วันนี้จะพาไปเที่ยวตามรถไฟฟ้า เนื่องจากเป็นครั้งแรก จะขอพาไปตามย่านที่คุ้นเคยก่อน คือ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสำโรง – เคหะ(สมุทรปราการ) 


เริ่มที่ ช้างสามเศียร (พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ) การเดินทางนั้นใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเดินทางไปทางเคหะ ลงที่สถานีช้างสามเศียร เมื่อลงจากสถานีช้างสามเศียรแล้วจะมีรถของทางพิพิธภัณฑ์บริการฟรีจากสถานีรถไฟฟ้า จนถึงพิพิธภัณฑ์ เมื่อมาถึงจะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมด้านใน ค่าบัตรผู้ใหญ่จะอยู่ที่  250 บาท แต่ช่วงนี้จนถึง พ.ค. 63 มีโปรโมชั่น ใช้บัตร Rabbit ที่เราใช้โดยสารรถไฟฟ้านี่แหล่ะ เป็นส่วนลดค่าเข้าชมได้ 50% (เหลือค่าเข้า 125 บาท)  แต่ตอนนี้จนก่อนวันพ่อ 2562 มีโปรโมชั่น บัตรรายปี ราคา 200 บาท เข้าได้ตลอด 1 ปี จนถึงวันนี้ของปีหน้า เลือกแบบไหนเอาที่แต่ละคนสะดวกเลยนะ


เมื่อเข้าไปด้านในจะพบกับช้างเอราวัณ ลักษณะเป็นช้างเอราวัณเหยียบอยู่บนโลก 




ภายในแบ่งออกเป็นชั้นต่างๆ 3 ชั้น 
1. ชั้นสุวรรณภูมิ เป็นส่วนแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เอาไว้
2. ชั้นโลกมนุษย์ จะอยู่ในอาคารที่ช้างเอราวัณเหยียบอยู่ แสดงเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่คอยค้ำจุนโลกอยู่
3. ชั้นจักรวาล จะอยู่ในตัวช้างเอราวัณ แสดงเกี่ยวกับสวรรค์ สิ่งที่ควรเคารพบูชา  


ต่อไปนั่งรถไฟฟ้าต่อ แล้วลงสุดสายที่ สถานีเคหะ แล้วต่อรถสองแถวประจำทาง หรือรถ Taxi ได้ เพื่อเดินทางไปยังร้านกาแฟน่ารักๆ มีการตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยชามเซรามิค Concept ที่นี่จะไม่มีการใช้พลาสติก จะใช้แต่สิ่งของที่สามารถใช้ซ้ำได้ ชื่อว่า Ceramic Café by สายลม เป็นร้านกาแฟของร้านอาหารที่ชื่อว่าสายลม



สำหรับวันนี้เราสั่งเป็น Americano เย็น และเครปกล้วยหอม (ที่นี่มีขนมชนิดเดียว) รสชาติถือว่าใช้ได้ ไม่หวานจนเกินไป ชิ้นใหญ่ขนาดประมาณ 2 คนกินได้พอดี


สถานีสุดท้ายที่จะไปคือ สถานตากอากาศบางปู ซึ่งต้องเดินทางตากร้านกาแฟไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะใช้รถสองแถวประจำทางโดยการข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม หรือใช้บริการ Taxi ก็สะดวก โดยลักษณะสถานตากอากาศบางปูจะเป็นสะพานยื่นออกไปในทะเล ลักษณะเป็นป่าชายเลน ซึ่งที่นี่จะมีนกนางนวลจำนวนมากมาบินอวดโฉมให้เราได้ถ่ายรูปกัน และนับเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความสวยงามมากในการชมพระอาทิตย์ตกดิน และที่เป็นไฮไลท์จริงๆ คือช่วงฤดูหนาวจะมีนกเป็ดน้ำที่บินมาจากไซบีเรียหนีความหนาว มาพักพิงที่นี่เป็นจำนวนมาก แต่ช่วงที่ไปไม่ใช่ช่วงหน้าหนาว เลยไม่มีนกให้เห็นสักเท่าไหร่ (เรียกได้ว่าไม่มีกันเลยทีเดียว)


บรรยากาศโดยรอบ 


สุดท้าย  สำหรับใครที่จะไปดูนกที่บางปุ แนะนำให้ไปช่วงหน้าหนาวน้าาาา   ถ้าไปช่วงนี้อาจจะไม่มีนก  อาจมีแต่คนนกๆ อย่างเรา 5555+