.
🌎🌜
Little did I know,
you could become homesick for people too
.
สามปีที่แล้วเราได้มีโอกาสไปทำงานอาสาเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวให้กับประเทศอียิปต์ ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า ‘Backpacking Egypt’ ค่ะ โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการเป็นร้อยเป็นพันขององค์กรนักศึกษาไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง AISEC โดย Backpacking Egypt เป็นโครงการของนักศึกษามหาวิทยาลัย GUC หรือ German University in Cairo ก่อตั้งขึ้นซึ่งตอนที่เราไปเป็นรุ่นที่ 5 แล้ว เป้าหมายหลักๆโครงการคือ พานักศึกษาต่างชาติแบ็คแพ็คทั่วอียิปต์และโปรโมทการท่องเที่ยวผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ โดยกระทู้นี้เขียนขึ้นมาเพราะความคิดถึงล้วนๆ
6 สัปดาห์ในอียิปต์เปลี่ยนทัศนคติหลายๆอย่างที่เรามีและทำให้รู้อะไรขึ้นมาเยอะมาก อียิปต์เป็นทั้งประเทศที่ทั้งเกลียดทั้งรักปนๆกัน 555555 แต่ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่เราเคยไปค่ะ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เล่าความรู้สึกให้หายคิดถึงล่ะกันเนอะ :}
**ความคิดเห็นหรือคำพูดบางอย่างในกระทู้นี้ เป็นความคิดเห็นที่อาจเกิดจากการขาดความเข้าใจและความไม่คุ้นชินถึงภาษา วัฒนธรรมและศาสนา ไม่มีเจตนาเหยียดหยามแต่อย่างใดค่ะ
ทำไมต้องอียิปต์
"อาปา (พ่อ) ไม่อยากให้ไปเลย"
"ถามได้ไหมว่าทำไม"
"นั่นประเทศมุสลิมน่ะ"
"อืม เข้าใจ..."
บทสนทนาทางโทรศัพท์สั้นๆกับที่บ้านตัดโอกาสในการขออนุญาตเดินทางไปอียิปต์ในไม่กี่นาที พ่อเราไม่ใช่คนเหยียดศาสนาหรือเชื้อชาติเลย ที่พูดมาทั้งหมดเกิดจากความเป็นห่วงทั้งนั้น เรามีประสบการณ์เดินทางคนเดียวมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เคยไปประเทศมุสลิมมาก่อน ถ้ามองในมุมมองของคนเป็นพ่อไม่แปลกเลยค่ะ เราเป็นคนภาคกลาง เกิดในจังหวัดเล็กๆที่พูดได้ว่า 90-95% เป็นคนพุทธ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีเพื่อนต่างศาสนามาก่อน นับประสาอะไรกับพ่อของเรา เค้ามองในมุมมองของคนที่ไม่รู้และไม่เคยใกล้ชิดกับความต่างตรงนี้มาก่อนเท่านั้นเอง อาจจะเรียกได้ว่าอิทธิพลจากสื่อภาพยนต์ต่างๆที่เราเห็นบนหน้าจอก็มีผลต่อความรู้สึกคนที่อาศัยในสังคมและวัฒนธรรมแบบเดียว (Monocultural society) ก็ได้
จริงๆก็ไม่ใช่พ่อของเราคนเดียวหรอกที่แสดงความคิดเห็นทำนองนี้ออกมา ตอนเราเลือกโครงการก็ดูไว้หลายประเทศ จนมาสะดุดกับคำว่าประเทศอียิปต์นี่แหล่ะ ความคิดอยากจะมาไม่เคยมีอยู่เลยสักนิดจึงเป็นเหตุแห่งความอยากรู้
อยากรู้... ว่าคนรอบตัวคิดอย่างไรกับประเทศนี้ก็เลยถาม
เพื่อนๆหลายคนมองว่าความคิดเราฆ่าตัวตายชัดๆ อันตรายบ้าง ไปให้ ISIS ทรมานเล่นบ้าง ไปแห้งตายในทะเลทรายบ้าง คือออกแนวล้อเล่นซะส่วนมาก เราเลยมองว่ามันท้าทายดี ถ้าสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ว่าอียิปต์ไม่ได้มีแค่อูฐ ทะเลทราย พีระมิดหรืออะไรน่ากลัวแบบที่ทุกคนคิด
เรารู้ว่าที่บ้านเป็นห่วงและคงไม่ได้ขอกันง่ายๆ จึงพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มคนไทยในอียิปต์และเว็บสถานทูตต่างๆนานา ว่าลักษณะความเป็นอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง จนได้รับคำตอบจากพี่ๆคนไทยในอียิปต์มาช่วยไขข้อสงสัย จะว่าไปแล้วในอียิปต์มีคนไทยอยู่เยอะเหมือนกันนะคะ มีทั้งแต่งงานกับคนอียิปต์ มาเรียนหรือทำงานก็เยอะ ส่วนมากที่เจอมาจะมาเรียนศาสนาค่ะ พี่ๆในกลุ่มช่วยตอบคำถามดีมาก (ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)
หายใจอีกฮึดและลองคุยกับที่บ้านอีกครั้งพร้อมข้อมูลที่ได้รับมา เราคุยกัยด้วยเหตุผลค่ะ เชื่อไหม... ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ทำการบ้าน แต่พ่อเราที่ปฏิเสธเป็นประโยคแรกเลยตอนที่ขอก็แอบไปทำการบ้านมาเหมือนกัน โดยคุณเค้าไปถามเพื่อนของเพื่อนที่เป็นมุสลิมมาว่าเคยมีคนรู้จักไปอียิปต์มาบ้างหรือเปล่าและข้อปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามที่ควรรู้มีอะไรบ้าง ก่อนจะลงท้ายกับเราว่า 'ไปเหอะ รู้ว่าหนูไม่ได้โง่ไปตายหรอก ห้ามไปอย่างงั้นแต่ลูกก็โตแล้วดูแลตัวเองได้'
เนี่ย... ไม่เคยรู้สึกว่าพ่อตัวเองหล่อขนาดนี้มาก่อนเลย
ป่ะ! จัดกระเป๋า
เรื่อยเปื่อยในไคโร
ในโครงการรอบที่เรามาเป็นรอบที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่จัดมาค่ะ มีนักศึกษามากกว่า 20 ประเทศ ทำให้การจัดการหลายๆอย่างใช้เวลานานและไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก เรามีวันเดินทางคร่าวๆที่ควรเดินทางมาไคโรต่างกัน ดังนั้นบางคนจึงมาก่อนบ้าง หลังบ้าง ต่างกันไม่กี่วัน เราได้รูมเมทเป็นเด็กบราซิลสองคนและกรีซหนึ่งคน ที่พักที่โครงการจัดให้จะเป็นโฮสเทลเล็กๆบนดาดฟ้าตึกแถวกลางไคโร แต่ละห้องมีจำนวนคนพักต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ห้องที่เราอยู่เป็นห้องสี่เตียง หันหัวกันไปตามมุมห้อง มีพัดลมตัวเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่าอากาศในไคโรร้อนแค่ไหน ใช่.. เราอยู่แบบไม่มีห้องแอร์กันเลยหนึ่งเดือน น้อยวันมากที่เราจะตื่นขึ้นมาโดยไม่มีแมลงวันเกาะหน้า แต่ถ้าคนอื่นอยู่ได้ ทำไมเราจะอยู่ไม่ได้ จริงไหม?
เนื่องจากสองสาวบราซิลในห้องนั้นเค้าจะคุยกันเป็นโปรตุกีส ทำให้เราและดอร่า รูมเมทอีกคนหนึ่งจับคู่กันไปโดยปริยาย เด็กบราซิลมาโครงการนี้เยอะเพราะรอบก่อนที่เรามาเด็กบราซิลเค้าโปรโมทดีมาก จนโครงการได้ออกทีวีในบราซิลเป็นเรื่องเป็นราว แน่นอนว่าคนกลุ่มใหญ่ชาติเดียวกันก็มักจะจับกลุ่มด้วยกันเป็นธรรมดา ที่ใหญ่ไม่แพ้กันก็คือเด็กจีน นี่ก็มากันเยอะแต่น่ารักน่ะ ทุกคนอัธยาศัยดีมากกกกกกกก แต่เค้าก็สะดวกคุยกันตามภาษาเค้าเหมือนกันค่ะ เหลือพวกที่มาแบบหัวเดียวกะเทียมลีบอย่างเรา ได้ลงหลักจับกลุ่มกับเด็กชาติอื่นที่มาแบบโซโลเหมือนกัน กลุ่มเพื่อนเรามีดอร่า (กรีซ) ดาวิด (เม็กซิโก) มิราเบลล่า (โรมาเนีย) และอเล็กซ์ (กรีซ) พวกเรา 5 คนจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อาจจะมีไปแจมกับกลุ่มอื่นๆด้วยนิดหน่อย เพราะทั้งโครงการมีกันอยู่ 50 คน เฮฮากับคนอื่นบ้าง คือกลุ่มเราไม่ดราม่าก็จะพยายามหาพวกไม่ดราม่าเก่งเหมือนกัน 5555555
การอยู่กับคนหมู่มากใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักทำให้เราแอบกังวลนิดหน่อย เราเป็นพวกเก่งในบ้าน คือถ้าอยู่ไทยพูดฉอดๆเหมือนเก่งมาก แต่พอออกนอกประเทศเหมียนหมาเลยอ่ะ 555555 เรากลัวการใช้ภาษาอังกฤษมาก แต่เอาจริงเพื่อนๆไม่มีใครดูถูกใครเลย ทุกคนก็ไม่มีใครใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักเหมือนกัน พวกเราสอนกันและกันค่ะ มีบางคนพูดแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เหมือนดอร่ารูมเมทของเรา คุยกันทีคือต้องมีทักษะเล่นใบ้คำดีมาก บางครั้ง Let's meet เขียน Let's meat เราจึงเหมือนเป็นล่ามส่วนตัวคอยช่วยคุย ช่วยแปลเป็นบางครั้ง
การอยู่ในไคโร พวกเรามีอิสระไปไหนก็ได้ มีออกทริปกลุ่มบ้างแต่ส่วนมากเราจะออกเที่ยวกันเองค่ะ ในโครงการจะมีงานถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูปและเขียนบล็อค ใครทำอะไรก็ทำงานของตัวเองไปพอถึงเวลาก็ส่งให้นักศึกษา GUC เอาไปใช้โปรโมท ชิวไหม?
มีสองอย่างที่พวกเราไม่ทำระหว่างอยู่ไคโรคือ 1.) แต่งตัวไม่สุภาพ 2.) ออกไปไหนมาไหนคนเดียว ที่พักของเราอยู่ Talaat Harb Square ซึ่งเป็นย่านถนนประวัติศาสตร์ใกล้ที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายในอียิปต์ จะเล่าให้ฟังคร่าวๆคือ
กรุงไคโรมีการแบ่งเขตเมือง
1.) Old Cairo - ย่านเก่าแก่ของไคโรที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆจะอยู่ในย่านนี้ ซึ่งคนในพื้นที่ค่อนข้างเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมตามแบบดั้งเดิมพอตัว. และผู้อยู่อาศัยในย่านนี้จะมีฐานะปานกลางไปจนถึงชนชั้นแรงงาน
2.) Maadi เป็นย่านชานเมือง ที่ดูดีกว่า Old Cairo ขึ้นมานิดนึง มีสถานทูต โรงเรียนเอกชนและสถานที่ทางราชการสำคัญๆด้วย ย่านนี้จะเหมาะสำหรับคนชั้นกลางหรือ middle class ความแออัดน้อยลงและมีความเขียวชุ่มชื้นกว่าไคโรเก่าเยอะ
3.) New Cairo เมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดความแออัดในไคโรเก่า จะเรียกว่าย่านคนรวยก็ได้ บ้านแต่ละหลังคือเหมือนคฤหาสถ์เลย มีโรงเรียนอินเตอร์ๆเยอะ การแต่งตัวและสไตล์การใช้ชีวิตของคนใน New Cairo ฟรีกว่าไคโรเก่า มีความเป็นตะวันตกมากกว่า หลายๆคนที่นี่เป็นคริสเตียนด้วยน่ะ
การอยู่ย่านไคโรเก่าทำให้เราระวังเรื่องการแต่งตัวกันมาก ขาสั้น สายเดี่ยว เสื้อผ้าเห็นเนื้อหนังเราจะไม่ใส่กันเด็ดขาด รวมถึงผู้หญิงก็จะไม่ออกไปไหนมาไหนคนเดียว อย่างที่อธิบายไว้คือย่านไคโรเก่ามีความเคร่งครัดมากกว่าย่านอื่นๆ ผู้หญิงอียิปต์ที่อาศัยในย่านนี้จะออกข้างนอกก็ต่อเมื่อมีสามีหรือลูกๆมาด้วยเท่านั้น ในเมืองจึงมีผู้ชายเยอะมาก ยิ่งเค้าเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยวจะยิ่งให้ความสนใจ เคยมีน่ะ... เพื่อนร่วมโครงการเราเป็นสาวตุรกี ออกไปเดินเล่นข้างนอกโดนเดินตามเกือบถึงโฮสเทลจนต้องให้ร้านขายของแกล้งขู่แจ้งตำรวจให้ นั่นคือออกไปแบบมีเพื่อนผู้ชายด้วยนะคะยังเจอดี ดังนั้นพวกเราจึงยกพวกออกข้างนอกไปเป็นกลุ่มใหญ่ซะมากกว่า
พูดถึงเรื่องความปลอดภัย มีเรื่องตลกนิดหน่อยระหว่างเดินทางออกนอกไคโร เรื่องของเรื่องคือ รูปแบบการเดินทางจะเป็น 2 อาทิตย์แรกอยู่ไคโร เดินทางต่างเมือง 2 อาทิตย์ (9 เมือง)และกลับมาไคโรอีกครั้ง 2 อาทิตย์ครบนับเป็นเวลาเดือนครึ่ง แล้วระหว่างเดินทางอยู่ต่างเมืองเนี่ยมันมีอยู่เมืองหนึ่งที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปค่ะ ก่อนหน้านี้พวกเรารู้ว่าระหว่างทริปมีตำรวจคอยดูแลหนึ่งคน แต่มีอยู่วันหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าอยู่เมืองอะไร) เราเพิ่งเดินทางมาถึงงงๆง่วงๆกัน จะลงไปหาอะไรกินซุปเปอร์มาร์เก็ต ตำรวจให้เราลงชื่อก่อนแล้วต้องรอจนกว่าทุกคนจะมาครบ ตอนแรกก็บ่นอารมณ์เสียใหญ่คือมันช้าและใช้เวลานาน แล้วซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เดินแค่ 5 นาทีเอง แต่พอเดินออกจากโรงแรมเท่านั้นแหล่ะ โอ้โหหห... รถถังจ้า! รถถังเป็นๆพร้อมหน่วย SWAT หน่วยซีลเดินพรึ่บพรับ
มาทำไม? มาคุ้มกันเรากันไง ยิ่งใหญ่ขนาดไหนอ่ะ 55555555
เป็น 10 นาทีที่เดินไปกลับซุปเปอร์ได้โคตรอลังการเลย เค้ามาเพื่อดูแลความปลอดภัยเฉพาะกลุ่มเราจริงๆไม่จ้อจี้ คือ AISEC GUC ติดต่อเอาไว้ให้มาดูแลที่เมืองนี้ ถามว่าปลื้มไหม? ไม่มีใครปลื้มค่ะ ทุกคนไม่พอใจเพราะทำเกินเบอ์มาก ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นไปหมด ปล. เราไม่กล้าถ่ายรูปรถถังน่ะ กลัวโดนยิงหัวววว
1 - รีวิวนี้แด่อียิปต์ที่รัก
6 สัปดาห์ในอียิปต์เปลี่ยนทัศนคติหลายๆอย่างที่เรามีและทำให้รู้อะไรขึ้นมาเยอะมาก อียิปต์เป็นทั้งประเทศที่ทั้งเกลียดทั้งรักปนๆกัน 555555 แต่ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่เราเคยไปค่ะ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เล่าความรู้สึกให้หายคิดถึงล่ะกันเนอะ :}
**ความคิดเห็นหรือคำพูดบางอย่างในกระทู้นี้ เป็นความคิดเห็นที่อาจเกิดจากการขาดความเข้าใจและความไม่คุ้นชินถึงภาษา วัฒนธรรมและศาสนา ไม่มีเจตนาเหยียดหยามแต่อย่างใดค่ะ
1.) Old Cairo - ย่านเก่าแก่ของไคโรที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆจะอยู่ในย่านนี้ ซึ่งคนในพื้นที่ค่อนข้างเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมตามแบบดั้งเดิมพอตัว. และผู้อยู่อาศัยในย่านนี้จะมีฐานะปานกลางไปจนถึงชนชั้นแรงงาน
2.) Maadi เป็นย่านชานเมือง ที่ดูดีกว่า Old Cairo ขึ้นมานิดนึง มีสถานทูต โรงเรียนเอกชนและสถานที่ทางราชการสำคัญๆด้วย ย่านนี้จะเหมาะสำหรับคนชั้นกลางหรือ middle class ความแออัดน้อยลงและมีความเขียวชุ่มชื้นกว่าไคโรเก่าเยอะ
3.) New Cairo เมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดความแออัดในไคโรเก่า จะเรียกว่าย่านคนรวยก็ได้ บ้านแต่ละหลังคือเหมือนคฤหาสถ์เลย มีโรงเรียนอินเตอร์ๆเยอะ การแต่งตัวและสไตล์การใช้ชีวิตของคนใน New Cairo ฟรีกว่าไคโรเก่า มีความเป็นตะวันตกมากกว่า หลายๆคนที่นี่เป็นคริสเตียนด้วยน่ะ