คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ยกตย. เช่น อเมริกา สิงคโปร์ ออสเตรเลีย
พม่า ฯลฯ มีการจัดการเรื่องนี้
อย่างจริงจัง ทั้งกรณีโพสต์, แชร์ สิ่งที่กระทบความมั่นคง
สร้างความวุ่นวายภายในปท.และ fake news
เช่น อเมริกาที่เรียกว่า ประเทศ
ปชต.ที่ใครๆบอกว่าให้เสรีทางความคิดได้เต็มที่ แต่ทางเขายังยึดเรื่องการดูแลความมั่นคงปลอดภัยของปท.เป็นสำคัญ
ใครที่คิดโพสต์ fb, twitter การเมืองในลักษณะรุนแรง
สุดโต่ง ก่อกวน ล้นขอบ ยั่วยุชักชวนอันนำไปก่อให้เกิดความไม่สงบ จะมีการตรวจสอบประวัติการใช้โซเชียลย้อนหลัง หากพบว่าเข้าข่าย จะไม่อนุญาตให้คนต่างชาติผู้นั้นเดินทางเข้าปท.เขา
นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายคุ้มครองผู้นำปท. ที่ไม่นานมานี้มีเกรียนโซเชียลรายหนึ่งโพสต์ข่มขู่
ปธน.ทรัมป์อย่างรุนแรง...คนๆนั้นโดนจับกุมตัวและเข้าคุกไปเรียบร้อยแล้วฮ่ะ
ที่พม่า หรือลาวนี่แหล่ะ สาววัยรุ่นนางหนึ่งโพสชังชาติ ด่าว่าปท.ตัวเอง ทำแบบนี้มาตลอด ก็โดนดำเนินคดีไปเรียบร้อยเช่นกัน
อีกอย่างอยากให้ไทยมีกฎหมาย แบบในหลายปท.ที่ว่า...
พวกก่อความไม่สงบ และสร้าง หรือแชร์ fake news หากมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดแล้ว บุคคลผู้นั้นต้องหยุดเล่นโซเชียลด้วย เป็นเวลาตั้งแต่สองปีถึงห้าปี (จำนวนปีตามความหนักเบาของความผิด) ถ้าทำเช่นนี้ได้ ขยะมลภาวะเป็นพิษ
ในโลกโซเชียล จะลดลงได้มาก และให้คนนั้นใช้เวลาไปทำมาหากิน ดูแลคนในครอบครัวให้ดี รับรองได้ว่าคุณภาพของประชากรในส่วนนี้จะพัฒนาขึ้นมากมาย
พม่า ฯลฯ มีการจัดการเรื่องนี้
อย่างจริงจัง ทั้งกรณีโพสต์, แชร์ สิ่งที่กระทบความมั่นคง
สร้างความวุ่นวายภายในปท.และ fake news
เช่น อเมริกาที่เรียกว่า ประเทศ
ปชต.ที่ใครๆบอกว่าให้เสรีทางความคิดได้เต็มที่ แต่ทางเขายังยึดเรื่องการดูแลความมั่นคงปลอดภัยของปท.เป็นสำคัญ
ใครที่คิดโพสต์ fb, twitter การเมืองในลักษณะรุนแรง
สุดโต่ง ก่อกวน ล้นขอบ ยั่วยุชักชวนอันนำไปก่อให้เกิดความไม่สงบ จะมีการตรวจสอบประวัติการใช้โซเชียลย้อนหลัง หากพบว่าเข้าข่าย จะไม่อนุญาตให้คนต่างชาติผู้นั้นเดินทางเข้าปท.เขา
นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายคุ้มครองผู้นำปท. ที่ไม่นานมานี้มีเกรียนโซเชียลรายหนึ่งโพสต์ข่มขู่
ปธน.ทรัมป์อย่างรุนแรง...คนๆนั้นโดนจับกุมตัวและเข้าคุกไปเรียบร้อยแล้วฮ่ะ
ที่พม่า หรือลาวนี่แหล่ะ สาววัยรุ่นนางหนึ่งโพสชังชาติ ด่าว่าปท.ตัวเอง ทำแบบนี้มาตลอด ก็โดนดำเนินคดีไปเรียบร้อยเช่นกัน
อีกอย่างอยากให้ไทยมีกฎหมาย แบบในหลายปท.ที่ว่า...
พวกก่อความไม่สงบ และสร้าง หรือแชร์ fake news หากมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดแล้ว บุคคลผู้นั้นต้องหยุดเล่นโซเชียลด้วย เป็นเวลาตั้งแต่สองปีถึงห้าปี (จำนวนปีตามความหนักเบาของความผิด) ถ้าทำเช่นนี้ได้ ขยะมลภาวะเป็นพิษ
ในโลกโซเชียล จะลดลงได้มาก และให้คนนั้นใช้เวลาไปทำมาหากิน ดูแลคนในครอบครัวให้ดี รับรองได้ว่าคุณภาพของประชากรในส่วนนี้จะพัฒนาขึ้นมากมาย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
รัฐบาลประชาธิปไตย ต้องถึงลูกถึงคนแบบนี้
สิงคโปร์พึ่งประกาศใช้กฎหมายต้าน Fake News ปรับเป็นล้านบาท แถมคุก 5-10 ปี
รัฐบาลลุงตู่ ให้ไวเลย...เรื่องแบบนี้ สิงคโปร์เขาเอาจริงเอาจัง ประเทศถึงเจริญ
กฏหมายต่อต้านข่าวปลอมข่าวลวง FAKE NEWS ของสิงคโปร์ มีผลบังคับใช้แล้ว โดยรัฐบาลสิงคโปร์มีอำนาจสั่งการให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น เฟซบุ๊ค และกูเกิล ทำการบล็อกบัญชีผู้ใช้ โทษปรับหนัก 5หมื่น-1แสนดอลลาร์สิงคโปร์(1.7-3.4ล้านบาท) และจำคุก5-10 ปี ส่วนบริษัทที่ทำผิดปรับหนัก 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์(22 ล้านบาท)
2 ตุลาคม 2562-กฏหมายต่อต้านข่าวปลอมของสิงคโปร์ มีผลบังคับใช้แล้ว แม้นักวิจารณ์ส่งเสียงเตือนว่า กฏหมายดังกล่าวจะควบคุมการแสดงความเห็นอย่างเสรีก็ตาม โดยภายใต้กฏหมายต่อต้านข่าวปลอม การเผยแพร่ข่าวหรือแถลงการณ์เท็จที่ส่งผลร้ายหรือสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะในสิงคโปร์ รวมถึงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ถือเป็นความผิด
รัฐบาลสิงคโปร์ ยังมีอำนาจสั่งการให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น เฟซบุ๊ค และกูเกิล ทำการบล็อกบัญชีผู้ใช้หรือเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารปลอม ขณะเดียวกัน ทางการยังจะดำเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนกฏหมายต่อต้านข่าวเท็จ ด้วยการสั่งปรับเงิน 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 1.7 ล้านบาท และจำคุก 5 ปี นอกจากนี้ หากมีการโพสต์ข่าวปลอม โดยใช้บัญชีออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ จะต้องถูกปรับเงินเพิ่มเป็น 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 3.4 ล้านบาท และจำคุก 10 ปี
http://www.thaitribune.org/contents/detail/310?content_id=36549&rand=1570010626
สิงคโปร์พึ่งประกาศใช้กฎหมายต้าน Fake News ปรับเป็นล้านบาท แถมคุก 5-10 ปี
รัฐบาลลุงตู่ ให้ไวเลย...เรื่องแบบนี้ สิงคโปร์เขาเอาจริงเอาจัง ประเทศถึงเจริญ
กฏหมายต่อต้านข่าวปลอมข่าวลวง FAKE NEWS ของสิงคโปร์ มีผลบังคับใช้แล้ว โดยรัฐบาลสิงคโปร์มีอำนาจสั่งการให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น เฟซบุ๊ค และกูเกิล ทำการบล็อกบัญชีผู้ใช้ โทษปรับหนัก 5หมื่น-1แสนดอลลาร์สิงคโปร์(1.7-3.4ล้านบาท) และจำคุก5-10 ปี ส่วนบริษัทที่ทำผิดปรับหนัก 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์(22 ล้านบาท)
2 ตุลาคม 2562-กฏหมายต่อต้านข่าวปลอมของสิงคโปร์ มีผลบังคับใช้แล้ว แม้นักวิจารณ์ส่งเสียงเตือนว่า กฏหมายดังกล่าวจะควบคุมการแสดงความเห็นอย่างเสรีก็ตาม โดยภายใต้กฏหมายต่อต้านข่าวปลอม การเผยแพร่ข่าวหรือแถลงการณ์เท็จที่ส่งผลร้ายหรือสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะในสิงคโปร์ รวมถึงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ถือเป็นความผิด
รัฐบาลสิงคโปร์ ยังมีอำนาจสั่งการให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น เฟซบุ๊ค และกูเกิล ทำการบล็อกบัญชีผู้ใช้หรือเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารปลอม ขณะเดียวกัน ทางการยังจะดำเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนกฏหมายต่อต้านข่าวเท็จ ด้วยการสั่งปรับเงิน 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 1.7 ล้านบาท และจำคุก 5 ปี นอกจากนี้ หากมีการโพสต์ข่าวปลอม โดยใช้บัญชีออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ จะต้องถูกปรับเงินเพิ่มเป็น 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 3.4 ล้านบาท และจำคุก 10 ปี
http://www.thaitribune.org/contents/detail/310?content_id=36549&rand=1570010626
ความคิดเห็นที่ 11
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/850088
เข้าไปเรียนรู้ชีวิตจริงบ้างก็ดีนะ ไม่ใช่หลงระเริงกับการเป็นเกรียนคีย์บอร์ด เก่งในโลกโซเชียลจัง เรียนมาก็สูง เสียดายทรัพยาการจริงๆ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/850088
เข้าไปเรียนรู้ชีวิตจริงบ้างก็ดีนะ ไม่ใช่หลงระเริงกับการเป็นเกรียนคีย์บอร์ด เก่งในโลกโซเชียลจัง เรียนมาก็สูง เสียดายทรัพยาการจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
@@@ รวบแล้ว มือโพสต์ fake news @@@