[CR] รีวิว Bang&Olufsen Beoplay E8 2.0 หูฟัง True Wireless ตัวพรีเมี่ยม รองรับชาร์จไร้สาย !

กระทู้รีวิว

 
B&O นั้นถือว่าเป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับ Hi-End และมีนวัตกรรมที่น่าสนใจอยู่เสมอและหลายๆคนน่าจะรู้จักแบรนด์นี้ดีครับเรื่องของคุณภาพความพรีเมี่ยมและงานออกแบบที่ดูดีมากๆของแบรนด์นี้ทำให้มันน่าสนใจและโดดเด่นอยู่เสมอ ในครั้งนี้ได้มาลุยตลาดหูฟังไร้สายแบบ True Wireless กันอีกครั้งต่อยอดจากรุ่นเดิมและพัฒนาขึ้นในตัว Bang&Olufsen Beoplay E8 2.0 นั้นเองครับที่เปลี่ยนการออกแบบนิดหน่อยและเพิ่มการชาร์จไร้สายเข้ามารวมถึงปรับปรุงเรื่องของคุณภาพเสียงและการใช้งานให้ดีขึ้น และในการใช้งานจริงๆจะเป็นยังไงนั้นมาชมรีวิวกันเลย
 

 
Bang&Olufsen Beoplay E8 2.0 เปิดตัวมาด้วยการต่อยอดจากรุ่นแรกและปรับปรุงพัฒนาขึ้นครับ อย่างแรกเลยคือการออกแบบของตัวเคสและหูฟังนั้นปรับปรุงขึ้น ยังคงใช้วัสดุหนังแท้เช่นเดิมครับ และรองรับการใช้งานชาร์จเข้าแบบไร้สายด้วยในครั้งนี้ ส่วนทางด้านหูฟังนั้นก็ใช้ Eletro-dynamic 5.7mm พร้อม chipset Digital Sound Processing ทำให้เรื่องของคุณภาพเสียงทำได้ดีครับ และ รองรับการใช้งาน  Transparency mode ซึ่ง เปิดให้เสียงภายนอกเข้ามาโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ในตัวแบตรุ่นนี้สามารถใช้งาน ได้ 4 ชั่วโมงเท่านั้น และสามารถชาร์จจากเคสได้ 3 ครั้งเลยทำให้ฟังได้ทั้งหมด 16 ชั่วโมงแต่จริงๆแอบน้อยไปหน่อยครับ ส่วนการชาร์จไฟเข้านั้นก็ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดหน่อยครับ และในเรื่องของวัสดุงานทำได้ดีมากๆทั้ง อลูมิเนียม และ หนังแท้ สำหรับราคานั้น
 
ทางด้านหูฟัง และ เคส Beoplay E8 Motion ราคา 14,500 บาท
แท่นชาร์จไร้สาย (Beoplay Charging Pad) ราคา 4,500 บาท
 

 

 
UNBOX
 
สำหรับตัวกล่องค่ายนี้ยังคงความเรียบๆและดูดีได้ทั้ง 2 กล่องครับมาในแนวการออกแบบเดียวกันซึ่งจะขายแยกกันครับแล้วแต่ว่าใครจะซื้อตัวชาร์จไร้สายไหมเพราะว่ามันสามารถใช้งานชาร์จไร้สายทั่วไปได้เลยไม่ต้องซื้อก็ได้ครับถ้าใครมีอยู่แล้ว ส่วนเมื่อเปิดออกมานั้นก็ทำได้ดีคือชอบในการนำเสนอสินค้าของค่ายนี้มันดูหรูและพรีเมี่ยมแบบเรียบๆตัวของที่ให้มาในกล่องนั้นค่อนข้างครบและพร้อมใช้งานครับทั้งตัวสายและอื่นๆอีกมากมายเลยที่ให้มาในกล่อง
 

 

 
ตัวกล่องหูฟัง 
 
    - หูฟัง B&O
    - เคสชาร์จใส่หูฟัง
    - คู่มือ
    - จุกหูฟังสำรอง  4 ชุด
    - จุกหูฟัง Comply Foam
    - ตัวยางรอบหูฟัง 2 ชุด
    - สายชาร์จ USB-C สีขาว
 
ตัวกล่องชาร์จไร้สาย 
 
    - แท่นชาร์จไร้สาย
    - สายชาร์จ USB-C สีขาวยาวกว่าของหูฟัง
 

 
DESIGN
 
ทางด้านงานออกแบบรุ่นนี้มาพร้อมกับงานออกแบบที่ค่อนข้างหรูและสวยงามมาพอสมควรโดยวัสดุที่เอามาใช้นั้นจะเป็นหนังแท้ทั้งหมดทั้งตัวเคสหูฟังและตัวแท่นชาร์จไร้สายครับและโทนสีทั้งจะเป็นขาวล้วนๆเลยทั้งหมดแต่ก็แอบรักษายากอยู่นะครับถ้าใช้งานทั่วไปหรือใส่กระเป๋ากางเกงพวกนี้ ส่วนตัวงานประกอบของหูฟังนั้นทำได้ดีมากๆเนี๊ยบและรอยต่อของชิ้นงานอะไรนั้นทำได้ดีครับ รวมถึงการใช้งานวัสดุอลูมิเนียมในตัวเคสปัดลายได้สวยงามและแข็งแรงครับถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยังคงทำได้ดีและใส่ใจในเรื่องของวัสดุที่พรีเมี่ยม และ งานออกแบบที่เรียบแต่ดูดีมาก เพราะหลายๆครั้งนั้นแบรนด์นี้มักจะนำเอาดีไซนเนอร์ในหลายๆวงการการออกแบบมาร่วมออกแบบสินค้ามากพอสมควร
 

 

 
มากันที่ตัวแท่นชาร์จกันก่อนครับแน่นอนว่าจ่ายไปในเรทราคา 4,500 ชิ้นนี้ก็มีมาให้หลักๆ คือแท่นชาร์จและสายชาร์จเสียดายไม่มีแถมตัว Adaptor มาให้ครับ ส่วนทางด้านงานออกแบบวัสดุนั้นแข็งแรงมีน้ำหนักและดูดีมากๆขึ้นชิ้นงานอลูมิเนียมทั้งชิ้นปัดเงาสวยงามและใต้ฐานนั้นเป็นยางรองทั้งหมดรูปวงแหวนครับจะเป็นว่าเล่นกับแสงได้ดีส่วนตัวด้านหน้านั้นจะเป็นหนังแท้ทั้งหมดครับสีโทนและวัสดุสัมผัสดีมากๆและมีปั๊มลึก โลโก้ชัดเจนครับสำหรับด้านหน้า
 

 

 
ในตัวขอบข้างหน้าของแท่นชาร์จกันก่อนเลย ด้านหน้านั้นจะเป็นไฟแสดงสถานะของตัวชาร์จว่าชาร์จเข้าไหมครับเป็นไฟสีส้มบอกว่าชาร์จเข้าไม่เข้า และในด้านหลังนั้นจะเป็นช่องสำหรับเสียบไฟเข้าแบบ USB-C ก็สามารถใช้งานสายที่ให้มาได้เลยหรือจะสามารถใช้สายอื่นๆ รวมถึงแท่นชาร์จก็รองรับการชาร์จไฟเข้าพวกนาฬิกา มือถือรุ่นอื่นๆได้ด้วย
 

 

 
มากันที่ตัวเคสหูฟังกันบ้าง ทางด้านเคสมีการปรับเปลี่ยนงานออกแบบเล็กน้อยกระทัดรัดขึ้นและมีรูปทรงที่สมมาตรรวมถึงพกพาได้ดีและจับถือได้ง่าย ทางด้านวัสดุนั้นยังคงใช้งานวัสดุหนังแท้ทั้งหมดโทนสีขาวล้วน ส่วนด้านฐานนั้นจะเป็นเรียบๆเลยไม่ได้มีที่รองหรือยางรองกันลื่นอะไรครับและจุดนี้ทำให้เวลาวางนั้นอาจจะเลอะได้ง่ายมาก ส่วนทางฝาด้านหน้านั้นจะเป็นปั๊มโลโก้ลึกลงไปจริงๆแอบมองยากมากๆสำหรับแบรนด์ครับแต่ก็เรียบๆสำหรับคนที่ชอบขาวล้วน
 

 

 
ตัวเคสนั้นจะตัดขอบตรงกลาวด้วยวัสดุอลูมิเนียมปัดเงาเล็กน้อยทำให้ดูพรีเมี่ยมกว่าเดิมและตัวด้านหลังนั้นเราจะเห็นพอร์ตชาร์จไฟเข้าแบบ USB-C รวมถึงทางด้านขวาจะเป็นที่แสดงไฟสถานะของตัวแบตเคสครับ มี 3 จุดสีขาว จะบอกเวลาเสียบหูฟังเข้ากล่องจะไม่มีปุ่มกดเช็ค อันนี้แอบเสียดายน่าจะมีให้นะจริงๆ ส่วนทางด้านหน้านั้นจะเป็นที่เว้าลงไปสำหรับเปิดฝาเคสและตรงที่เว้าไปนั้นจะมีไฟบอกสถานะ สีส้ม เขียว ว่าชาร์จแบตเข้าหูฟังอยู่ หรือ เต็มแล้วนั้นเอง
 

 

 
เมื่อเปิดออกมานั้นจะเป็นชิ้นงานวัสดุอลูมิเนียมปัดลายเต็มๆพร้อมกับงานประกอบเนียนๆตาครับเป็นจุดที่เปิดมาแล้วแบบ เห้ยอย่างหรูจริงๆความรู้สึกแรกที่เปิดออกมาครับ จะเห็นตัวไฟจรงที่เว้าเปิดฝาเป็นแถบยาวๆเล็กๆครับ ส่วนตัวที่วางหูฟังนั้นจะมีแม่เหล็กที่ดูดได้ค่อนข้างดีและจะเป็นตัวแม่เหล็กจุดสำหรับชาร์จไฟเข้า ข้างละ 2 จุดครับ เมื่อวางหูฟังไปแล้วก็ถือว่าเกาะกับตัวเคสได้ดีไม่หล่นง่ายๆแม้จะเปิดฝาไว้ครับ และการใส่หยิบออกนั้นสะดวกและไม่ติดฝาเคสทำให้ค่อนข้างใช้งานได้ไวเวลาหยิบหรือเก็บครับมีพื้นที่สำหรับหยิบตัวหูฟังอะไรได้พอดีไม่ได้แน่นหรือเล็กเกินไป
 

 

 
ตัวหูฟังนั้นเมื่อเห็นของจริงแอบใหญ่เหมือนกันครับ เพราะว่าจากที่ลองดูนั้นบางคนอาจจะไม่ถนัดเพราะขนาดของมันเนี่ยแหละ ตัวหูฟังนั้นจะสามารถเปลี่ยนจุกหูฟังได้ และ เปลี่ยนยางรอบหูฟังได้มี 3 ขนาดหลักๆครับเผื่อใครไม่ถนัดที่เกี่ยวหูแบบนี้หรือใหญ่เกินไปอะไรแบบนั้นครับ และจะเห็นว่าตัวหูฟังนั้นท่อเสียงก็ลึกกำลังดีไม่ตื้นเกินไปใส่แล้วเกาะหูได้แน่นครับ รวมถึงรูปทรงก็เรียบๆพร้อมกับรองรับระบบสัมผัสทั้ง 2 ข้างตรงวงกลมโลโก้ทั้งหมดเลยและมีไมค์ทั้ง 2 ข้างครับในส่วนด้านล่าง ส่วนด้านในนั้นจะเห็นเขียนบอกชัดเจนว่าซ้ายขวา และ ในข้างขวานั้นจะเป็นไฟสถานะ สีขาว สีฟ้า ว่าเชื่อมต่อ หรือ เปิดปิดอยู่อะไรแบบนั้นครับ และ สีแดงจะติดเมื่อแบตจะหมด หรือ รีเครื่องนั้นเอง ส่วนตัวแถบชาร์จก็จะเป็นสีส้มพร้อมจุดสำหรับชาร์จกับกล่องเคสนั้นเอง ในด้านหลังนั้นก็เป็นโลโก้สวยงามพร้อมกับวงแหวนอลูมิเนียมสวยงามเข้ากันกับตัวเคส วัสดุสัมผัสเป็นแบบด้านในตรงที่แตะสัมผัสนะครับเลยรักษาอะไรได้ค่อนข้างดี
 

 
SPEC
 
    - หูฟังประเภท :หูฟังชนิดใส่ในหูไร้สายอย่างแท้จริง
    - รีโมต : 1 ปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสำหรับแต่ละหูฟัง – ส่วนต่อประสานแบบสัมผัส
    - ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก) : หูฟัง : 23 มม. x 20 มม. x 25 มม . ที่ชาร์จ : 69 มม. x 46,5 มม. x 34 มม
    - หูฟังน้ำหนัก : ขวา 7 กรัม, เหลือ 6 กรัม เครื่องชาร์จ : 55 กรัม
    - ไดร์เวอร์ : Electro-dynamic, 5.7 มม ความต้านทาน : 16 โอห์ม
    - ช่วงความถี่ : 20 – 20,000 Hz
    - ความไว : 107 dB SPL +/- 3 dB, Ref 1 mW @ 1 kHz
    - ไมโครโฟน :รอบทิศทาง
    - แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จใหม่ได้
    - หูฟัง : ขวา – ซ้าย 85 mAh – 60 mAh เวลาเล่นนานถึง 4 ชั่วโมงที่ระดับเสียงปานกลาง 3.5 ชม. สตรีมที่ 1mW พร้อม 1KHz พร้อม Bluetooth
    - กรณีที่ชาร์จ : 365 mAh – 3x สำหรับหูฟังเวลาในการชาร์จ : ประมาณ 2 ชั่วโมง
    - การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth 4.2 ตัวแปลงสัญญาณ AAC
    - การเชื่อมต่อ : สาย USB-A ไปยัง USB-C 1.25 ม. สำหรับการชาร์จ
    - การรับประกัน รับประกัน 2 ปี
    - แท่นชาร์จไร้สาย : 5V/ 1A : Qi Output<5W 5V/2A,3A,4A:Qi
    - Output 5W 9V/1.67A,9V/1.8A,12V/1.1A,1.5A,3A: Qi Output 10W
 

 
SOFTWARE
 
สำหรับตัว Software นั้นยังคงใช้งานของตัว Bang&Olufsen เช่นเดิมครับและเมื่อเชื่อมต่อแรกๆก็สามารถทำตามขั้นตอนได้เลยไม่ยุ่งยาก โดยของผมนั้นก็ใช้งานแบรนด์นี้หลายๆตัวในภาพมันก็จะมีให้เลือกอยู่นะว่าเอาตัวไหน แน่นอนว่าใครใช้แบรนด์นี้มันจะมีของตามมาเพิ่มเรื่อยๆเลยเสียตังเรื่อยๆแน่นอน 55 ส่วนตัวแอพ หน้าหลักๆนั้นก็จะบอกรุ่นของเรา และ สถานะแบต รวมถึงตัวควบคุมเพลง เพิม่เสียงต่างๆ และ แนวเสียงของเพลงที่สามารถตั้งแบบที่เราชอบได้ ซึ่งสามารถตั้งได้ลากจุดไปในโซนที่เราชอบ ในภาพที่ 3 นั้นเองครับ และ ในรุ่นนี้นั้นจะมีให้ปรับตัว Surroundings หรือเป็นการเปิดรับเสียงภายนอกเข้ามาเวลาเดินทางต่างๆครับ ซึ่งสามารถตั้งระดับได้ว่าจะเอาระดับไหนและก็สามารถเปิดปิดโดยการแตะในหูฟังด้านซ้าย 1 ครั้งก็จะเป็นการเปิดปิดระบบรับเสียงภายนอกครับ
 
ชื่อสินค้า:   Bang&Olufsen Beoplay E8 2.0
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่