คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ข้อเสียหลัก ๆ คือ นี่มองว่า เป็นบริการหลังการขายกับอุปกรณ์เสริม (เคสฟิล์มหายาก) มากกว่าตัวเครื่องนะ
ถ้ามองตัวเครื่องคงเป็นเรื่องของวัสดุ ที่เป็นส่วนลดต้นทุน ได้ส่วนนึง เรื่องแบรนด์ด้วย
และหลังการขาย พวกนี้ หาศูนย์บริการยาก (Xiaomi นี่ไม่ต้องถามถึงเลย ตาม ตจว นี่หายาก) แต่ดีหน่อย Realme เข้า Oppo ได้ ซึ่งการซ่อมพวกนี้ไม่ใช้ระยะเวลาเร็ว เหมือนกับเครื่องยี่ห้อดังๆในตลาดแน่นอน คงต้องรอสักพักใหญ่
ถ้ามองตัวเครื่องคงเป็นเรื่องของวัสดุ ที่เป็นส่วนลดต้นทุน ได้ส่วนนึง เรื่องแบรนด์ด้วย
และหลังการขาย พวกนี้ หาศูนย์บริการยาก (Xiaomi นี่ไม่ต้องถามถึงเลย ตาม ตจว นี่หายาก) แต่ดีหน่อย Realme เข้า Oppo ได้ ซึ่งการซ่อมพวกนี้ไม่ใช้ระยะเวลาเร็ว เหมือนกับเครื่องยี่ห้อดังๆในตลาดแน่นอน คงต้องรอสักพักใหญ่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ข้อเสียมีไหม.. จะบอกว่าข้อเสียก็ไม่ได้ มันเป็นไปตามเรื่องต้นทุนในการผลิตนั่นแหละ
ในเมื่อมันโฟกัสเรื่องของการยัดสเปคสูง แต่ต้องทำราคาให้ถูกกว่าเจ้าอื่น เขาก็ต้อง "ลดต้นทุน" เพื่อให้ได้กำไรอยู่บ้าง
จุดไหนที่เขาจะไปลดต้นทุนได้? แน่นอนว่าพวกที่เห็นได้แต่ไกล อย่างวัสดุที่ใช้และสเปคที่ใส่มา (เห็นบนกระดาษ) พวกนี้ลดยากอยู่แล้ว
ที่เขาจะไปลดกันหนักก็คือแผงทัชสกรีนและจอ อาจจะลดไปเป็น HD+ บ้าง หรือคงความละเอียดที่ FHD+ ไว้ แต่ไปลดเรื่องคุณภาพของการทัช
สองแบรนด์นี้จะเรื่องเกี่ยวกับการทัชค่อนข้างบ่อย ถ้าคนที่เคยใช้ Samsung หรือ Apple ที่เป็นแบรนด์เน้นเรื่องการทัช จะรู้สึกได้ครับ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะจับได้ ตัวผมใช้ Xiaomi กับ iPad ก็รู้สึกได้แต่ไม่ขนาดรำคาญ ยกเว้นจะจับผิดกัน
นอกจากเรื่องทัช ก็ยังอาจจะมีลดคุณภาพของหน้าจอ อย่าง IPS ใน Redmi เนี่ย ตั้งแต่ Redmi Note 5, 6 Pro, 7 มีปัญหาจอ IPS เกิดอาการโกส
คือเป็นรอยค้างบนจอ เหมือนจอเบิร์นของ OLED แต่ IPS หายเองได้ ตรงนี้เคลมแล้วก็ยังเป็นกันเพราะ Supplier เจ้าเดียวกันมาตลอด
แล้วก็มีเรื่องของคุณภาพแบตเตอร์รี่ อย่าง Redmi Note 5 ตอนนี้ผ่านมาปีเกือบสองปี มีต้องเปลี่ยนแบตกันบ้างแล้ว ถือว่าเสื่อมค่อนข้างไว
เมื่อพิจารณาจากชิป 636 ซึ่งไม่ได้มีอาการร้อนมากเท่ากับ Snapdragon ตัวที่แรงกว่า แต่กลับแบตเสื่อมไวกว่า
ส่วน Realme มีเรื่องของการทัช ซึ่งเท่าที่ทราบเป็นตั้งแต่ 2 Pro คืออาการทัชหนืด บางคนก็เจอว่าเป็นที่ตัวฟิล์มติดมาจากโรงงานค่อนข้างห่วย
ลอกแล้วก็ดีขึ้นในระดับนึง ตัวผมไปเล่น 5 Pro ในศูนย์ True ก็เจออาการปัดหนืดเหมือนกันกับจอที่ยังมีฟิล์มอยู่
โดยสรุปแล้วคือ เขาก็ไปลดต้นทุนในจุดที่เรามองไม่เห็น เพียงแต่เขาก็ไม่ใช่แบรนด์เดียวที่ทำแบบนี้ แบรนด์อื่นๆก็ทำ เพื่อให้มันได้กำไรบ้าง
อย่างที่บอก ตลาดช่วง 6-9 พันมันเป็นช่วงราคาที่ต้องปล่อยของกันมากที่สุดแล้ว ไม่งั้นก็ขายลำบาก อย่าง Samsung ก็ยังต้องออกรุ่น A10-50 กับ M มาสู้เลย
เรื่องการซ่อมกับอะไหล่ตอบไม่ได้ครับ คือประสบการณ์ที่แต่ละคนเจอก็ไม่เหมือนกัน ของ Mi ก็ต้องดูอีกว่าใครเป็นผู้นำเข้า
ถ้าเป็นของ Fanslink ก็มี Vserve Plus ซึ่งระยะหลังๆก็เริ่มมีบ่นถึงความงี่เง่าในกลุ่มบ้างแล้วเหมือนกัน
ส่วน Realme ผมไม่แน่ใจแฮะ รู้ว่าใช้ร่วมกับ Oppo/Vivo ได้แค่นั้น
ในเมื่อมันโฟกัสเรื่องของการยัดสเปคสูง แต่ต้องทำราคาให้ถูกกว่าเจ้าอื่น เขาก็ต้อง "ลดต้นทุน" เพื่อให้ได้กำไรอยู่บ้าง
จุดไหนที่เขาจะไปลดต้นทุนได้? แน่นอนว่าพวกที่เห็นได้แต่ไกล อย่างวัสดุที่ใช้และสเปคที่ใส่มา (เห็นบนกระดาษ) พวกนี้ลดยากอยู่แล้ว
ที่เขาจะไปลดกันหนักก็คือแผงทัชสกรีนและจอ อาจจะลดไปเป็น HD+ บ้าง หรือคงความละเอียดที่ FHD+ ไว้ แต่ไปลดเรื่องคุณภาพของการทัช
สองแบรนด์นี้จะเรื่องเกี่ยวกับการทัชค่อนข้างบ่อย ถ้าคนที่เคยใช้ Samsung หรือ Apple ที่เป็นแบรนด์เน้นเรื่องการทัช จะรู้สึกได้ครับ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะจับได้ ตัวผมใช้ Xiaomi กับ iPad ก็รู้สึกได้แต่ไม่ขนาดรำคาญ ยกเว้นจะจับผิดกัน
นอกจากเรื่องทัช ก็ยังอาจจะมีลดคุณภาพของหน้าจอ อย่าง IPS ใน Redmi เนี่ย ตั้งแต่ Redmi Note 5, 6 Pro, 7 มีปัญหาจอ IPS เกิดอาการโกส
คือเป็นรอยค้างบนจอ เหมือนจอเบิร์นของ OLED แต่ IPS หายเองได้ ตรงนี้เคลมแล้วก็ยังเป็นกันเพราะ Supplier เจ้าเดียวกันมาตลอด
แล้วก็มีเรื่องของคุณภาพแบตเตอร์รี่ อย่าง Redmi Note 5 ตอนนี้ผ่านมาปีเกือบสองปี มีต้องเปลี่ยนแบตกันบ้างแล้ว ถือว่าเสื่อมค่อนข้างไว
เมื่อพิจารณาจากชิป 636 ซึ่งไม่ได้มีอาการร้อนมากเท่ากับ Snapdragon ตัวที่แรงกว่า แต่กลับแบตเสื่อมไวกว่า
ส่วน Realme มีเรื่องของการทัช ซึ่งเท่าที่ทราบเป็นตั้งแต่ 2 Pro คืออาการทัชหนืด บางคนก็เจอว่าเป็นที่ตัวฟิล์มติดมาจากโรงงานค่อนข้างห่วย
ลอกแล้วก็ดีขึ้นในระดับนึง ตัวผมไปเล่น 5 Pro ในศูนย์ True ก็เจออาการปัดหนืดเหมือนกันกับจอที่ยังมีฟิล์มอยู่
โดยสรุปแล้วคือ เขาก็ไปลดต้นทุนในจุดที่เรามองไม่เห็น เพียงแต่เขาก็ไม่ใช่แบรนด์เดียวที่ทำแบบนี้ แบรนด์อื่นๆก็ทำ เพื่อให้มันได้กำไรบ้าง
อย่างที่บอก ตลาดช่วง 6-9 พันมันเป็นช่วงราคาที่ต้องปล่อยของกันมากที่สุดแล้ว ไม่งั้นก็ขายลำบาก อย่าง Samsung ก็ยังต้องออกรุ่น A10-50 กับ M มาสู้เลย
เรื่องการซ่อมกับอะไหล่ตอบไม่ได้ครับ คือประสบการณ์ที่แต่ละคนเจอก็ไม่เหมือนกัน ของ Mi ก็ต้องดูอีกว่าใครเป็นผู้นำเข้า
ถ้าเป็นของ Fanslink ก็มี Vserve Plus ซึ่งระยะหลังๆก็เริ่มมีบ่นถึงความงี่เง่าในกลุ่มบ้างแล้วเหมือนกัน
ส่วน Realme ผมไม่แน่ใจแฮะ รู้ว่าใช้ร่วมกับ Oppo/Vivo ได้แค่นั้น
แสดงความคิดเห็น
มือถือของ Realme กับ Xiaomei ถูกจนน่าแปลกใจ มีข้อเสียมั้ยครับ
Snapdragon อะไรแบบนี้
ในราคา8000-9000
อยากถามว่ามีข้อเสียมั้ยครับ
มันเสียง่ายมั้ยครับ
รวมถึงส่งซ่อมตามศูนย์ มีปัญหาอะไหล่
รอนานไรงี้มั้ยครับ