่ายค่าเช่า ค้างจ่ายนานๆ เค้าก้อไล่เหมือนหมูเหมือนหมา แถมค่าเช่าก้อมีอัตราเพิ่มขึ้นไปเรื่อย วันนี้เช่าห้าพัน อีก 10ปี อาจจะเป็นหมื่น ค่าเช่าไม่ได้คงที่ยาวนาน 30ปี
ผมว่า หลายคนซื้อบ้าน เค้าเริ่มมองถึงความมั่นคงมากขึ้น อยากใช้ชีวิตลงหลักปักฐาน พบสถานที่ที่อยากอยู่ไปจนแก่เฒ่า เต้าเลยยอมจ่าย
สำหรับผม บ้านคือ สถานที่ กิน นอน อยู่ ตาย เคยถามตัวเองไหมคับ ว่าอีก 30ปี จะไปอยู่ที่ไหน ตอนแก่จะอยู่ที่ไหน ตอนตายจะตายที่ไหน ผมตัดสินใจซื้อบ้าน ด้วยเหตุผลเหล่านี้ อยากมีพื้นที่เป็นของตัวเอง อยากให้เป็นของเรา อยากทำอะไรก้อได้ อยากจะต่อเติม อยากจะปลูกต้นไม้ อยากจะเจาะผนัง อยากรื้อ ถ้ามันไม่เดือดร้อนบ้านข้างๆก้อทำได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลใจเจ้าของจริงๆ ที่จะทำอะไรต้องขออนุญาต แอบทำเค้าจับได้ ก้อโดนปรับอีก ใช้ของตัวเอง มันสบายใจกว่าใช้ของคนอื่น
ส่วนเรื่องเป็นหนี้ 30ปี เอาจริงๆ เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ ผ่อนหมดก่อน 30ปีแทบทั้งนั้น ของผมเอง หมดใน 12ปี เพราะรีไฟแนนซ์บ้าน ทำให้ยอดเงินกู้ต่ำลง ผ่อนชำระน้อยลง แต่เราชำระเงินผ่อนสูงเท่าเดิม ยิ่งนานวัน ยอดเงินที่ผ่อนเดือนหลายหมื่น เหลือแค่หมื่นกว่า แต่ยังจ่ายหลายหมื่นเท่าเดิม ก้อเลยปิดยอดได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยธนาคารจะสูงหลักล้าน แต่บ้านผมราคาสูงกว่า ราคาบ้าน + ดอกเบี้ย เป็นหลักล้าน แถมอยู่ในทำเลและพื้นที่ที่เราพอใจ อยู่กันยาวๆจนตาย ตอนนี้ผ่อนหมดแล้ว ไม่มีค่าผ่อน เดือนๆนึงเสียแต่ค่าน้ำค่าไฟ ไม่ต้องย้าย ไม่ต้องมีใครไล่ แก่ไป แม้ไม่มีรายได้ก้อมีที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องกังวลใจ แก่จนเดินไม่ได้ ยังต้องหาเงินมาจ่ายค่าเช่า ค้างจ่ายนานๆ เค้าก้อไล่เหมือนหมูเหมือนหมา แถมค่าเช่าก้อมีอัตราเพิ่มขึ้นไปเรื่อย วันนี้เช่าห้าพัน อีก 10ปี อาจจะเป็นหมื่น ค่าเช่าไม่ได้คงที่ยาวนาน 30ปี
ผมว่า หลายคนซื้อบ้าน เค้าเริ่มมองถึงความมั่นคงมากขึ้น อยากใช้ชีวิตลงหลักปักฐาน พบสถานที่ที่อยากอยู่ไปจนแก่เฒ่า เต้าเลยยอมจ่าย
แสดงความคิดเห็น
' ซื้อเลย จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า เป็นทรัพสินของตัวเอง ' ผมฟังแล้ว แต่ก็ได้ไม่พูดอะไรออกไป
u basically lock yourself up for 30 years