เป็นหนังของ Netflix ที่ผมบังเอิญเห็นตัวอย่างตอนนั่งเรียนครับ(อย่าเข้าผิดว่าแอบเล่น คลาสผมเรียนแบบสบาย555) ทีแรกก็งงว่าหนังอะไร? หญ้าผีสิง? แต่มันสะดุดตาตรงชื่อ Stephen King ครับ(หนังสร้างจากหนังสือที่แกและน้องชายแกเขียน) แถมมันเป็นหนัง Netflix ผมก็เลยคิดว่าน่าจะดูหน่อย แล้วผมก็ได้ดูจนได้

    เรื่องราวของคู่พี่น้อง เบ็คกี้และคาลที่จอดรถกลางทาง แล้วได้ยินเสียงร้องของเด็กชายในทุ่งหญ้าสูง ทั้งสองรุดเข้าไปในทุ่งเพื่อช่วยเขา แต่กลับพบพลังชั่วร้ายที่ทำให้ต้องหลงทิศและพลัดหลงกัน หลังจากตัดขาดจากโลกภายนอกและหนีออกมาจากพลังดึงดูดของทุ่งแห่งนี้ไม่ได้ เบ็คกี้และคาลจึงได้รู้ว่าสิ่งที่เลวร้ายกว่าการหลงทางคือการที่มีใครสักคนเจอตัว

     ผมชอบมากกว่าที่คิดไว้ครับ คือตอนแรกกะว่าจะดูฆ่าเวลาเล่นๆ(เพราะหนังของ Netflix ส่วนใหญ่ไปทางนั้นหมด) ดูฉากสวยและลุ้นกับหนัง แต่พอดูจบมันไปคนละทางกับที่ผมคิดไว้เลย(ฮา)

     หนังมาทางสยองขวัญแบบกินบรรยากาศครับ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าเล่นเอาผมไม่กล้าไปเก็บอ้อยคนเดียวเลย555 ส่วนในเรื่องฉากสยองผมว่ามีไม่มาก(แต่มีทีก็เล่นเอาปิดตาดูเหมือนกันนะ) ฉะนั้นใครที่หวังอะไรน่ากลัวๆ หรือว่าลุ้นสุดโต่ง ผิดหวังชัวร์ครับอันนี้ผมมั่นหน้าพูดเลย แต่ถ้าชอบหนังแนวสยองกินบรรยากาศ บทซับซ้อนและน่าติดตาม ผมว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์ได้ไม่ขี้เหร่เลยครับ

     ผมว่าผมชอบบทหนังนะ แม้มันจะอธิบายที่มาที่ไปได้งงๆ ไปนิดนึง แต่ก็ไม่ยากเกินจะตามทันครับ ผมชอบที่หนังเล่นเรื่องศาสนาหรือว่าลัทธิต่างๆ เต็มไปหมด(ทั้งแบบแฝงสัญลักษณ์และแบบเผยให้เห็นแบบโจ้งๆ) และก็เรื่องของมิติเวลา มันทำให้หนังจากที่ดูไม่มีอะไรดูมีอะไรขึ้นมาทันที และก็ได้ข้อคิดหลังจบด้วยว่า "เส้นทางชีวิตเรามันไม่แน่นอน บางคนก็มัวแต่อยู่ในหลุมเพราะเคร่งศาสนา(เหมือนตัวละครบางตัวในเรื่อง) บางคนก็พร้อมที่จะก้าวต่อไป ถ้าหากเราค้นหาตัวเองเจอ ทางออกของชีวิตก็จะส่องแสงสว่างให้เราเริ่มต้นใหม่เสมอ"

     สรุปแล้ว In The Tall Grass เป็นหนัง Netflix ดัดแปลงจากหนังสือของป๋าคิงที่ดูได้เพลินๆ ดูจบแล้วได้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ภาพสวย ดาราเล่นได้โดดเด่น แม้การเฉลยปมบงจุดจะดูงงๆ แต่ก็ไม่ได้ติดอะไรมากเพราะหนังค่อนข้างให้ข้อมูลเรามาเยอะพอที่จะไปปะติดปะต่อกันได้ ใครมี Netflix ดูได้เลยครับ ผมว่าใช้ได้เลยเรื่องนี้