ไปคลินิคสายตาแล้วจัดการทุกอย่างในที่เดียวดีกว่า มันสะดวก ครบ จบ แต่ประเด็นสำคัญคือต้องมีนักทัศนมาตรเป็นคนตรวจเช็คให้นะ คือเราอะเคยไปแยกร้านมา แล้วแต่ละที่เค้าก็มีวิธีการวัดสายตาไม่เหมือนกัน แมนนวลจ๋าๆปิดตาข้างเดียววัดก็มี ซึ่งอันนั้นเราว่ามันคาดเคลื่อนง่าย เราหาร้านที่เค้าใช้เครื่องวัดได้มาตรฐาน ก็เลยเปลี่ยนไปตรวจที่คลินิค Orra ตอนแรกกะแค่ตรวจสายตาอย่างเดียว แต่พอรู้ว่าเอาค่าตรวจไปเป็นส่วนลดได้ เลยตัดแว่นทีนี่เลย555 ที่ชอบมากคือตอนเข้าห้องลองเลนส์ เค้าให้ลองแว่นพร้อมกับประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วย ได้ทดลองก่อนใช้งานจริงอันนี้ดีไม่ค่อยเจอที่คลินิคอื่นเท่าไหร่ ตอนได้มาปรับตัวประมาณ 1 สัปดาห์ก็เริ่มชินแล้วไม่ปวดหัว ไม่หน่วงที่ตาเลย

ผมขออ้างอิงจากร้านที่ผมเคยตัดละกันนะ ชื่อร้านดีต่อตา แถวสาทร ใกล้ที่ทำงานผม ตอนนั้นตัดร้านนี้เพราะเจอโฆษณาในเฟสว่า ตรวจโดยนักทัศมาตรกับจักษุแพทย์

คำถามที่1: งบประมาณกี่บาท ของผมตัดมา 5 พันกว่าบาท (กรอบ+เลนส์)

คำถามที่2: ใช้เลนส์แบบไหนดี อันนี้แนะนำว่าถามทางร้านเลยดีกว่า เค้าน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าคนทั่วไป แต่ส่วนตัวที่ผมตัดมา คือ เลนส์ของ Hoya เพราะทางร้านแนะนำมาว่า มันทนทาน เป็นรอยยาก เทคโนโลยีดี อยู่ในระดับที่คุ้มค่าคุ้มราคา ผมก็เลยเลือกยี่ห้อนี้

คำถามที่3: ซื้อกรอบไปเองเลยได้ไหม หรือ แนะนำร้านกรอบแว่นดีๆ

ตอนแรกผมก็ถามที่ร้านเหมือนกัน ว่าผมใช้กรอบเดิมได้มั้ย ทางร้านบอกว่าได้ ย้ายเลนส์เฉยๆ ใช้กรอบเดิมได้ หรือจะดูกรอบใหม่ที่ร้านก็ได้ แต่ส่วนตัวผมมองว่า แว่นตาจะใช้งานได้ดีมั้ย อยู่ที่เลนส์ ไม่ใช่ที่กรอบ ผมเลยเลือกกรอบที่เหมาะกับหน้าผมพอ แต่ไปลงทุนที่เลนส์มากกว่า

คำถามที่4: แนะนำร้านแว่นดีๆ ราคาเป็นมิตร สำหรับผมร้านนี้โอเคดีเลยนะ ถ้าต้องตัดอีกก็คงร้านนี้แหละ แต่ราคาเป็นมิตรมั้ย คงขึ้นกับความต้องการของแต่ละคน ผมคิดว่า นานๆทีจะตัดแว่นสักอันนึง ผมเลยเลือกจากที่ๆมีคุณภาพการตรวจที่ดี จะได้ใส่ใช้งานได้จริง ไม่ต้องไปตัดใหม่หลายๆรอบ