เพราะคนไช้ ต้องคิดแล้วว่า ในที่สุดตัวเองก็วอดวาย ตายหมู่
ยกตัวอย่างอเมริกายิงใส่จีน จีนยิงกลับหมดหน้าตัก อเมริกายิงตอบ รัสเซียเข้าร่วม (ประเทศนี้ชอบซ้ำด้ามสอง) ยิงใส่อเมริกาหมดหน้าตัก
สามประเทศหายไปจากแผนที่โลก เกิดฝุ่นนิวเคลียร์ไปอีกหลายปี ผู้คนค่อยๆล้มตาย
หลังสงคราม คงเหลือประชากรเพียง 10%
แค่คิดก็เสียวแล้ว คงไม่มีใครกล้าใช้
แต่ที่ห่วงคือ อุบัตเหตุที่ทำให้เกิดการยิงโดยอัตโนมัติ เช่น นิวยอร์กเจอสักลูกแบบฮิโรชิมา เพนตากอนคงไม่รอถามว่าบังเอิญไหม อเมริกายิงกลับทันที่แน่นอน หลังจากนั้น ไม่มีใครถามใคร ต่างระดมยิงแบบไม่มีเหตุผล
หรืออีกอย่าง ประเทศที่ไม่กลัวตาย เพราะคิดว่า การตายคือการได้อยู่กับพระเจ้า เกิดมีนิวเคลียร์ขึ้นมา อาจทำได้ แม้รู้ว่าจะต้องถูกยิงกลับก็ตาม
ตั้งแต่นางาซากิ ก็ยังไม่เคยมีสงครามนิวเคลียร์อีกเลย คิดว่าอีกร้อยปีก็ไม่มี
ยกตัวอย่างอเมริกายิงใส่จีน จีนยิงกลับหมดหน้าตัก อเมริกายิงตอบ รัสเซียเข้าร่วม (ประเทศนี้ชอบซ้ำด้ามสอง) ยิงใส่อเมริกาหมดหน้าตัก
สามประเทศหายไปจากแผนที่โลก เกิดฝุ่นนิวเคลียร์ไปอีกหลายปี ผู้คนค่อยๆล้มตาย
หลังสงคราม คงเหลือประชากรเพียง 10%
แค่คิดก็เสียวแล้ว คงไม่มีใครกล้าใช้
แต่ที่ห่วงคือ อุบัตเหตุที่ทำให้เกิดการยิงโดยอัตโนมัติ เช่น นิวยอร์กเจอสักลูกแบบฮิโรชิมา เพนตากอนคงไม่รอถามว่าบังเอิญไหม อเมริกายิงกลับทันที่แน่นอน หลังจากนั้น ไม่มีใครถามใคร ต่างระดมยิงแบบไม่มีเหตุผล
หรืออีกอย่าง ประเทศที่ไม่กลัวตาย เพราะคิดว่า การตายคือการได้อยู่กับพระเจ้า เกิดมีนิวเคลียร์ขึ้นมา อาจทำได้ แม้รู้ว่าจะต้องถูกยิงกลับก็ตาม