เลสเตอร์ในฤดูกาลนี้มีแพ้ 2 นัดก็คือ แพ้แมนยู 1-0 จากลูกจุดโทษ และมาแพ้ลิเวอร์พูล 2-1 ก็เป็นประตูชัยจากจุดโทษเหมือนกัน
ก็แน่นอนว่ากองแช่งก็ต้องไม่พอใจที่ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษเอานาทีท้าย
ถามว่าเมเน่ทิ้งตัวไหม ? ก็ต้องทิ้งอยู่แล้วครับ เพราะปกติต่อให้หวดแรงแค่ไหนถ้าไม่ทิ้งตัวก็ไม่ได้จุดโทษหรอกครับ ยิ่งเป็นเขตโทษนี่กรรมการให้ยากมาก
จริงๆมาเน่มีโอกาสจ่ายให้ลัลลาน่า ซึ่งมีช่องจ่ายได้ และมีโอกาสทำประตู มาเน่จะเลือกฝืนจ่ายก็มีโอกาสเป็นประตู แต่เลือกทิ้งตัวเสี่ยงเอาจุดโทษชัวร์กว่า ถือว่ามาเน่ตัดสินใจถูก เพราะตัวเองโดนเกี่ยวขาจริงๆ ถ้าฝืนเล่นไปอาจพลาด
มันมี VAR กรรมการไม่สนหรอกครับว่าทิ้งตัวหรือไม่ทิ้งตัว ถ้ามีการเกี่ยวขาจริงก็ฟาวล์ ถ้าไม่มีการเกี่ยวแต่พุ่งล้มก็โดนเหลือง ง่ายๆครับ VAR มันโชว์อยู่
อลัน เชียร์เรอร์ไม่น่าออกมาท้วงว่ามาเน่ทิ้งตัวเพราะเป็นกองหน้าต้องรู้ดีว่า ถ้าอีกฝ่ายฟาวล์ กองหน้าก็ถือเป็นโอกาสเรียกจุดโทษได้ ถูกตามกติกา ยิ่งแล้วเชียร์เรอร์เองต่างหาก สมัยเล่นนี่จอมพุ่งเลย !
บอลสมัยนี้เขาไม่ค่อยพุ่งกันมากเพราะกล้องมันเยอะ แถมพอ VAR มาใช้ นักเตะย่อมรู้ดีว่าจะเรียกฟาวล์ มันต้องโดนจริง นัดแมนยูก็เหมือนกันครับ มีการดึงนิดนึงจริง แรชฟอร์ดก็ทิ้งตัวล้มเลย
ขาเดิมครับ ดูจังหวะดึงซาลาห์ แต่บังโมสไตล์มุทะลุจะไปข้างหน้าอย่างเดียว ดีไปล่ะครับไม่เจ็บจังหวะนั้น แต่มาเจ็บจังหวะของชูดิรีแทน
มาถึงทางด้านแมนยู แพ้นิวคาสเซิล 1-0 ก็ไม่ได้เกินคาดอะไรมากมายเพราะอยู่ในช่วงทีมกำลังดิ่งลง แต่มันมักจะชอบมาฮึดเอาตอนศึกแดงเดือดนี่สิ เป็นแบบนี้ทุกปี
ส่วนแมนซิตี้ อันนี้ก็ผิดจากที่หลายคนคาดหน่อย จริงๆโดยทั่วไปก็รู้กันว่า จุดที่ซิตี้ด้อยกว่าลิเวอร์พูลก็คือเกมรับ ยิ่งไม่มีลาปอร์กต์ ก็ไปกันใหญ่ แต่เกมรุกดันมาขาดเดอบรอยน์ซะอีก แสดงว่าไม่ใช่เป็นเฉพาะลิเวอร์พูลที่ถ้าขาดตัวหลักแล้วส่งผลกับเกม
ส่วนวูล์ฟนี่มันทีเด็ดชอบวางหมากมาล้มทีมท็อปอยู่แล้ว จริงๆถ้าวูล์ฟคมกว่านี้ก็คงโดนหลายลูกเหมือนกัน จากจังหวะที่หลุด แต่ด้วยประสิทธิภาพของตัวรุก เปอร์เซนต์การทำประตูก็จะประมาณนี้แหละ
จากการที่คล็อปป์ออกสตาร์ด 8 นัดชนะรวด ทำให้มีสถิติเท่าลิเวอร์พูลของดัลกลิชที่ทำในฤดูกาล 1990-91 แต่ปีนั้นลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ ดัลกลิชลาออกซะก่อน
จากกรณีเลสเตอร์ฟาวล์เสียจุดโทษให้ลิเวอร์พูล มาถึงแมนซิตี้แพ้วูล์ฟคาบ้าน 0-2
ก็แน่นอนว่ากองแช่งก็ต้องไม่พอใจที่ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษเอานาทีท้าย
ถามว่าเมเน่ทิ้งตัวไหม ? ก็ต้องทิ้งอยู่แล้วครับ เพราะปกติต่อให้หวดแรงแค่ไหนถ้าไม่ทิ้งตัวก็ไม่ได้จุดโทษหรอกครับ ยิ่งเป็นเขตโทษนี่กรรมการให้ยากมาก
จริงๆมาเน่มีโอกาสจ่ายให้ลัลลาน่า ซึ่งมีช่องจ่ายได้ และมีโอกาสทำประตู มาเน่จะเลือกฝืนจ่ายก็มีโอกาสเป็นประตู แต่เลือกทิ้งตัวเสี่ยงเอาจุดโทษชัวร์กว่า ถือว่ามาเน่ตัดสินใจถูก เพราะตัวเองโดนเกี่ยวขาจริงๆ ถ้าฝืนเล่นไปอาจพลาด
มันมี VAR กรรมการไม่สนหรอกครับว่าทิ้งตัวหรือไม่ทิ้งตัว ถ้ามีการเกี่ยวขาจริงก็ฟาวล์ ถ้าไม่มีการเกี่ยวแต่พุ่งล้มก็โดนเหลือง ง่ายๆครับ VAR มันโชว์อยู่
อลัน เชียร์เรอร์ไม่น่าออกมาท้วงว่ามาเน่ทิ้งตัวเพราะเป็นกองหน้าต้องรู้ดีว่า ถ้าอีกฝ่ายฟาวล์ กองหน้าก็ถือเป็นโอกาสเรียกจุดโทษได้ ถูกตามกติกา ยิ่งแล้วเชียร์เรอร์เองต่างหาก สมัยเล่นนี่จอมพุ่งเลย !
บอลสมัยนี้เขาไม่ค่อยพุ่งกันมากเพราะกล้องมันเยอะ แถมพอ VAR มาใช้ นักเตะย่อมรู้ดีว่าจะเรียกฟาวล์ มันต้องโดนจริง นัดแมนยูก็เหมือนกันครับ มีการดึงนิดนึงจริง แรชฟอร์ดก็ทิ้งตัวล้มเลย
ขาเดิมครับ ดูจังหวะดึงซาลาห์ แต่บังโมสไตล์มุทะลุจะไปข้างหน้าอย่างเดียว ดีไปล่ะครับไม่เจ็บจังหวะนั้น แต่มาเจ็บจังหวะของชูดิรีแทน
มาถึงทางด้านแมนยู แพ้นิวคาสเซิล 1-0 ก็ไม่ได้เกินคาดอะไรมากมายเพราะอยู่ในช่วงทีมกำลังดิ่งลง แต่มันมักจะชอบมาฮึดเอาตอนศึกแดงเดือดนี่สิ เป็นแบบนี้ทุกปี
ส่วนแมนซิตี้ อันนี้ก็ผิดจากที่หลายคนคาดหน่อย จริงๆโดยทั่วไปก็รู้กันว่า จุดที่ซิตี้ด้อยกว่าลิเวอร์พูลก็คือเกมรับ ยิ่งไม่มีลาปอร์กต์ ก็ไปกันใหญ่ แต่เกมรุกดันมาขาดเดอบรอยน์ซะอีก แสดงว่าไม่ใช่เป็นเฉพาะลิเวอร์พูลที่ถ้าขาดตัวหลักแล้วส่งผลกับเกม
ส่วนวูล์ฟนี่มันทีเด็ดชอบวางหมากมาล้มทีมท็อปอยู่แล้ว จริงๆถ้าวูล์ฟคมกว่านี้ก็คงโดนหลายลูกเหมือนกัน จากจังหวะที่หลุด แต่ด้วยประสิทธิภาพของตัวรุก เปอร์เซนต์การทำประตูก็จะประมาณนี้แหละ
จากการที่คล็อปป์ออกสตาร์ด 8 นัดชนะรวด ทำให้มีสถิติเท่าลิเวอร์พูลของดัลกลิชที่ทำในฤดูกาล 1990-91 แต่ปีนั้นลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ ดัลกลิชลาออกซะก่อน